ตอนที่แล้วบทที่ 7 ศิษย์น้อง! นายพูดถูก เขาไม่ใช่คนดีจริงๆ!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 9 ศิษย์น้องซะที่ไหน นี่มันจะฆ่ากันชัดๆ!

บทที่ 8 ไม่ใช่แฟน แค่ช่วยอุดหนุนคนทำมาหากิน


บทที่ 8 ไม่ใช่แฟน แค่ช่วยอุดหนุนคนทำมาหากิน

ทั้งหมดก็ประมาณนี้ ทั้งสองได้รับประทานอาหารเย็นอย่างมีความสุข

หลังจากนั้น ก็เดินเล่นย่อยอาหารกันริมแม่น้ำ ชมวิวยามค่ำไปพลางๆ

หลินเป่ยฝานยิงมุกตลกไม่หยุด ซ่งหยูฉิงหัวเราะจนท้องแข็ง

เธอพบว่านายน้อยหลินตรงหน้าเหมือนรู้จักตัวเธอเป็นอย่างดี สามารถค้นหาหัวข้อที่น่าสนใจมาพูดคุยได้ตลอดเวลา

เขาสามารถทำให้เธอมีความสุข เวลาคุยกับเขามันชวนให้ผ่อนคลายและสบายใจมาก

สุดท้ายก็มาถึงเวลาสามทุ่ม

“นี่ก็เริ่มดึกแล้ว ถึงเวลาที่ฉันต้องกลับเสียที” น้ำเสียงของซ่งหยูฉิงฟังดูไม่ค่อยยินยอมพร้อมใจ

“ถ้าอย่างนั้นฉันจะไปส่ง!” หลินเป่ยฝานกล่าว

“หลังจากส่งฉัน นายตั้งใจจะทำอะไรต่อ? ตรงดิ่งกลับไปนอนเลยงั้นเหรอ?” ซ่งหยูฉิงถาม

“สำหรับลูกเศรษฐีอย่างฉัน ตอนนี้ยังเร็วไปที่จะนอน แต่เป็นช่วงเวลาเริ่มปาร์ตี้! พวกเพื่อนๆของฉันทักมาแล้ว เลยตั้งใจว่าจะไปเที่ยวกันที่ซินเทียนตี้!”

สถานที่ที่เรียกว่าซินเทียนตี้ คือสถานบันเทิงที่รวมผับบาร์เข้าไว้ด้วยกัน หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่าไนท์คลับ

หลินเป่ยฝานซึ่งมีชื่อเสียงด้านเหลวแหลกและชอบดื่มเหล้า จึงเป็นเรื่องปกติที่จะไปยังสถานที่แบบนั้น

อย่างไรก็ตาม พอซ่งหยูฉิงได้ยิน เธอก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาอย่างอธิบายไม่ถูก แต่ก็รู้ว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะห้ามเขาได้ ถึงอย่างนั้นก็ยังฝืนพูดว่า “ที่แบบนั้นมันวุ่นวาย ถ้านายไม่ไป ... จะได้ไหม?”

“ถ้าไม่ให้ผมไปที่นั่น แล้วจะมีที่ไหนให้ไปอีก?” หลินเป่ยฝานพูดอย่างช่วยไม่ได้ “ค่ำคืนน่ะมันยาวนานนะ จะให้ผมไปฆ่าเวลาที่ไหน? ผมเป็นพวกกลัวความเหงาซะด้วยสิ ถ้าให้อยู่คนเดียวคงอึดอัดแย่”

ซ่งหยูฉิงพอฟังก็นิ่งคิดพักหนึ่งแล้วพูดว่า “งั้นทำไมพวกเราไม่ไป ... ดูหนังกันล่ะ? ดูหนังเสร็จแล้ว ก็น่าจะถึงเวลานอนพอดี!”

ดวงตาของหลินเป่ยฝานเป็นประกาย แน่นอนว่าซินเทียนตี้เขาจะไปหรือไม่ไปก็ไม่ใช่ปัญหา แต่ที่พูดก็เพื่อล่อให้ซ่งหยูฉิงพูดชักชวนเขา

“แบบนั้นก็ได้”

แล้วทั้งคู่ก็ไปโรงภาพยนตร์ที่อยู่ใกล้ที่สุด

ตอนนี้บังเอิญมีหนังดังเข้าฉายพอดี อีกทั้งยังเป็นหนังรัก

เรื่องราวก็ประมาณพระนางอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์ พนักงานหญิงพอเห็นทั้งคู่ซื้อตั๋วเรื่องนี้ก็ปรี่เข้ามาขายสินค้าต่อทันที

“คุณลูกค้า แฟนของคุณสวยจัง สนใจซื้อดอกลาเวนเดอร์เหมือนหนังรักเรื่องนี้เป็นของขวัญให้เธอไหมคะ? ภาษาดอกไม้ของดอกลาเวนเดอร์คือรอคอยความรัก มันหมายถึงความรักกำลังมาเยือน!”

หลินเป่ยฝานส่ายหัว เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “คุณเข้าใจผิดแล้ว เธอไม่ใช่แฟนผม ..”

“คุณลูกค้าไม่ต้องอายหรอก! ถ้าไม่ใช่แฟน ใครมันจะพามาดูหนังโรแมนติกแบบนี้? พวกคุณกำลังออกเดทกันชัดๆ! แล้วถึงตอนนี้จะไม่ใช่แฟน แต่อนาคตได้เป็นแฟนกันแน่นอน! ฉันแนะนำว่าคุณรีบซื้อดอกไม้นี่เป็นของขวัญให้เธอ มันจะช่วยให้ความปรารถนาของคุณสัมฤทธิ์ผล!”

เมื่อปฏิเสธไม่ได้ หลินเป่ยฝานก็ยอมซื้อขวดโหลแก้วที่ใส่ดอกลาเวนเดอร์เอาไว้ข้างใน แล้วยื่นให้ซ่งหยูฉิง

“พนักงานเชียร์ขายสุดใจ ผมปฏิเสธไม่ได้ แต่จะว่าไปดอกลาเวนเดอร์ขวดนี้ก็เหมาะกับคุณอยู่นะ ลองเอาไปวางไว้บนโต๊ะทำงานดูสิ ตอนไหนเครียดๆก็เงยหน้าขึ้นมามองมัน บางทีอาจช่วยให้อารมณ์ดีขึ้น”

“อื้ม!” ซ่งหยูฉิงหน้าแดง ผงกหัวรับเบาๆ

เธอพยายามบอกตัวเองให้สงบใจเอาไว้ พวกเรายังไม่ใช่แฟนกัน แต่ที่ซื้อดอกไม้ก็เพราะแค่ปฏิเสธพนักงานไม่ได้เท่านั้นเอง!

ยังไงก็ตาม พอขวดดอกลาเวนเดอร์ตกถึงมือ เธอก็กำมันเอาไว้แน่น

แต่ในตอนนั้นเอง จู่ๆหลินเป่ยฝานคล้ายมีสัญชาตญาณบางอย่างร้องเตือน เขาหันขวับมองไปทางประตู

“อื๋อ? มีอะไรเหรอ?” ซ่งหยูฉิงเอ่ยถามพร้อมมองตาม

“เปล่า แค่เหมือนจะเห็นคนรู้จักน่ะ ...” หลินเป่ยฝานขมวดคิ้ว “บางทีผมอาจเข้าใจผิดไป ไม่ต้องสนใจหรอก หนังจะฉายแล้ว พวกเราเข้าไปกันดีกว่า”

หลังจากที่หลินเป่ยฝานเดินเข้าไปในโรงหนัง

ที่ทางเข้าโรงหนัง ชายหนุ่มรูปหล่อในชุดรักษาความปลอดภัยปรากฏตัวขึ้นจากมุมมืด

เขายกมือขึ้นกุมหน้าอกตัวเองเบาๆ สูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดว่า “เกือบไปแล้ว! เขาเกือบจะสังเกตเห็นเราแล้ว! หลินเป่ยฝานสมกับที่เป็นราชาปีศาจที่เคยโค่นฉันได้จริงๆ”

“แต่เดี๋ยวก่อน ทำไมฉันต้องกลัวว่าเขาจะสังเกตเห็นด้วย?”

“ฉันได้เกิดใหม่อีกครั้ง เขาควรยังไม่รู้จักฉัน แล้วจะหลบเขาไปทำไม?”

ชายหนุ่มรูปหล่อเผยรอยยิ้มเจื่อน “นึกไม่ถึงว่าแม้เกิดใหม่แล้ว แต่เงามืดในใจฉันก็ยังไม่หายไป!”

“แต่ครั้งนี้ฉันจะไม่พลาดเหมือนเดิมอีกแล้ว!”

“คราวนี้พระเจ้ามอบโอกาสให้ฉัน ฉันต้องล้างแค้นให้กับความอัปยศของตัวเองในชีวิตก่อน!”

“ทุกสิ่งที่แกพรากมันไป ฉันจะค่อยๆทวงมันคืน!”

“และจะทวงมันคืนเป็นสองเท่า!”

“ฉันจะแย่งงานของแก และผู้หญิงทั้งหมดของแก!”

“ฉันจะเหยียบย่ำหัวแกเพื่อปีนป่ายขึ้นไปสู่จุดสูงสุด!”

“หลินเป่ยฝาน! รอฉันก่อนเถอะ อีกไม่นานพวกเราจะได้เจอกัน!”

...

หนังฉายจบแล้ว เมื่อก้มมองนาฬิกาก็พบว่าเป็นเวลาห้าทุ่มครึ่ง

หลินเป่ยฝานส่งซ่งหยูฉิงกลับบ้าน ส่วนตัวเขาก็เข้าห้องพักผ่อน

วันต่อมา เขาไม่ตื่นจนกระทั่งเวลาล่วงเลยถึงเที่ยง

หลังจากล้างหน้าแต่งตัว ก็เดินทางไปโรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมตัวเอกเซียวเฉินที่มีสภาพเป็นมัมมี่

ที่ทำแบบนี้ก็ไม่ใช่เพราะเหตุผลลึกซึ้งอะไร แต่ต้องการจับตาดูอีกฝ่าย ขณะเดียวกันก็เพลิดเพลินไปกับการดูอีกฝ่ายที่ไม่สามารถกำจัดเขาได้

เนื่องจากอีกฝ่ายเป็นพระเอก ดังนั้นพระเจ้าจึงมักเข้าข้างเขาเสมอ

หลินเป่ยฝานในฐานะตัวร้าย หากไม่จับตาดูตัวเอกให้ดี อาจพลาดท่าถูกอีกฝ่ายโต้กลับได้

ถึงตอนนี้เขาจะยังได้เปรียบ แต่ก็จำเป็นต้องเฝ้าระวังไว้

และเมื่อมาถึง เขาก็พบว่าศิษย์พี่ของเซียวเฉินกำลังอยู่ในห้อง พร้อมนำเข็มชุดใหม่มาด้วย

ดูก็รู้ว่าเตรียมมาเพื่อรักษาเซียวเฉิน

“จริงด้วยสิ วันนี้ฉันยังไม่ได้ขอพรเลย” หลินเป่ยฝานหัวเราะเบาๆ ประสานมือเข้าด้วยกัน อธิษฐานอย่างผู้ศรัทธา “ระบบอันยิ่งใหญ่เอ๋ย ได้โปรดฟังความปรารถนาของฉัน วันนี้! ฉันขอพรให้ ...”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด