ตอนที่แล้วตอนที่ 34 ขายผลผลิต
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 36 บริษัท Nebula Technology

ตอนที่ 35 Nebula Restaurant สาขาเชียงใหม่


วันศุกร์ 16.00 น. ฟาร์มภัทรภพ

“ฟาร์มที่นี่ดูดีมากเลยนะครับคุณดนัย”

“ส่วนใหญ่ก็เป็นเพราะพวกคนงานดูแลที่นี่ดีน่ะครับ”

ในเวลานี้คนทั้งสี่กำลังนั่งจิบชาสีทองและมองดูไร่สวนต่างๆบนเก้าอี้ไม้ที่ดนัยตั้งใจเอามันมาไว้เพื่อพักผ่อนหย่อนใจในฟาร์ม

“ชานี่ก็ดีนะครับ ผมอธิบายไม่ถูกเหมือนกันแต่มันสดชื่นสุดๆไปเลยครับแถมรสชาติยังกลมกล่อมอีกด้วย”มานพกล่าวก่อนจะจิบชาไปอีกครั้งหนึ่ง

“แล้วเรื่องราคาการซื้อ-ขาย ล็อตแรกนี้จะเอายังไงดีครับ”

“ผมเหมาหมดเลยครับ ส่วนเนื้อผมให้ราคาแพงกว่าเนื้อ A5 เล็กน้อยด้วยครับ ส่วนพืชผักอื่นๆก็ขอซื้อสูงกว่าราคาตลาดเล็กน้อยด้วยเช่นกัน”

“ตกลงครับ…ยินดีที่ได้ร่วมธุรกิจ”

“ผมก็เช่นกัน”

ทั้งสองตกลงกันได้อย่างรวดเร็วและจับมือกันเพื่อเป็นพิธีหลังการเจรจาเสร็จสิ้นและนั่งจิบชาต่อไปจนเวลา 17.00 น. มานพก็กลับไปยังโรงแรมที่ตนจองเอาไว้

……………

วันเสาร์ 09.50 น. ฟาร์มภัทรภพ

“มีทำเลดีๆสำหรับร้านอาหารใหม่ของเรารึยังซินหราน”

“ตอนนี้มีอยู่ 3 ที่ที่ท่านน่าจะถูกใจน่ะค่ะ”เธอยื่นเอกสารแผ่นหนึ่งไปให้ดนัยโดยในนั้นมีรูปของที่ดินติดอยู่เต็มไปหมด

“เราไปดูกันทั้งสามที่จริงๆเลยดีกว่าจะมานั่งวิเคราะห์ภาพไปทำไมกัน”

“ฉันก็ว่างั้นค่ะ”

เมื่อตกลงกันได้ทั้งสองก็เดินไปยังโรงจอดรถของบ้านกลางจากนั้นก็ขึ้นรถตู้ไปโดยมีซินหรานเป็นคนขับเหมือนเดิมเพื่อเดินทางไปยังที่ดินที่น่าสนใจ

ที่แรก เป็นบริเวณเขตภูเขา มีป่าไม้ล้อมรอบและอยู่ชายขอบเมือง ถือว่าเป็นจุดที่ดีใช้ได้แต่อาจจะลำบากผู้บริโภคสักเล็กน้อยในการเดินทาง

ที่สอง อยู่ในเขตเมืองแต่เป็นบริเวณเชิงเขา หากสร้างและออกแบบดีๆมันน่าจะดูดีใช้ได้

ที่สุดท้ายอยู่บริเวณใกล้น้ำตกอยู่ห่างจากเมืองไม่มากแต่ทิวทัศน์โดยรอบถือว่าสวยงามมากเลยทีเดียว

หลังจากสำรวจที่สุดท้ายจนทั่วดนัยก็ขบคิดเกี่ยวกับแต่ละที่ก่อนจะขึ้นรถและให้ซินหรานออกรถก่อนจะเอ่ย

“ไปดูที่สองอีกครั้งหน่อยสิ”

“ท่านเลือกได้แล้วหรอคะ”

“ที่สองน่าจะดีที่สุดแล้ว เพราะหากร้านอาหารอยู่ไกลจากตัวเมืองมาเกินไป แม้จะอร่อยหรือดูดีแค่ไหนก็ตามกำไรที่ได้ก็จะได้ไม่เยอะเท่าที่ควร และเรามีทุนจำนวนมากสามารถซื้อที่ดินได้สบายๆ”

“เข้าใจแล้วค่ะ”

หลังจากขับไปได้สักพักทั้งสองก็เดินทางกลับมาถึงยังพื้นที่ลำดับสองโดยตอนนี้เป็นเวลา 17.00 น. แล้วและท้องฟ้าก็กลายเป็นสีส้มดูสวยงามทีเดียว

“ใครเป็นเจ้าของที่ดินแห่งนี้งั้นเหรอ??”

“เป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของที่นี่ค่ะ เห็นว่าเป็นคนมีอิทธิพลในภาคเหนือมากเลยทีเดียว”

“งั้นนัดเจอกับเขาให้ฉันที เอาเป็นที่นี่แหละและนัดคุยกับลุงมาโนชให้ด้วย”

“ค่ะ”

สถานที่แห่งนี้เหมือนจะมีโครงสิ่งก่อสร้างอยู่ก่อนแล้วถ้าออกแบบตามสภาพแวดล้อมการจะทำให้เสร็จภายใน 1-2 เดือนคงไม่ใช่เรื่องยากนัก

…………..

1 วันต่อมา

วันอาทิตย์ 10.30 น. ตึกสีขาวขนาด 20 ชั้น

ดนัยได้เดินทางมายังสำนักงานหลักอสังหาริมทรัพย์ที่เขาต้องการจะซื้อที่ดิน โดยมีซินหรานตรียมเอกสารและของต่างๆมาด้วย

หน้าตึกมีตัวหนังสือขนาดใหญ่ที่เขียนไว้ว่า VCM Development อยู่ที่พื้นโดยมีสวนขนาดเล็กรายล้อมมันไว้

“สวัสดีค่ะ…ไม่ทราบว่ามีธุระอะไรงั้นเหรอคะ”พนักงานต้อนรับสาวเอ่ยทักทายเขาทันทีที่มาถึง

“พวกเรานัดกับคุณกมลไว้แล้วค่ะ โดยใช้ชื่อดนัย ภัทรภพ”ซินหรานเอ่ยออกมาแทน

พนักงานสาวที่ได้ยินชื่อเจ้านายของเธอออกจากปากคนตรงหน้าก็รีบไปที่เคาน์เตอร์แล้วยกโทรศัพท์ขึ้นมาติดต่ออะไรบางอย่างทันที

“ค่ะ…ได้ค่ะ….เข้าใจแล้วค่ะ ดิฉันจะพาพวกเขาขึ้นไปหาเดี๋ยวนี้”พนักงานสาวกล่าวอะไรผ่านโทรศัพท์สักครู่ก่อนจะเดินมาเชิญพวกเขาด้วยความสุภาพ

“คุณกมลเชิญให้ขึ้นไปได้เลยค่ะ เดี๋ยวดิฉันจะพาพวกคุณไปเอง”พนักงานสาวพาทั้งสองไปที่ลิฟต์สีทองแล้วกดขึ้นไปยังชั้นบนสุด

ติ๊ง!!

ประตูลิฟต์เปิดออกก่อนที่ดนัยและซินหรานจะเดินตามพนักงานสาวไปยังประตูห้องแห่งหนึ่งที่มีหญิงสาวสวมชุดดำใส่แว่นยืนรออยู่

“สวัสดีค่ะคุณดนัย ท่านกมลได้รออยู่ในห้องแล้วขอเชิญเข้าไปได้เลยค่ะ”หญิงสาวชุดดำกล่าวด้วยความสุภาพก่อนจะส่งสายตาไปยังพนักงานสาวเชิงให้ออกไป

“ขอบคุณครับ”

ทั้งสองเปิดประตูและเดินเข้าไปข้างในโดยมีสาสชุดดำตามไปด้วย

ภาพที่เห็นข้างในคือเก้าอี้ผู้บริหารตัวใหญ่กำลังนั่งหันหลังให้เขาอยู่โดยมีกลิ่นชาหอมกรุ่นโชยออกมา สักพักก็ค่อยๆหมุนเก้าอี้กลับมาเผชิญหน้ากับดนัย

ผู้ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้คือหญิงสาวที่ดูอายุไม่มากนักน่าจะประมาณ 29-30 ปีได้ ความสวยของเธอก็มีไม่น้อยแต่ออร่าของหญิงสูงศักดิ์มันแผ่ออกมาแยงตาดนัยมากเลยทีเดียว

“สวัสดีคุณดนัย ฉันกมล วิมานแก้ว เจ้าของที่แห่งนี้และอีกหลายๆที่ในภาคเหนือ”

“ผมดนัย ภัทรภพ ยินดีที่ได้รู้จักครับ”

“ฉันรู้จักคุณอยู่แล้วล่ะนะพ่อหนุ่มนักธุรกิจ….ชาที่ฉันกำลังจิบอยู่นี่ก็ควจะเป็นของเธอสินะ”ดนัยเหลือบตาไปมองแก้วบนโต๊ะก่อนจะพบน้ำสีทองที่คุ้นเคย

“ดูเหมือนคุณจะรู้จักกับคุณมานพเขานะครับ”

“ใช่แล้วล่ะ ชานี้ฉันเพิ่งจะได้มาเมื่อเช้านี้เอง มันรสชาติดีสมคำที่เขากล่าวมาเลยล่ะ และยังได้ผลผลิตจากฟาร์มของคุณอีกเล็กน้อยด้วย”

“ถ้าชอบก็ดีครับ…แต่ที่ผมมาวันนี้เพราะอยากจะซื้อที่ดินสักหน่อยน่ะครับ”

“ฉันรู้อยู่แล้วล่ะ ถ้าไม่อยากเจอเธอคงให้คนอื่นจัดการเรื่องนี้ให้จบไปเร็วๆแล้ว…..หากฉันคิดถูกเธอคงคิดจะสร้างภัตตาคาร Nebula Restaurant อันเลื่องชื่อที่นี่สินะ”กมลนำนิ้วเรียวงามของตัวเองเตะที่ปลายปากของตนเองเล็กน้อย

“ใช่แล้วครับ…ว่าแต่ถามทำไมเหรอครับ ฉันกำลังคิดว่าควรจะพัฒนาที่ดินแถวนั้นดีไหมแล้วค่อยขายในราคาสูงๆน่ะ”

“คุณอาจจะคาดหวังมากเกินไปแล้วก็ได้นะครับ เพียงแค่ร้านอาหารแห่งเดียวคงไม่ทำให้ที่ดินบริเวณรอบๆราคาสูงขึ้นหรอก”

“ฉันรู้….แต่หากทำให้พื้นที่แถวนั้นเป็นเขตของร้านอาหารต่างๆโดยใช้ชื่อร้านของเธอเป็นตัวดึงดูดก็น่าจะได้ผลไม่น้อยเลยทีเดียว”

ร้านของดนัยแม้จะขายอาหารราคาถูกแล้วแต่มันก็ยังแพงสำหรับบางคนอยู่ดี ดังนั้นความคิดของกมลที่จะทำพื้นที่ให้มีร้านอาหารมาเปิดเพิ่มก็คงใช้ได้ถ้าราคาต่ำกว่าและมีความอร่อยที่ดึงดูดลูกค้าได้

“ที่คุณพูดออกมาแบบนี้ไม่ใช่ว่าอยากได้อะไรจากผมหรอกนะ”

“ฉันอยากให้น้าร้านของเธอช่วยโปรโมทบริษัทของฉันหน่อยน่ะ โดยเฉพาะที่ดินแถวนั้นเลย….ฉันลดให้ 5% เลยเป็นไง”

“ผมไม่ได้ขัดสนเงินอยู่แล้วแต่ลดให้ฟรีๆแบบนี้ผมคงต้องรับไว้แล้วล่ะครับ”

“งั้นก็ตกลงตามนี้นะ”

จากนั้นทั้งสองก็เซ็นสัญญาซื้อขายที่ดินกันสักครู่ก่อนจะกลับโดยกมลได้ให้นามบัตรของเธอมาด้วย

ดนัยที่ออกมาจากตัวตึกก็พบกับคนของลุงมาโนชมารอพอดีทำให้พวกเขาขึ้นไปบนรถตู้ของดนัยและคุยกันไประหว่างทางเกี่ยวกับเรื่องรูปแบบของร้านอาหาร

ดนัยได้มอบแบบเปลนที่ตนได้เตรียมพร้อมเอาไว้ให้ก่อนที่จะส่งอีกฝ่ายลงจากรถและกลับฟาร์มของตนเองด้วยใบหน้าเปี่ยมสุข

…………..

วันต่อมา

ซินหรานได้มาแจ้งข่าวดีแก่ดนัยที่ห้อง

“ตึกหลักของ Nebula Technology เสร็จแล้วค่ะ”เธอกล่าวด้วยรอยยิ้มเพราะเมื่อนึกถึงสวัสดิการของตนก็อดใจเต้นไม่ได้

“จริงเหรอ!!”

“แน่นอนค่ะ ทุกอย่างสมบูรณ์ 100%”

“งั้นโพสต์หาพนักงานลงเพจหลัก Faceblok เลยรับทั่วโลกเลยนะ แล้วก็อัพขึ้นไปบนเว็บไซต์หลักชองเราด้วย”

“ได้ค่ะ”

“หลังจากเสร็จเรื่องนี้เราจะรีบไปกรุงเทพทันที”

“เข้าใจแล้วค่ะ”

“งั้นวันนี้เรามารีบเคลียร์งานที่เหลือทั้งหมดกันเถอะ ฉันอยากจะเห็นตึกที่ทุ่มเงินสร้างไปหลายหมื่นล้านของเราแล้ว”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด