ตอนที่ 4 - ความรู้สึกของการเป็นคนรวย
ตอนที่ 4 - ความรู้สึกของการเป็นคนรวย
“การลงโทษ!”
ในขณะที่เสียงนั้นไม่ได้เห็นปฏิกิริยาที่น่ากลัวบนใบหน้าของสือเหล่ยอย่างที่มันคาด มันจึงเน้นย้ำอีกครั้ง
สือเหล่ยเบ้ปากของเขาอีกครั้งโดยไม่แม้แต่จะพูดอะไรออกมา
ความเงียบที่แปลกประหลาด
ราวกับว่าเสียงนั้นได้เฝ้ารอให้สือเหล่ยถามเกี่ยวกับรายละเอียดของบทลงโทษ
"ทำไมคุณถึงไม่ถามฉันเกี่ยวกับรายละเอียดของบทลงโทษ?" ในที่สุดเสียงที่ไม่สามารถระบุเพศได้ก็ดังขึ้นมาถามเขาหลังจากหยุดไปนาน
สือเหล่ยชี้ไปที่ปากของเขา และทำท่าทางล้อเลียนที่หมายความว่ามันเพิ่งบอกให้เขาหุบปากไปเมื่อก่อนหน้านี้
ตู้เอทีเอ็มเมื่อเห็นดังนั้นจึงอดพูดออกมาไม่ได้ "คุณสามารถถามคำถามได้ปกติ ฉันบอกให้คุณเงียบด้วยหวังว่าคุณจะไม่ท้าทายอำนาจของฉัน "
"เอาล่ะ งั้น เจ้านายที่เคารพของฉัน ช่วยอธิบายเรื่องการลงโทษหน่อยได้ไหม?" สือเหล่ยเริ่มรู้สึกว่าการกลั่นแกล้งในครั้งนี้น่าเบื่อแล้ว
แต่เสียงนั่นดูเหมือนจะมีความสุขกับการที่สือเหล่นสามารถปรับตัวเข้ากับบทบาทใหม่ของเขาได้อย่างรวดเร็ว และกล่าวว่า "ไม่เลวๆ นั่นเป็นทัศนคติที่ทาสควรจะมี ชะตากรรมของชายคนเมื่อคืนนั้นเป็นบทลงโทษของคุณ "
"วู้ว รุนแรงขนาดนั้นเลย?"
เสียงนั่นดูเหมือนจะครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ยังพูดขึ้นมาว่า "จากนี้ไป คุณจะได้รับเงินในทุกๆเที่ยงคืนของวันอาทิตย์ และจนถึงเที่ยงคืนของวันอาทิตย์ถัดมา คุณต้องใช้เงินนั่นให้หมด ถ้าคุณไม่ทำ ฉันจะเอาส่วนต่างๆของร่างกายคุณตามอัตราส่วนของเงินที่เหลืออยู่ ชะตากรรมของชายคนนั้นจะเป็นโทษรุนแรงที่สุด "
สือเหล่ยพยักหน้าและถามว่า "ในทางกลับกัน ถ้าฉันใช้จ่ายเงินแค่ 5,000 หยวน ฉันก็จะตายเพราะฉันว่าไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ด้วยร่างกายแค่ครึ่งหนึ่งใช่ไหม?"
คราวนี้เสียงนั่นไม่สนใจคำถามของเขา "ตกลงตามนั้น มันคือวันนี้ โปรดจำไว้ว่าเงิน 100,000 หยวนที่คุณได้รับมาเมื่อคืนไม่ได้มาด้วยวิธีการตามปกติ ดังนั้นฉันจะนำมันกลับไป วันนี้เป็นวันเสาร์ และตอนเที่ยงคืนคืนนี้ เงิน 10,000 หยวนจะถูกโอนเข้าบัญชีธนาคารของคุณ คุณต้องใช้มันทั้งหมดภายในหนึ่งสัปดาห์ "
“จำไว้! ใช้เงินทั้งหมด! แล้วคุณจะไม่ต้องได้รับโทษจากกฎของทาสหมายเลขศูนย์!”
ทันทีที่ประโยคนั้นสิ้นสุดลง หน้าจอเอทีเอ็มก็พร่ามัวไปชั่วขณะ และกลับสู่สภาพปกติของมัน บัตรเอทีเอ็มสีดำได้ถูกตีกลับจากตู้เอทีเอ็ม
สือเหล่ยลังเลใจอยู่ชั่วครู่ ในที่สุดก็ดึงมันออกมาและยัดลงในกระเป๋าของเขา เมื่อมาคิดดู ไอ้เวรนี่เป็นใครกันแน่ อย่าคาดหวังให้ฉันเชื่อแกเพราะว่าฉันไม่รู้ว่าแกได้รับรหัสผ่านกระเป๋าเงิน WeChat มาได้อย่างไร
สือเหล่ยหันกลับมาขณะที่เขาได้ยินเสียงเปิดประตูข้างหลังเขา เด็กหญิงคนหนึ่งเดินเข้ามา
ขณะที่เขาเดินออกไป เขาก็เหลือบไปที่ตู้เอทีเอ็มอีกครั้ง และตามที่คาดไว้ทันทีที่เขาใช้เสร็จ ผู้คนก็ไม่ได้อยู่ห่างออกไปจากบริเวณนี้อีก
หลังจากที่เขากลับมาที่หอพัก เพื่อนร่วมห้องของเขาก็ยังไม่กลับมา สือเหล่ยนึกถึงเรื่องรหัสผ่านกระเป๋าสตางค์ขึ้นมาได้ เขารีบหยิบโทรศัพท์ออกมาและกลายเป็นโล่งใจมากขึ้นหลังจากที่ได้เปลี่ยนแปลงมัน ไม่ใช่แค่นั้น สิ่งที่เขาได้เปลี่ยนยังรวมถึงพาสเวิร์ดสำหรับเข้าสู่ WeChat อีกด้วย แต่เมื่อเขาตรวจสอบรายละเอียดแล้ว มันก็ค่อนข้างแปลกเมื่อในรายการการทำธุรกรรม ประวัติการทำธุรกรรมสำหรับเงิน 100,000 หยวนที่เขาได้รับมาเมื่อคืนนั้นไม่มีการแจ้งเตือนใดๆ และไอดีของผู้ชายที่หายไปเมื่อคืนนี้ก็ไม่มีอยู่ด้วยเช่นกัน
แต่ถ้ามีความสามารถในการรู้รหัสผ่านกระเป๋า WeChat ของเขา หากต้องการทำอะไรเช่นนี้มันคงจะง่ายดายมาก
สือเหล่ยใช้เวลาทั้งวันไปอย่างไร้จุดหมาย แต่ความตื่นเต้นของเขาก็เต็มไปหมดเมื่อเวลามาถึงเที่ยงคืน เขาต้องการที่จะรู้ว่าเงิน 10,000 หยวนจะปรากฏขึ้นมาในบัญชีของเขาจริงๆหรือไม่
ถึงแม้ว่าการกลั่นแกล้งครั้งนี้จะจบลงภายในหนึ่งสัปดาห์ แต่เงินที่ได้มาอย่างไม่คาดฝันนี้ก็ยังดีอยู่
ถึงแม้ว่ามันจะปรากฏขึ้นมาจริงๆ แต่เขาก็ยังไม่เชื่อเรื่องทาสและเจ้านาย เพราะว่าในการโอนเงิน เพียงแค่รู้จักหมายเลขบัตรและชื่อของคนๆนั้นก็สามารถโอนเงินให้ใครแล้วก็ได้
เวลาได้ผ่านไปอย่างเชื่องช้าภายในหอพัก เบื้องหลังของสือเหล่ยนั้นธรรมดาทั่วไปและเขาก็ไม่ได้ขอให้พ่อแม่ของเขาซื้อแล็ปท็อปให้ เพราะว่าเขาไม่จำเป็นต้องใช้มันในการเรียนแต่อย่างใด ถ้าเขาต้องการใช้ บางครั้งเขาก็ยืมจากเพื่อนร่วมชั้นได้ เวลานี้ การพยายามอยู่ให้ได้จนถึงเที่ยงคืนเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายจริงๆ
เขาบังคับตัวเองให้ตื่นอยู่จนถึงช่วงห้าทุ่มครึ่ง ในที่สุดเขาก็ยอมแพ้และเมื่อเขาตื่นขึ้นมามันก็สว่างแล้ว
สิ่งแรกที่สือเหล่ยทำหลังจากเปิดตาขึ้นคือการเปิดโทรศัพท์ของเขา มันมีข้อความที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อเปิดมัน มันมาจากธนาคารจริงๆ การแจ้งเตือนให้เขาทราบว่าเงิน 10,000 หยวนได้ถูกโอนเข้าบัญชีของเขาแล้ว
ด้วยความสัตย์จริง เขาไม่ได้ประหลาดใจ หลังจากได้เห็นเงินจำนวน 100,000 หยวนมากก่อน เขารู้สึกเสียดายเล็กน้อยด้วยซ้ำ
100,000 ถูกเปลี่ยนเป็น 10,000 ......
สือเหล่ยคิดว่าถ้าคุณต้องการที่จะกลั่นแกล้งเช่นนี้ มันคงจะน่าสนุกที่ได้เห็นใบหน้าของพวกเขาหลังจากที่เขาใช้จ่ายเงินทั้งหมดนี้จริงๆ
ขณะที่แปรงฟันและล้างหน้า สือเหล่ยก็คิดว่าจะใช้เงินนี้อย่างไร
"ฉันจะไม่ใช้จ่ายเงินทั้งหมดนี้เลย ฉันจะซื้อเสื้อผ้าตัวใหม่ๆ หลังจากนั้นก็ทานอะไรดีๆ อย่างน้อยที่สุด ฉันต้องทำให้พวกเขาต้องจ่ายเงินสำหรับการกระทำของพวกเขาเอง"
หลังจากห้วงแห่งความคิด สือเหล่ยก็วิ่งออกจากประตูมหาวิทยาลัย
ความจำเป็นพื้นฐานต้องมาก่อน หลังจากซื้อขนมปังนึ่งสองอันสำหรับมื้อเช้าแล้ว เขาก็ตัดสินใจจะเริ่มต้นด้วยเสื้อผ้า
เขาพุ่งเข้าไปในห้างสรรพสินค้าที่เขารู้สึกอายมากเกินไปที่จะเข้ามาเมื่อครั้งก่อน และวิ่งไปยังเคาน์เตอร์ไนกี้ซึ่งเขาได้แต่เฝ้ามองมานานหลายปีแต่ไม่มีเงินซื้อมัน
เขาเลือกชุดกีฬาตั้งแต่แรกเห็น บางทีอาจเป็นเพราะร้านเพิ่งเปิดได้ไม่นาน พนักงานของร้านยังค่อนข้างขี้เกียจ
พนักงานพยายามที่จะหาขนาดเสื้อผ้าของสือเหล่ยและเอามาแสดงให้เขาดูที่ห้องลองชุด จากนั้นก็พิงกายกับห้องนั่นและหาวออกมา
สือเหล่ยเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่และมองไปในกระจกหลังจากที่เดินออกมา และรู้สึกประหลาดใจเมื่อพบว่าเขาดูดีจริงๆ เสื้อผ้าราคาถูกทำให้เขาดูหม่นหมอง ไม่สามารถแสดงออกถึงความเยาว์วัยและความหล่อเหลาของเขาได้ ดั่งสำนวน 'ไก่งามเพราะขน คนงานเพราะแต่ง' (แปลงจากสำนวนจีนนิดหน่อย แต่ความหมายเหมือนกันครับ) หลังจากเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าแบรนด์เนมแล้ว เขาก็ดูเป็นคนใหม่
หลังจากซื้อเสื้อผ้า ต่อไปก็เป็นรองเท้า
รองเท้ากีฬาของไนกี้ โดยเฉพาะชีรีย์ 'แอร์จอร์แดน' ตามปกติสือเหล่ยไม่กล้าแม้แต่จะคิดถึงมัน เขาเห็นแต่เพื่อนของเขาใส่มันเท่านั้น ราคาของมันอย่างน้อยคือหนึ่งหรือสองพันต่อคู่ มันน่าน้อยใจที่สือเหล่ยได้เห็นมันถูกใช้โดยคนที่วิ่งอยู่บนสนามบาสเกตบอล
"กลั่นแกล้งฉันใช่ไหม? ถ้าฉันไม่ได้ใช้เงินของคุณ คุณคิดว่าจริงๆเหรอว่าคุณจะทำให้ฉันกลัวได้? "
การออกแบบใหม่ล่าสุดในปีนี้ของซีรีย์แอร์อยู่บนชั้นวาง รุ่นที่ 29 สือเหล่ยระบุขนาดรองเท้าของเขา และพนักงานก็ได้นำมันมาให้แก่เขาคู่หนึ่งทันที
นอกจากนี้เมื่อผู้พนักงานของร้านได้วางรองเท้าไว้ข้างหน้าเขา เธอก็จงใจมองไปที่รองเท้าที่เขาใส่ - มันเหมือนกับจอร์แดน แต่เป็นของก็อปราคาถูก
สือเหล่ยได้เห็นแสงที่เงาวับจากการดูแล เขาสบัดคู่เก่าที่มีราคาประมาณ 70 หยวน จากราคาเริ่มต้นที่ 120 หยวนทิ้งไป และขยับเท้าที่เหม็นของเขาลงไปในรองเท้าแอร์จอร์แดนที่แท้จริง
อ่าาห์ สบายจริง! ตามที่คาดไว้ มันรู้สึกแตกต่างออกไปเมื่อได้เหยียบลงไปบนเงินหนึ่งพันดอลล่าร์ที่เท้าของเขา สือเหล่ยรู้สึกราวกับว่าเขาสามารถทำการดั้งได้เหมือนกับที่จอร์แดนเคยทำได้ในจุดสูงสุดของเขา
ภายใต้การจ้องมองที่ไม่มั่นใจของพนักงาน สือเหล่ยหยิบบัตรเครดิตของเขาออกมา หลังจากการชำระเงิน รอยยิ้มที่จริงใจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของพนักงาน จนเหมือนกับเป็นการประจบสอพลอมายังเขา บางทีมันอาจจะเป็นแค่จินตนาการของสือเหล่ยเท่านั้น แม้ว่าพนักงานขายจะไม่รวยมาก แต่ถ้าพวกเขาต้องเฝ้าดูลูกค้าที่เดินเข้าออกทุกๆวัน เธอจะมีความรู้สึกเยินยอไปได้อย่างไรเพียงเพราะเขาซื้อชุดกีฬาและรองเท้าแอร์จอร์แดนเท่านั้น?
เสื้อผ้าเก่าๆและรองเท้าจอร์แดนของปลอมถูกใส่เข้าไปในถุงกระดาษ เมื่อสือเหล่ยเดินออกจากห้างสรรพสินค้า เขาก็โยนมันลงถังขยะโดยไม่ลังเล
รู้สึกดีจริงๆ! มันรู้สึกแตกต่างไปจริงๆเมื่อมีเงิน!
สือเหล่ยเริ่มหวังเล็กๆว่าการเล่นกลั่นแกล้งนี้จะเป็นเรื่องจริง ด้วยเงิน 10,000 หยวนต่อสัปดาห์ ชีวิตจะดีขึ้นมากแน่นอน!
เมื่อสวมรองเท้าจอร์แดนและชุดกีฬาไนกี้ทั้งเซ็ท สือเหล่ยก็ตรวจสอบเวลาในโทรศัพท์ของเขา ......
โทรศัพท์เครื่องนี้ ถ้ามันไม่ใช่โทรศัพท์ที่มีคุณภาพไม่ดี พวกคนที่กลั่นแกล้งเขาจะเอาเงิน 100,000 หยวนไปจาก WeChat ของเขาได้อย่างง่ายดายได้ยังไงกัน และเขาก็คงไม่ต้องมาร่วมเกมแบบนี้กับคนพวกนั้น
งั้น... ไปซื้อโทรศัพท์ใหม่กันเถอะ!