ตอนที่แล้วบทที่ 81 พรรคอัจฉริยะปราณ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 83 วิธีการอันอำมหิต

บทที่ 82 ไม่เสี่ยงก็ไม่รวย!  


 

เจตจำนงกระบี่ความหนาแน่นสูงระเบิดผ่านเกราะปราณโดยไม่มีผู้ใดพบเห็น ลอบเร้นเข้าไปในร่างกายเอี้ยนหมิงจื่ออย่างเงียบเชียบ

เอี้ยนหมิงจื่อรู้สึกเพียงเข็มเย็นสุดขีดเล่มหนึ่งทะลวงเข้าไปในร่าง ร่างกายมันแข็งทื่ออย่างกะทันหัน

จั่วม่อดวงตาทอประกายวาบ นี่เป็นโอกาสที่มันเฝ้ารอ กู่เบาๆ คำหนึ่ง มันโคจรวัชรสูตรน้อยโดยไร้เสียง เห็นชั้นแสงสีทองจางๆ ล่องลอยปกคลุมทั่วร่าง จั่วม่อกระทืบเท้าอย่างรุนแรง ร่างพุ่งทะยานดุจลูกธนูหลุดจากแล่ง!

เอี้ยนหมิงจื่อสีหน้าแปรเปลี่ยนเป็นซีดเผือด แต่ร่างกายของมันยังถูกแช่แข็ง กระดิกไม่ได้แม้แต่ปลายนิ้ว นี่มันเวทวิชาอันใดกัน?

เป้าหมายของจั่วม่อกลับไม่ใช่เอี้ยนหมิงจื่อ แต่เป็นกระบี่หยดน้ำที่ลอยค้างอยู่กลางอากาศและไร้การควบคุม!

อ้า กระบี่ดีจริงๆ!

มือขวาที่เรืองแสงสีทองคว้าด้ามกระบี่หยดน้ำ จากนั้นพลังปราณในร่างมันถาโถมเข้าไปในตัวกระบี่

จริงดังที่คาดไว้! จั่วม่อในใจท่วมท้นด้วยความปลาบปลื้มยินดี

เจ้าผู้นี้ไม่เคยทุ่มเทความพยายามประทับรอยวิญญาณในกระบี่ เศษเสี้ยวจิตสำนึกที่อยู่ภายในกระบี่อ่อนแอจนน่าเวทนา จั่วม่อลบมันทิ้งอย่างง่ายดาย กระบี่หยดน้ำสั่นสะเทือนสองครั้งในมือจั่วม่อ คล้ายขัดขืนพอเป็นพิธี ก่อนจะกลับกลายเป็นนิ่งเงียบไม่ไหวติง การประทับรอยวิญญาณในกระบี่บิน ปกติต้องค่อยๆ ใช้เวลามากมายและความพยายามอีกนับไม่ถ้วน กว่าที่จะสำเร็จถึงขั้นควบคุมบังคับได้ดั่งใจปรารถนา อีกทั้งยังสามารถป้องกันไม่ให้ถูกผู้อื่นฉกไปโดยง่ายดาย ยอดฝีมือบางคนถึงขั้นสร้างอาคมหวงห้ามเป็นชั้นๆ ไว้ในกระบี่บินของพวกมัน หากมีผู้ใดคิดขโมยควบคุมกระบี่เหมือนเช่นที่จั่วม่อทำ พวกมันอาจได้รับบาดเจ็บแทน

แต่จั่วม่อคาดเดาว่าเจ้าผู้นี้คงไม่สละเวลาและความพยายามมากนัก เพื่อประทับรอยวิญญาณในกระบี่บิน และมันก็คาดเดาได้ถูกต้องตรงเผงทีเดียว

เหตุเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นในชั่วพริบตา เร็วจนกระทั่งทุกผู้คนอ้าปากหวอ รอบด้านเงียบกริบดุจป่าช้า

เอี้ยนหมิงจื่อเหม่อมองอย่างโง่งม มันไม่เคยคิดเลยว่าผู้อื่นจะหมายตากระบี่หยดน้ำของมัน! พอรู้สึกว่าพันธะระหว่างมันกับกระบี่หยดน้ำสูญสลายไป สีหน้ามันก็แปรเปลี่ยนเป็นปั้นยาก

จั่วม่อเก็บกระบี่หยดน้ำลงไปในถุงร้อยสมบัติที่เอวอย่างพออกพอใจ มันเบิกบานใจยิ่ง จากนั้นแสร้งหาข้ออ้างเหมาะๆ อย่างเยือกเย็น “กระบี่เล่มนี้ถือว่าเป็นค่าชดเชยที่เจ้ารุกรานสำนักข้า ต่อไปก็อย่าได้กระทำเรื่องโง่ๆ เช่นนี้อีก” สิ่งที่มันเพิ่งใช้พิชิตชัยคือเจตจำนงกระบี่กระแสธารของอาจารย์ลุงซินหยาน หยินสุดขั้ว เย็นเยียบสุดขีด เมื่อปราศจากการระวังป้องกัน เอี้ยนหมิงจื่อย่อมประสบความสูญเสียอย่างใหญ่หลวง

“เจ้า เจ้า เจ้า...” เอี้ยนหมิงจื่อชี้หน้าจั่วม่อ ปลายนิ้วสั่นระริก ใบหน้าซีดจนเขียว โกรธจนพูดไม่ออก แต่มันเมื่อไม่มีกระบี่หยดน้ำแล้ว ยังจะทำอะไรจั่วม่อได้?

“ฮ่าฮ่า! น่าหัวร่อเป็นบ้า!” หูซานหัวร่องอหายอย่างไร้ความปราณี หัวร่อจนกุมท้อง หัวร่ออย่างหนักหน่วงจนแทบหายใจไม่ออก “โอย เหล่าเอี้ยน* ฮ่าฮ่า น่าขำจริงๆ! แม้กระทั่งกระบี่ยังถูกปล้นไป เหล่าเอี้ยน เจ้าเป็นคนแรกของพรรคเราเลยทีเดียว!”

(*ใช้เหล่านำหน้าแซ่ เป็นคำเรียกสหายอย่างค่อนข้างสนิทสนม)

“ฮิฮิ! เอี้ยนเกอเกอ* ท่านน่าขันจริงๆ !” เถาซูเอ๋อร์หัวร่อดุจบุปผาบานสะพรั่ง และไม่อาจหยุดยั้งได้

(*พี่ชายเอี้ยน)

“ข้า ข้า ข้า...” เอี้ยนหมิงจื่ออึกอักอยู่ครึ่งค่อนวัน ยังไม่ทราบจะกล่าวอันใด แต่เมื่อมันเห็นจั่วม่อกวาดตามามองเกราะปราณบนร่างมันหนแล้วหนเล่า หัวใจมันสะท้านขึ้น รีบถอยหลังกรูดไปหลายก้าว สับสนงุนงงไปหมด จนกระทั่งถึงตอนนี้ ก็ยังไม่เข้าใจว่าไฉนจู่ๆ มันก็ถูกแช่แข็ง อีกฝ่ายใช้เวทวิชาอันใดกันแน่?

วันนี้มันเสื่อมเสียศักดิ์ศรีอย่างแท้จริง เอี้ยนหมิงจื่อหัวใจมีเลือดหยาดหยด เสียงหัวร่อของหูซานกับเถาซูเอ๋อร์ยิ่งฟังยิ่งรู้สึกบาดหูเป็นพิเศษ มันเสียหน้าใหญ่โต ต่อให้วันนี้พวกมันสามารถเอาชนะจั่วม่อ และนำกระบี่หยดน้ำกลับคืนมา แต่พอกลับไปยังพรรค หูซานกับเถาซูเอ๋อร์จะแพร่กระจายเรื่องนี้ไปทุกแห่งหนในเวลาอันรวดเร็วยิ่ง

เสียกระบี่ไปแล้วก็เสียไป แต่ถ้าเรื่องนี้กลับไปถึงพรรค ต่อไปมันก็ไม่ต้องเงยหน้ามองผู้ใดอีกแล้ว

มันก็ไม่ใช่คนดีอันใด ในใจยังขุ่นเคืองต่อหูซานกับเถาซูเอ๋อร์มากกว่าจั่วม่อเสียอีก มันซึ่งเป็นคนประมือโดยตรงยังแตกตื่นตะลึงลานกับฝีมือของจั่วม่อ ทั้งยังไม่เข้าใจเลย เหลือบมองสองคนที่ยังหัวร่อไม่เลิกราจนตัวงอ ในใจลอบยิ้มเยาะ เจ้าสองคนนี้แน่นอนว่าไม่ได้เอะใจในสิ่งที่เกิดขึ้นสักนิดเดียว แข็งตัวในฉับพลัน ไร้สุ้มเสียงอย่างสิ้นเชิง ปราศจากเค้าลางล่วงหน้า ไม่ว่าผู้ใดก็...

พอคิดออก มันก็สงบใจลง แสร้งตวาดด้วยโทสะ “หูซาน เจ้ามิใช่โหยหางูหลามสามตาสีน้ำเงินของข้าหรอกหรือ? หากเจ้านำกระบี่หยดน้ำกลับมาให้แก่ข้าได้ ข้าจะมอบงูหลามสามตาให้แก่เจ้า!”

หูซานไม่หัวร่ออีกต่อไป มันเอียงคอ มองเอี้ยนหมิงจื่ออย่างจริงจัง “เจ้าพูดจริงๆ?”

เอี้ยนหมิงจื่อในใจลอบหัวร่อเย้ยหยัน แต่ฉากหน้าผงกศีรษะทันควัน “แน่นอน มีเถาซูเอ๋อร์เป็นพยาน ข้ายังจะบิดพลิ้วอันใดได้?”

“ตกลง!” หูซานสูดหายใจอย่างแช่มชื่น “เหล่าเอี้ยน เจ้าไม่สามารถเอาชนะสวะเช่นนี้ได้ แสดงว่าฝีมือเจ้าย่ำแย่ลงจริงๆ เจ้าต้องฝึกปรือให้มากกว่านี้ มิเช่นนั้นเมื่อข้าพาเจ้าออกไปก่อเรื่อง เจ้าจะไม่ทำให้พรรคอัจฉริยะปราณของเราเสื่อมเสียหน้าอีกหรือ?”

เอี้ยนหมิงจื่อเกลียดวาจาหยาบคายของหูซานจับใจ ในใจมันภาวนาให้จั่วม่อทุบตีหูซานจนเป็นเนื้อบด แต่ปากกล่าวว่า “รอเจ้านำกระบี่หยดน้ำคืนมาเสียก่อนเถอะ ค่อยมากล่าววาจาไร้สาระ”

หูซานก้าวไปเบื้องหน้า ยิ้มกว้างไปยังจั่วม่อ “เจ้าหนู เจ้าน่าสนใจจริงๆ! หากเจ้ายอมเชื่อฟัง คืนกระบี่หยดน้ำมาเสียดีๆ ข้าจะปล่อยเจ้าไป!”

ชิ้นเนื้อติดมันส่งมาถึงปาก ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะถุยออกไป จั่วม่อคร้านจะตอบโต้กับหูซาน เพียงกวาดตามองประเมินอีกฝ่ายขึ้นๆ ลงๆ อย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นมันก็พบว่านี่เป็นถนนทองคำวาววับสู่ความร่ำรวยโดยแท้! กระบี่หยดน้ำเล่มนั้นราคาแพงมาก อย่าได้เห็นว่าจั่วม่อมั่งคั่งมากขึ้นหลังจากร่ำเรียนวิชาหลอมกลั่นโอสถ แต่หากกระบี่หยดน้ำเล่มนี้อยู่ในร้านยุทธภัณฑ์ในตงฝู จั่วม่อเพียงสามารถมองดูเท่านั้น ไม่มีปัญญาแตะต้องอย่างเด็ดขาด!

ตอนนี้กระบี่ตกอยู่ในถุงเงินของมันแล้ว หากแปรสภาพเป็นจิงสือ...

จั่วม่อพลันตระหนักรู้อย่างฉับพลัน อะไรจะรวยเร็วไปกว่าฉกเอามาตรงๆ? อะไรจะสุขสราญบานใจไปกว่าปล้นเอามาซึ่งๆ หน้าโดยมีข้ออ้างอันสวยหรู?

จั่วม่อยื่นมือออกไป กระบี่ผลึกน้ำแข็งพลันปรากฏขึ้นเบื้องหน้ามันอีกครั้ง วางท่ากล่าวอย่างชอบธรรมว่า “พวกเจ้ากล้าข่มเหงพวกเราสำนักสุญตา! ไสหัวเข้ามาเถอะ หากตัวต่อตัว พรรคอัจฉริยะปราณเจ้า เกอไม่เคยเกรงกลัวผู้ใด!” เหล่าศิษย์ที่ด้านหลังจั่วม่อมองไปยังแผ่นหลังของมันอย่างเลื่อมใสเทิดทูน

จริงดังคาด เมื่อยั่วยุพวกมัน สีหน้าของหูซานก็เปลี่ยนเป็นไม่พอใจ “ฮึ่ม เจ้ากบในบ่อน้ำ เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นตัวอะไร? เดิมทีข้าอุตส่าห์เมตตาปล่อยเจ้าไป แต่เมื่อเจ้าไม่รู้ความ...”

ระหว่างที่มันยังพูดพล่าม ประกายแสงสีเงินโฉบขึ้นมาในอากาศ แล้วพุ่งดิ่งลงหาหูซาน

“เจ้าขี้ขลาด! กล้าลอบโจมตีเรอะ!” หูซานทั้งแตกตื่นทั้งขุ่นแค้น ดาบเปลวไฟเล่มหนึ่งปรากฏขึ้นในมือ!

เห็นเปลวไฟลุกไหม้อย่างป่าเถื่อนตลอดคมดาบ แผดเผาอย่างดุดัน แม้จะอยู่ห่างไกล จั่วม่อยังรู้สึกถึงความร้อนที่กดทับลงมา

ยุทธภัณฑ์เวทที่ดีอีกเล่มหนึ่ง!

จั่วม่อดวงตาเปลี่ยนเป็นแดงฉาน ดาบอาบเปลวไฟเล่มนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นชั้นสูงสุดในระดับสาม และไม่ได้ด้อยกว่ากระบี่หยดน้ำที่มันเพิ่งได้รับมา มันรีบบังคับกระบี่ผลึกน้ำแข็งให้ถอยออกห่าง น้ำและไฟต่อต้านซึ่งกันและกัน ขึ้นอยู่กับสิ่งใดแข็งแกร่งสิ่งใดอ่อนแอ จั่วม่อมั่นใจว่าหากมันไม่ระมัดระวัง เผลอไปติดกับถูกขังในเปลวเพลิงของอีกฝ่าย กระบี่ผลึกน้ำแข็งของมันอาจจะหลอมละลายกลายเป็นน้ำกองหนึ่ง

มันเคยได้ยินมาก่อน ว่าแนวทางเคล็ดวิชาของพรรคอัจฉริยะปราณกว้างขวางหลากหลาย แต่คิดไม่ถึงว่าพวกมันถึงกับมีเคล็ดวิชาหายากดังเช่นเคล็ดวิชาดาบ ค่ายสำนักเกือบทั้งหมดในอาณาจักรนภาจันทร์ฝึกปรือวิถีกระบี่เป็นหลัก หายากมากที่จะได้พบซิวเจ่อซึ่งฝึกปรือวิถีดาบ

ดาบอาบเปลวเพลิงของอีกฝ่ายเพียงฟาดฟันส่งๆ เปลวไฟและคลื่นความร้อนก็กวาดวาบออกมา กดทับและต่อต้านจั่วม่อ เพลงกระบี่เพลิงธาราเดินไปในแนวทางอ่อนหยุ่นและละเอียดซับซ้อน อย่างไรก็ตาม ยุทธภัณฑ์เวททั้งสองเล่มต่างชั้นกันมากเกินไป กระบี่ผลึกน้ำแข็งไม่อาจเข้าใกล้อีกฝ่ายได้ ดังนั้นเคล็ดกระบี่เพลิงธาราไม่สามารถแสดงพลังที่แท้จริงออกมา

เกราะปราณของอีกฝ่ายก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน แสงสีแดงส่องประกายเจิดจ้า บันดาลให้หูซานดูราวกับเทพนักรบลงมาเยือนโลกหล้า

“ฮ่าฮ่า! ไม่แสดงความกล้าหาญเหมือนเมื่อครู่แล้วหรือ? กล้าหาญกว่านี้อีกเซ่!” หูซานหัวร่ออย่างคลุ้มคลั่ง ถูกอกถูกใจเหลือแสน ดาบในมือสะบัดฟาดฟัน ส่งคลื่นดาบไฟทะยานไล่ล่าจั่วม่อไม่ขาดสาย จั่วม่อได้แต่กระโดดหลบไปมา

ใบหน้าของเหล่าศิษย์สำนักสุญตาทั้งหมดล้วนตกตะลึง ต้องพากันถอยห่างออกไป คลื่นไฟจากดาบอาบเปลวเพลิงของหูซานร้อนแรงถึงขีดสุด ทุกที่ที่มันแล่นผ่านไป ทิ้งรอยไหม้ดำเกรียมไว้เป็นทาง

จริงอย่างที่ผู้คนมักพูดกัน นกตายเพราะอาหาร คนตายเพราะความมั่งคั่ง! จั่วม่อคิดเศร้าๆ ขณะที่สมองคิดคำนวณเร็วรี่ เคล็ดวิชาดาบของหูซานเทียบกับเคล็ดวิชากระบี่ของเอี้ยนหมิงจื่อเมื่อสักครู่ เห็นได้ชัดว่าต่ำชั้นกว่ากันมาก แต่เมื่อประสานรวมเข้ากับดาบอาบเพลิงชั้นยอด พลานุภาพก็น่าอัศจรรย์แล้ว!

ดาบดี ดาบดี!

จั่วม่อตาแดงก่ำด้วยไฟริษยาจนแทบพวยพุ่งออกมา ขณะที่มันแสร้งทำเป็นหลบอย่างทุลักทุเลด้วยสารรูปน่าสมเพช

พลังสภาวะดาบของอีกฝ่ายไม่ดุดันพอ มิเช่นนั้น คลื่นเพลิงต้องโหมกระหน่ำเป็นพายุบุแคม จนจั่วม่อไม่มีปัญญาหลบเลี่ยงได้

จั่วม่อไม่ใช่ว่าไม่มีหนทาง แต่วิธีนั้นมันออกจะ...

จั่วม่อขบฟันแน่น ตัดสินใจพุ่งชนสุดตัว! แต่ในเมื่อมันยอมทุ่มสุดตัว ก็ต้องได้รับค่าตอบแทนคืนมาอย่างสมน้ำสมเนื้อ มันกระโดดหลบหลีกเป็นพัลวัน ดวงตากวาดมองประเมินไปทั่วร่างของฝ่ายตรงข้าม หาเป้าหมายที่ราคาแพง! เมื่อสายตามันตกลงบนจี้หยกที่อีกฝ่ายห้อยคอไว้ ดวงตาก็อดทอประกายวาบไม่ได้!

ยุทธภัณฑ์เวทที่ดี!

จี้หยกรูปลักษณ์เรียบง่ายขรึมขลัง แกะสลักจากหยกแดงทั้งชิ้น สีแดงดุจเพลิงไม่มีร่องรอยของสิ่งสกปรกเจือปน มีลูกปัดสีดำถูกล้อมรอบอยู่ตรงกลาง บนผิวหยกแกะสลักลวดลายค่ายกลไว้จำนวนหนึ่ง จั่วม่อรู้จักหนึ่งในนั้น ค่ายกลที่มันพอจำได้นี้เรียกว่าค่ายกลหัวใจจักรพรรดิเพลิง ลวดลายค่ายกลนี้ช่วยเพิ่มความเฉียบไวต่อไฟให้แก่ผู้สวมใส่ จึงเพิ่มความสามารถในการควบคุมบังคับไฟอีกด้วย ค่ายกลหัวใจจักรพรรดิเพลิงเปี่ยมด้วยประโยชน์ใช้สอยเหลือคณา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับซิวเจ่อระดับต่ำ นี่เป็นสิ่งที่พวกมันล้วนใฝ่ฝันถึง อย่างไรก็ตาม ค่ายกลหัวใจจักรพรรดิเพลิงมีวิธีการสร้างเข้มงวดและยากเย็นมาก จั่วม่อมักลังเลที่จะใช้ จี้หยกนี้ถึงกับสามารถสลักค่ายกลหัวใจจักรพรรดิเพลิงไว้เป็นส่วนหนึ่งของจี้ สิ่งของที่วิเศษอย่างแท้จริง!

จั่วม่อเข้าใจอย่างลึกซึ้งในคำกล่าวที่ว่า เมื่อมีกำไรใหญ่โตมากพอ ย่อมเพียงพอให้ผู้คนยอมเสี่ยงชีวิต!

สู้ตาย!

จั่วม่อเมื่อตัดสินใจแล้วก็สงบลงอย่างรวดเร็ว มันต้องหาโอกาสสยบอีกฝ่ายให้ได้ด้วยการจู่โจมเพียงครั้งเดียว

คลื่นอัคคีม้วนตลบไปทั่ว เปลวเพลิงบนใบดาบดูเหมือนไม่อ่อนโทรมลงแม้แต่น้อย หูซานถูกปกป้องไว้ด้วยม่านเพลิงหลายชั้น จั่วม่อไม่สามารถเข้าประชิดได้

แต่จั่วม่อก็ปราดเปรียวผิดธรรมดา คลื่นอัคคีไม่ได้สัมผัสถูกมันแม้แต่ปลายเส้นผม หูซานชักขุ่นข้องรำคาญขึ้นมา สภาวะดาบยิ่งเร้งร้อนมากขึ้น!

คนเหล่านี้...ใช้ของดีเสียของจริงๆ!

จั่วม่อในใจเต็มไปด้วยความดูหมิ่น ดาบที่ดีเช่นนี้ ตกอยู่ในมือคนเหล่านี้ นับว่าเป็นวานรได้แก้วโดยแท้ สภาวะดาบของฝ่ายตรงข้ามยิ่งเร่งความเร็วขึ้น ดูเหมือนอันตรายมากขึ้น แต่จั่วม่อพบว่าอีกฝ่ายไม่สามารถควบคุมได้ทั้งหมด นับตั้งแต่ที่จั่วม่อเข้าใจเจตจำนงกระบี่ของอาจารย์ลุงซินหยาน มันกลับกลายเป็นสามารถรับรู้พลังสภาวะได้อย่างเฉียบไว และเนื่องจากการฝึกฝนเพื่อบรรลุเจตจำนงกระบี่เพลิงธาราอย่างยาวนาน ความเข้าใจของมันเกี่ยวกับพลังสภาวะก็ยิ่งลึกซึ้งกว่าเดิม

วิชากระบี่และวิชาดาบ เจตจำนงกระบี่และเจตจำนงดาบ แท้ที่จริงก็อยู่ภายใต้หลักเหตุผลเดียวกัน สิ่งที่ต้องมุ่งเน้นคือความถูกต้องเหมาะสม ไม่ใช่ว่ายิ่งลงมือเร่งร้อนรุนแรงมากขึ้นเท่าไร ก็ยิ่งต้องร้ายกาจมากขึ้นเท่านั้นเสียเมื่อไหร่

นี่เป็นโอกาสที่ดี!

จั่วม่อม่านตาหดแคบลง ข้อผิดพลาดเล็กน้อยของอีกฝ่ายถูกมันหยั่งทราบอย่างแม่นยำ มันเฝ้ารอจังหวะนี้มานาน พลันลงมือทันที!

กระบี่ผลึกน้ำแข็งซึ่งว่ายเวียนอยู่ข้างมันดุจปลาตัวหนึ่ง พลันเปล่งเสียงคำรามเบาๆ แล้วพุ่งวาบเป็นลำแสง แทงใส่จุดที่บอบบางที่สุดของคลื่นเพลิงอย่างรุนแรง

กระบี่ผลึกน้ำแข็งพอเหินไปได้ครึ่งทาง ก็แปรเปลี่ยนเป็นกระแสธารเย็นยะเยือก นี่ไม่ใช่ว่ามันถูกละลายด้วยไฟ แต่เป็นเพราะจั่วม่อประจุปราณลงไปอย่างบ้าคลั่งเพื่อแปรสภาพสร้างรูปลักษณ์! การแปรสภาพสร้างรูปลักษณ์เป็นเคล็ดลับชั้นสูงของเคล็ดวิชากระบี่ ดังเช่นมังกรน้ำแข็งของอาจารย์ลุงซินหยานก็เป็นรูปร่างการแปรสภาพขั้นสูงของกระบี่ของมัน

พลังของจั่วม่อในตอนนี้ย่อมไม่เพียงพอสำหรับการแปรสภาพสร้างรูปลักษณ์ มันเพียงเพิ่งสัมผัสถึงเจตจำนงกระบี่เท่านั้น ได้แต่ใช้หนทางอันเรียบง่ายและทื่อด้านที่สุด นั่นคืออัดปราณปริมาณมหาศาลลงไปในกระบี่บิน บังคับให้มันกลับคืนสู่รูปลักษณ์ดั้งเดิม และเร่งเร้าพลังต้นกำเนิดของมันออกมา นี่เพียงสามารถนับเป็นการแปรสภาพสร้างรูปลักษณ์ขั้นต่ำที่สุดเท่านั้น

โดยทั่วไปไม่มีผู้ใดใช้การแปรสภาพสร้างรูปลักษณ์ในรูปแบบนี้ เนื่องเพราะหลังจากใช้งานไปแล้ว กระบี่บินจะถูกทำลาย นี่เป็นเหตุผลที่ทีแรกจั่วม่อลังเลอยู่นาน

แต่หลังจากคำนวณผลได้ผลเสียระหว่างต้นทุนกับกำไรแล้ว มันยังคงติดสินใจลงมือ

เมื่อตัดสินใจแล้ว คนอย่างมันก็ไม่มีการลังเล ไม่มีออมรั้งยั้งมือไว้อีก

มันเมื่อตระเตรียมเฝ้ารอโอกาสมานาน ทบทวนมโนภาพซ้ำแล้วซ้ำเล่าในใจ พอลงมือไฉนจะไม่ประสบผลสำเร็จได้?

กระบี่ผลึกน้ำแข็งที่กลับกลายเป็นกระแสธารน้ำเย็นเยียบ ทวีพลังขึ้นในพริบตา กระแทกใส่ชั้นม่านเพลิงอย่างดุเดือด พลังเย็นจัดสะกดข่มเปลวเพลิงรอบด้านจนเชื่องช้าแทบหยุดชะงัก

หูซานใบหน้าเผือดสี มันกระหน่ำฟาดฟันดาบอาบเพลิงอย่างเกรี้ยวกราด ส่งคลื่นอัคคีโหมซัดไม่ขาดสาย  หวังที่จะปิดกั้นกระแสธารอันหนาวเหน็บซึ่งทะลวงเข้ามาดั่งไร้ผู้คนสายนี้

อย่างไรก็ตาม จั่วม่อวางแผนไว้นานถึงเพียงนี้ ยอมกระทั่งหักใจทำลายกระบี่ผลึกน้ำแข็งสุดรักสุดหวง ไฉนจะปล่อยให้ผู้อื่นหยุดยั้งมันไว้เท่านี้ได้?

 

กลุ่มถึงตอนที่ 157 แล้ว คลิก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด