ตอนที่แล้วตอนที่ 19 ข้าไร้ศีลธรรม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 21 เล่นงาน!

ตอนที่ 20 กระดูกเต๋าเคลื่อนไหวผิดเพี้ยน


ตอนที่ 20 กระดูกเต๋าเคลื่อนไหวผิดเพี้ยน

บ้านเรือนยามราตรีต่างเงียบสงบ มีเพียงจวนเจ้าเมืองเท่านั้นที่ยังคงสว่างไสวตลอดทั้งคืน

อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครสนใจความเคลื่อนไหวของจวนเจ้าเมือง ตัวเอกในวันนี้คือตระกูลไป๋

หรือพูดให้เฉพาะเจาะจงกว่านั้นก็คือเซียวเฉิน

งานเลี้ยงครึกครื้นดำเนินต่อไปจนถึงดึกดื่น ตระกูลไป๋ไม่ได้มีความสุขเช่นนี้มานานแล้ว หลังได้ระบายความแค้นในใจและแย่งชิงสิทธิ์ในการดูแลเหมืองแร่ ทุกคนก็ราวกับได้เห็นอนาคตอันสดใส

อาจไม่มีผู้ใดสามารถแย่งชิงเหมืองแร่จากตระกูลไป๋หลังจากนี้ไปอีกนาน ความแข็งแกร่งของตระกูลไป๋ก้าวขึ้นไปอีกขั้นได้ด้วยสิ่งนี้

ถึงกระนั้นในขณะที่ทุกคนพากันดื่มด่ำกับความสุข บางคนกลับนอนดูดาวอยู่บนหลังคาด้วยความเศร้าโศก

"ไม่สบายใจหรือ" เซียวเฉินกระโดดขึ้นไปบนหลังคา นั่งลงข้าง ๆ ไป๋เนี่ยนปิง

"ข้ากำลังคิดว่าหลังจากนี้เจ้าจะกลับมาอีกหรือไม่" ไป๋เนี่ยนปิงมีน้ำตาคลอในดวงตา

"ทำไมถึงคิดเช่นนั้น" เซียวเฉินไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน

"อนาคตของเจ้าควรอยู่ที่แคว้นไพศาล หรืออาจอยู่นอกเหนือแคว้นไพศาล สถานที่ไกลแสนไกลและกว้างใหญ่กว่านี้" ไป๋เนี่ยนปิงสับสนในใจ นางไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือเสียใจ

นางเป็นดั่งดวงใจของเมืองวายุไกลมาโดยตลอด นึกภาคภูมิใจในตนเอง ทว่าเมื่อได้เห็นทุกสิ่งทุกอย่างในวันนี้ นางก็ตระหนักได้ว่าเซียวเฉินไม่ใช่คนของเมืองวายุไกล นางและเซียวเฉินอาจเป็นคนจากสองโลกที่ต่างกัน

"เช่นนั้น เจ้าจะยอมไปสู่ดินแดนอันไกลโพ้นกับข้าหรือไม่" เซียวเฉินสบตานางพลางถามอย่างจริงจัง

"ข้าจะไปได้หรือ" ไป๋เนี่ยนปิงตกใจ

"ข้าถามเพียงว่าเจ้าจะไปหรือไม่" เซียวเฉินจับมือเรียวเล็กของไป๋เนี่ยนปิงด้วยท่าทีแน่วแน่ขึงขัง

"ข้ายินดี" ไป๋เนี่ยนปิงโถมกายพิงไหล่เซียวเฉิน นางยิ้มทั้งน้ำตา

"เจ้าเต็มใจ ข้าก็เต็มใจ เช่นนั้น จะมีอะไรเป็นไปไม่ได้เล่า" เซียวเฉินโอบกอดไป๋เนี่ยนปิง มองดวงดาวบนฟากฟ้าอันกว้างใหญ่ด้วยกัน

คืนนั้นอากาศเย็นสบาย ทว่าหัวใจของทั้งคู่กลับอบอุ่นยิ่งนัก

……

"ศิษย์พี่เร่งเดินทางเพียงนี้เชียวหรือ" เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น จูชิงฮวนขี่ม้าเตรียมมุ่งหน้าไปยังเมืองหลวง

"ข้าต้องกลับไปบอกอาจารย์ก่อน ที่นี่อยู่ห่างจากแคว้นไพศาลมากเกินไป พวกเจ้าเองก็ต้องรีบเดินทางเช่นกัน อีกหนึ่งเดือนก็ถึงวันที่สำนักจะรับศิษย์จากทั่วทั้งแคว้นไพศาลแล้ว"

จูชิงฮวนพูดไปก็มองไป๋เนี่ยนปิง "ข้าตั้งตารอที่จะได้พบพวกเจ้าทั้งสองที่สำนัก"

"ข้าจะพยายามอย่างเต็มที่" ไป๋เนี่ยนปิงคล้ายตัดสินใจมาดมั่นแล้ว

"ไม่ใช่พยายามอย่างเต็มที่ แต่ต้องทำให้ได้ต่างหาก" จูชิงฮวนพูดด้วยรอยยิ้ม จากนั้นก็สะบัดแส้ ม้าสีแดงพานางลับหายไปในพริบตา

"อ้อ ใช่แล้ว นางรีบออกเดินทางเช่นนี้ ยังไม่ทันได้ถามนางเลยว่าที่ว่ามาเพื่อเจ้าหมายความว่าอย่างไร" ไป๋เนี่ยนปิงเอ่ย

"อาจจะเป็นแค่คำพูดที่ใช้หลอกผู้แข็งแกร่งขอบเขตตำหนักลี้ลับของตระกูลหวังก็ได้" เซียวเฉินยิ้ม "เมืองวายุไกลของเราห่างไกลจากเมืองหลวงมาก หากไม่มีใครส่งจดหมายด้วยนกพิราบสื่อสารเป็นพิเศษ ก็ไม่มีทางที่เมืองหลวงจะรู้จักคนไร้ชื่ออย่างข้าได้"

"ข้ากลับยิ่งอยากรู้เรื่องอาจารย์เหมย นางสามารถทำให้ผู้แข็งแกร่งขอบเขตตำหนักลี้ลับของตระกูลหวังแห่งเมืองหลวงเกรงกลัวได้ ไม่รู้ว่าเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่เพียงใด" ไป๋เนี่ยนปิงรู้สึกทึ่งเล็กน้อย แคว้นไพศาล เมืองหลวง นางกำลังจะไปที่นั่นแล้ว!

"ถึงเวลาต้องสะสางเรื่องราวในเมืองวายุไกลให้จบแล้ว" แววตาของเซียวเฉินวูบไหว ไม่ว่าทำการใดเขาก็มักไม่ปล่อยให้มีปัญหาตามมา

ทันใดนั้นเซียวเฉินก็รู้สึกว่ากระดูกเต๋าในร่างกายสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ความอันตรายรุนแรงคุกคามเข้ามาในใจ ทำให้เซียวเฉินสั่นเทาไปทั้งร่าง

"เป็นอะไรไป" ไป๋เนี่ยนปิงมองเซียวเฉินด้วยความเป็นห่วง

"ไม่มีอะไร อาจจะใช้พลังมากเกินไปจึงเหนื่อยล้าเล็กน้อย ข้ากลับไปพักก่อนก็พอแล้ว"

เซียวเฉินกลับไปที่ห้อง นั่งลงขัดสมาธิทันที จิตใจสื่อสารกับกระดูกเต๋า ก่อนเข้าสู่โลกภายในกระดูกเต๋า

ดวงดาวบนฟากฟ้ายังคงส่องแสงสีเลือดน่าสะพรึง ดาวดวงหนึ่งที่อยู่ใกล้พื้นโลกที่สุดเปล่งแสงสีเลือดเข้มข้นและปะทุปราณน่าหวั่นเกรงออกมา!

"คิดจะหลุดพ้นจากโลกกระดูกเต๋าหรือ" สีหน้าของเซียวเฉินเคร่งขรึม เขาสามารถรับรู้สถานการณ์ในโลกกระดูกเต๋าได้อย่างชัดเจน เจตจำนงค์ค์อันแข็งแกร่งที่เกาะติดอยู่กับดวงดาวดวงนั้นกำลังพยายามดิ้นรนออกไปอย่างสุดกำลัง!

เจตจำนงค์ค์นั้นเป็นของจักรพรรดิมารผู้เคยมีอำนาจสูงสุดในการปกครองโลกมาร ไร้ความปรานีและโหดเหี้ยม อีกทั้งยังเคยเข้าร่วมในสงครามล้อมโจมตีผู้ยิ่งใหญ่

แม้ว่าเขาจะถูกทำลาย ทว่าเลือดและเจตจำนงค์ของเขาก็หลอมรวมเข้ากับดาวดวงนั้น ความแข็งแกร่งของเขาไม่อาจปฏิเสธได้เลย

เซียวเฉินคาดการณ์ว่าหากไม่ใช้เคล็ดวิชาพิษ ในแง่ของการบำเพ็ญ จักรพรรดิมารคงอยู่เหนือจักรพรรดิพิษ

‘ต้องหาวิธีกำราบจักรพรรดิมารให้ได้ ไม่เช่นนั้นหากปล่อยเขาออกไป ปัญหาใหญ่จะตามมา’ เซียวเฉินคิดในใจ แม้ว่าจะมีเพียงเจตจำนงค์ที่เหลืออยู่ แต่การมีอยู่ของสิ่งนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะจัดการ

สงครามล้อมโจมตีผู้ยิ่งใหญ่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อหลายพันปีก่อน เจตจำนงทรงพลังเหล่านี้ไม่เพียงไม่หายไป แต่ยังแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ!

เขาเสมือนเป็นทายาทของผู้ยิ่งใหญ่ หากจักรพรรดิมารพ้นพันธนาการจากโลกกระดูกเต๋า สิ่งแรกที่อีกฝ่ายจะทำคือการคร่าชีวิตเขา

รอยผนึกบนโลกกระดูกเต๋าเปล่งแสง เจตจำนงค์ของเซียวเฉินถูกห่อหุ้มด้วยรอยผนึกนั้น ก่อนประทับลงบนดาวดวงนั้นอีกครั้ง ราวกับจะทำให้เจตจำนงค์ของจักรพรรดิมารสงบลง

"นี่ไม่ใช่หนทางแก้ไขถาวร" เซียวเฉินไม่สบายใจ รอยผนึกของเขาเป็นเพียงรูปร่าง ไม่ได้เข้าใจความหมาย หากเจตจำนงค์ของจักรพรรดิมารแข็งแกร่งขึ้นอีก อาจสามารถฝ่าการกักขังของรอยผนึกได้!

จิตใต้สำนึกของเซียวเฉินกลับสู่ร่างกาย เขาเริ่มบำเพ็ญในทันที

แม้เขาจะเอาชนะโจวหลิงเสวี่ยและฆ่าโจวขวางเจาในงานประลองครั้งใหญ่ของเมืองวายุไกลได้ แต่ก็ยังนับว่าอ่อนแอมาก

ผู้แข็งแกร่งขอบเขตตำหนักลี้ลับของตระกูลหวังสามารถฆ่าเขาได้โดยง่าย

รวมถึงเจตจำนงค์ในโลกกระดูกเต๋าที่ยิ่งน่าหวั่นเกรง หากปล่อยให้พวกมันหลุดออกไปได้ เขาจะไม่อาจต้านทานได้แม้แต่น้อย

ถึงกระนั้นเซียวเฉินก็ไม่ได้รู้สึกท้อแท้ กลับมั่นใจว่าหากมีเวลามากพอ เขาจะเหยียบย่ำตระกูลหวังและจักรพรรดิมารได้!

เซียวเฉินฝึกฝนหนักยิ่งกว่าเดิมในช่วงหลายวันที่ผ่านมา นอกจากการบำเพ็ญด้วยตนเองแล้ว เขายังไปหาไป๋ชิงเฟิงเพื่อสอบถามเกี่ยวกับขอบเขตสะพานชีวา

แม้เขาจะช่วยให้ไป๋ชิงเฟิงก้าวเข้าสู่ขอบเขตสะพานชีวาได้สำเร็จ ทว่าความเข้าใจเกี่ยวกับมันนั้นมีอยู่อย่างจำกัด

ไป๋เนี่ยนปิงฝึกฝนอย่างหนักเพื่อไล่ตามเซียวเฉินให้ทันเช่นกัน

เซียวเฉินถ่ายทอดเคล็ดวิชาให้กับนาง มันเป็นวิชาที่ได้มาจากความทรงจำของจักรพรรดิพิษ ถึงไม่ใช่สุดยอดเคล็ดวิชา แต่ก็นับว่าเป็นตำนานในแคว้นไพศาล

ความขยันหมั่นเพียรของทั้งสองทำให้ไป๋ชิงเฟิงปลาบปลื้มใจยิ่งนัก เขาหันไปด่าไป๋เนี่ยนซง "ดูเซียวเฉินกับน้องสาวเจ้าเข้าสิ ทำไมเจ้าถึงได้ไร้ประโยชน์เช่นนี้"

"ข้า…" ไป๋เนี่ยนซงพูดไม่ออก พรสวรรค์ของเขาสู้ไป๋เนี่ยนปิงไม่ได้ตั้งแต่แรก จึงเชื่อฟังคำพูดน้องสาวมาโดยตลอด

ส่วนเซียวเฉินนั้นเป็นคนประหลาด เขาจะเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนประหลาดได้อย่างไร…

เวลาพ้นผ่านอย่างรวดเร็ว เจ็ดวันล่วงเลยไป สถานการณ์ในเมืองวายุไกลดูเหมือนจะสงบลง

โจวหลิงเสวี่ยยังอยู่ ไม่มีใครกล้าแตะต้องตระกูลโจว

ส่วนตระกูลเหล่งนั้นแทบจะปิดประตูอยู่เงียบ ผู้คนพากันคาดเดาว่าพวกเขาเกรงกลัวตระกูลไป๋!

ด้านตระกูลไป๋รับรู้ได้ถึงเค้าพายุจะมาเยือน ร่างแปลกหน้าปรากฏตัวรอบจวนสกุลไป๋ เดี๋ยวมาเดี๋ยวไปทว่าสายตาไม่เคยละจากตระกูลไป๋!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด