ตอนที่แล้วเล่มที่ 2 : บทที่ 2-2 ( Alien )
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเล่มที่ 2 : บทที่ 3-1 ( Alien )

เล่มที่ 2 : บทที่ 2-3 ( Alien )


เล่มที่ 2 :  บทที่ 2-3 แปลโดยกิลด์เทพอสูร

เป็นเพราะเธอเคยสูญเสียคนใกล้ชิด ดังนั้นเธอจึงกลัวที่จะต้องสูญเสียใครอีก?

เจิ้งเข้าใจความรู้สึกของเธอเขากับเธอเป็นคนประเภทเดียวกัน หลังจากที่ต้องสูญเสียสิ่งสำคัญบางอย่างไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พวกเขาได้สัญญากับตัวเองไว้ ว่าจะไม่ยอมให้ใครต้องตายอีก นั่นคือเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงดิ้นรนที่จะมีชิวิตรอด นั่นคือเหตุผลที่ทำให้พวกเขาต่างช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

"ฉันดีมากกว่า" จากนั้นใบหน้าของหญิงสาวอีกคนหนึ่ง ก็ขึ้นมาในใจของเจิ้ง เขาผลักหลานออกไปเล็กน้อย ถึงแม้ว่าตัวเขาแทบจะขยับตัวไม่ได้ก็ตาม แต่การผลักครั้งนี้มัน ทั้งมั่นคงและแน่วแน่

หลานนั้นกำลังร้องไห้อยู่ ในตอนที่เธอถูกผลักออกไปจิตใจของเธอว่างเปล่าไปชั่วขณะ แต่เธอก็ยังคงฝืนยิ้มออกมา "นายไม่เป็นไรแล้วใช่ไหม? ฉันเห็นสิ่งที่นายเป็นเมื่อครู่ ก็เลยกลัวมากเหมือนนายเป็นโรคลมชักมีเลือดไหลออกมาจากปากของนาย มันดูน่ากลัวมากเลย..."

เจิ้งรู้สึกหมดแรงอย่างสิ้นเชิง แต่เมื่อเทียบกับความเจ็บปวดก่อนหน้านี้แล้วมันเป็นเหมือนสวรรค์ของเขา เขายิ้มออกมาอย่างขมขื่น "ขอบคุณมากๆ ขอบคุณที่ช่วยผม...ช่วยให้ฉันหายใจได้ต่อ ไม่อย่างนั้น ผมคงหมดสติเพราะหายใจไม่ออกไปแล้ว ถ้าผมดันสูญเสียสติ ในสถานการณ์แบบนั้น...ป่านนี้ผมคงเป็นกลายเป็นศพแล้ว "

การแสดงออกของหลานเริ่มกลับมาเป็นปกติเช่นเดิม เธอหัวเราะออกมา "ฉันต่างหากต้องขอบคุณนาย ถ้านายไม่ได้ช่วยเอาไว้ ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวฉันบ้าง ว่าแต่เมื่อกี้นายเป็นอะไรไป?นายมีโรคประจำตัวงั้นเหรอ"

เจิ้งส่ายศีรษะ เขาไม่รู้ว่าจะอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังไง เมื่อเขาอยู่ในขอบเหวแห่งชีวิต และ ความตาย เขาก็รู้สึกว่าบางอย่างที่อยู่ภายในร่างกายของเขาได้ถูกปลคล็อค การต่อสู้ที่ราบรื่นและแม่นยำ การเคลื่อนไหวที่อยู่ในระดับมิลลิเมตรของเขา เขาใช้ทุกๆ พลังงานในร่างกายโดยไม่สูญเปล่าแม้แต่น้อย สัญชาตญาณการต่อสู้ที่ไม่มีความสงสารหรือความกลัว ถ้าเขาต้องอธิบายปรากฏการณ์ประหลาดนี้ มันก็น่าจะคล้ายกับโหมด SEED  ใน Gundam

จริงๆ แล้ว มันอาจจะเกี่ยวข้องกับการปลดล็อคขีดจำทางพันธุกรรม ที่ซวนเคยพูดเอาไว้ ว่ามนุษย์จะมีวิวัฒนาการ และ สามารถมีชีวิตรอดผ่านในทุกๆ สถานการณ์ไปได้ นี่จึงอธิบายได้ว่า ทำไมเขาถึงเจ็บปวดทรมานในภายหลัง มันอาจจะเป็นผลข้างเคียงจากสารที่หลั่งออกมา หลังจากที่ปลดล็อคขีดจำกัด

เป็นความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นมาและหายไปอย่างรวดเร็ว เจิ้งรู้สึกว่าเขากำลังค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นมาบ้างแล้ว ความรู้สึกของการปลดล็อคขีดจำกัดทางพันธุกรรมก็เริ่มเบาบางลงด้วย บางทีสารพิษอาจถูกย่อยสลายไปโดยร่างกายของเขา ความสามารถในการเสริมสร้าง และ เพิ่มพูนเซลล์ ภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่งมันได้ช่วยเขาเอาไว้ ในเวลาเดียวกันมันก็ช่วยป้องกันสารทั้งหมดที่หลั่งออกมาจากการปลดล็อคขีดจำกัด เจิ้งแทบจะไม่สามารถจินตนาการได้ว่า ถ้าเขาคงสัญชาตญาณการต่อสู้นี้ไว้ได้ เอเลี่ยนจะไม่สามารถเอาชนะเขาได้เลย

เมื่อหลานเห็นว่าเจิ้งไม่ตอบ เธอก็ไม่ได้สืบสาวความต่อ แต่กลับหัวเราะออกมาแทน “ลองดูซิ ว่านายได้รับรางวัลจากการฆ่าเอเลี่ยนเท่าไหร่ ฮิฮิ มันคงไม่แย่ถึงขนาดไม่ได้รับรางวัลอะไรจากมันเลยหรอกมั้ง”

เจิ้งเริ่มฟื้นตัวกลับมามากแล้ว หลังจากที่ได้ยินพูดของเธอ เขาก็มองดูนาฬิกาของเขาในทันที มันบอกว่าฆ่าเอเลี่ยน 1 ตัว และมีตัวเลข 500 คะแนนอยู่ถัดออกไป บางทีรางวัลที่ได้รับ อาจจะประกาศในระหว่างการต่อสู้ของเขา แต่ในขณะนั้น จิตใจของเขาเต็มไปด้วยเจตนาแห่งฆ่า และคงไม่ได้สังเกตเห็นการประกาศนี้

เขาพยายามระงับความสุขของตนเอง และพูดว่า "ได้ 500 คะแนน นี่มันยอดเลย มันเป็นครึ่งหนึ่งของรางวัล จากการมีชีวิตรอดผ่านหนังเรื่องนี้เลยนะ"

หลานก็ยิ้มออกมาเช่นเดียวกัน นั่นเพราะว่าเจิ้งได้รับรางวัลจากการที่ช่วยชีวิตเธอเอาไว้เธอพูดอย่างมีความสุขว่า "500 คะแนนสำหรับหนึ่งตัว บางทีนายอาจจะฆ่าได้อีก 2-3 ตัว นายตงจะได้รับหลายพันคะแนนในหนังเรื่องนี้...อิอิ นายบอกว่าฉันช่วยชีวิตนายเอาไว้ ถ้าเราได้กลับไป นายไม่คิดจะมอบของขวัญให้ฉันซักอย่างเหรอ?"

เจิ้งมองไปที่ริมฝีปากสีแดงของเธอ และตอบกลับไปโดยไม่คิดว่า "ผมจะให้ลิปสติกสีที่สวย ที่สุดกับคุณแล้วกัน "

หลานลูบริมฝีปากของเธอในทันที จากนั้นเจิ้งพึ่งรู้ตัวว่าตยเองได้ใช้คำพูดคลุมเครือออกไป เขากระแอมออกมาและพูดต่อว่า "เราควรออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด กลิ่นเลือดของเอเลี่ยนมันรุนแรงไป ผมไม่แน่ใจว่ายังมีตัวอื่นอยู่แถวนี้อีกรึเปล่า อาการผมดีขึ้นเยอะแล้วล่ะ เราไปต่อกันดีกว่า เหมือนอย่างที่เคยเธอบอกเอาไว้ก่อนหน้านี้"

หลานพยักหน้า แต่ใบหน้าของเธอยังคงแดงอยู่เล็กน้อย เธอก้มศรีษะลงแล้วพูดด้วยเสียงต่ำว่า "นาย... ไม่เป็นไรแล้วจริงเหรอ? ขา กับร่างกายของนาย ยังมีเลือดไหลออกมาอยู่เลยนะ"

อันที่จริงเจิ้งสังเกตเห็นบาดแผลของเขาแล้ว แต่สิ่งที่แปลกก็คือ หลังจากที่มีเลือดไหลออกมาได้ระยะเวลาหนึ่ง กล้ามเนื้อและผิวหนังของเขาก็เริ่มสมานตัวอย่างรวดเร็ว เป็นความเร็วในการรักษาที่น่าอัศจรรย์มาก ดูเหมือนว่าพันธุกรรมของแวมไพร์กำลังทำงานอยู่

เขาเหยียดแขนและขาของตนเอง "ไม่มีปัญหา พละกำลังของผมฟื้นตัวขึ้นมาเยอะแล้วล่ะ แล้วตอนนี้ผมสัมผัสได้ถึงอันตรายที่กำลังใกล้เข้ามา รีบลุกแล้วไปกันเถอะ"

ในครั้งนี้ หลานฟังคำเตือนของเขาเคร่งครัด พวกเขาเดินออกไปตามทางอย่างรวดเร็ว หลังจากผ่านทางแยกไม่กี่ที่ พวกเขาก็เดินมาถึงประตูขนาดใหญ่ หลานกำลังจะเข้าไป แต่เจิ้งก็ดึงเธอมาอยู่ด้านหลังก่อน "ผมจะเป็นคนนำเอง พูดตรงๆ ความเร็วในการตอบสนองของเธอน่ากลัวเกินไป มันจะดีกว่าถ้าให้ฉันเป็นคนนำ"

ในตอนที่หลานพยักหน้าอย่างเงียบๆ เจิ้งก็ได้เข้ามาด้านในเรียบร้อยแล้ว ห้องนี้เงียบสนิท มันเป็นห้องครัวที่เต็มไปด้วยอาหารสำเร็จรูปประเภทบรรจุห่ออยู่ทุกชนิด พวกเขาหันมามองหน้าซึ่งกันและกัน ต่างเห็นความดีใจที่แฝงอยู่ภายในดวงตา

ทันใดนั้นอุปกรณ์สื่อสารที่ติดอยู่บนผนังก็ดังขึ้น จนทำให้พวกเขาแทบจะล้มลงด้วยความตกใจ เจิ้งตอบโต้ในทันที เขาวิ่งไปที่อุปกรณ์สื่อสารและกดปุ่ม จากปุ่มกระพริบแล้วก็เปลี่ยนเป็นสีเขียว

มีเสียงของซวนดังขึ้นจากอีกด้าน "เราพบศพเอเลี่ยนอยู่นอก ห้องเบอร์ 22 นายเป็นคนฆ่ามันงั้นเหรอ? แล้วเจอคลังอาวุธรึเปล่า?"

เจิ้งถอนหายใจออกมา "ผมค่อยเล่าให้ฟังตอนเจอกับพวกนายแล้ว ตอนนี้นายอยู่ที่ไหน แล้วนายรู้ได้ยังไงว่าพวกเราอยู่ที่นี่?"

ทุกห้องที่สำคัญจะมีหมายเลขบอกอยู่ ตอนนี้พวกเราอยู่ในห้องตวบคุมเบอร์ 27 ห้องนี้เชื่อมต่อกับระบบรักษาความปลอดภัย ถ้านายไม่ได้เข้ามาในห้อง เราจะไม่สามารถติดต่อนายได้ และตอนนี้นายน่าจะอยู่ในห้องครัวถูกไหม? ถ้าเป็นไปได้ในตอนที่นายกลับออกมา นายควรหยิบน้ำและอาหารออกมาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้มันจะไม่ทำให้นายช้าลง จากนั้นให้วิ่งตามตัวเลขที่อยู่บนประตู มาจนถึงห้องที่ 27"

"เรื่องที่ผมจะพูดต่อไปนี้ เกี่ยวข้องกับชีวิตของนาย ผมขอพูดสั้นๆ  มีเอเลี่ยนสามตัวกำลังมุ่งไปหานาย พวกมันอยู่ห่างออกไปสิบห้อง ด้วยความเร็วของพวกมัน พวกมันจะไปถึงนายในอีกสองนาทีครึ่ง ผมไม่รู้ว่าทำไม แต่พวกมันตามนายมาตลอด"

เจิ้งและหลานเข้าใจในทันทีว่าต้องเพราะกลิ่นเลือดของเอเลี่ยนที่ติดอยู่บนร่างกายของเจิ้ง

ซวนพูดต่อว่า "ฉันให้เวลานายสองนาที วิ่งตรงขึ้นไป จากนั้นเมื่อถึงสี่แยก ก็ตรง ตรง ตรง เลี้ยวซ้าย ตรง เลี้ยวซ้าย ตรง เลี้ยวซ้าย! นี่เป็นเส้นทางที่จะมาห้องควบคุม จำมันให้ได้! นายมีเวลาเก็บอาหารหนึ่งนาที และต้องมาถึงห้องควบคุมภายในสองนาที เมื่อเวลาเดินถึงสองนาที สี่สิบห้าวินาที ฉันจะปิดกำแพงด้านนอกห้องควบคุม เพื่อแยกพวกมันออก ถ้านายไม่สามารถมาถึงกำแพงได้ ภายในเวลาที่กำหนด...ผมขอโทษ ผมคงต้องทิ้งนาย สรุปแล้วพวกเราจะเหลืออยู่ 5 คน”

"เวลาเดินแล้ว...เร็ว!"

เจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ เขาอัดลมปราณเข้าไปที่แหวนของเขาและเริ่มกวาดอาหารที่อยู่ภายในห้องทั้งหมดโดยเฉพาะน้ำ พื้นที่ 1.5 ลูกบาศก์เมตรสามารถเก็บสิ่งต่างๆได้มากมาย โดยเฉพาะเมื่ออาหารและน้ำได้ถูกบรรจุไว้ในกล่องแล้วหลังจากผ่านไปสามสิบวินาทีเขาก็อุ้มหลานแล้วรีบวิ่งออกจากห้องในทันที

เจิ้งตะโกนว่า "ผมจะวิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผมจะไม่มีเวลาคิดเรื่องอื่น ดังนั้นเธอต้องคอยบอกทางผม! เข้าใจไหม?"

หลานพยักหน้า และจ้องมองอย่างมุ่งมั่นไปยังด้านหน้า "ตรงไป ตรงไป สี่แยกแรกก็ไปตรง ทางแยกสองเหมือนกัน ทางแยกสามก็เช่นกัน ตรงนี้เลี้ยวซ้าย... "

เจิ้งวิ่งออกไปราวกับคนบ้า ความเร็วของเขาแถบจะถึงขีดจำกัด  และความรู้สึกของอากาศที่กำลังควบแน่นก็กลับมาอีกครั้ง นอกจากนี้เขายังสัมผัสถึงอันตรายที่มาจากด้านหลัง และกำลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เมื่อเทียบกับเอเลี่ยนขนาดเล็กที่เขาฆ่าก่อนหน้านี้ เอเลี่ยนโตเต็มวัยนั้นมีความเร็วมากกว่าเจิ้งมากนัก!

"ซ้าย! เลี้ยวซ้ายตรงนี้"

เจิ้งถีบไปที่ผนังและพุ่งออกไปราวกับกระสุนปืนเข้าไปยังห้องโถงที่อยู่ด้านซ้าย ในขณะที่กำลังเลี้ยวเขาได้เห็นเงาเอเลี่ยนตามมาติดๆอยู่ด้านหลัง ในตอนนั้นเขาไม่สามารถคิดอะไรได้อีกต่อไป เขารีบสลัดทุกอย่างที่อยู่ในหัวของเขาทิ้ง และคิดเพียงแค่ว่า วิ่ง วิ่งตรงไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้! ความตาย! กำลังตามเขาอยู่!

เขามองเห็นกำแพงเหล็กที่กำลังค่อยๆเลื่อนลง ในแต่ละก้าวเจิ้งพุ่งออกไปหลายเมตร แต่หลังจากนั้นเพียงไม่กี่ก้าว เขาก็รู้สึกเจ็บปวดที่หลัง เอเลี่ยนตัวที่อยู่ใกล้ที่สุด มันอยู่ห่างออกไปเพียงหนึ่งเมตร มันยิงลิ้นมาที่เขาและเฉียดหลังของเขาไป นั่นคือเหตุผลว่าทำไม เขาถึงรู้สึกเจ็บปวด

“ไม่! ผมยังไม่อยากตาย! ผมต้องมีชีวิตรอดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม!”

เจิ้งตะโกนออกมาราวกับคนเสียสติ ทันใดนั้นเมื่อถึงทางเลี้ยวเขาก็พุ่งตัวเข้าไป เอเลี่ยนนั้นแท้จริงแล้วมันมีเร็วกว่าเขามากนัก ในขณะที่เขากำลังพุ่งตัวออกไปนั้น ระยะห่างที่อยู่ระหว่างเขากับเลี่ยนก็จะหดลงมากยิ่งขึ้น ในตอนนั้นเองมันก็หดลิ้นกลับไป ครั้งต่อไปที่มันยิงลิ้นออกมานั่นคือตอนที่หัวของเจิ้งถูกบดขยี้

ในขณะที่เจิ้งพุ่งตัวออกไป เขาเอาขาทั้้งสองข้างถีบเอเลี่ยนแล้วดีดตัวพุ่งไป ในระหว่างการวิ่งเขาใช้ลมปราณทั้งหมดไปแล้ว เขาโคจรลมปราณส่วนที่เหลืออยู่ลงไปที่เท้า จากนั้นเขาก็ใช้ความเร็วของเอเลี่ยนที่กำลังวิ่งเข้ามาบวกกลับพลังของแรงดีดนี้ พุ่งตัวเองไปที่กำแพงที่กำลังจะปิดลง ในที่สุดเขาก็ทำสำเร็จในช่วงวินาทีสุดท้าย ส่วนเอเลี่ยนก็วิ่งเข้าชนกำแพงเสียงดังปัง! ส่งผลให้ทั่วทั้งห้องสั่นสะเทือน เจิ้งล้มลงบนพื้นราวกลับปลาตาย ในเวลานี้เขาไม่สามารถแม้แต่จะขยับนิ้วได้

‘ต้องรอด...ฉันต้องมีชีวิตรอดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น!’

 

ติดตามข้อมูลข่าวสารนิยายเรื่องนี้ได้ก่อนใครที่ FB: www.facebook.com/IDTR8  หรือพิมพ์ค้นหา นิยายแปล: เกมส์สยองต้องไม่ตาย  Blog: www.idtr8.wordpress.com 

จากตอนปัจจุบันในเพจตอนนี้กลุ่มลับนำไปแล้ว 150+ ตอนน้ะค้า

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด