ตอนที่แล้วตอนที่ 145 โชว์หวานในทุกวัน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 147 ผู้ยั่วยุ

ตอนที่ 146 มีบางอย่างเกิดขึ้นที่บาร์


“ได้อยู่ แต่ฉันไม่ค่อยได้ดื่มมาก..”

“แล้วทำไมอยู่ดีๆ คุณถึงถามเรื่องนี้ล่ะ?”

เซี่ย ซินเหยา ถามอย่างสงสัย

“เมื่อเร็วๆ นี้ ผมเพิ่งซื้อร้านกาแฟบนถนนการค้าเหม่ยเจียมา”

“ตอนแรกคิดว่าถ้าคุณชอบดื่มกาแฟ ผมก็ว่าจะพาคุณไปดื่มดูว่าร้านกาแฟนี้เป็นอย่างไร ..จะได้ขอให้คุณช่วยประเมินด้วย”

ซูเหวิน ก็ไม่คิดปิดบัง เขาพูดออกไปตรงๆ

แม้ปากเขาจะพูดออกไปแบบนี้ แต่ในใจของเขานั้นกลับเป็นอีกความคิดหนึ่ง

ท้ายที่สุดแล้ว เราสามารถดื่มกาแฟได้ทุกที่?

เพียงแค่ความหมายของร้านกาแฟแห่งนี้ ..แตกต่างออกไป

มันได้มาเพราะการจูบกันครั้งแรกของ ซูเหวิน และเซี่ย ซินเหยา

แม้เรื่องระบบเขาจะพูดบอกมันออกไปไม่ได้

และถึงแม้เขาจะพูดออกไป ก็คงไม่มีใครเชื่อคุณ…

แต่เขาก็ยังหวังว่า เซี่ย ซินเหยา จะสามารถไปดูร้านกาแฟแห่งนี้ และเห็นถึงการมีอยู่ของมันได้

และสิ่งที่ทำให้ ซูเหวิน คาดไม่ถึงคือ..

ทันทีที่เขาเพิ่งพูดจบไป เซี่ย ซินเหยา ก็พูดขึ้น

“โอเค! งั้นเราไปดูกันเถอะ!”

“ฉันจะได้ลองชิมกาแฟจากร้านที่คุณเพิ่งซื้อมาใหม่ด้วย”

เซี่ย ซินเหยา กล่าวขึ้นขณะกินเนื้อแดดเดียวไปพลาง

เอาตรงๆ เวลานี้เธอจะไม่แปลกใจอีกต่อไปเมื่อได้ยินว่า ซูเหวิน ซื้อบริษัท หรือกิจการแห่งหนึ่ง

แล้วนับประสาอะไรกับธุรกิจขนาดเล็กๆ อย่างร้านกาแฟ และร้านอาหาร

ทันทีหลังจากนั้น เซี่ย ซินเหยา ก็พูดขึ้นอีกครั้ง

“เอาล่ะ ฉันสามารถไปดื่มกาแฟกับคุณก็ได้ แต่คุณจะต้องยอมรับเงื่อนไขข้อหนึ่งก่อน..”

“เงื่อนไขอะไร?”

ซูเหวิน ยิ้มแล้ว และเขาพูดขึ้นอย่างอยากรู้อยากเห็นมาก

เขารู้สึกว่าตั้งแต่ที่เขาคบกับ เซี่ย ซินเหยา

ทำไมสาวน้อยคนนี้ถึงเลวร้ายลงเรื่อยๆ อย่างนี้..ได้ยังไงกัน?

“อืม...ขอฉันคิดก่อนนะ”

“เช่น.. คุณบีบไหล่ ทุบขาให้ฉัน ส่งวิดีโอ หรือร้องเพลงอะไรก็ได้ให้ฉันฟังก่อนเข้านอน”

เซี่ย ซินเหยา ทำท่าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูด

พอคำพูดนี้หลุดออกมา แม้แต่ ซูเหวิน ก็เกือบจะฮาลั่นแทบกลั้นไม่อยู่จริงๆ

ให้ตายสิ.. ไม่เป็นไรหากจะให้บีบไหล่ ทุบขา เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย

เขาสามารถบีบนวดให้กับเธอได้ทุกวัน

แต่แค่การร้องเพลงให้ เซี่ย ซินเหยา ฟังก่อนเข้านอนเนี่ย มันไม่ใช่ว่าอับอายขายหน้าเกินไปหน่อยหรือ?

ถ้าเพื่อนร่วมห้องของเขาได้ยินเข้า นี่ไม่ใช่ว่าเขาจะถูกหัวเราะเยาะเย้ยไม่รู้จบหรือยังไง?

“อะแฮ่ม เอ่อ.. ผมร้องเพลงกล่อมนอนที่ว่านี้ไม่เป็น!”

“และอีกอย่างตอนเข้านอนตอนกลางคืน เพื่อนร่วมห้องก็ต้องพักผ่อนด้วย มันออกจะดูเป็นการรบกวนพวกเขา ถูกต้องไหม?”

ซูเหวิน รีบคิดหาเหตุผลต่างๆ นาๆ เพื่อพยายามหลบหนีออกจากเรื่องนี้

“คุณไม่จําเป็นต้องเป็น แค่ร้องเพลงที่คุณรู้จัก หรือฮัมเพลงสักสองสามคำ ถ้าไม่ได้ก็พูดคำว่ารักสักสองสามคำ~”

“อีกอย่าง ฉันก็ไม่ได้บอกเสียหน่อยว่าจะให้คุณร้องเพลงให้ฉันฟังที่มหาลัย รอถึงวันหยุดสุดสัปดาห์เมื่อคุณกลับบ้าน ค่อยส่งคลิปวิดีโอมาให้ฉันตอนกลางคืนก็ได้~(ยิ้มหวาน)

เซี่ย ซินเหยา พลางยิ้มขึ้นอย่างซุกซน โดยไม่ยอมปล่อยให้ ซูเหวิน หลอกโดยง่ายๆ แบบนี้

เป็นไปตามคาด พอคําพูดนี้หลุดออกมา ซูเหวิน ก็พ่ายแพ้แล้ว

เขาอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปหยิกแก้มอันบอบบาง ดูนุ่มนิ่มของ เซี่ย ซินเหยา แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า : “โอเค ผมไม่มีทางเอาชนะคุณได้เลย ได้ผมรับปาก”

“ต่อไปในวันหยุดสุดสัปดาห์ ผมสัญญาว่าจะส่งวิดีโอให้กับคุณทุกคืน”

ซูเหวิน ให้สัญญาแล้ว

เมื่อเห็น ซูเหวิน ยอมรับคําขอของเธอแล้ว เซี่ย ซินเหยา ก็อดไม่ได้ที่จะมีความสุขในใจ

“อื้มๆ ก็พอได้อยู่ งั้นฉันจะจุ๊บอีกครั้งเป็นรางวัลให้สำหรับคุณ~”

ขณะที่เธอพูดก็โน้มตัวไปทาง ซูเหวิน

ครั้งนี้เธอไม่ใช่ว่าจุ๊บไปที่แก้ม แต่เป็นริมฝีปากของ ซูเหวิน

แต่เนื่องจากเป็นช่วงกลางวัน จึงต้องคำนึงถึงภาพลักษณ์

เธอจึงทำราวกับแมลงปอแตะผิวน้ำ(เบาๆ) จูบแบบตื้นๆ เพื่อแสดงออกถึงความสุขภายในใจของตัวเองเท่านั้น

ถึงกระนั้น.. ก็เพียงพอแล้วที่จะทําให้ ซูเหวิน ชะงัก และใจสั่นไปเล็กน้อย

ซึ่งเขาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ

สาวน้อยคนนี้.. นับวันยิ่งเรียนรู้ที่จะยั่วใจผู้คนได้เก่งมากขึ้นจริงๆ

แต่สิ่งที่ ซูเหวิน ไม่รู้ก็คือ ร้านกาแฟของเขายังไม่ได้รับช่วงต่อเลย  บาร์ของเขาก็เกิดเรื่องขึ้นก่อนล่วงหน้าแล้ว

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว พริบตาเดียวก็มาถึงช่วงเวลาทุ่มกว่าๆ

เช่นเดียวกับนอกมหาวิทยาลัย ที่เป็นไปอย่างคึกคักมากโดยเฉพาะช่วงหนึ่งทุ่ม

ยิ่งบริเวณสนามกีฬาจะมีนักศึกษามากมายมารวมตัวกันที่นี่ บ้างพูดคุย บ้างร้องเพลง หรือบ้างจัดกลุ่มทำกิจกรรมเล็กๆ ของตัวเอง

ซูเหวิน กลับไปอาบน้ำเสร็จนานแล้ว และตอนนี้เขากำลังเดินเล่นอยู่กับ เซี่ย ซินเหยา ที่สนามกีฬาภายในมหาลัยไปพลางขณะดื่มชานม

เป็นจังหวะที่ ซูเหวิน กำลังเพลิดเพลินกับช่วงเวลาดีๆ

ในทันใดนั้นเอง โทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น

ซูเหวิน หยิบโทรศัพท์ออกมาดู เป็นสายโทรเข้ามาจาก ผู้จัดการจ้าว ของ แฮปปี้บาร์

พอเห็นหมายเลขนี้ ซูเหวิน ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว

เขาจำสิ่งที่ ผู้จัดการจ้าว เคยพูดเอาไว้ได้ ..ตอนเขาเข้ารับช่วงต่อบาร์

ผู้จัดการจ้าว เคยพูดว่าบาร์ของเขาไม่สงบสุขนัก มักจะมีคนมาสร้างปัญหา

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็รีบรับโทรศัพท์

และความจริงมันก็เป็นไปตามคาด..

ทางโทรศัพท์ มีเสียงกระตือรือร้นของ ผู้จัดการจ้าว ดังขึ้นมาทันที

“เถ้าแก่ซู ไม่ดีแล้ว”

“พวกอันธพาลที่ผมบอกคุณก่อนหน้านี้ มาที่นี่อีกแล้ว”

“วันนี้พวกนี้ดื่มไปไม่น้อย และเริ่มก่อเรื่องกันอีก ทุบตีทำลายข้าวของไปไม่น้อยจนแทบไม่ต้องพูดถึงมัน แถมเต็มไปด้วยทัศนคติที่หยิ่งผยอง ซึ่งเรื่องนี้มันส่งผลกระทบร้ายแรงต่อธุรกิจบาร์ของเรา…”

ผู้จัดการจ้าว รีบกล่าวทันที

ฟังเสียงนี้คุณก็รู้แล้วว่านี้เป็นสถานการณ์เร่งด่วนขนาดไหน

“อืม เรื่องนี้ผมรู้แล้ว”

“คุณลองพูดคุยกับพวกเขาให้สงบก่อน และเดี๋ยวผมจะรีบไป”

ดวงตาของ ซูเหวิน มืดลง เขาพูดช้าๆ อย่างสงบก่อนจะวางสายไป

“เกิดอะไรขึ้น?”

เมื่อเห็น ซูเหวิน ดูแปลกๆ ไป เซี่ย ซินเหยา จึงอดไม่ได้ที่จะสงสัย

“มีบางอย่างเกิดขึ้นที่บาร์.. ภายใต้ชื่อของผม มีกลุ่มอันธพาล มาสร้างปัญหา และผมต้องไปดูหน่อย”

ซูเหวิน ไม่คิดจะโกหก เขาพูดออกไปตรงๆ

“คืนนี้ผมขอโทษที่คงอยู่กับคุณต่อไม่ได้ เอางี้คุณกลับไปที่หอพักก่อนดีไหม และคืนพรุ่งนี้ผมจะอยู่กับคุณเป็นยังไง?”

ซูเหวิน กล่าวด้วยความรู้สึกเสียใจ

จากนั้นเขาก็ก้าวไปข้างหน้ากอด เซี่ย ซินเหยา เพื่อปลอบเธอทันที

แต่สิ่งที่ทําให้ ซูเหวิน ประหลาดใจ ..ก็คือ

หลังจาก เซี่ย ซินเหยา ฟังคําพูดของเขาแล้ว เธอไม่เพียงแต่จะไม่ตอบรับคําขอของเขา เธอกลับขมวดคิ้วแล้วพูดว่า : “ไม่ ฉันจะไปกับคุณ”

เซี่ย ซินเหยา กล่าวขึ้นทันที

น้ำเสียงนั้นยังแฝงด้วยความมุ่งมั่นมาก

“คุณจะไปด้วย?” ซูเหวิน ประหลาดใจแล้ว

“อืม ให้ฉันไปกับคุณด้วยนะ!”

เซี่ย ซินเหยา เงยหน้าขึ้นจ้องมองคนตรงหน้าด้วยดวงตาที่สั่นไหว ..อย่างคาดหวัง

แม้ว่าเธอจะอยู่กับ ซูเหวิน มานานกว่าสองเดือนแล้ว และรู้ว่า ซูเหวิน มีทักษะที่ยอดเยี่ยม

แต่เมื่อคิดว่า ซูเหวิน กําลังเผชิญหน้ากับกลุ่มอันธพาล เซี่ย ซินเหยา ก็ยังคงเต็มไปด้วยความกังวล

ท้ายที่สุด กลุ่มคนประเภทนี้รับมือได้ง่ายๆ เสียที่ไหน?

เซี่ย ซินเหยา เธอจะไม่รู้สึกเป็นกังวลไปได้ยังไง?

เมื่อมองสายตาของ เซี่ย ซินเหยา ที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง ซูเหวิน จะปฏิเสธคําขอของอีกฝ่ายได้อย่างไร?

จากนั้นเขาจึงยกยิ้มขึ้นอย่างจนใจ จับมือของ เซี่ย ซินเหยา แล้วพูดว่า : “โอเค งั้นเราไปด้วยกัน!”

“อื้ม แบบนี้สิถึงจะถูกต้อง!”

เมื่อเห็น ซูเหวิน เห็นด้วยกับคําขอของเธอ เซี่ย ซินเหยา เธอก็พูดพร้อมกับส่งยิ้มให้กับเขาอย่างมีความสุขทันที

ซูเหวิน แอบถอนหายใจอย่างลับๆ ในใจ

ผู้หญิงคนนี้นี่จริงๆ เล้ยยย

ทุกสายตาของเธอช่างสั่นหัวใจของเขาได้จริงๆ

เขาควรทำอย่างไรกับตัวเองดี นี่เขาเพิ่งคบหากับ เซี่ย ซินเหยา ได้เพียงไม่กี่วัน

แต่ดูเหมือนชั่วชีวิตนี้ของเขาคงถูกอีกฝ่ายจับเอาไว้แน่นจนไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะดิ้นหลุดได้เลย..

หลังจากทั้งคู่ดื่มชานมที่เหลือเล็กน้อยจนหมด พวกเขาก็จับจูงมือกันเดินไปที่ลานจอดรถโดยไม่สนใจสายตาของทุกคนที่หยุดยืนอยู่โดยรอบ…

บริเวณใกล้กับถนนวงแหวนรอบสาม

ถนนอยวี่ฮว๋า แฮปปี้บาร์

แฮปปี้บาร์ ในฐานะที่เป็นบาร์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 7 ของเมืองม่อ ต้องบอกว่ามันมีความหรูหราพอจริงๆ

และเนื่องจากทำเลที่ตั้งยังค่อนข้างเจริญรุ่งเรือง

ซึ่งในทุกวันก็มีลูกค้าหลั่งไหลเข้ามาที่นี่อย่างล้นหลามอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

โดยพื้นฐานแล้ว ย่อมทำกําไรได้นับหมื่น หรือหลายหมื่นหยวนในแต่ละวัน

แต่ว่า ต้นไม้ใหญ่นั้นย่อมต้องลม(1)..

เนื่องจากบาร์แห่งนี้มีคนจํานวนมากทุกวัน และสะดุดตาของผู้คนมากมายเกินไป ดังนั้นบ่อยครั้งจึงพบคนที่จงใจยั่วยุ และก่อปัญหา

เหมือนกับวันนี้…

เห็นได้ชัดว่านี้เป็นช่วงเวลาที่มีชีวิตชีวาที่มีการทั้งร้องทั้งเต้นอย่างสนุกสนานกันในบาร์

แต่เพราะพวกนักเลงอันธพาลในท้องถิ่นที่หยิ่งผยองพวกนี้ กลับจงใจสร้างปัญหา โดยบันดาลโทสะออกมาอย่างรุนแรง

ทำให้ลูกค้าในที่เกิดเหตุต่างแตกตื่น ตัวสั่น ไม่กล้าร้อง และเต้นอีกต่อไป โดยเกรงว่าหากเสียงดังไป อาจทำให้อีกฝ่ายเกิดความไม่พอใจขึ้นมา..

(1)[ต้นไม้ใหญ่นั้นย่อมต้องลม (树大招风)] - คนที่มีชื่อเสียงเงินทอง มักจะดึงดูดคนได้ง่าย และนำมาซึ่งปัญหามากมายได้ง่ายเช่นกัน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด