ตอนที่แล้วตอนที่ 16 ชำระหนี้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 18 สหายเก่าร่วมเป็นร่วมตาย

ตอนที่ 17 บวชเป็นภิกษุไปเสีย


ตอนที่ 17 บวชเป็นภิกษุไปเสีย

“เก็บหนี้แบบนี้ รู้สึกเป็นยังไงบ้าง? ดีหรือไม่?”

เฉินชิงหยวนกล่าวย้ำอีกครั้ง

“เรื่องนี้…” หลินผิงเหยียนกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงลังเล

“ไม่ต้องลังเล พูดออกมาเถอะ” เฉินชิงหยวนกล่าวกระตุ้น

“พูดตามตรงนะลุงน้อย ข้าอดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลก ๆ”

หลินผิงเหยียนกล่าวออกมาตามตรง “คราวแรกข้าไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ และคิดว่าทั้งหมดเป็นการกระทำที่หยาบคาย แต่สุดท้ายหลังจากได้รับเส้นชีพวิญญามาแล้ว ข้ารู้สึกมีความสุขราวกับได้รับมันมาโดยเปล่า”

“มันจะได้รับโดยเปล่าได้อย่างไร? นี่คือการลงทุนที่ลุงของเจ้าทำไว้เมื่อร้อยปีที่แล้ว!”

เฉินชิงหยวนไม่เคยต้องเสียเงินสู่นอกสำนัก บุคลิกของเขายากจะเข้าใจ บางครั้งก็เย็นชาราวกับน้ำแข็ง บางคราวก็น่ากลัวยากจะรับมือ

“ลุงน้อย พวกเราเก็บหนี้จริง ๆ ไม่ได้ปล้นชิงผู้ใดใช่หรือไม่?”

หลินผิงเหยียนยังรู้สึกเสียใจเล็กน้อย

“ถ้าหากเป็นการปล้น เจ้าคิดว่ามันจะง่ายดายเช่นนี้หรือ?” เฉินชิงหยวนยกชาขึ้นจิบ “สำนักร้อยพฤกษาไม่เคารพต่อเจ้า จากนั้นยังคิดจงใจปกปิดเรื่องหอการค้า! พวกเขากระทำสิ่งที่ผิด การเสียเส้นชีพวิญญาระดับกลางแม้จะเจ็บปวด แต่ก็ยังเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ อีกทั้งด้วยชื่อเสียงของสำนักเต๋าล้ำขจีของเรา พวกเขาก็ไม่อาจละเลยหรือปฏิเสธได้เช่นกัน”

ไม่ใช่ว่าเฉินชิงหยวนไม่ต้องการ แต่เขาเพียงแต่ไม่ได้ลงมือเท่านั้น สุดท้ายหากเขาลงมือด้วยตัวเอง ไม่เพียงแต่จะไม่ยอมรับสิ่งของชดเชย แต่เขาจะตั้งตนเป็นศัตรูตัวฉกาจกับสำนักร้อยพฤกษาด้วย

อีกทั้งสถานการณ์ในตอนนี้แตกต่าง แม้สำนักร้อยพฤกษาจะไม่พอใจกับพฤติกรรมของเฉินชิงหยวน แต่พวกเขาก็จำเป็นต้องขอบคุณเฉินชิงหยวนที่ไม่ตำหนิ และต้องสงวนท่าทีเพื่อรักษาความสัมพันธ์กับสำนักเต๋าล้ำขจีเอาไว้

การอ้าปากร้องขอบางอย่างนั้นเป็นเรื่องของทักษะ ถ้าหากว่าขอมากเกินไปมันจะกลายเป็นการรุกราน แต่ถ้าหากจะขอให้น้อย ก็ต้องคิดถึงผลลัพธ์ความคุ้มค่าให้ถี่ถ้วน

“ลุงน้อย แต่นี่ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาระยะยาว เราอย่าทำเรื่องเช่นนี้บ่อยนักเลย”

หลินผิงเหยียนรู้สึกว่าเขาไม่อาจรังแกผู้อื่นได้ จึงกล่าวคำด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“หากทุกคนในสำนักเต๋าล้ำขจีเป็นเช่นเจ้า แม้แต่ลมตะวันตกก็คงจะไม่ได้ยืนอยู่ชื่นชม ภายในดินธารดวงดาวเต็มไปด้วยสิ่งชั่วร้ายมากมาย ไม่มีวิธีการยุติธรรมในการจัดการพวกมัน ทั้งหมดล้วนแต่ขึ้นอยู่กับการเอาตัวรอดของคนผู้นั้น”

เฉินชิงหยวนรู้สึกพูดไม่ออกจริง ๆ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับนิสัยของหลินผิงเหยียนโดยตรง ชายผู้นี้อยู่รอดในโลกฝึกยุทธ์ได้อย่างไร? ทั้งสง่างามและมีเมตตายิ่งกว่าผู้ใด!

เอาล่ะ ถ้าหากในอนาคตค่อย ๆ สั่งสอนเขา หลินผิงเหยียนคงจะเปลี่ยนแปลงได้ในสักวัน

หลังจากนั้นเฉินชิงหยวนพาหลินผิงเหยียนไปเก็บหนี้อีกหลายแห่ง

อาวุโสของขุนเขาตาน้ำสงัดเคยยืมหินวิญญาณจากเฉินชิงหยวนไปนับพันก้อน แต่หลังจากผ่านไปหนึ่งร้อยปีเขาจะต้องจ่ายคืนหินวิญญาณพร้อมดอกเบี้ยทั้งหมดรวมแล้วห้าพันก้อน

ผู้ใดอยากจะจ่าย?

เฉินชิงหยวนให้หลินผิงเหยียนต่อสู้กับอีกฝ่ายโดยตรงหากไม่สามารถเจรจากันได้ และจะบอกกล่าวข่าวฉาวนี้ไปทั่วสารทิศ ก่อนจะลงมือใช้วิธีการต่าง ๆ เพื่อทำลายภูเขาใบไม้ผลิ หลังจากนั้นเฉินชิงหยวนจึงได้รับหินวิญญาณกลับคืน และเดินทางต่อไปอย่างผ่อนคลาย

เรื่องราวที่คล้ายกันเกิดขึ้นมากกว่าสิบครั้ง โดยเฉินชิงหยวนนั่งอยู่บนเกวียนหิน หลินผิงเหยียนเป็นผู้ลงไปทวงหนี้

หลังจากทวงหนี้มาแล้วหลายครั้ง หลินผิงเหยียนลอบแปลกใจเล็กน้อย เขารู้สึกยากจะอธิบายเมื่อมองหินวิญญาณและสมบัติวิญญาณมากมายบนโต๊ะ สิ่งเหล่านี้เทียบเท่ากับสมบัติของกองกำลังระดับสาม

ไม่ช้าพวกเขาก็มาถึงแดนธาราสมุทร หลินผิงเหยียนหยุดเกวียนหินก่อนจะนั่งลงที่แท่นควบคุมด้วยตนเอง ทั้งหมดก็เพื่อหลีกเลี่ยงการขับชนค่ายกลที่วางไว้ภายในแดนธาราสมุทร เขาไม่ต้องการพบเจอปัญหาที่ไม่จำเป็น

“ลุงน้อย โปรดนั่งให้ดี”

หลินผิงเหยียนสร้างตราประทับก่อนจะเปิดใช้งานค่ายกลอันน่าสะพรึงเพื่อปกป้องเกวียนหินคันนี้เอาไว้ หลายครั้งที่มีสิ่งชั่วร้ายพยายามจะทะลวงเข้าสู่เกวียนหินภายใน ทว่าถูกหลินผิงเหยียนปราบปรามลงได้เสมอ

เฉินชิงหยวนนั่งในเกวียนหินอย่างผ่อนคลาย ไม่มีความอึดอัดใจแม้แต่น้อย ในหัวเพียงคิดว่าควรทำสิ่งใดต่อไป

ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา รถม้าออกจากค่ายกลในแดนดวงดาวอันเหี้ยมโหดนี้ มันจอดลงในที่แห่งหนึ่งของแดนธาราสมุทร

“ถึงแล้วเหรอ?”

หลังตระหนักได้ว่ารถม้าหยุดลงแล้ว เฉินชิงหยวนหันมองออกไปด้านนอก

“ขอรับ” หลินผิงเหยียนมองไปรอบ ๆ และหันมองตามทิศทางที่เขาได้รับบอกกล่าวก่อนหน้า “หมอเถื่อนอาจจะอยู่ทางตะวันออกของแดนธาราสมุทร น่าจะเป็นสถานที่ที่เรียกว่าดาราเจ็ดแผ่นดิน”

“อย่างนั้นพวกเราไปเสี่ยงโชคกันเถิด!” เฉินชิงหยวนไม่ต้องการให้ผู้คนในสำนักเต๋าล้ำขจีต้องผิดหวัง เขาจึงต้องเล่นไปตามน้ำเท่านั้น

เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม เฉินชิงหยวนค่อยหาข้อแก้ตัวเพื่อให้หลินผิงเหยียนกลับไป และเขาจะได้ออกเดินทางตามลำพังเสียที

ทั้งสองเดินทางต่อจนกระทั่งได้พบกองโจรที่ดักปล้นอยู่ริมถนน หลินผิงเหยียนโน้มน้าวให้คนเหล่านั้นล่าถอย และไม่คิดจะเอาชีวิตของคนเหล่านั้น

เฉินชิงหยวนเน้นย้ำหลายครั้งว่าหลินผิงเหยียนควรจะสังหารคนเหล่านี้ไปเสีย ไม่ควรแสดงความเมตตาต่อบุคคลเช่นนี้ แต่อย่างไรแล้วหลินผิงเหยียนรู้สึกว่าทุกชีวิตมีค่า และควรให้โอกาสโจรได้กลับตัว

“ผิงเหยียน!” เฉินชิงหยวนรู้สึกขุ่นเคืองจนพูดไม่ออก “เจ้าเหมาะสมที่จะไปบวชเป็นภิกษุเสีย ทั้งความเมตตา กรุณา และศีลธรรมเปี่ยมล้นในใจของเจ้า ให้ข้าพูดเถิดหนา ต่อให้เป็นกลุ่มภิกษุในพุทธศาสนาก็ยังไม่อาจใจกว้างและจิตใจดีเทียบเท่ากับเจ้า ให้เป็นเจ้าอาวาสคงจะเหมาะสมที่สุดแล้ว!”

“ลุงน้อยหยุดหยอกล้อข้าได้แล้ว”

หลินผิงเหยียนเป็นคนดี แต่เขาไม่ได้โง่ และเขาสามารถรู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายกำลังประชดประชันเขา

“เจ้ามีชีวิตอยู่มาเนิ่นนานหลายปี ยังไม่เข้าใจความจริงของโลกนี้อีกงั้นหรือ?” เฉินชิงหยวนเริ่มกล่าวเสียงหนัก “ในโลกผู้ฝึกตน มีการวางแผน มีกลยุทธ์ กลอุบายมากมาย มีการแก้แค้นในทุกหนแห่ง หากเจ้าถูกรังแก จงต่อสู้กลับ และห้ามตอบโตศัตรูอย่างเมตตา เจ้าต้องสังหารมันผู้นั้นจึงจะจบสิ้นเรื่องราวได้”

“ผิงเหยียนเข้าใจความจริงข้อนี้ขอรับ แต่การพูดง่ายกว่าลงมือทำมาก”

หลินผิงเหยียนก้มศีรษะลงแล้วถอนหายใจ

หลินผิงเหยียนอายุมากกว่าเฉินชิงหยวน แต่กลับเป็นเฉินชิงหยวนที่อธิบายความจริงข้อนี้ให้เขารับฟัง “หากเจ้าใจดี คนรอบข้างของเจ้าจะโชคร้าย! และสุดท้ายวันหนึ่งเจ้าจะต้องเสียใจเพราะความใจดี ความใจอ่อนของตัวเอง!”

“ผิงเหยียนจดจำแล้วขอรับ”

หลินผิงเหยียนเคยกระทำสิ่งเหล่านี้เสมอมา และการเปลี่ยนแปลงมันโดยสมบูรณ์ไม่อาจทำได้ชั่วข้ามคืน และเขาจำเป็นต้องได้รับการสั่งสอนช้า ๆ

“หยุดพูดเสียที ถึงแล้วค่อยเรียกข้า!”

สำนักเต๋าล้ำขจีเต็มไปด้วยเหล่าสุนัขจิ้งจอกเฒ่า เหตุใดจึงมีกระต่ายขาวตัวน้อยปรากฏออกมา?

ยิ่งไปกว่านั้น… บิดาผู้ให้กำเนิดกระต่ายขาวตัวน้อยยังเป็นสุนัขจิ้งจอกเฒ่าที่แสนเจ้าเล่ห์เพทุบาย!

หลินผิงเหยียนเป็นบุตรชายในสายเลือดของพี่ใหญ่ไม่ใช่หรือ?

หรือว่าไม่ใช่? เฉินชิงหยวนเริ่มนึกคิดอย่างบ้าคลั่ง

ทันทีที่คิดอย่างนี้แล้ว เฉินชิงหยวนยกยิ้ม เป็นไปไม่ได้เลย สุดท้ายแล้วด้วยความสามารถของหลินฉางเซิง อีกฝ่ายย่อมทราบถึงสายเลือดของตนเองอย่างรวดเร็ว เป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดเรื่องผิดพลาด

“ถ้าหากเป็นเรื่องของสายเลือด ก็คงจะต้องกล่าวโทษพี่สะใภ้แล้ว”

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เฉินชิงหยวนพลันตระหนักถึงบางอย่างขึ้นมา ดูเหมือนว่าเขาจะไม่เคยพบเจอกับพี่สะใภ้ใหญ่มาก่อน หลินฉางเซิงไม่เคยบอกกล่าวถึงตัวตนของภรรยาเลยสักครั้ง

“ลืมไปซะ อย่าเอามาใส่ใจเลย”

เฉินชิงหยวนหลับตาพร้อมกับฝึกฝนเงียบ ๆ

สิบวันต่อมา เกวียนหินเข้าสู่เขตดาราเจ็ดแผ่นดิน

“ลุงน้อย พวกเรามาถึงแล้วขอรับ”

เสียงของหลินผิงเหยียนดังขึ้น

“อืม” หลังจากนั้นเฉินชิงหยวนจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนจะเดินออกมา

ไม่ไกลนักมีเมืองหนึ่งปรากฏสู่สายตา มีสามร่างเปล่งประกายสีทองยืนอยู่ไกลลิบท่ามกลางอากาศ - เมืองเวิ้งว้าง

จากข้อมูลที่สำนักเต๋าล้ำขจีได้รับจากข่าวกรองก่อนหน้า หมอเถื่อนน่าจะอยู่ในเมืองเวิ้งว้างแห่งนี้ มีข่าวลือว่าหมอเถื่อนได้ช่วยชีวิตใครบางคนเมื่อสองปีที่แล้ว เบาะแสของเขาจึงชี้มาที่เมืองแห่งนี้อย่างช่วยไม่ได้

ผู้แข็งแกร่งจากกองกำลังต่าง ๆ ลอบเข้าสู่เมืองเวิ้งว้างอย่างพร้อมเพรียง พวกเขาคาดหวังจะได้พบเจอกับหมอเถื่อนและได้รับการรักษา

อย่างไรก็ตาม ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีผู้ใดได้พบกับหมอเถื่อนสักครั้ง

หมอเถื่อนผู้นี้เชื่อมั่นในโชคชะตายิ่งกว่าสิ่งใด

เขาไม่สนใจชื่อเสียง โชคลาภ อำนาจ… เขาสนใจเพียงโชคชะตาเท่านั้น

เมื่อโชคชะตามาถึง ต่อให้เป็นเพียงขอทานก็สามารถรอดชีวิตได้โดยไม่ต้องเสียเงินสักแดง เหล่าปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์ผู้ครองอำนาจสูงสุดเข้าเชื้อเชิญเขาด้วยตนเอง และยังยินยอมมอบสิ่งต่าง ๆ ให้มากล้น ทว่าเขากลับไม่คิดสนใจทั้งยังเดินหนีอย่างไม่แยแสด้วย

เพราะนิสัยประหลาดของหมอเถื่อนผู้นี้ เขาจึงมีชื่อเสียงโด่งดังและถูกจัดให้เป็นชายในตำนาน

“ดาราเจ็ดแผ่นดินงั้นหรือ… ดูเหมือนว่าข้าจะมีใครคนหนึ่งที่พอจะช่วยเราได้”

เฉินชิงหยวนจดจำบางอย่างขึ้นได้ เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยก่อนจะเผยรอยยิ้มเจือจาง

“คนรู้จักหรือขอรับ?”

มีคำถามปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหลินผิงเหยียน

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด