บทที่ 3 : ทักษะการต่อสู้ที่น่าพรั่นพรึงเหนือทักษะใดในใต้หล้า
หลินฟ่านลืมตาขึ้นมาและตอนนี้หน้าของมันก็เปลี่ยนสีอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าใครก็ตามก็คงอดที่จะตกใจมิได้ เมื่อได้เห็นใบหน้าของคนสองคนอัดแน่นกันอยู่ตรงหน้าทันทีที่ลืมตาขึ้นมา
"พวกเจ้าทำอะไรกัน?" เสียงของหลินฟ่านสั่นเครือเล็กน้อย ‘บ้าเอ๊ย ไอพวกเวรนี่ มันลวนลามเราจนเสียความบริสุทธิ์ตอนหลับรึเปล่าวะเนี่ย?’
‘เช่นจับ…..’
"พี่ใหญ่ท่านตื่นแล้ว ข้ารู้อยู่แล้วอย่างพี่ต้องมิสิ้นท่าโดยง่าย " ชายหนุ่มคนหนึ่ง ที่นั่งอยู่ด้านข้างหลินฟ่านกล่าวออกมา
“อืม ...”
หลินฟ่านรู้สึกงง ‘ทำไมเรากลายมาเป็นพี่ใหญ่ไอพวกนี้ได้วะ เออใช่ ระบบเทพวิชา พัฒนาแล้ว ไหนดูซิมีอะไรเพิ่มบ้าง’ เขาเลิกสนใจคนพวกนี้ก่อนที่จะรีบตรวจสอบหน้าต่างสถานะ
ชื่อ: หลินฟ่าน
ระดับ 1
EXP: (0/10)
ทักษะ: "กายปีศาจอมตะ" LV5 (3,000 / 10,000)
สำรวจทุกอย่างด้วยตัวของท่านเอง
มันก็ไม่ได้แตกต่างไปจากเดิมสักเท่าไร แต่ค่าประสบการณ์ก็เปลี่ยนไปจนเห็นได้ชัด
"ตอนนี้พี่ใหญ่คงรู้สึกหิวแล้ว รีบไปหาอะไรมาให้พี่ใหญ่กินเร็ว"
"ใช่ๆ ข้าไปเอง ... "
ไม่นานหลังจากนั้นไก่ตุ๋นน้ำแกงโสมชามใหญ่ ก็ถูกนำมาเสริฟ หลินฟ่านไม่ได้พูดอะไรออกมา เพราะตอนนี้ท้องเขาก็ร้องประท้วงอย่างหนักหน่วงเขาหิวจนไส้จะกิ่วอยู่พอดี ภายใต้ความหิวโหย หลินฟ่านซัดไก่ตุ๋นน้ำแกงโสมชามใหญ่ด้วยความไวปานสายฟ้าแลบ
‘จะว่าไปถึงเราจะเป็นแค่กระสอบทรายมนุษย์ แต่อาหารการกินก็ Ok อยู่ละน่ะ’
"พี่ใหญ่คงยังเพลียอยู่มาก เมื่อพี่ใหญ่กินเสร็จแล้วท่านควรพักผ่อนต่อเสียหน่อย เจ้า มานวดตัวให้พี่ใหญ่เร็ว "
"ในอนาคตพี่ใหญ่ต้องเป็นคนที่ยิ่งใหญ่อย่างยิ่ง"
"เฮ่อ..น่าเสียดายแทน เจ้าหำหมารุ่นที่2 มันช่างโชคร้ายยิ่งนักที่มิอาจเอาชนะความตายได้ในเช้าวันนี้ มันมิมีโอกาสได้เห็นความยิ่งใหญ่ในอนาคตของพี่ใหญ่เสียแล้ว (กรุณา ไว้อาลัยให้แก่ หำหมารุ่นที่2 ด้วย)
......
สำหรับนิกายฝ่ายอธรรมอย่างนิกายปีศาจศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ความตายมิใช่เรื่องใหญ่โตอันใด แทบจะทุกวันที่มีกระสอบทรายมนุษย์ตกตายลง พวกเขาต่างชินชากับเรื่องพวกนี้เสียแล้ว
หลังจากที่ทุกคนเดินออกไปเพื่อให้หลินฟ่านพักผ่อน กลับมีชายคนหนึ่งที่ยังยืนอยู่
รูปร่างหน้าตาของคนผู้นี้มิได้ดูดีนัก มันค่อนข้างอัปลักษณ์และสร้างความหวาดกลัวให้แก่ผู้ที่พบเห็น ถึงตัวมันจะเตี้ยแต่ก็มีความหนามิใช่น้อย บุคคลเช่นมันอาจนับได้ว่า เป็นกระสอบทรายมนุษย์ที่สามารถเอาชีวิตรอดได้เป็นระยะเวลานาน
"พี่ใหญ่ นี่เป็นทักษะการต่อสู้ที่สืบทอดกันมาภายในตระกูลของข้า ข้าคิดว่าด้วยความเป็นอัจฉริยะและแข็งแกร่งของพี่ใหญ่ ท่านย่อมสามารถฝึกฝนและใช้มันได้อย่างคล่องแคล่วแน่นอน " ชายผู้นี้หยิบตำราลับที่มันหวงแหนราวกับสมบัติล้ำค่าเล่มสีฟ้า มอบให้แก่หลินฟ่าน
หลินฟ่านมิลังเลที่จะรับมันเอาไว้ หลังจากนั้นเขามองชายตรงหน้าก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า "เอาล่ะ ในอนาคต หากเจ้ายังไม่ตาย และข้าสามารถเป็นหนึ่งในใต้หล้าได้ ข้ารับประกันว่าเจ้าจะได้รับของตอบแทนจากข้าอย่างงาม"
นี่เป็นคำสัญญาแรกที่หลินฟ่านกล่าวออกมาตั้งแต่มาถึงโลกนี้
“เอ่อ ...”
"พี่ใหญ่ท่านไม่ต้องกล่าวอะไรถึงขนาดนั้น... แค่ ... แค่หวังว่าท่านจะแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น " เห็นได้ชัดว่าชายคนนี้มิได้เชื่อถืออะไรในคำสัญญาของหลินฟ่าน ในความคิดของมันคำกล่าวของหลินฟ่านคงเกินจริงไปมากโข
หลินฟ่านไม่ได้กล่าวอะไรออกมาอีก มันย่อมรับรู้ว่าคนตรงหน้ามิเชื่อคำกล่าวของมัน
การมอบถ่านให้ในฤดูหนาวย่อมมีค่ามากกว่าการเติมแต่งดอกไม้ลงบนงานเย็บปักถักร้อย ตอนนี้หลินฟ่านพึ่งเริ่มก้าวเดินสู่เส้นทางแห่งความยิ่งใหญ่ ใครช่วยเขาในตอนที่เขาลำบาก เข้าจะจดจำคนผู้นั้นไว้ในส่วนลึกของหัวใจ ยามใดที่เขาประสบความสำเร็จขึ้นมา ผลตอบแทนต่อบุคคลเหล่านั้นย่อมมิใช่น้อยแน่นอน
"พี่ใหญ่ ท่านพักผ่อนเถิด ข้ามิรบกวนอันใดท่านแล้ว"
"อา หะ" หลินฟ่านพยักหน้า ก่อนที่จะหยิบตำราขึ้นมาดู
[ติ๊ง!! ท่านต้องการเรียนรู้ทักษะ ‘ลิงขโมยลูกท้อ’ หรือไม่? ]
‘หื้ม ไม่น่าถามเราต้องเรียนแน่นอนอยู่แล้ว ถึงยุงมันจะตัวเล็กแต่ก็ยังพอมีเนื้อล่ะว้า’
สำหรับโลกที่แปลกประหลาดแห่งนี้ แม้หลินฟ่านจะมิได้มีตัวตนสำคัญอันใด แต่เขาก็รู้ว่าทางนิกายยังคงเฝ้าจับตาดูทักษะของเขา สำหรับผู้ใดที่คิดจะเข้าไปขโมยวิชาในหอตำรายุทธ์เพื่อนำไปเผยแพร่ในโลกภายนอกเป็นการกระทำที่โง่เขลาสิ้นดี
สำหรับนิกายที่มีศิษย์นับหมื่น เอาแค่ศิษย์สายนอกก็มีนับร้อยนับพันแล้ว มันย่อมมีทักษะและวิชาให้เลือกสรรเป็นอย่างมาก
ตนก็ยังเป็นที่พึ่งแห่งตน
[ติ๊ง!! ท่านได้เรียนรู้ทักษะ ‘ลิงขโมยลูกท้อ’ แล้ว]
[ LV1 (0/10) ]
‘หืมทักษะ ลิงขโมยลูกท้อ นี่มีแค่ 2 ระดับอีกแล้ว แล้วเราจะเรียนมันไปได้ถึงระดับที่เท่าไรหว่า’
ถึงแม้ว่า "ลิงขโมยลูกท้อ" นี้จะเป็นเพียงแค่ทักษะธรรมดาๆ แต่หลินฟ่านก็เชื่อว่าหากเขาเก็บค่าประสบการณ์จนมันมีระดับที่สูงขึ้น มันย่อมทรงพลังอย่างแน่นอน
"ลิงขโมยลูกท้อ" มีเพียงหนึ่งกระบวนท่าเท่านั้น สำหรับผู้ชาย เพียงหนึ่งกระบวนท่านี้ก็น่าหวาดหวั่นและพรั่นพรึงเป็นอย่างมาก มันสามารถทำลาย ไข่ ได้ในกระบวนท่าเดียว
หลินฟ่านสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และร่างกายเขาเริ่มเคลื่อนไหวทันที มือขวาของเขางองุ้มเป็นกรงเล็บก่อนที่จะพุ่งจู่โจมไปยังตำแหน่ง รังไข่ พร้อมบิดและกระชากในพริบตา ....
“+2”
“+2”
......
[ติ๊ง!! ทักษะระดับต่ำ" ลิงขโมยลูกท้อ "พัฒนาเป็น Lv2 ค่าประสบการณ์ของตัวละคร + 10"]
[ติ้ง!! Level ของตัวละครได้เพิ่มขึ้น]
ฮ่าฮ่า หลินฟานหัวเราะออกมาดังลั่น ‘ไม่คิดเลยว่าแค่ไม่กี่นาที "ลิงขโมยลูกท้อ" จะอัพเป็น LV2 ดูเหมือนจริงๆแล้วเราก็ไร้เทียมทานนี่หว่า’
‘ถ้าเราเพิ่มระดับของทักษะ "ลิงขโมยลูกท้อ" ให้ถึงLV100 เราน่าจะระเบิดได้แม้แต่ไข่ของพระเจ้า’
ชื่อ: หลินฟ่าน
ระดับ: 2
EXP: (0/20)
ทักษะ: "กายปีศาจอมตะ" LV5 (3000 / 10,000)
"ลิงขโมยลูกท้อ" LV2 (10/50)
......
หลินฟ่านลุกขึ้นยืนก่อนที่จะวิ่งไปยังลานฝึกซ้อม เขาจะยอมเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ได้ยังไง เขาต้องรีบฉกฉวยโอกาสไว้ให้เต็มที่
เมื่อเหล่ากระสอบทรายมนุษย์เห็นพี่ใหญ่ของเขาวิ่งออกมา พวกมันก็ตกตะลึงและสับสนกันเป็นอย่างมาก
"พี่ใหญ่คิดจะทำอะไร?"
"พี่ใหญ่ยังบาดเจ็บสาหัสอยู่มิใช่หรือไร? เหตุใดข้าถึงเห็นว่าเขาเคลื่อนไหวได้ทรงพลังนัก ราวกับร่างกายของเขาเปี่ยมไปด้วยความแข็งแกร่ง? "
"โอ้ไม่นะสวรรค์ แย่แล้ว คงเป็นเพราะเมื่อวานพี่ใหญ่ได้ตั้งใจรับบาดเจ็บแทนพวกเรา แต่ข้ากลับบอกว่า หำน้อยรุ่นที่2 ถูกสังหารโดยเหล่าศิษย์ฝึกหัดชั่วนั่น พี่ใหญ่คงต้องโกรธแค้นแทนมันเป็นแน่"
"อ่า การที่พี่ใหญ่ให้ความสำคัญแก่พวกพ้องเช่นนี้ต้องมีปัญหาใหญ่ตามมาแน่ ไม่มีทาง ข้ามิยอมให้พี่ใหญ่เผชิญหน้าเพียงลำพัง "
... ..
หลินฟ่านใช้เวลาไม่นานก็เดินทางมาถึงลานฝึกซ้อม
เมื่อมองศิษย์ภายนอกที่กำลังฝึกซ้อมอยู่หลินฟ่านก็คิดอะไรแปลกๆขึ้นมาในใจ
‘กายปีศาจอมตะของเราถึง LV5 แล้ว อยากรู้จริงๆไอพวกนี้จะมีปัญญาทำอะไรเราได้’
คิดถึงเรื่องนี้หลินฟ่านก็มิอาจกักเก็บความลิงโลดของมันเอาไว้ได้
"สาวน้อยทุกนาง หยุดมือ ให้แก่บิดา" หลินฟ่านกล่าวตะโกนออกมาเสียงดังก้อง
เสียงคำรามครานี้ ดังสนั่นยิ่งกว่าเมื่อวานอย่างมาก
เมื่อศิษย์สายนอกมองไปก็พบว่าเป็นไอเด็กอวดดีเมื่อวานที่ถูกเหล่าศิษย์ฝึกหัดรุมกระทืบ
"เด็กน้อยวาจาร้ายกาจคนนี้อีกแล้ว"
"เด็กน้อยนี่เมื่อวานบอบช้ำแทบตกตาย เหตุใดวันนี้มันจึงเปี่ยมไปด้วยพลังเช่นนั้น"
"ฮึ่ม คาดมิถึงขนาดได้รับบทเรียนเช่นเมื่อวานแล้วยังปากกล้า โอหังเช่นนี้อีก"
......
เหล่าศิษย์ทุกคนต่างหยุดซ้อมมือและส่งเสียงเซ็งแซ่ด่าทอมันออกมา หลินฟ่านมิได้แยแสอันใด มันเพียง แจกนิ้วกลางให้แก่ทุกคนโดยรอบ ก่อนที่จะกระดิกไปมา พร้อมกล่าวขึ้นมาว่า
"สาวน้อย ... ด้วยความเคารพอย่างยิ่ง ... "
แต่ครานี้หลินฟ่านมิทันได้พูดจบคำ เหล่าศิษย์พุ่งเข้ามารุมจู่โจมมันทันที
"เด็กนรกโอหัง อย่าหวังว่าจักได้พ่นวาจาไร้สาระอันใด ข้าจักให้เจ้าได้รู้สึกนึกถึงผลการกระทำที่โอหังของเจ้า"
......
หลินฟ่านยืนมองศิษย์สายนอกของนิกายที่กำลังวางมาดด่าทอมันอย่างมีความสุข
"โธ่ๆๆๆ เหล่าทารกน้อย เมื่อวานพวกเจ้าสร้างความเบิกบานให้ข้ายิ่งนัก ไม่เลว ไม่เลว"
‘มาดูกันซิว่าวันนี้พวกมันจะเพิ่มค่าประสบการณ์ให้ กายปีศาจอมตะ ได้แค่ไหน หวังว่าคงไม่น้อยจนเกินไปนะ... ‘
หลินฟ่านมองไปยังเหล่าศิษย์สายนอกด้วยความหวัง ...
“0”
“0”
......
ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความคาดหวังของหลินฟ่านแปรเปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยวในฉับพลัน
แม่งเอ๊ย ...
นี่มัน ... เชี่ย
"เด็กโอหังวันนี้เจ้าจักได้รู้ถึงความเจ็บปวดที่แท้จริง"
"ใยมิใช่สมองเจ้ากระทบกระเทือนแล้วหรอกหรือ จึงมารนหาที่ตายเช่นนี้"
"ข้าคือองค์ชาย เจิ้นหนาน พอดีเลยข้าได้บรรลุทักษะนรกคร่าวิญญาณแล้ว เจ้าจักได้ลิ้มรสว่าการตกนรกทั้งเป็นและต้องทรมานจนเรียกร้องหาความตายเป็นเช่นไร "
หลินฟ่านจ้องมองไปยังศิษย์สายนอกด้วยความโกรธ หากมันเป็นแบบเมื่อวานนี้ เขายังพอได้ตื่นเต้นอะไรบ้าง เพราะการจู่โจมของพวกมันยังหนักพอให้เขาเพิ่มค่าประสบการณ์ได้
แต่วันนี้…
"โว้ย ไอ้พวกกากไร้ประโยชน์ทั้งหลาย ข้าคนนี้จะให้พวกแกได้เจอทักษะการต่อสู้ที่น่าพรั่นพรึงเหนือทักษะใดในใต้หล้า ความเจ็บปวดรวดร้าวทุกข์ทรมานยิ่งกว่าตายทั้งเป็นที่พวกแกจะไม่มีวันลืมไปชั่วนิจนิรันดร์"
"ลิงขโมยลูกท้อ ... "
ปล. R.I.P. ...อวสานรังไข่ ลาก่อย....ลูกหลาน