ตอนที่แล้วตอนที่ 4 - ความรู้สึกของการเป็นคนรวย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 6 - บทลงโทษ

ตอนที่ 5 – อันธพาลที่มีศักดิ์ศรี


ตอนที่ 5 – อันธพาลที่มีศักดิ์ศรี

 

ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัย มันใช้เวลาประมาณสิบนาทีเท่านั้น และสือเหล่ยก็กำลังคิดถึงรุ่นของโทรศัพที่จะซื้อ

อาจไม่ใช่วีโว่หรือออปโป้คนส่วนใหญ่ที่ใช้ทั้งสองแบรนด์นี้เป็นเด็กนักเรียนระดับประถม ไม่ใช่ของเสี่ยวมี่ด้วยเช่นกัน ราคามันถูกเกินไปเนื่องจากมันเน้นในเรื่องของอัตราส่วนราคาต่อประสิทธิภาพ เป้าหมายของสือเหล่ยในตอนนี้คือการใช้จ่ายเงินให้เร็วที่สุด เป็นธรรมดาที่เขาจะเลือกโทรศัพท์ราคาแพง

สำหรับเหม่ยซู โอ้ได้โปรด คุณไม่ได้เบื่อโทรศัพท์นี้ที่คุณใช้อยู่นับตั้งแต่วันแรกของมหาวิทยาลัยงั้นหรือ?

หัวเว่ยอาจจะดี แต่ก็ไม่มากพอที่จะทำให้คนอื่นตาร้อนได้

โซนี่? สินค้าญี่ปุ่นสามารถตายได้

ซัมซุง? เกาหลีก็สามารถตายได้เช่นกัน

อืมม บางทีอาจจะเป็นไอโฟน ไอโฟนรุ่นใหม่เพิ่งเข้าตลาดและเป็นที่นิยมมากที่สุดในขณะนี้

ใช่แล้ว ไอโฟน!

เมื่อเดินเข้าไปในตลาดอิเล็คทรอนิคส์ สือเหล่ยก็เดินตรงไปยังร้านค้าที่เป็นที่นิยมและมีชื่อเสียงค่อนข้างมาก

ทันทีที่เขาเดินเข้าไป พนักงานหญิงคนหนึ่งก็เอ่ยทักทายเขาด้วยรอยยิ้ม "เฮ้พ่อรูปหล่อ มาหาซื้อโทรศัพท์งั้นหรือ?"

"คุณมีไอโฟนหกอยู่ในสต็อกไหม?" สือเหล่ยแกล้งทำเป็นว่าเขาไม่ได้ขาดแคลนเงิน ด้วยชุดกีฬาไนกี้และแอร์จอร์แดนรุ่นที่ 29 ที่เขาเพิ่งซื้อมาใหม่ในราคาประมาณหนึ่งพัน เขาไม่ได้ดูเหมือนว่าเงินเป็นปัญหาแก่เขา

รอยยิ้มบนใบหน้าของหญิงสาวสว่างขึ้น และตอบในทันทีว่า "ใช่ เรามีมัน ที่รัก คุณต้องการเครื่องแผ่นดินใหญ่หรือว่าฮ่องกง? เครื่องอเมริกันเป็นราคาถูกที่สุดแต่มันไม่รวมการรับประกัน ฉันขอแนะนำให้คุณซื้อเครื่องฮ่องกงเพราะราคาถูกกว่าเครื่องแผ่นดินใหญ่ และยังมีการรับประกัน "โดยไม่ทราบว่าเมื่อไหร่ที่เธอไม่ได้ใช้คำว่าคุณแต่เป็นที่รัก

"เอาล่ะ ฉันเอาเครื่องฮ่องกง 64GB สีทอง"

พนักงานร้านหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา แต่ยังคงกังวลเล็กน้อยเพราะโทรศัพท์ของสือเหล่ยคือเหม่ยซู

เมื่อเห็นว่าสือเหล่ยกำลังจะเปิดมัน สาวน้อยพูดอย่างรีบเร่ง "ที่รัก คุณต้องแน่ใจว่าคุณกำลังจะซื้อมันถึงจะเปิดได้ มิฉะนั้นเราจะไม่สามารถขายได้ "

สือเหล่ยหยิบบัตรออกมาและโยนมันไปทางเธอ "รูดบัตรได้ไหม?"

"การรูดบัตรต้องเสียค่าบริการ 1%" โดยไม่คัดค้าน สือเหล่ยกล่าว "จัดการมัน!" จากนั้นเขาก็เปิดห่อพลาสติกmujอยู่ข้างนอก แต่ก็ไม่สามารถเอาซิมการ์ดออกจากเครื่องเหม่ยซูของเขาได้ เขาจึงถาม "เอ่อ คุณช่วยเอาซิมการ์ดของฉันใส่เข้าไปที่โทรศัพท์เครื่องใหม่ รวมทั้งดาวน์โหลดแอพพลิเคชันทั้งหมดที่ฉันมีบนโทรศัพท์เครื่องเก่าของฉันลงในโทรศัพท์เครื่องใหม่ด้วยนะ "

เด็กสาวจัดการกับบัตรเสร็จแล้ว และได้ให้สือเหล่ยยืนยันรายการและป้อนรหัสผ่าน หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ยุ่งกับการดาวน์โหลดแอปทั้งหมดสำหรับเขา

20 นาทีต่อมา สือเหล่ยกำลังเล่นโทรศัพท์เครื่องใหม่ของเขา

ตามที่คาดไว้กับผลิตภัณฑ์ชั้นยอดที่มีมูลค่า 6,000 หยวน การปฏิบัติการที่ราบรื่นนั่นราวกับเป็นผ้าไหมนั่น มันดีกว่าโทรศัพท์ที่ตกรุ่นไปสามปีซึ่งมีอาการค้างก่อนจะเข้าแอพใดๆเป็นเวลา 30 วินาทีเป็นอย่างมาก สีทองก็ส่องประกายเฉิดฉาย สือเหล่ยรู้สึกราวกับว่าเขากำลังจะเข้ารับตำแหน่งผู้บริหาร และได้แต่งงานกับสาวสวยและรวยมาก พร้อมกับเดินไปสู่จุดสูงสุดในชีวิตของเขา

“ที่รัก รับอะไรเพิ่มอีกไหม?” ขณะที่เธอขายสินค้าได้ในตอนเช้า รอยยิ้มของเธอก็เบิกบานขึ้นเรื่อยๆ

สือเหล่นกำลังจะบอกว่าไม่มี แต่ก็ตระหนักได้ว่าโทรศัพท์เครื่องเก่าของเขาที่อาจถูกโจมตีโดยไวรัส ...... ใช่ มันต้องเป็นไวรัส แอนดรอยด์ไว้ใจไม่ได้เลย มันต้องเป็นชายเมื่อคนนั้น ที่แพร่ไวรัสเข้าสู่โทรศัพท์ขอเขาเมื่อเขาเพิ่มตัวเองลงใน WeChat ของเขา ดังนั้นเขาจึงสามารถถอนเงิน 100,000 หยวนไปได้อย่างเงียบๆ โอ้พระเจ้า นั่นมัน 100,000 หยวน หัวใจของสือเหล่ยชอกช้ำเมื่อเขาคิดถึงมัน

"คุณรับรีไซเคิลโทรศัพท์นี้ไหม?" สือเหล่ยชี้ไปที่โทรศัพท์เมื่อสามปีก่อน

หญิงสาวมึนงงไปชั่วขณะ เมื่อคิดว่าทำไมเขาไม่โยนโทรศัพท์ตกรุ่นนี้ทิ้งไป? แต่เธอก็มองไปที่โทรศัพท์และกล่าวว่า "เรารับรีไซเคิล แต่ว่ามันไม่คุ้มค่าเอามาก"

"เท่าไหร่ๆ?"

หญิงสาวสบตาและสื่อสารกับพนักงานคนอื่นๆในร้านอย่างเงียบๆ และกล่าวว่า "ปกติประมาณ 80 หยวน แต่คุณได้ซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ไปจากร้านของเดา ดังนั้นเราจะรับซื้อมัน 100 หยวน"

สือเหล่ยมีความสุขเป็นอย่างยิ่ง เงินที่เขาใช้เพื่อซื้อโทรศัพท์เป็นของคนอื่น แต่เงินที่เขาได้รับจากการขายโทรศัพท์เครื่องเก่าของเขาคือ 100 หยวนของเขา ที่เทียบเท่ากับการสอนพิเศษเด็กนักเรียนสองรอบเลย!

เขาโบกมือและรับเงิน 100 หยวน หญิงสาวเฝ้าดูด้วยความสับสนขณะที่สือเหล่ยออกจากร้าน ราวกับว่าเขารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้รับเงิน 100 หยวนมากกว่าการที่เขาได้ซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่

"คนประหลาด ซื้อโทรศัพท์ 6,000 หยวนอย่างเร่งรีบ แต่ตื่นเต้นมากจากการขายโทรศัพท์เครื่องเก่าของเขาเป็นเงิน 100 หยวน "

สือเหล่ยไม่ได้ยินเสียงเหล่านี้ เขาคำนวณมันอย่างลวกๆ เสื้อผ้ามีราคาประมาณ 1,000 ชิ้นรองเท้าก็ 1,000 เช่นกัน และไอโฟนหกนี้ เขาใช้เงินไปแล้วกว่า 9,000 งั้นหรือ?

สือเหล่ยคิดว่าเขาไม่ได้มีเงินสดเหลืออยู่กับตัวมาก เขาค้นหาเครื่องเอทีเอ็มแบบสุ่มๆและตรวจสอบยอดคงเหลือของเขา เงิน 10,000 ที่เขาได้รับจากความอัศจรรย์ ตอนนี้มีเพียงแค่ 800 ที่เหลืออยู่

เขาถอนออกมา 700 หยวน ......

สือเหล่ยคำนวนอย่างแน่ชัด เขามีแค่ประมาณ 100 หยวนเท่านั้นที่เหลืออยู่ และสิ่งนี่มาจากการขายโทรศัพท์ของเขา ซึ่งหมายความว่าเป็นเงินของตัวเขาเอง หลังจากถอนออกมา 700 หยวนก็หมายความว่าเขาได้ใช้เงินทั้งหมด 10,000 หยวนแล้ว

สำหรับเงิน 800 นี้ สือเหล่ยตัดสินใจที่จะแลกมันเป็นบัตรโรงอาหารของมหาวิทยาลัย เนื่องจากเขาถูกขอให้จ่ายเงินทั้งหมดภายในหนึ่งสัปดาห์ เขาจึงสามารถทานอาหารที่ชั้นสามของโรงอาหารได้ทุกๆวัน หนึ่งมื้อจะเสียค่าใช้จ่ายอย่างน้อยก็ 50 หรือ 60 หยวน วันหนึ่งมากกว่า 100 หยวน และเจ็ดวันก็จะสมบูรณ์แบบ

ตัดสินใจได้แล้ว!

สือเหล่ยเดินออกไปอย่างตื่นเต้น เมื่อใดก็ตามที่เขาเห็นตู้กระจกโชว์ของร้านค้า เขาจะหยุดลงเล็กน้อยเพื่อมองไปที่ชุดใหม่ของเขา และขยับไอโฟนเบาๆ เท่ห์ชะมัดยาด!

สือเหล่ยสั่งอาหารสองจานในร้านอาหารถัดจากประตูมหาวิทยาลับ และกินข้าวสามจาน จากนั้น ด้วยเงินจำนวนมหาศาล 800 หยวน เขาวางแผนที่จะไปเดินเล่นรอบๆมหาวิทยาลัยเพื่อย่อยอาหาร เขาอิ่มแน่นจากการกินอย่างมูมมามในเวลานั้น

ขณะที่เขาเดินอย่างไม่มีจุดหมาย เขาก็เดินเข้าไปในซอยเล็กๆโดยไม่รู้ตัว

ด้วยความประหลาดใจ มันเป็นซอยตัน สือเหล่ยไม่ได้ตระหนักถึงเรื่องนี้จนกระทั่งชนเข้ากับกำแพงในตอนท้าย

เขาจึงหันกลับไปและย้อนกลับ ฉับพลันเขาเห็นไฟจราจรปรากฏขึ้นตรงกลางซอยและทุกๆอย่างก็สว่างขึ้น คุณควรจะเดินไปด้วยไฟจราจรแบบนี้งั้นหรือ?

 

แต่ทำไมซอยเล็กๆเช่นนี้จึงจำเป็นต้องมีไฟจราจร? สือเหล่ยจับตาดูมัน โอ้ พวกเขาคือชายสามคนที่ผมของพวกเขาถูกย้อมด้วยสีแดง สีเหลือ และสีเขียว ไหล่ของพวกเขาเอียงกับบุหรี่ที่คายอยู่ในปากของพวกเขา เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ใช่คนดี

ก่อนที่เขาจะนึกขึ้นได้ สามสัญญาณไฟจราจรก็ล้อมรอบเขาไว้ แล้วหัวเราะอย่างแปลกประหลาด

หนึ่งในพวกเขากล่าวว่า "ดูนี่ ฉันคิดไว้ไม่ผิด การปิดกั้นผู้คนให้ออกจากซอยเล็กๆเป็นเรื่องง่ายๆ นั่นเป็นทางตันใช่ไหม ไม่มีใครสามารถผ่านไปได้ถ้าพวกเขาสามคนไม่อนุญาต!"

อีกสองคนยกนิ้วขึ้นสองนิ้ว และพูดด้วยความพร้อมเพรียง "ลูกพี่สุดยอด!"

สือเหล่ยไม่ต้องการเสียเวลากับชายที่เลวร้ายเช่นนี้ บวกกับน้ำเสียงของพวกเขาดูเหมือนจะเต็มไปด้วยเจตนาที่ไม่ดี เขาก้มหัวลงและพยายามจะเดินผ่านไป

“หยุด! ฉันอนุญาตให้แกไปรึยัง?” ไฟสีแดงพ่นก้นบุหรี่ในปากของเขา สือเหล่ยหลบมันอย่างรวดเร็ว เพราะกลัวว่าจะเผาเสื้อผ้าไนกี้ตัวใหม่ของเขา

"ไม่เลวหนิเจ้าหนุ่ม หืม นี่คือไนกี้ใช่ไหม? กับรองเท้าจอร์แดนสีเลือด! " ไฟสีเขียวพูดขึ้นมาในเวลานั้น

หัวใจของสือเหล่ยตกฮวบ ทั้งสามคนนี้วางแผนจะปล้นเขาใช่ไหม? เสื้อผ้าชุดใหม่ของฉัน โอ้เวร และโทรศัพท์ของฉัน!

"พวกมันทั้งหมดเป็นของปลอม เป็นงานก็อปราคาถูก ไม่ได้มีค่ามาก" สือเหล่ยทำได้แต่หลีกทางเพื่อช่วยตัวเองไว้ แม้ว่าเขาจะตัวไม่เล็ก และรูปร่างได้สัดส่วน มันไม่เป็นปัญหาสำหรับเขาที่จะวิ่งหนีออกไป แต่เขาอาจจะไม่ชนะหากพวกมันเริ่มการต่อสู้ หากพวกมันต้องการที่จะต่อสู้ เสื้อผ้าเหล่านี้แน่นอนว่าจะฉีกขาด เสื้อผ้าใหม่เหล่านี้มีมูลค่า 1,000 หยวน!

"ปลอมบ้านแกสิ! แกไม่ซื่อสัตย์เอามากๆเลย! พวกเราพี่น้องไม่อยากรบกวนแกจริงๆ แต่พวกเราไม่มีเงินกินเลย ดังนั้นพวกเราต้องการขอยืมเงินจากแกสักหน่อย" ไฟสีเหลืองผลักสือเหล่ย

ไฟสีแดงหยุดไฟสีเหลือง และพูดว่า "เฮ้ อย่าทำร้าย และแกสามารถพูดออกมาได้ มีอารยะหน่อย พวกเรามีศักดิ์ศรี พวกเราเพียงต้องการที่จะยืมเงินบางส่วน ไม่ได้มาปล้นเขา ไม่ได้ทำให้เขากลัว"

สีเขียวยิ้มอย่างชั่วร้ายและพูดว่า "ไอ้หนุ่ม เอาเงินทั้งหมดมาให้พวกเรา ไม่ว่าเสื้อผ้าของแกจะเป็นของจริงหรือของปลอม พวกเราก็ไม่คิดจะเอาไปเลย"

สือเหล่ยโล่งใจทันทีที่เขาได้ยินสิ่งที่มันพูด และหยิบเงินออกมาโดยไม่ลังเล เขาเก็บเงินที่ได้จากการขายเหม่ยซูของเขาไว้ ซึ่งนั่นคือเงินของตัวเองอย่างเห็นได้ชัด เขาส่งธนบัตรสีแดงสด(1)จำนวนแปดใบให้ไปโดยไม่ดูเป็นครั้งที่สอง

อ่าาาาห์ สัปดาห์แห่งการกินข้าวที่ชั้นสามของโรงอาหารก็หายไป ไม่เป็นไร นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ

 

(1) ธนบัตรสีแดง: เงินในประเทศจีนมูลค่า 100 หยวน (แบงค์ร้อย)

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด