ตอนที่แล้วบทที่ 109 เม็ดบัวดำนิลกาฬ  
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 111 เพื่อของอร่อย  

บทที่ 110 ค่ายกลเพลิงสี่หวน!


 

ค่ายกลเพลิงสามหวน เป็นค่ายกลที่จั่วม่อใช้ในการตัดแบ่งแม่เหล็กเย็นในคราวที่แล้ว

เวลานี้มันเคียดแค้นข่าวลือเป็นอย่างยิ่ง มันเพียงตัดแบ่งแม่เหล็กเย็นชัดๆ แต่ข่าวลือกลับแพร่ออกไปว่ามันแปรสภาพแม่เหล็กเย็นสำเร็จ เป็นเหตุให้ภัยพิบัติมาเยี่ยมเยือนถึงที่ จั่วม่อฝืนยิ้มในใจ ตัวมันยังไม่ทันจะเข้าสู่ด่านหนิงม่าย การแปรสภาพวัตถุดิบระดับสี่หายากเช่นแม่เหล็กเย็นและเม็ดบัวดำนิลกาฬ โดยทั่วไปเป็นได้แค่ความคิดฝันเท่านั้น

ต่อให้ใช้ค่ายกลเพลิงสามหวน จั่วม่อก็ไม่สามารถแปรสภาพเม็ดบัวดำนิลกาฬระดับสี่ได้ มันหลับตา เพ่งจิตสำนึก พินิจพิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงต่างๆ ของเม็ดบัวดำนิลกาฬที่อยู่ภายในไฟหินงอก แต่ในไม่ช้าก็รู้สึกผิดหวัง แม้จะถูกห่อหุ้มด้วยไฟหินงอก แต่เปลือกแข็งชั้นนอกของเม็ดบัวดำนิลกาฬไม่มีความเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย

สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ดรรชนีของจั่วม่อเริ่มสะบัดพลิ้วลิ่วล่อง กลมกลืนลื่นไหล ทิ้งภาพเงาตกค้างไว้นับไม่ถ้วน

เป็นครั้งแรกที่บุรุษชุดแดงเผยสีหน้าอัศจรรย์ใจ คนธรรมดาเห็นเพียงฉากอันตระการตา แต่ยอดฝีมือเช่นมันเห็นลึกซึ้งลงไปถึงทักษะ กระบวนท่าดรรชนีชุดนี้ไม่ใช่กระบวนท่าที่ซับซ้อน แต่กลับรวดเร็วถึงขีดสุด บรรลุถึงขอบเขต ‘ดรรชนีวิวัฒน์สู่เงาร่าง’ สิ่งที่เรียกว่า ‘ดรรชนีวิวัฒน์สู่เงาร่าง’ นี้ หมายถึงดรรชนีที่รวดเร็วจนทิ้งภาพเงาดรรชนีซ้อนทับแน่นขนัด ภาพเงาดรรชนีเหล่านี้เข้มข้นถึงขั้นตกค้างอยู่ในอากาศชั่วระยะหนึ่ง แต่กระบวนท่าดรรชนีย่อมไม่ได้หยุดลงเพียงเท่านี้ ก่อนที่ภาพเงาตกค้างชุดเก่าจะหายไป ภาพเงาตกค้างชุดใหม่ก็ก่อเกิดตามมาไม่ขาดตอน สร้างชุดภาพเงาดรรชนีตกค้างเชื่อมต่อกันไปไม่สิ้นสุด นี่คือ ‘ดรรชนีวิวัฒน์สู่เงาร่าง’

ก่อนที่จะเข้าสู่ด่านจินตัน กระบวนท่าดรรชนีเป็นทักษะที่มีประโยชน์ใช้สอยมากมาย ทุกผู้คนล้วนล่วงรู้ แต่แม้ว่ารูปแบบทักษะจะแตกต่างกันไป เว้นเสียแต่ซิวเจ่อที่ฝึกฝนกายา ปกติแล้วมักไม่มีความแตกต่างกันมากนักทั้งในด้านความแข็งแกร่ง ความยืดหยุ่น หรือพลังของดรรชนี กล่าวอีกอย่างหนึ่งก็คือ ซิวเจ่อด่านหนิงม่ายจะมีพลังปราณมากกว่าซิวเจ่อด่านจู้จี แต่ในด้านกระบวนท่าดรรชนีแทบไม่มีอันใดแตกต่างกัน

เว้นเสียแต่ว่ามีทักษะกระบวนท่าดรรชนีอันพิเศษเฉพาะ มิเช่นนั้น วิธีเดียวที่สามารถเพิ่มพูนทักษะดรรชนี คือพึ่งพาการฝึกปรืออย่างหนักหน่วงเท่านั้น

บุรุษหนุ่มคล้ายผีดิบผู้นี้พลังบำเพ็ญเพียรสามัญธรรมดามาก แต่กระบวนท่าดรรชนีของมันกลับน่าตื่นตะลึงไม่น้อย

ไม่เพียงแต่บุรุษชุดแดง อีกสองคนก็แตกตื่นเช่นกัน พวกมันสบตากันวูบ ต่างเห็นเค้าความยินดีในดวงตาอีกฝ่าย เพียงแค่กระบวนท่าดรรชนีชุดนี้ ก็เพียงพอที่จะเพิ่มความเชื่อมั่นของมันพวกที่มีต่อจั่วม่อ

จั่วม่อจิตใจว่างเปล่า สมาธิจดจ่อรวมตัวอย่างสมบูรณ์ ในสายตาของมันมีเพียงไฟหินงอกสีขาวนวล กับเม็ดบัวดำนิลกาฬภายในกองไฟ

ดรรชนีของมันเร่งเร็วขึ้น เร็วขึ้นเรื่อยๆ ท่ามกลางเสียงปะทุแผ่วเบา ราวกับมีมือที่มองไม่เห็นบีบเค้นไฟหินงอก เส้นเชือกไฟสีขาวพลันพุ่งออกมาจากไฟหินงอก ไฟหินงอกราวกับกลุ่มก้อนด้ายขดหนึ่ง และกลุ่มด้ายขดนี้เป็นจุดเริ่มต้นของเส้นด้ายไฟที่พุ่งออกมา ด้ายไฟสีขาวคล้ายถูกสาวดึงออกมาจากกองไฟไม่หยุดยั้ง

ด้ายไฟสีขาวยืดยาวออกมาทุกขณะ ปลายด้านหนึ่งเชื่อมต่อกับไฟหินงอกตลอดเวลา ส่วนปลายอีกด้านของด้ายไฟ เริ่มโลดแล่นไปรอบๆ เม็ดบัวดำนิลกาฬ

ในขณะเดียวกัน ลูกไฟของไฟหินงอกก็หดเล็กลงอย่างรวดเร็ว เมื่อเปลวไฟสุดท้ายเปลี่ยนเป็นส่วนหนึ่งของด้ายไฟ เม็ดบัวดำนิลกาฬที่เดิมทีถูกลูกไฟหินงอกห่อหุ้มไว้ ก็พลันหลุดออกมาสัมผัสกับอากาศ เส้นด้ายไฟสีขาวว่ายเวียนไปรอบๆ เม็ดบัวดำนิลกาฬที่ลอยค้างอยู่กลางอากาศ ราวกับงูสีขาวอันปราดเปรียวตัวหนึ่ง

ถึงตอนนี้ กระบวนท่าดรรชนีของจั่วม่อก็แปรเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน หากก่อนหน้านี้เรียกว่ารวดเร็วดุจสายฟ้า เวลานี้ดรรชนีของมันคล้ายแบกรับน้ำหนักมหาศาล กลายเป็นเชื่องช้าและหนักอึ้ง

ทันใดนั้นเส้นด้ายไฟสีขาวพลันขาดตรงกึ่งกลาง แยกออกเป็นด้ายไฟสองเส้น ด้ายไฟทั้งสองเส้นดุจดั่งงูสีขาวตัวน้อยสองตัว ว่ายเวียนโคจรรอบเม็ดบัวดำนิลกาฬเป็นวงกลม ความเร็วในการหมุนวนของพวกมันถึงกับเร็วขึ้นกว่าเดิมเป็นเท่าตัว ที่น่าประหลาดคือ เส้นด้ายไฟทั้งสองหมุนวนเป็นวงแหวนสองวงตัดไขว้กัน แต่ไม่เคยชนกัน

ค่ายกลเพลิงหนึ่งหวน!

เม็ดบัวดำนิลกาฬภายในค่ายกลไฟมั่นคงประหนึ่งก้อนหิน ไม่มีร่องรอยของการสะท้านสั่นไหวแม้แต่น้อย

จั่วม่อดวงตานิ่งสงบไม่เปลี่ยนแปลง สิบนิ้วกลับแปรเปลี่ยนไม่หยุดยั้ง

สองแบ่งออกเป็นสี่! เส้นด้ายไฟทั้งสี่เส้นขนาดเล็กลงไปอีก แม้แต่วงแหวนไฟที่โคจรตัดไขว้รอบเม็ดบัวดำนิลกาฬก็มีรัศมีแคบลงกว่าเดิม

ค่ายกลเพลิงสองหวน!

เม็ดบัวดำนิลกาฬสั่นสะเทือนเล็กน้อย

จั่วม่อใช้สายตาตึงเครียดมองไปยังเม็ดบัวดำนิลกาฬที่จุดกึ่งกลางของค่ายกลไฟ ไม่กล้าผิดพลาดแม้แต่น้อย สถานการณ์เบื้องหน้าไม่ได้ทำให้มันแปลกใจแต่อย่างใด

กระบวนท่าดรรชนีของมันยิ่งมายิ่งเชื่องช้าลง ตรงกันข้าม ความเร็วในการโคจรพลังปราณภายในร่างมัน ยิ่งนานยิ่งเร่งเร็วขึ้นเป็นลำดับ

เส้นด้ายไฟแบ่งเป็นแปดเส้น หมุนวนเป็นวงแหวนรอบเม็ดบัวดำนิลกาฬด้วยความเร็วอันน่าตื่นตะลึง สร้างกรงไฟสีขาวอันพิสดารขึ้นมากรงหนึ่ง

ค่ายกลเพลิงสามหวน!

เมื่อเทียบกับค่ายกลเพลิงสามหวนที่มันใช้ตัดแม่เหล็กเย็น ค่ายกลเพลิงสามหวนชุดนี้ยังพัฒนาไปอีกขั้น จั่วม่อควบคุมค่ายกลเพลิงสามหวนได้ดีกว่าเดิมมาก หลังจากได้ฟังคำชี้แนะของผูเยา จั่วม่อเริ่มฝึกฝนการควบคุมพลังปราณด้วยสติจดจ่อ เนื่องจากทุกวันมันมีโอกาสฝึกฝนมากมาย จึงรุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว ค่ายกลเพลิงสามหวนที่มันเคยต้องฝืนควบคุมอย่างยากลำบาก เวลานี้กลับกลายเป็นง่ายดาย

ภายในใจกลางของค่ายกลไฟ เม็ดบัวดำนิลกาฬสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ราวกับว่ามันจะกระโจนออกมาจากค่ายกลไฟในวินาทีใดวินาทีหนึ่ง

ทุกผู้คนกลั้นลมหายใจ จ้องมองกรงไฟสีขาวที่ลอยอยู่กลางอากาศด้วยสีหน้าเคร่งขรึมจริงจัง พวกมันทราบว่าขั้นต่อไปคือขั้นตอนที่สำคัญที่สุด ความเย็นเยือกของค่ายกลไฟได้มาถึงระดับความลึกล้ำอันน่าอัศจรรย์ เย็นเยียบยิ่งกว่าอุณหภูมิปกติของไฟหินงอกถึงแปดเท่า! ไฟเย็นนั้นเย็นเยือก ไฟร้อนก็ร้อนลวก แต่ไม่ว่าจะเป็นไฟชนิดใด พวกมันล้วนมีคุณสมบัติ ‘หลอมละลาย’ ความสามารถในการหลอมละลายของไฟเย็นจะเพิ่มขึ้นตามระดับความเย็นเยียบ ส่วนความสามารถในการหลอมละลายของไฟร้อน ก็จะรุนแรงขึ้นตามระดับอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้น

ค่ายกลเพลิงสามหวนหนุนเสริมให้ไฟหินงอกเย็นเยียบกว่าปกติแปดเท่า ดังนั้นความสามารถในการหลอมละลายของมันก็ย่อมเพิ่มขึ้นถึงแปดเท่า!

ภายใต้ความสามารถหลอมละลายแปดเท่า เม็ดบัวดำนิลกาฬที่ไม่เคยสะทกสะท้าน ในที่สุดเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย บนเปลือกชั้นนอกเริ่มปรากฏให้เห็นร่องหลุมตื้นๆ นี่เป็นสัญญาณว่ามันเริ่มหลอมละลายแล้ว แต่ด้วยระดับความรุนแรงเท่านี้ กว่าจะแปรสภาพเม็ดบัวดำนิลกาฬแล้วเสร็จ ไม่ทราบว่าต้องใช้เวลาอีกกี่ปีกี่เดือน

ภายใต้บทบาทสำคัญของเมล็ดพันธุ์อสูร จิตสำนึกของจั่วม่อให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่มีผู้ใดสังเกตเห็น ร่างกายของมันอ่อนนุ่มลงและผ่อนคลายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ยิ่งร่างกายผ่อนคลายมากเท่าใด พลังของแผนผังปิศาจก็ยิ่งดีขึ้น และยิ่งดูดซับพลังปราณได้มากขึ้นเท่านั้น

ผลลัพธ์ของการควบคุมพลังปราณอย่างแม่นยำของจั่วม่อ สำแดงออกมาในเวลานี้อย่างเห็นได้ชัด มันก่อตั้งค่ายกลเพลิงสามหวนสำเร็จ โดยใช้พลังปราณไปเพียงครึ่งเดียวของคราวที่แล้ว รู้สึกถึงปราณธรรมชาติจากค่ายกลห้าปฐมปราณเสริมพลังถาโถมเข้ามา จั่วม่อระบายลมหายใจโล่งอกเล็กน้อย มันไม่เคยลงมือแปรสภาพวัตถุดิบพร้อมกับใช้ค่ายกลห้าปฐมปราณเสริมพลังมาก่อน แต่จากสิ่งที่เห็นในยามนี้ สถานการณ์นับว่าไม่เลวเลย

ปราณธรรมชาติจากจิงสือเจือปนสิ่งสกปรกอยู่บ้าง แต่นี่ไม่ใช่ปัญหาสำหรับจั่วม่อ แผนผังปิศาจสามารถกลั่นกรองสิ่งสกปรกออกจากปราณธรรมชาติได้ด้วยตัวเอง ปราณธรรมชาติที่ถ่ายทอดมาจากค่ายกลห้าปฐมปราณเสริมพลังจึงมีเสถียรภาพเป็นอย่างยิ่ง พลังปราณในร่างกายจั่วม่อเพิ่มพูนขึ้นอย่างรวดเร็ว

จั่วม่อพริ้มตาหลับลง คงสภาพค่ายกลเพลิงสามหวนเอาไว้ สงบนิ่ง ไม่ไหวติง รอคอยให้พลังปราณในร่างเติมเต็มจนถึงขีดจำกัด ในไม่กี่ครั้งที่มันได้พยายามสร้างค่ายกลเพลิงสี่หวน อัตราการเผาผลาญพลังปราณช่างน่าแตกตื่นสะท้านใจเสียจริง

คนชุดแดงกับพี่น้องของมัน เวลานี้อดตื่นเต้นตึงเครียดไม่ได้ พวกมันย่อมเห็นได้ชัดว่าจั่วม่อกำลังรอคอยเวลาและรวบรวมพลังของมัน เช่นเดียวกับความเงียบสงบครั้งสุดท้ายก่อนเกิดพายุ ยิ่งสงบมากเท่าใด ยิ่งระเบิดรุนแรงมากเท่านั้น

ทันใดนั้นพลังปราณในร่างจั่วม่อก็ไต่ขึ้นมาถึงระดับสูงสุด มันลืมตาอย่างฉับพลัน

ดรรชนีของจั่วม่อสะบัดพลิ้วอย่างแช่มช้า ประหนึ่งแบกรับน้ำหนักไว้หนึ่งพันจิน! ไหล่และแขนผอมๆ ของมันสั่นคลอนด้วยความพยายามอย่างหนัก แต่ดรรชนีที่กรีดวาดอย่างเชื่องช้ากลับมั่นคงอย่างพิสดาร

ทุกผู้คนรู้สึกว่าแสงสีขาวสว่างวาบขึ้น!

กรงไฟกลับกลายเป็นแน่นขนัดกว่าเดิม ไม่ผิดอันใดกับรังไหมไฟรังหนึ่ง! เส้นด้ายไฟกลายเป็นสิบหกเส้น หมุนวนรอบเม็ดบัวดำนิลกาฬด้วยความเร็วที่แทบมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า

ค่ายกลเพลิงสี่หวน!

พลังปราณในร่างกายจั่วม่อเผาผลาญอย่างบ้าคลั่ง ทันทีที่ก่อตั้งค่ายกลเพลิงสี่หวนขึ้นมา พลังปราณเต็มขีดจำกัดของมันก็แทบจะเกลี้ยงฉาดในบัดดล มันไม่มีปัญญาสนใจสิ่งอื่นใด ได้แต่เริ่มดูดกลืนปราณธรรมชาติจากค่ายกลห้าปฐมปราณเสริมพลังอย่างดุเดือด ปราณธรรมชาติปริมาณมหาศาลถาโถมเข้าไปในร่างจั่วม่อ มันเป็นเหมือนนักเดินทางผู้หิวโหยในทะเลทราย ดูดกลืนปราณธรรมชาติทุกหยาดหยดอย่างกระหายอยาก

ภายใต้พลังหลอมละลายสิบหกเท่า เปลือกแข็งชั้นนอกของเม็ดบัวดำนิลกาฬในที่สุดเริ่มหลอมละลาย!

พลังจิตสำนึกทั้งหมดของจั่วม่อทำงานอย่างบ้าคลั่ง พลังหลอมละลายสิบหกเท่า ย่อมต้องการการควบคุมพลังปราณที่แม่นยำถึงที่สุด หากขาดความแม่นยำไปสักเล็กน้อย เมื่อขยายขึ้นสิบหกเท่า อาจนำพาค่ายกลไฟไปสู่การล่มสลายได้ง่ายๆ!

บุรุษทั้งสามกับหลี่อิงฟ่งประสาทเขม็งตึงจนไม่กล้าหายใจ ภายในร้านค้า เงียบจนชวนอึดอัด ค่ายกลไฟสี่หวนปราศจากสุ้มเสียงสำเนียงใด แต่รังไหมไฟสีขาวสั่นสะเทือนเบาๆ เป็นครั้งคราว การสั่นสะเทือนแต่ละครั้งบันดาลให้หัวใจของพวกมันทั้งสี่สะท้านสั่นไหวตามไปด้วย พวกมันทราบดีว่าการสั่นสะเทือนแต่ละครั้ง หมายถึงจั่วม่อมีปัญหาในการควบคุมค่ายกลเพลิงสี่หวน และไม่สามารถบังคับค่ายกลให้ทำตามใจปรารถนาได้อย่างสะดวกดายนัก

แต่ยามนี้ไม่มีผู้ใดสนใจเรื่องนี้

บนใบหน้าของพวกมัน นอกเหนือจากความกังวลใจ ก็มีแต่ความตกตะลึงเท่านั้น! ตกตะลึงอย่างรุนแรง!

ซิวเจ่อด่านจู้จีผู้หนึ่ง สามารถก่อตั้งค่ายกลเพลิงสี่หวนขึ้นมาได้ หากข่าวนี้แพร่สะพัดออกไป ย่อมจะเขย่าไปทั้งตงฝู ไม่ถูกต้อง เขย่าทั้งอาณาจักรนภาจันทร์! โดยทั่วไปแล้ว เพียงค่ายกลเพลิงสามหวนก็เป็นสิ่งที่ยากเย็นสำหรับซิวเจ่อด่านจู้จีไม่น้อย ส่วนค่ายกลเพลิงสี่หวนนั้น ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่ก่อตั้งจนเสร็จสมบูรณ์!

แต่บุรุษหนุ่มซึ่งดูพื้นเพธรรมดาอย่างยิ่งผู้นี้ กลับสามารถก่อตั้งค่ายกลเพลิงสี่หวน มองไปยังรังไหมสีขาวอันหนาแน่น นั่นไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นค่ายกลเพลิงสี่หวนจริงๆ!

ครั้งแรกที่พวกมันได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับแม่เหล็กเย็นระดับสี่ พวกมันตามมาเพียงเพื่อลองเสี่ยงโชคดูเท่านั้น อันที่จริงเมื่อเห็นจั่วม่อมีพลังบำเพ็ญเพียรเพียงด่านจู้จี ในใจผิดหวังมาก แต่ยังคงตั้งใจจะทดลองดูสักครั้ง จะอย่างไรนี่ก็เป็นเม็ดบัวดำนิลกาฬระดับสี่ ต้องการที่จะทำลายมันไมใช่ง่ายดายดังใจนึก! เมื่อท้ายที่สุดจั่วม่อยินยอมรับงานนี้ พวกมันอดสงสัยไม่ได้ว่าเจ้าผีดิบผู้นี้จะใช้วิธีการดีงามอันใด แต่ไม่ว่าจะอย่างไร พวกมันก็ไม่เคยคิดว่าจั่วม่อจะเลือกใช้ค่ายกลเพลิงสี่หวน!

ค่ายกลเพลิงสี่หวนไม่ใช่ค่ายกลลึกลับแต่อย่างใด ตรงกันข้าม มันธรรมดาสามัญมาก แพร่กระจายไปอย่างกว้างขวาง ผู้คนไม่น้อยเข้าใจค่ายกลนี้ แต่แม้ว่าคนที่เข้าใจมีมากมาย ทว่าคนที่สามารถใช้งานได้กลับมีน้อยมาก ระดับที่สูงขึ้น ต้องการความสามารถควบคุมพลังปราณมากขึ้นและต้องการพลังบำเพ็ญเพียรที่ทวีคูณขึ้น

พลังบำเพ็ญเพียรที่ทวีคูณขึ้นได้แต่ต้องทะลวงผ่านด่านฝึกตนเท่านั้น! ใช้ค่ายกลเพลิงสามหวนเป็นตัวอย่าง หากซิวเจ่อด่านจู้จีบางคน สามารถก่อตั้งค่ายกลเพลิงสามหวนสำเร็จเป็นบางครั้ง เช่นนั้นมันย่อมไม่สามารถก่อตั้งค่ายกลเพลิงสี่หวนได้สำเร็จอย่างแน่นอน นั่นเป็นเพราะว่าค่ายกลเพลิงสี่หวน ต้องการความสามารถในการควบคุมพลังปราณและระดับพลังบำเพ็ญเพียรเป็นสองเท่าของค่ายกลเพลิงสามหวน ต้องรอจนกระทั่งผ่านเข้าไปยังด่านหนิงม่าย จึงจะสามารถเติมเต็มเงื่อนไขทั้งสองข้อนี้ได้

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่พวกมันคิดว่าเป็นไปไม่ได้กลับกำลังบังเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา!

รังไหมไฟสีขาวสั่นกระเพื่อมเป็นครั้งคราว ทั้งกลายเป็นไม่มั่นคง แต่นี่เป็นค่ายกลเพลิงสี่หวนอย่างไม่มีข้อกังขา!

ดวงตาสามคู่ของพวกมันจ้องมองจั่วม่อ เหมือนกับเฝ้าดูตัวประหลาด

จั่วม่อไม่ทราบ เวลานี้มันไม่แยแสสนใจสิ่งใด ในโลกของมันมีเพียงค่ายกลเพลิงสี่หวนนี้เท่านั้น!

หลุมเล็กๆ บนพื้นผิวเปลือกนอกของเม็ดบัวดำนิลกาฬเริ่มขยายใหญ่และลึกขึ้น เผยให้เห็นเม็ดบัวที่อยู่ด้านใน

ในเวลานี้ จั่วม่อไม่กล้าผ่อนคลายแม้แต่น้อย อย่าได้เห็นว่าเม็ดบัวภายในสุกใสน่ารัก ทั้งงดงามและดึงดูดใจ แต่กลับแฝงพิษร้ายแรงอันน่าสะพรึงกลัว เพียงสัมผัสแค่เศษเสี้ยว มันอาจตายโดยไม่เหลือซากไว้ให้กลบฝัง

สะกดกลั้นความหวาดกลัวในใจ จั่วม่อพยายามรักษาความมั่นคงของพลังปราณให้ดีที่สุด ในเวลานี้ไม่ว่าเกิดข้อผิดพลาดเล็กน้อยปานใด มันไม่กล้าคิดถึงผลลัพธ์ที่ตามมา

คนทั้งสามพอเห็นเม็ดบัวที่สุกใสละมุนละไม ล้วนถดถอยไปไกลกว่าเดิม สีหน้าเต็มไปด้วยความระแวดระวังและอกสั่นขวัญแขวน

ชื่อเสียงอันตรายของเม็ดบัวดำนิลกาฬดังกระฉ่อนไปทั่ว!

 

กลุ่มถึงตอนที่ 234 แล้ว คลิก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด