ตอนที่แล้วบทที่ 29 พวกนี้ไม่ได้เรื่องซักคน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 31 หาเงินจากโรงเรียน!

บทที่ 30 เชิญท่านปรมาจารย์น้อย


อาจารย์หัวหน้าแผนก หวังไห่พูดอย่างลำบากใจพลางยักไหล่ "คุณยายบอกว่าช่วยจองคิวไว้ให้แล้ว จองได้ที่คิวที่ 87 เธอบอกว่าท่านปรมาจารย์น้อยไม่ได้ดูดวงทุกวัน ต้องขึ้นอยู่กับอารมณ์ของเธอ อย่างเร็วที่สุดก็คงต้องรอไปอีกอย่างน้อยสองเดือนกว่าจะถึงคิวพวกเรา"

หวังชิงเฟิงร้อนใจจนเกือบจะตบมือ "กรณีของพวกเราไม่เหมือนกัน เราจะให้แก้ฮวงจุ้ย ไม่ใช่ดูดวงธรรมดา พวกเราจ่ายเงินมากกว่านะ!"

อ้วนหวังที่ยืนอยู่ข้างๆ ได้ยินแล้วทำท่าครุ่นคิด "จะให้เท่าไหร่ล่ะ?"

หวังชิงเฟิงกัดฟันกระทืบเท้า "ถ้าจัดการไม่ได้ จ่ายค่าเสียเวลาสองพันอย่างวันนี้ก็ได้ แต่ถ้าทำให้ฮวงจุ้ยของโรงเรียนกลับมาปกติได้ ผมจะให้หนึ่ง...หมื่น...?" พอเห็นสีหน้าของอ้วนหวังกับหวังไห่ยากจะอธิบายได้ หวังชิงเฟิงก็แทบจะร้องไห้ "หรือผมให้น้อยไป ควรให้เท่าไหร่ดีล่ะ?"

"ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน" หวังไห่พยายามนึกทวนความจำ "ผมเคยได้ยินว่าเศรษฐีหม่าจากหังโจวเชิญคนมาดูฮวงจุ้ยให้หลายสิบล้านเลยนะ!"

หวังชิงเฟิงกุมหน้าอกแน่นเกือบจะอาเจียนเลือด "พวกเราเทียบกับเศรษฐีไม่ได้หรอก เขามีทรัพย์สินเป็นหลักพันล้าน แล้วการเชิญท่านปรมาจารย์มาด้วยราคาขนาดนี้ คณะกรรมการคงไม่ตกลงแน่" หวังชิงเฟิงลูบศีรษะเป็นมันปลาบของตัวเองพลางตัดสินใจ "เราจ่ายหนึ่งหมื่นห้าพัน!"

อ้วนหวังคิดดูแล้วว่าราคานี้โอเคอยู่ ยังไงสำหรับท่านปรมาจารย์น้อยมันก็ไม่ได้เสียเวลาสักเท่าไหร่!

หวังชิงเฟิงพูดจบก็ลากหวังไห่เดินออกไปข้างนอก "ฉันจะไปขอวิธีติดต่อท่านปรมาจารย์น้อยจากคุณยายที่บ้านของคุณ"

อ้วนหวังก่อนจะมาได้ทักท้วงกับหลินชิงอิ่น แต่เธอก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องให้ข้อมูลการติดต่ออะไรเลย อ้วนหวังก็ทำเป็นไม่ได้ยิน เขาเดินไปหาเต๋าจาง ชินแล้วแลกวีแชทกัน

เจ้าหน้าที่การเงินเอาซองเงินสองพันหยวนใส่ในซองมาสี่ใบ แจกให้กับสี่ท่านปรมาจารย์ที่มา ซองที่เหลือนั้นเป็นของหวังจินหางที่บอกไม่รู้ทิศตะวันออกตะวันตกใต้เหนือ แต่สุดท้ายเขาก็โดนตบหน้ากลับไปพร้อมน้ำตา ก็เลยประหยัดไปได้สองพัน

เนื่องจากเรื่องของโรงเรียนในตอนนี้แก้ไขอะไรไม่ได้ชั่วคราว คนทั้งหมดจึงเดินคุยกันอึกทึกพากันออกจากโรงเรียนกลับบ้าน พอเดินออกมาถึงระเบียงทางเดินยาว ยามที่ยืนอยู่หน้าประตูอาบแดดอยู่เห็นเข้าก็เลยกดปุ่มระบบเปิดประตูโรงเรียน ประตูใหญ่ค่อยๆ เปิดออก

"วันนี้ต้องขอบคุณท่านปรมาจารย์ทั้งหลาย" หวังชิงเฟิงหันไปพูดกับอ้วนหวังกับ เต๋าจาง ชินอย่างสุภาพ ยังไงก็จ่ายเงินไปแล้ว พูดคำขอบคุณสองประโยคก็ไม่เสียอะไรเพิ่ม ไม่แน่ต่อไปถ้ามีอะไรอาจจะใช้ความสัมพันธ์นี้ได้

ขณะกำลังพูดกันอยู่ จู่ๆ ก็มีเสียงตะโกนดังขึ้นมาจากทางประตูใหญ่ ทุกคนหันไปมองก็เห็นผู้ชายวัยสามสิบกว่าคนหนึ่งกำลังฉวยกระเป๋าผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งเข้ามาทางประตูโรงเรียนอย่างรวดเร็ว เขาเข้ามาในโรงเรียนแล้วยังชะเง้อมองไปรอบๆ พอเห็นมีคนยืนอยู่อีกฝั่งก็รีบวิ่งหนีไปทางตรงข้าม

คนทั้งหมดจ้องมองตาค้างกับเหตุการณ์ที่เห็น แล้วก็มีตำรวจสองนายวิ่งเข้ามาจากหน้าประตูโรงเรียน พลางตะโกนใส่ "หยุดนะ! รีบหยุดเดี๋ยวนี้!"

อ้วนหวังรีบพูดขึ้นมาทันที "คนข้างหน้านั่นคงจะฉกกระเป๋าผู้หญิงคนนั้นมา เขาวิ่งเข้ามาที่นี่ทำไมกัน นี่มันการเข้าถ้ำเสือชัดๆ!"

หวังชิงเฟิงกำลังจะถามว่าทำไมถึงเป็นการเข้าถ้ำเสือ แต่ก็เห็นโจรกระเป๋าผู้นั้นหันหลังมองตำรวจที่ไล่ล่าเขามา แต่ไม่ทันระวังแนวรั้วต้นไม้สูงยี่สิบเซนติเมตรที่อยู่ริมสนาม เขาจึงสะดุดล้มลอยขึ้นไปกระแทกกับต้นไม้อย่างแรงจนสลบไป

ต้นไม้ใหญ่ที่มีลูกละมุดประดับเต็มไปหมดสั่นไหวไปมา ละมุดสุกร่วงหล่นจากต้นลงมาเป็นพรวน ตกใส่โจรกระเป๋าที่นอนแน่นิ่งอยู่

สองตำรวจวิ่งมาถึงแล้วยืนหอบหายใจหนักอยู่นอกขอบสนาม หวังชิงเฟิงก็รีบวิ่งไปทักทายพลางพูดด้วยท่าทางกระวนกระวาย "ท่านตำรวจครับ ผมเป็นอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนมัธยมตงฟางกั๋วจี่ นี่..." เขาชี้ไปที่โจรที่นอนสลบด้วยสีหน้าอยากจะร้องไห้ "เขามาล้มสลบที่โรงเรียนผมแบบนี้ ผมไม่ต้องจ่ายเงินชดเชยอะไรใช่ไหมครับ?"

"ไม่ต้องๆ!" ตำรวจโบกมือ "เรื่องนี้ให้พวกเราจัดการเอง"

ขณะกำลังคุยอยู่ ผู้หญิงคนหนึ่งวัยราวๆ สามสิบก็วิ่งหอบมา พอเห็นโจรที่นอนแน่นิ่งก็ร้องไห้ด้วยความตกใจ "ฉันถอนเงินมาหนึ่งแสน แค่เพิ่งก้าวออกจากธนาคารไอ้บ้านี่ก็ฉวยเอาไป ถ้าคุณไม่บังเอิญผ่านมา ฉันคงไม่มีทางได้เงินคืนแน่"

"ไม่เป็นไรครับ นี่เป็นหน้าที่ของพวกเรา" ตำรวจเดินไปที่ข้างตัวโจร หยิบกระเป๋าคืนให้เจ้าของ "คุณนับเงินดูว่าครบไหม แล้วรบกวนไปที่สถานีตำรวจเพื่อให้ปากคำด้วยนะครับ ส่วนคนนี้..." ตำรวจมองอย่างปวดหัว "ดูเหมือนจะกระแทกแรงมาก เรียก รถพยาบาลให้เขาดีกว่า เดี๋ยวไปล้มที่สถานีอีกจะวุ่นวาย"

ตำรวจทั้งสองโทรเรียก 120 แล้วหันมามองหวังชิงเฟิงที่ยืนอยู่อีกด้าน ขอบคุณซ้ำแล้วซ้ำเล่า "โชคดีจริงๆ ที่โรงเรียนคุณมีรั้วเตี้ยๆ อยู่นอกขอบสนาม ไม่อย่างนั้นเราคงจับเขาไม่ได้ง่ายๆ แน่"

หวังชิงเฟิงแย้มยิ้มอย่างยากลำบาก จะให้บอกว่าโรงเรียนเรามีฮวงจุ้ยดีคุณเชื่อไหม?

ห้านาทีต่อมา ตำรวจเสริมกำลังก็มาถึง รถพยาบาลก็มาถึงโรงเรียนพร้อมเสียงไซเรนดังลั่น ตำรวจไม่กี่นายคุมตัวโจรที่หมดสติไปโรงพยาบาล ส่วนที่เหลือไปสถานีตำรวจเพื่อสอบปากคำผู้เสียหาย

มองไปที่โรงเรียนที่กลับมาเงียบสงบอีกครั้ง อ้วนหวังหัวเราะ "ผมบอกแล้วไงว่าโรงเรียนพวกคุณนี่ฮวงจุ้ยดีจริงๆ คนที่ทำชั่วอย่างนี้เข้ามาในโรงเรียนพวกคุณ อย่าหวังว่าจะเดินออกไปได้"

หวังชิงเฟิงอยากจะร้องไห้ "โรงเรียนเราเนี่ยนะมีฮวงจุ้ยดี?"

---

หลังจากแยกจากเหล่าท่านปรมาจารย์ที่ประตูโรงเรียน อาจารย์หัวหน้าแผนกหวังไห่ก็ขับรถพาหวังชิงเฟิงไปบ้านพ่อแม่ของเขา สองตายายกำลังดูข่าวท้องถิ่นอยู่พอดี พอเห็นหวังไห่กลับมาก็แปลกใจ "เธอไม่ใช่ว่าจะไม่มาสัปดาห์นี้เหรอ?"

หวังไห่รีบพูดทันที "ผมกลับมาครั้งนี้เพื่อเรื่องของโรงเรียนครับ พ่อ แม่ นี่คือผู้อำนวยการโรงเรียนของผม พวกเรามาครั้งนี้ก็อยากจะขอเบอร์ติดต่อของท่านปรมาจารย์น้อยน่ะครับ"

"ตอนนี้รู้ตัวแล้วสินะอยากจะรีบติดต่อท่านปรมาจารย์น้อย เมื่อก่อนไม่ใช่ยังพูดเลยว่าเธอเป็นพวกหลอกลวงน่ะ" ป้าหวังแขวะหวังไห่ทีนึง จากนั้นก็หยิบแว่นสายตาออกมาจากลิ้นชักตรงโต๊ะกาแฟใส่ "ผอ.หวัง นั่งก่อนเถอะ แม่ตาไม่ค่อยดี ต้องค่อยๆ หาให้นะ"

กำลังคุยกันอยู่จู่ๆ สถานีทีวีท้องถิ่นก็รายงานข่าว มีผู้หญิงคนหนึ่งอายุประมาณ 50 ลักพาทารกชายอายุไม่กี่เดือน พอด้ามีกล้องวงจรปิดตามบ้านและในหมู่บ้าน พยานหลักฐานมัดตัวชัดเจน แม่ของเด็กนามสกุลหลี่ก็ไปแจ้งความให้จับผู้ต้องสงสัยมาลงโทษตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด จากนั้นภาพก็ตัดไปที่ผู้ต้องสงสัยบอกว่าตัวเองเป็นคุณยายแท้ๆ ของเด็ก...

เรื่องราวเข้มข้นปนฉากสืบสวนสอบสวนทำเอาทุกคนจดจ้องไปที่จอทีวี แม้แต่หวังชิงเฟิงที่ไม่ค่อยสนใจก็ยังเงยหน้าขึ้นมามอง จากนั้นภาพก็เปลี่ยนไปที่แม่ของเด็กที่กำลังอุ้มลูกชายร้องไห้เล่าถึงเรื่องที่เกิดขึ้น...

ป้าหวังตบขาดังแป๊ะ ร้องเสียงดังด้วยความตื่นเต้น "นี่มันคนที่มาดูดวงกับท่านปรมาจารย์น้อยใช่ไหม ชื่อหลี่หยู่ซวงนี่นา! ท่านปรมาจารย์น้อยทายถูกจริงๆ ด้วย ไม่งั้นเด็กคนนี้ต้องหายไปแน่ๆ"

หวังชิงเฟิงได้ยินว่าท่านปรมาจารย์น้อยทำนายได้ก็กระตือรือร้นขึ้นมาทันที เขาอยากรู้มากเลยว่าแท้จริงแล้วท่านปรมาจารย์น้อยจะเก่งจริงหรือป่าว เขาไม่อยากจะขอร้องคนมาแล้วมาเจอแบบเมื่อเช้านี้ เหนื่อยเปล่า

หวังไห่ก็คิดแบบเดียวกัน ในเมื่อคนคนนี้เขาเป็นคนแนะนำ เขาก็กลัวจะเสียหน้าถ้าได้คนไม่ดีมา

ป้าหวังตอนนี้กลายเป็นแฟนคลับตัวยงของท่านปรมาจารย์น้อย ทุกครั้งที่ท่านปรมาจารย์น้อยดูดวง เธอก็จะวิ่งไปดูเสมอ เล่าเรื่องนี้ได้อย่างคล่องแคล่ว "คนที่ชื่อหลี่หยู่ซวงนี่เกิดมาก็ถูกแม่แท้ๆ ทิ้งตั้งแต่เด็ก ตอนโตมีแม่บุญธรรมรับไปเลี้ยงเหมือนลูกแท้ๆ ตอนนี้เธอแต่งงานมีลูกแล้ว แม่แท้ๆ ก็กลับมาหาจะขอคืนดี หลี่หยู่ซวงรู้สึกหวาดระแวงอยู่ตลอด ก็เลยมาปรึกษากับท่านปรมาจารย์น้อย อยากให้ช่วยดูว่าแม่แท้ๆ กลับมามีจุดประสงค์อะไร

ตอนนั้นท่านปรมาจารย์น้อยใช้เปลือกเต่าเสี่ยงทายได้ว่า แม่แท้ๆ มีลูกชายอีกคน เพิ่งหย่าร้างและลูกก็ตาย ชาตินี้คงต้องอยู่คนเดียวไปจนแก่ตาย แล้วยังทำนายอีกว่าลูกชายของหลี่หยู่ซวงมีดวงไม่ดี เหมือนนกน้อยที่รังแตก ท่านปรมาจารย์คาดเดาว่าแม่แท้ๆ ของเธอมาเพื่อหวังจะลักพาตัวลูกชายของหลี่หยู่ซวงไป

หลี่หยู่ซวงขอบคุณท่านปรมาจารย์มากแล้วก็จากไป เนื่องจากเธอไม่ได้อยู่ในกลุ่มเราด้วย เราเลยไม่รู้เรื่องต่อมาที่เกิดขึ้น ฉันกำลังจะตามไปถามไถ่เหมือนกัน คิดไม่ถึงว่าจะมีข่าวออกมา"

ป้าหวังมองกล้องวงจรปิดที่ฉายบนโทรทัศน์แล้วหัวเราะเสียงดัง "หลี่หยู่ซวงต้องเตรียมพร้อมไว้แน่ๆ แล้ว คอยจับผิดอยู่นั่นเอง ยัยแก่ไร้ยางอายนี่ สมควรโดนจับไปขังซะแล้ว"

ข่าวบอกว่าตำรวจได้ประวัติการแชทระหว่างผู้ต้องสงสัยกับลูกชายของเธอแล้ว คดีนี้ยังอยู่ในระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติม

หวังไห่เปิดวีแชทค้นหาบัญชีสาธารณะของสื่อข่าวท้องถิ่นไม่กี่แห่ง ก็พบรายงานข่าวอย่างละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้จริงๆ ว่ากันว่าผู้ต้องสงสัยกลัวว่าลูกชายจะแก่ตัวลงแล้วไม่มีหลานมาดูแล จึงคิดจะลักพาตัวเด็กกลับมาสักคน จะลักเด็กของใครก็เหมือนกัน ยังไงก็เป็นการลักพา แต่ถ้าลักพาเด็กที่มีสายเลือดเดียวกันมา ก็เหมือนเป็นเด็กในกระดูกของตัวเอง ดังนั้นเธอจึงตามหาจากความทรงจำเก่าๆ ที่ทิ้งลูกไว้ แล้วตามมาถึงฉีเฉิง สืบเสาะหาบ้านเก่าของแม่บุญธรรมของหลี่หยู่ซวงจากข้อมูลที่เคยสืบมา แล้วเรื่องราวต่อมาก็เกิดขึ้น

ผู้อำนวยการหวังก็เข้าไปดูในบัญชีสาธารณะอีกสองสามอัน ข้อมูลข้างในก็ไม่ต่างจากที่สองผัวเมียเล่ามานัก พอได้ยินแบบนี้ก็วางใจได้มากขึ้น ดูเหมือนว่าท่านปรมาจารย์น้อยคนนี้จะมีวิชาดีจริงๆ

ป้าหวังไม่ต้องดูบัญชีสาธารณะ เธอรู้เรื่องซุบซิบมากกว่าที่ลงในบัญชีสาธารณะอีก ถึงอย่างไรเวลาพูดกับสื่อ หลี่หยู่ซวงก็คงไม่พูดหรอกว่าเธอไปให้คนดูดวงล่วงหน้าจนรู้เรื่องนี้มาก่อน

ป้าหวังชูคอขึ้นอย่างองอาจ หันมามองหวังไห่อย่างผยองด้วยแววตาวาววับ "นายไม่ใช่เหรอที่บอกว่าป้ากับพ่อของนายเจอพวกหลอกลวง? ตอนนี้เชื่อหรือยัง!"

"เชื่อครับๆ! ผมเชื่อแล้ว!" หวังไห่ปวดหัวจี๊ดขึ้นมาเลย "แล้วถ้าผมไม่เชื่อจะกล้าแนะนำท่านปรมาจารย์น้อยให้ผู้อำนวยการของเราได้ยังไง! แม่ ค้นเจอหรือยัง?"

"เจอแล้ว!" ป้าหวังเปิดกลุ่มวีแชทหนึ่งแล้วส่งให้หวังไห่ "นี่เป็นกลุ่มวีแชทของท่านปรมาจารย์น้อย แต่ว่าท่านปรมาจารย์น้อยไม่ได้อยู่ในกลุ่ม ทั้งหมดเป็นผู้ช่วยของท่านปรมาจารย์น้อย คือท่านปรมาจารย์หวังช่วยจัดการ พวกคุณสามารถนัดหมายได้ผ่านวีแชทของท่านปรมาจารย์หวัง ถ้าใครจ่ายเพิ่มก็จะได้คิวไวกว่า!"

หวังไห่ส่งเสียงอุทานในลำคอสองที "แม้แต่ท่านปรมาจารย์ยังมีผู้ช่วยด้วย นี่มันเทพชัดๆ"

---

อ้วนหวังออกจากโรงเรียนแล้วก็ไม่ได้กลับบ้าน แต่ไปบ้านของหลินชิงอิ่นตรงๆ เจียงเว่ยกำลังสอนพิเศษหลินชิงอิ่นอยู่พอดี พอเห็นอ้วนหวังก็พากันหัวเราะ "วันนี้ท่านปรมาจารย์ที่ผู้อำนวยการหวังเชิญมา เป็นยังไงบ้างล่ะ?"

อ้วนหวังดื่มน้ำแร่ครึ่งขวดรวดเดียวแล้วเช็ดปาก หัวเราะพลางว่า "ก็มีเต๋าจาง ชิน ดูพอจะเป็นเรื่องเป็นราวหน่อย ที่เหลือนี่ยังไม่เท่าผมเลย!"

ขณะกำลังคุยกันอยู่ ข้อความของหวังไห่ขอเพิ่มเพื่อนวีแชทก็ส่งเข้ามา อ้วนหวังมองโทรศัพท์มือถือแล้วหันไปขอคำแนะนำจากหลินชิงอิ่น "ท่านปรมาจารย์น้อย ผู้อำนวยการโรงเรียนพวกคุณบอกนะ จะจ่ายหนึ่งหมื่นห้าพันเพื่อขอให้เธอไปดู!"

"หนึ่งหมื่นห้าพันเหรอ" หลินชิงอิ่นยันคางมือ "ฉันเริ่มสนใจแล้วสิ จะทำยังไงดี?"

เจียงเว่ยหัวเราะเสียงดัง "ถ้าเป็นผม ผมก็คงสนใจนะ ท่านปรมาจารย์น้อย วงอาคมของเธอเนี่ยไม่ธรรมดาจริงๆ"

"ก็แค่เป็นแค่ผลแห่งการกระทำย้อนกลับมาสนองตอบ กฎแห่งกรรมนั่นแหละ" หลินชิงอิ่นใช้นิ้วเคาะโต๊ะ ในใจคิดบางอย่างออก "จริงๆ แล้วตอนนี้คนที่เคยทำชั่วไว้ก่อนหน้านั้นได้รับกรรมของตัวเองไปหมดแล้ว ถึงแม้ฉันจะเก็บวงอาคมนั้นไปแล้ว ดวงของพวกเขาก็คงไม่ดีอยู่ดี แค่อาจจะไม่บ่อยถี่จนต้องเข้าโรงพยาบาลเหมือนตอนนี้ ผู้อำนวยการหวังไม่ใช่คนที่ผิดดีชั่วช้านักหรอก เขาแค่ไม่อยากให้มีคนในโรงเรียนต้องเจ็บตัวเป็นจำนวนมาก"

อ้วนหวังที่นั่งตรงข้ามหลินชิงอิ่นพูดด้วยความกังวล "งั้นเธอจะไปเจอกับพวกเขาหรือเปล่า? ผู้อำนวยการโรงเรียนเธอจะเดาออกหรือเปล่าว่าเป็นวงอาคมที่เธอวางเอาไว้?"

หลินชิงอิ่นหัวเราะเบาๆ ก็มีข่าวว่าเธอเคยถูกรังแกจนคิดฆ่าตัวตาย ทางโรงเรียนเองก็รู้สึกผิดอยู่แล้ว อีกอย่างวงอาคมนี้ก็เป็นแค่วงอาคมที่ส่งเสริมความดีและปราบปรามความชั่วเท่านั้น ไม่ใช่วงอาคมร้ายกาจอะไรเลย ถึงแม้โรงเรียนจะรู้ถึงเหตุการณ์ความเป็นมาเป็นไปแล้วก็ตาม ก็ไม่มีทางจัดการเธอได้หรอก

ในเมื่อเธอเป็นเหยื่อของการถูกรังแกในโรงเรียน

หลินชิงอิ่นวางปากกาไว้บนโต๊ะ แล้วหยิบเปลือกเต่าขึ้นมา "นัดเขาตอนบ่ายโมง"

---

ได้รับโทรศัพท์จากท่านปรมาจารย์หวัง ผู้ช่วยของท่านปรมาจารย์น้อย ผู้อำนวยการหวังกับหวังไห่ดีใจสุดๆ จนพูดได้ว่าเป็นเหมือนเห็นเงินล้านอยู่ตรงหน้า ป้าหวังเห็นว่าท่านปรมาจารย์น้อยรับงานครั้งนี้ก็ดีใจไปด้วย เธอลุกขึ้นจัดเตรียมอาหารให้ทั้งสองคน "ตอนเที่ยงพวกคุณกินข้าวที่บ้านนะ พอกินข้าวเสร็จค่อยไปโรงเรียนพร้อมกัน"

หวังไห่งงเลย "แม่จะไปโรงเรียนด้วยเหรอ? ไปทำไมล่ะ? เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับแม่นะ!"

"ฉันไม่ได้เจอท่านปรมาจารย์น้อยมาตั้งหลายวันแล้ว คิดถึงเธอไม่ได้เหรอ?" ป้าหวังหันมาค้อนใส่ลูกชาย แล้วพูดด้วยท่าทางกระตือรือร้น "ดูท่านปรมาจารย์น้อยดูดวงมาตลอด ยังไม่เคยเห็นเธอเสกเวทย์มนตร์คาถาเลย ฉันต้องไปดูให้ได้"

หวังไห่ปวดขมับยิ่งกว่าเดิม กำลังจะพูดอะไรอีก ก็ได้ยินหวังชิงเฟงพูด "ไม่เป็นไรหรอก ถ้าป้าอยากไปด้วยก็ไปที่โรงเรียนด้วยกันเลย พอดีพวกเราก็ยังไม่เคยเห็นท่านปรมาจารย์น้อย ถ้าจำผิดคนก็ไม่ดีแล้ว ถึงเวลานั้นให้ป้าช่วยแนะนำให้หน่อย"

ป้าหวังตบอกตัวเองอย่างมั่นใจ "ไว้ใจป้าได้เลย"

หลังจากกินข้าวเที่ยงเสร็จ หวังไห่ก็ขับรถพาผู้อำนวยการหวังกับพ่อแม่ของตัวเองไปโรงเรียน ส่วนฝั่งหลินชิงอิ่นนั้น อ้วนหวังต้องตามไปแน่นอน นอกจากนี้เจียงเว่ยที่ว่างๆ ไม่มีอะไรทำก็ขอตามไปด้วย

ตอนเช้าหวังชิงเฟิงเรียกคนมาเป็นกองเพื่อพาท่านปรมาจารย์เดินชมโรงเรียน ตอนบ่ายเขาไม่สะดวกใจที่จะเรียกทุกคนกลับมาอีก คนอื่นๆ เพิ่งได้พักผ่อนในวันหยุดสุดสัปดาห์ไม่กี่ชั่วโมง ถ้าเอาเวลาของคนอื่นมาใช้ทั้งวันก็ดูไม่ค่อยเหมาะสมนัก แต่ถ้ามีแค่เขากับหวังไห่สองคน ก็รู้สึกเหมือนไม่ให้ความสำคัญกับท่านปรมาจารย์เท่าไหร่

หวังชิงเฟิงคิดแล้วคิดอีกสักพัก ก็เรียกหยูเฉิงเจ๋อกับหลี่เหยียนอู่มา ก็มีเหตุผลที่ว่าช่วงนี้ห้อง ม.1 ถือเป็นห้องที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด ก็เลยขอให้ท่านปรมาจารย์ช่วยดูให้ด้วยว่า ม.1 มีอะไรผิดปกติหรือพิเศษกันแน่

อ้วนหวังจอดรถไว้ที่หน้าประตูโรงเรียน เปิดประตูฝั่งคนขับลงมาเลย หวังชิงเฟิงยิ้มกว้างจนหน้าแทบแตก ยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งมองอ้วนหวังอย่างลังเล "ท่านปรมาจารย์หวัง ทำไมท่านมาอีกแล้วล่ะครับ"

ไม่ทันให้อ้วนหวังได้พูดอะไร ป้าหวังก็ยื่นมือมาตบแขนหวังชิงเฟิง "นี่คือผู้ช่วยของท่านปรมาจารย์น้อย ท่านปรมาจารย์หวัง"

"อ้าว นี่มันบังเอิญจริงๆ เลย!" หวังชิงเฟิงเดินเข้าไปจับมืออ้วนหวังทันที "ถ้ารู้ว่าเป็นแบบนี้ พวกเราคงไม่ต้องเสียเวลามากขนาดนี้หรอก จะได้นัดหมายกับท่านโดยตรงเลย"

อ้วนหวังยืนเชิดอกอย่างภาคภูมิใจ "ผมไม่กล้ารับงานใหญ่ให้เธอโดยพลการ ถ้าไม่ผ่านการอนุญาตจากท่านปรมาจารย์น้อยก่อน คุณถามผมตอนเช้า ผมก็ใช้ไม่ได้อยู่ดี"

สายตาของหวังชิงเฟิงชำเลืองมองรถของอ้วนหวัง แล้วถามด้วยน้ำเสียงคาดหวัง พลางขยี้มือ "งั้นตอนนี้ท่านปรมาจารย์น้อยตอบตกลงมาแล้วใช่ไหมครับ?"

อ้วนหวังชี้ไปที่รถ "เธอมาแล้วครับ"

เสียงพูดเพิ่งจบ เจียงเว่ยก็เปิดประตูฝั่งผู้โดยสารเดินลงมา หวังชิงเฟิงตาโตวาวเดินเข้าไปทักทายทันที "นี่ท่านปรมาจารย์น้อยใช่ไหมครับ! ทำไมดูคุ้นๆ นะ?"

หวังไห่พยักหน้าเห็นด้วย "เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลย!"

"เรื่องนี้ฉันรู้จักแหละ!" ป้าหวังผู้รู้แทบทุกเรื่องเข้าไปใกล้ๆ "เด็กหนุ่มคนนี้ชื่อเจียงเว่ย เป็นอันดับหนึ่งการสอบเข้ามหาวิทยาลัยของเมืองเรากี่ปีก่อนนู่น"

หวังชิงเฟิงเอามือตบหัวตัวเอง ถึงได้นึกออก สำหรับโรงเรียนที่มีแต่นักเรียนเกรดต่ำอย่างตงฟางกั๋วจี่แล้ว การสอบติดมหาวิทยาลัยระดับดีๆ ก็ถือว่าน้อยมาก ผู้อำนวยการหวังก็ได้แต่มองอิจฉาเด็กเก่งจากโรงเรียนอื่นๆ เขาเก็บรวบรวมข้อมูลของนักเรียนอันดับหนึ่งและนักเรียนเก่งๆ ไว้ทุกปี เพื่อเอามากระตุ้นเด็กในโรงเรียนตัวเอง เขาจึงค่อนข้างจำเจียงเว่ยได้

"โอ้โฮ ไม่เป็นอันดับหนึ่งแล้วจะเป็นใครล่ะ ความรู้กว้างขวางจริงๆ แม้กระทั่งวิชาฮวงจุ้ยยังรู้ด้วย"

ป้าหวังตบแขนหวังชิงเฟิงอีกครั้ง "คุณจำผิดแล้ว นี่ไม่ใช่ท่านปรมาจารย์น้อย"

เจียงเว่ยยิ้มแล้วพยักหน้า "ท่านปรมาจารย์น้อยเป็นผู้มีพระคุณช่วยชีวิตครอบครัวเรา วันนี้ผมก็แค่มาเป็นผู้ติดตามเท่านั้นเอง" จากนั้นเจียงเว่ยก็เดินไปเปิดประตูหลังรถให้หลินชิงอิ่น

พอเห็นดวงตาที่ส่องประกายเป็นประกายของผู้อำนวยการตัวเอง หลี่เหยียนอู่อดกุมขมับไม่ได้: ผอ. ครับ เดี๋ยวพอเจอท่านปรมาจารย์น้อยอย่าร้องไห้นะครับ!

PS: เรื่องนี้ มี 137 ตอนจบนะครับ นับว่าสั้นมาก จากที่อ่านมาจนจบ ผมเห็นว่าเป็นเรื่องที่สนุกน่าแปลเรื่องหนึ่ง จึงจับมาแปลให้พวกเราได้อ่านกัน ขอให้สนุกครับ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด