ตอนที่แล้วTWO Chapter 252 การสู้รบทางเรือที่เกาะพระจันทร์ ตอนที่ 2
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปTWO Chapter 254 การทรยศ

TWO Chapter 253 ฐานทัพเรือ


TWO Chapter 253 ฐานทัพเรือ

โอหยางโชวเก็บแผนที่สมบัติอ่าวเป่ยไห่ไว้ในถุงเก็บของของเขาอย่างไม่ใส่ใจนัก มันคงต้องใช้เวลาอีกซักพักใหญ่ กว่าจะรวบรวมชิ้นส่วนอื่นๆของแผนที่ได้ครบ หรือเขาอาจจะไม่สามารถรวบรวมมันได้ครบก่อนที่เกมส์จะสิ้นสุดเลยก็ได้

หลังจากที่เขาจัดการกับของที่ยึดได้ทั้งหมดแล้ว โอหยางโชวก็กลับไปนั่งที่เก้าอี้ จากนั้น เขาก็หันไปมองเผ่ยตงหลาย แล้วถามว่า “ขุนพลเผ่ย ท่านมีความคิดเกี่ยวกับการดำเนินการกับเกาะพระจันทร์อย่างไรต่อ?”

คำถามนี้ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเผ่ยตงหลาย ในฐานะผู้บัญชาการกองทัพเรือเป่ยไห่ เขาจำเป็นต้องเป็นผู้นำที่มีความเชี่ยวชาญทั้งในการสู้รบ, การจัดการกิจการ และโลจิสติกส์ทางทหารของฐานทัพ

เผ่ยตงหลายครุ่นคิดช่วยครู่ ก่อนจะตอบว่า “สิ่งอำนวยความสะดวกของที่นี่หล้าหลังและเรียบง่าย แต่เราสามารถปรับปรุงท่าเทียบเรือ และใช้มันเป็นสถานนีเสริมได้ในอนาคต”

เผ่ยตงหลายเข้าใจดีว่าเหตุใดลอร์ดของเขาถึงได้สร้างกองทัพเรือ มันไม่ใช่แค่กวาดล้างโจรสลัดเท่านั้น ลอร์ดของเขามีวิสัยทัศน์และแนวคิดที่ยาวไกลสำหรับกองทัพเรือ เมื่อคิดถึงว่าเรือรบต้องแล่นเข้าไปในทะเลและครอบครองทะเล การเติมเต็มความต้องการของเรือจะกลายเป็นปัญหาที่พวกเขาไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เรือต้องแล่นตลอดทั้งวันทั้งคืน ดังนั้น การขาดสถานีเสริมอาจทำให้เกิดปัญหาอย่างมากได้

โอหยางโชวพยักหน้าและส่ายหัวในภายหลัง

“ท่านลอร์ดหมายความว่าอย่างไรหรือ?” เผ่ยตงหลายรู้สึกกังวล

“แน่นอนว่าต้องมีสถานีเสริม” อย่างแรก โอหยางโชวเห็นด้วยกับความคิดของเผ่ยตงหลาย จากนั้น เขาก็กล่าวว่า “แต่มันยังไม่เพียงพอ เกาะพระจันทร์มีขนาดเล็กแต่ก็แข็งแกร่ง มันมีเขื่อนไขที่เหมาะสมและมีแหล่งน้ำจืดที่เพียงพอ ดังนั้น เราจึงสามารถเปลี่ยนเกาะพระจันทร์นี้เป็นฐานทัพเรือขนาดเล็กได้”

ในฐานะสถานนี้เสริม เกาะพระจันทร์เป็นสถานที่ที่สามารถจัดเก็บทรัพยากรปริมาณมากได้ ในขณะเดียวกัน พวกเขาก็ต้องจัดให้มีทหารรักษาการณ์ ดูแลความปลอดภัยบนเกาะ เพื่อป้องกันทรัพยากรของพวกเขา

ดังนั้น โอหยางโชวจึงตัดสินใจทำบางสิ่งบางอย่าง เขาจะทำการเปลี่ยนเกาะนี้ครั้งใหญ่

“ข้ามีความต้องการบางอย่าง สำหรับรายละเอียดเฉพาะท่านไปพูดคุยกับซิวเหวินอีกที ให้ฝ่ายก่อสร้างของเมืองเป่ยไห่จะรับผิดชอบในการก่อสร้างทั้งหมด” โอหยางโชวกล่าวต่อว่า “ประการแรก ให้อัพเกรดท่าเทียบเรือเป็นท่าเรือ ไม่เพียงแต่มันจะทำหน้าที่จอดเรือสำหรับเรือรบเท่านั้น แต่มันยังจะช่วยซ่อมแซมและบำรุงรักษาเรือรบให้กับกองทัพเรือด้วย”

“ประการที่สอง รื้อสิ่งก่อสร้างบนเกาะทั้งหมด และสร้างขึ้นมาใหม่อย่างเป็นระบบ แกนกลางของเกาะจะมีป้อมปราการทางทหาร ซึ่งจะเป็นฐานของทหารรักษาการณ์บนเกาะ และใช้เป็นที่จัดเก็บทรัพยากรด้วย เหตุผลที่ต้องสร้างป้อมปราการ ก็เพื่อลดกองกำลังที่จะต้องถูกส่งมาป้องกันที่นี่ นอกจากนี้ โรงไม้, ร้านตีเหล็ก, โรงผลิตอาวุธ และสิ่งก่อสร้างหลักอื่นๆ จะถูกสร้างขึ้นภายในป้อมปราการด้วย”

“ประการที่สาม การเตรียมพื้นที่เพาะปลูก ท่านจำเป็นต้องใช้ที่ดินนอกป้อมปราการทางทหารให้เป็นประโยชน์ ปลูกพืชและผักบางชนิด เพื่อให้เกาะนี้พึ่งพาตัวเองได้ ข้าประเมินว่า เราจะสามารถเตรียมพื้นที่เพาะปลูกได้อย่างน้อย 50,000 หมู่ บนเกาะพระจันทร์”

“เมื่อเราไปถึงระดับดังกล่าวแล้ว เกาะจะสามารถพึ่งพาตนเองได้ และจะไม่มีการขนส่งเสบียงและทรัพยากรจากเมืองเป่ยไห่มายังเกาะพระจันทร์อีก แต่ก็ยังคงต้องมีการจัดหาทรัพยาก่อนบางส่วนมาจากภายนอก”

“ประการสุดท้าย การสร้างรูปแบบของบ่อน้ำ เพื่อที่จะตอบสนองพื้นที่เพาะปลูกขนาดใหญ่ เขาต้องมีน้ำไว้ใช้ในระบบชลประทานอย่างเพียงพอ ดังนั้น จึงต้องขยายบ่อน้ำอย่างน้อย 5-10 เท่าของขนาดปัจจุบัน ในที่สุด บ่อน้ำบนเกาะก็จะกลายเป็นอ่างเก็บน้ำ หรือทะเลสาบขนาดเล็ก”

โอหยางโชวบอกเผ่ยตงหลายถึงแผนของเขา จากการสังเกตของเขาในช่วงบ่ายนี้ ในอนาคต เกาะพระจันทร์จะกลายเป็นส่วนผสมของป้อมปราการทางทหาร, ท่าเรือ, คลังสินค้า และพื้นที่เพาะปลูก เมื่อมันไปถึงระดับนั้นแล้ว มันจะกลายเป็นฐานทัพเรือที่แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพ

หลังจากเสร็จสิ้นการจัดตั้งฐานทัพเรือบนเกาะพระจันทร์แล้ว มันก็จะกลายเป็น ‘เกาะมิดเวย์’ ที่กองทัพเรือจะใช้เป็นฐานเปิดทางเข้าสู่ทะเลลึก

รูปแบบแผนการอันยิ่งใหญ่ของโอหยางโชว ทำให้เผ่ยตงหลายตื่นเต้น เขากล่าวอย่างสุภาพว่า “ท่านลอร์ดสบายใจได้ ข้าจะประสานงานกับเมืองเป่ยไห่ และทำการเปลี่ยนแปลงเกาะพระจันทร์ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”

โอหยางโชวพยักหน้า แล้วกล่าวว่า “ดี ข้าจะส่งต่อมันให้ท่านขุนพล เมื่อฐานทัพเรือถูกจัดตั้งขึ้นแล้ว ข้าจะมาที่เกาะพระจันทร์อีกครั้ง เพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จของท่าน”

“ขอรับท่านลอร์ด!” เผ่ยตงหลายตื่นเต้นมาก

หลังจากจบการสนทนา โอหยางโชวก็พักบนเกาะพระจันทร์เป็นเวลา 1 คืน

เช้าวันรุ่งขึ้น กองทัพเรือเป่ยไห่ก็เดินทางกลับบ้าน พวกเขาทิ้งกองพันทหารเรือที่ 1 ไว้คอยปกป้องเกาะพระจันทร์ สำหรับโจรสลัดที่จับได้ พวกเขาถูกพากลับไปเมืองเป่ยไห่ทั้งหมด

เกาะพระจันทร์เป็นส่วนสำคัญในยุทธศาสตร์ของโอหยางโชว ดังนั้น เขาจึงไม่ต้องการให้โจรสลัดเข้ามาวุ่นวายกับเกาะแห่งนี้

……………………………………………………………………………..

ไกอา ปีที่ 1 เดือนที่ 10 วันที่ 25

กองทัพเรือเป่ยไห่ได้เดินทางกลับมาถึงท่าเรือเป่ยไห่

หลังจากที่โอหยางโชวออกจากท่าเรือ เขาก็เข้าไปในเมืองเพื่อพูดคุยกับผู้ปกครองเมืองเป่ยไห่ กู่ซิวเหวิน เล็กๆน้อยๆ เขาอธิบายแผนการก่อสร้างฐานทัพเรือบนเกาะพระจันทร์ให้กู่ซิวเหวินทราบ

ในคืนวันนั้น โอหยางโชวก็กลับมาถึงคฤหาสน์ของลอร์ด

หลังจากที่เขากลับมา โอหยางโชวก็หยิบกล่องเพชรพลอยออกมา และส่งมันให้กับฉีสือ ให้เธอนำมันไปเก็บไว้ในคลังสินค้าภายในคฤหาสน์ นี่เป็นกล่องเพชรพลอยกล่องที่ 3 ของโอหยางโชวแล้ว

โอหยางโชวไม่ใช่คนตระหนี่ เขาได้มอบรางวัลให้กับซ่งเจี๋ย, ซุนเสี่ยวเยว่, ขุ่ยหยิงหยู, มู่ฉิงซี, ฉีสือ และแม้บ้านของน้องสาวทั้งสอง สีฉินและสีฉี โดยเขาได้มอบเพรชพลอยให้กับพวกเธอ

เช้าวันรุ่งขึ้น โอหยางโชวทานอาหารเช้ากับปิงเอ๋อ จากนั้น เขาก็ไปที่ฝ่ายคลังอาวุธในเขตตะวันออก เพื่อไปพบกับช่างตีเหล็กขั้นมาสเตอร์ หวังเกา

“คำนับท่านลอร์ด!” หวังเกาคำนับและทักทายโอหยางโชว

โอหยางโชวพยักหน้า จากนั้น เขาก็หยิบเหล็กกล้าอุกกาบาตมาวางไว้บนโต๊ะ เขายิ้มและถามว่า “เจ้ารู้จักสิ่งนี้หรือไม่?”

ขณะที่หวังเขามองไปที่ก้อนหินสีดำบนโต๊ะ ดวงตาของเขาก็ไม่สามารถเลื่อนออกจากมันได้เลย มันเหมือนกับว่าเขาถูกมันสะกดไว้ เขาไม่สามารถแม้แต่จะขยับปลายนิ้วของเขา ครู่ต่อมาเขาก็ลุกขึ้นยืน แล้วเดินไปที่ข้างโต๊ะ เขาใช้มือค่อยๆยกก้อนหินขึ้นช้าๆ จากนั้น เขาก็สัมผัสและคลึงเค้นเหล็กกล้าอุกกาบาต เขาถือมันดุจสมบัติล้ำค่า ก่อนที่เขาจะพึมพำออกมาว่า “น...นี่...นี่คือ...นี่คือ หินศักดิ์สิทธิ์ในตำนาน ที่ล่วงหล่นมาจากฟากฟ้าใช่หรือไม่?”

โอหยางโชวไม่คิดว่าจะเป็นขนาดนี้ เขาไม่ได้คิดว่าหวังเกาจะเกิดอารมณ์ เขาพยักหน้า แล้วกล่าวพร้อมรอยยิ้มว่า “ถูกต้อง สิ่งนี้ก็คือหินศักดิ์สิทธิ์ที่ตกลงมาจากฟากฟ้า”

ด้วยความสัตย์จริง เมื่อคืนวานี้ โอหยางโชวลังเล เขาไม่แน่ใจว่าเขาควรจะส่งเหล็กกล้าอุกกาบาตให้แก่หวังเกาดีหรือไม่ มันคงจะดีกว่า ถ้ามันถูกหลอมด้วยผู้ที่มีระดับสูงกว่านี้ เพื่อให้แน่ใจว่ามันจะสำเร็จ

ในเกมส์ ราชวงศ์ได้รับช่างตีเหล็กขั้นพระเจ้ามาเป็นช่างฝีมือของจักรวรรดิ แต่ก็ยังมีบางส่วนที่เดินไปรอบๆดั่งวิญญาณในเงามืด คนปกติไม่สามารถเข้าถึงพวกเขาได้ ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ล่องลอยไปทั่วแผ่นดินโดยไม่พำนักที่ใดถาวร มันจะต้องใช้โชคอย่างมากในการพบเจอพวกเขา

ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าจะเป็นไอเท็มระดับทองคำขาวอย่างเหล็กกล้าอุกกาบาต มันก็อาจเป็นเพียงไอเท็มชิ้นหนึ่งในสายตาของช่างตีเหล็กขั้นพระเจ้า ดังนั้น โอหยางโชวจึงยุติความคิดแปลกๆของเขา ในการขอความช่วยเหลือจากช่างตีเหล็กขั้นพระเจ้า

หากถอยลงมา ก็เป็นช่างตีเหล็กขั้นแกรนด์มาสเตอร์  ที่เหมาะจะหลอมหินในตำนานนี้

ถ้าเขาไม่สามารถหาช่างตีเหล็กขั้นพระเจ้าได้ เขายังสามารถหาช่างตีเหล็กขั้นแกรนด์มาสเตอร์ในเมืองหลวงของระบบได้ ถ้าเขามอบหินให้พวกเขา โอหยางโชวมั่นใจว่า พวกเขาจะสามารถหลอมหินเป็นอาวุธระดับทองคำขาวได้

แต่โอหยางโชวต้องการจะใช้โอกาสนี้ เขาพิจารณาว่า หวังเกาอาจจะใช้โอกาสนี้ในการก้าวไปสู่ขั้นแกรนด์มาสเตอร์ได้ อย่างน้อง โอหยางโชวก็หวังว่าเขาจะพัฒนาประสบการณ์ช่างตีเหล็กของเขา ด้วยวิธีนี้ เขาสามารถวางรากฐานสำหรับการเลื่อนขั้นเป็นขั้นแกรนด์มาสเตอร์ในอนาคตได้

เขาไม่ได้เป็นเพียงนายทหารเท่านั้น แต่เขายังเป็นลอร์ดของดินแดนด้วย เขาต้องตัดสินใจเพื่อผลประโยชน์ของดินแดน หากดินแดนให้กำเนิดช่างตีเหล็กขั้นแกรนด์มาสเตอร์ได้ มันจะนำมาซึ่งผลประโยชน์ที่ไร้ขีดจำกัด

หลังจากที่เขาได้รับการยืนยันแล้ว ดวงตาของหวังเกาก็เปล่งประกาย เขาไม่สามารถรอที่จะทำการหลอมเหล็กกล้าอุกกาบาตได้ ทันใดนั้น เขาก็นึกขึ้นมาได้ว่า เหตุใดลอร์ดของเขาถึงได้มาที่นี่ ความคิดมากมายพุ่งเข้าสู่หัวใจของเขา มันทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงด้วยความตื่นเต้น

โอหยางโชกล่าวอย่างสงบออกไปว่า “ข้าวางแผนที่จะหลอมหอกจากเหล็กกล้าอุกกาบาตนี้ เจ้ามีความั่นใจว่าจะทำมันได้หรือไม่?”

แม้ว่าเขาจะเตรียมใจไว้แล้ว แต่ความเป็นจริงก็ยังกระตุ้นหัวใจของหวังเกา ความตื่นเต้นเข้าครอบงำเขา เขาจึงตะโกนอย่างตะกุกตะกักว่า “ท่าน...ท่านลอร์ด... ท่านมีความต้องเฉพาะเกี่ยวกับหอกหรือไม่?”

โอหยางโชวพยักหน้า “เกี่ยวกับหอกนี้ ข้าจะใช้มันเป็นอาวุธหลักของข้า หลอมหัวหอกจากเหล็กกล้าอุกกาบาต และใช้เหล็กธรรมดาสำหรับลำหอก เป็นอย่างไรบ้าง?”

หวังเกายกเหล็กกล้าอุกกาบาตขึ้นในระดับสายตา และพยักหน้า “มากเพียงพอแล้วขอรับ”

“ดี แล้วข้าจะรอข่าวดีจากเจ้า” โอหยางโชวไม่กังวลอีกต่อไป เขาลุกขึ้นและออกไป

“ขอรับท่านลอร์ด!”

หลังจากที่โอหยางโชวออกไปแล้ว หวังเกาก็ดึงสติตัวเองออกมาจากเหล็กกล้าอุกกาบาต เขาตรวจสอบมันอย่างระมัดระวัง วัดขนาดและประสิทธิภาพของมัน ขณะที่เขาคำนวณและทำแบบแปลนในใจ เขาก็คิดถึงขั้นตอนต่างๆในการทำหอก

หวังเการู้ดีว่า ตัวเขานั้นยากที่จะหลอมหอกนี้ได้ และมันก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากด้วย ดังนั้น เขาจึงไม่กล้าประมาท เขามุ่งมั่นและตั้งใจทำมันด้วยทุกสิ่งทุกอย่างที่เขามี เพื่อสร้างหอกที่ดีที่สุด เขาจะไม่ทำให้ลอร์ดของเขาผิดหวัง

ปลายเดือน 10 เกษตรกรเริ่มเก็บเกี่ยวธัญพืชทั่วทั้งดินแดน

แน่นอนว่าพื้นที่การผลิตธัญพืชหลักก็คือเมืองฉิวซุ่ย ที่มีนาข้าวถึง 40,000 หมู่ จากการประมาณเบื้องต้น มันจะสามารถผลิตธัญพืชได้ประมาณ 120 ล้านหน่วย

ด้วยธัญพืชปริมาณมหาศาลเช่นนี้ ภาษีการเกษตรเพียงอย่างเดียว ก็ได้รับธัญพืชมาถึง 4 ล้านหน่วยแล้ว โดยธัญพืชเหล่านี้จะถูกส่งไปเป็นเสบียงให้กับทหาร ซึ่งเพียงพอทีั่จะเลี้ยงทหาร 20,000 นาย ได้เป็นเวลา 3 เดือน

เมืองฉิวซุ่ย, เมืองมิตรภาพ, เมืองเทียนเฟิง, เมืองยี่ซุ่ย, เมืองกู่ซาน, เมืองหยงเย่ และเมืองกวงซุ่ย ทั้งหมดสามารถผลิตธัญพืชได้มากเกินความต้องการ เว้นแต่เมืองหลักอย่างเมืองซานไห่เท่านั้น

จากการประมาณของฝ่ายการเกษตร ผลผลิตธัญพืชทั้งดินแดนในฤดูเก็บเกี่ยวที่ 2 นี้ จะมีมากถึง 200 ล้านหน่วย

มันมากพอให้บริโภคได้นานถึง 8 เดือน ก่อนที่จะถึงฤดูเก็บเกี่ยวแรกในเดือนที่ 7 ของปีหน้า

อย่างไรก็ตาม จากอัตราการขยายตัวและเติบโตของประชาการเมืองซานไห่ นอกจากนี้ ยังมีการบริโภคจากโรงงานผลิตเหล้าสามดอกไม้ และโรงผลิตทางทหาร โอหยางโชวคำนวณแล้วว่า เมืองซานไห่ยังคงต้องซื้อธัญพืชอีกกว่า 20 ล้านหน่วย จากตลาด เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการทั้งหมด

ธัญพืชเป็นทรัพยากรทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่สุด

ในตลาด ราคาธัญพืชได้ลดลงแล้ว ขณะที่ผลผลิตจากการเก็บเกี่ยวธัญพืชชุดใหม่ได้ออกสู่ตลาด หลังจากที่ผ่านวิกฤตธัญพืชมาได้ ลอร์ดทุกคนก็เรียนรู้ถึงความสำคัญของธัญพืช

ขณะที่พวกเขาเก็บเกี่ยวธัญพืช ลอร์ดทั้งหมดก็ทำเช่นเดียวกับโอหยางโชว พงกเขาคำนวณปริมาณธัญพืชที่พวกเขามีอยู่ในยุ้งฉาง และคำนวณปริมาณการบริโภคของดินแดนพวกเขา ในอีก 8 เดือนข้างหน้านี้ ในท้ายที่สุด พวกเขาก็พบว่า มันยังคงไม่เพียงพอต่อความต้องการ

โดยไม่ต้องสงสัย ธัญพืชที่เก็บเกี่ยวได้จากดินแดน ไม่เพียงพอกับความต้องการของดินแดน พวกเขาจึงต้องซื้อบางส่วนจากตลาด เพื่อเติมเต็มความต้องการนั้น

ด้วยเหตุนี้ แม้ว่าราคาขายธัญพืชจะลดลง แต่ราคาขายธัญพืชที่ 10 เหรียญทองแดง/หน่วย ไม่มีให้เห็นอีกต่อไปแล้ว

แฟนเพจ : TWOแปลไทย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด