ตอนที่แล้วChapter 1470 เปลี่ยนเรื่องใหญ่ให้เป็นเรื่องเล็ก จากเรื่องเล็กจนไม่มีปัญหา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 1472 สถานะของจุนซ่างเซียว?

Chapter 1471 บิดาจะสู้กับเจ้า


เจิ้นเหรินตงกู่ไม่ได้จากไปในทันที พักอยู่เมืองโม่หยวนวันหนึ่ง.

ระหว่างนี้ เขาที่คอยสั่งสอนจุนซ่างเซียว ให้เขาเก็บเนื้อเก็บตัว ไม่ให้ออกไปหาเรื่องสนุก ไม่สร้างปัญหา จนกว่าจะผ่านนัดหมายสิบปีไปก่อน.

“เหอ เหอ เหอ.”

ระบบหัวเราะขึ้นมาทันที.

ไม่ให้ไปหาเรื่องสนุก ไม่ให้สร้างปัญหา ยังจะเรียกโกวเซิ่งอีกรึ?

“อาจารย์โปรดวางใจ!”จุนซ่างเซียวที่ยืดอกกล่าวให้คำมั่นอย่างจริงจัง“เมื่อถึงวันนัด ศิษย์จะต้องเอาชนะศิษย์ของเจิ้นเหรินกู่หงได้อย่างแน่นอน ข้าจะต้องสร้างความภาคภูมิใจให้กับอาจารย์ได้แน่!”

“อย่าดีแต่พูดล่ะ!”

เจิ้นเหรินตงกู่เอ่ยอย่างหงุดหงิด “ตอนนี้เจ้ามีระดับใดแล้ว?”

กล่าวถึงพลังบ่มเพราะรู้สึกเศร้าเป็นอย่างมาก ต้องไม่ลืมว่าเขาได้ฝึกมารให้อีกฝ่ายสองปี กับไม่ยกระดับไปถึงสองแกนด้วยซ้ำ เรื่องนี้ทำให้เขารู้สึกเสียหน้าไม่น้อย.

“เอิ่ม......”

จุนซ่างเซียวที่เกาหัวไปมา เอ่ยออกมาว่า“เพิ่งมาถึงหกแกนหมุน.”

“สองแกนอย่างงั้นรึ?”

เจิ้นเหรินตงกู่ที่รู้สึกเหนื่อยล้า คล้ายจะเป็นลมหมดสิ้นความหวัง.

เพราะคาดเดาเอาไว้ก่อนอยู่แล้ว ทำให้เขาฟังไม่ชัด.

“......”

จุนซ่างเซียวไม่ได้กล่าวย้ำอีกครั้ง ทว่าปลดปล่อยพลังบ่มเพาะหกแกนหมุนออกมา ด้วยมีพลังจิตวิญญาณเพลิงและมารหนุน ทำให้พลังของเขาหนาแน่นมากกว่าระดับทั่วไปมาก.

“ซูมมมมม!”

“ฟู่ ฟู่!”

กลิ่นอายที่หนักหน่วงบ้าคลั่งปะทุออกมาภายในห้องที่พัก พลังไม่ได้ด้อยกว่าระดับ 7-8 แกนเลย!

ด้วยการกลั่นปราณมารอย่างบ้าคลั่งก่อนหน้านี้ แม้นว่าโกวเซิ่งจะไม่ยกระดับ ทว่าความหนาแน่นและพลังก็มากกว่าปรกติ โดยเฉพาะวิญญาณ กล้ามเนื้อและชีพจรที่เปลี่ยนไปแบบพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน.

กล่าวให้ถูก.

การกลั่นปราณมารครั้งนี้ไม่ใช่แค่แบกรับแต่ความเจ็บปวดอย่างเดียว แต่ก็ทำให้จุนซ่างเซียวได้รับผลประโยชน์มหาศาลด้วย.

ก่อนหน้านี้ ที่ด้านในเขตแดนโม่หยวน เขาได้สังหารเหล่าผู้ฝึกตนมารที่โลภมาก ความแข็งแกร่งของคนเหล่านั้นต่างก็อยู่ในระดับ 7-8 แกนเช่นกัน.

โดยปรกติทั่วไป ในแต่ละแกนหมุนที่เพิ่มขึ้นความแตกต่างของพลังนั้นก็มากมายมหาศาล.

กล่าวได้ว่าโกวเซิ่งมีระดับหกแกน กับสามารถสังหาร 7-8 แกนได้ ถือว่านี่เป็นการ ก้าวข้ามระดับที่ไม่ธรรมดาเลย.

ด้วยปราณมารมากล้นที่เอาไว้ใช้คืนชีพบรรพชนมาร พลังที่เก็บไว้นั้นจึงกลายมาเป็นเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเขาแทน.

“ฟรึบ!”

เจิ้นเหรินตงกู่ถึงกับลุกขึ้นยืน เอ่ยด้วยความตกใจ“หมุนแกนขั้นปลายแล้ว?”

โกวเซิ่งที่เผยยิ้มแต่ไม่ตอบ.

ความเท่ไม่ต้องบอกกล่าว เพียงแค่ให้คนอื่นคาดเดากันเอง.

“ไม่ใช่ ไม่ใช่สิ!”

ใบหน้าของเจิ้นเหรินตงกู่ที่เผยท่าทางไม่อยากเชื่อ.

เจ้านี่ออกจากถ้ำสวรรค์จื่อเต๋ามาเพียงหนึ่งปี ไฉนถึงได้ก้าวไปถึงระดับหกแกนทันทีล่ะ!

เจิ้นเหรินฉีเยว่ก็งงงวยเช่นกัน.

การจะตัดผ่านระดับไปสักหนึ่งขั้นหรือสองขั้น ยังพอเข้าใจได้ แม้แต่คิดว่านั่นก็รวดเร็วแล้ว แต่จากหนึ่งไปยังหกนี่มันก้าวกระโดดครั้งใหญ่จริง ๆ!

“อาจารย์.”

จุนซ่างเซียวที่เอ่ยอย่างช่วยไม่ได้ “กล่าวตามจริง นิกายนิรันดรของข้ามีคัมภีร์ลับ ที่จำเป็นต้องกดพลังบ่มเพาะของตัวเองเพื่อรับผลประโยชน์ที่มากขึ้น ดังนั้นระหว่างสองปีที่ฝึกก่อนหน้านั้น ศิษย์จึงไม่ได้ยกระดับ.”

“หลังจากนั้น.”

“ท้ายที่สุดศิษย์ก็สำเร็จการฝึก ดังนั้นพลังบ่มเพาะที่กักเอาไว้จึงโผทะยานมายังหมุนแกนขั้นปลายไงล่ะ.”

การโม้เหม็นของจุนซ่างเซียวดูเหมือนว่าจะมาถึงขั้นสุดแล้ว คำพูดที่ไร้สาระนั้นเอ่ยออกมาตาไม่กระพริบเลย แม้แต่ไม่จำเป็นต้องคิดวางแผนอะไรไว้ก่อนอีกด้วย.

“ในโลกนี้มีวิชาที่ลึกลับเช่นนี้ด้วยรึ? สะกดพลังบ่มเพาะเพื่อรับผลประโยชน์อย่างงั้นรึ?”เจิ้นเหรินตงกู่ทีเผยท่าทางประหลาดใจ.

ที่จริงภายในใจก็ไม่ค่อยเชื่อนัก ทว่าพลังบ่มเพาะที่เพิ่มขึ้นมา ก็เป็นเรื่องจริง ทำไมต้องคิดอะไรมากด้วย ดังนั้นจึงหัวเราะออกมาเสียงดัง “อาจารย์รู้อยู่แล้วว่าเจ้าเป็นคนที่โดดเด่น ข้ามองคนไม่ผิดเลยจริง ๆ!”

“.....”

เจิ้นเหรินฉีเยวีที่มุมปากกระตุก.

ฝึกหนักสองปีก่อนหน้านี้ ระดับพลังไม่เพิ่มเลย ไม่ใช่บอกว่าเศร้าเสียใจอยู่เหรอ.

อย่างไรก็ตาม เขาก็ยอมรับในคำพูดของเจิ้นเหรินตงกู่ สามารถก้าวจากหนึ่งแกนไปยังหกแกนในเวลาสั้น ๆ เจ้าเด็กนี่โดดเด่น แม้แต่น่ากลัวเลยทีเดียว!

......

เช้าวันถัดมา.

เจิ้นเหรินตงกู่ที่จากไปอย่างมีความสุข.

จุนซ่างเซียวที่มีระดับหกแกนหมุนแล้ว เขาย่อมสามารถหวังกับผลสัญญาสิบปีได้.

“ตาเฒ่ากู่หง.”

ระหว่างทางกลับ เจิ้นเหรินอดไม่ได้ที่จะกล่าวโวเสียงดัง “รอความพ่ายแพ้ได้เลย!”

เจิ้นเหรินฉีเยว่ที่ส่ายหน้าไปมา.

ก่อนหน้านี้ที่ถ้ำสวรรค์จื่อเต๋าอีกฝ่ายเอ่ยกล่าวอย่างเป็นกังวล ตอนนี้รู้ว่าศิษย์ตัวเองก้าวไปถึงหกแกนหมุนแล้ว เริ่มคุยโม้โอหังเลย.

......

“ไป.”

จุนซ่างเซียวหลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จก็นำศิษย์กลับนิกาย.

ระหว่างทาง เหยาเมิ่งหยิงปาดน้ำตาร้องไห้ออกมา “ศิษย์รับสืบทอดกายาต้นกำเนิดมารศักดิ์สิทธิ์ นำปัญหามาให้กับนิกาย?”

เมื่อวานต่อหน้าสิบยอดฝีมือนิกายเซียน นางหวาดกลัวเป็นอย่างมาก ซ่อนตัวอยู่หลังเจ้านิกายตัวสั่นงันงก.

“เด็กโง่.”

จุนซ่างเซียวที่เอ่ยปลอบใจด้วยน้ำเสียงอบอุ่น “เจ้าได้รับกายาของบรรพชนมาร นี่เป็นวาสนาใหญ่ จะเป็นการสร้างปัญหาได้อย่างไรล่ะ.”

“จะให้พูดก็พูดเถอะ.”

“เปิ่นจั้วและศิษย์พี่ของเจ้า มีใครกลัวคนมาสร้างปัญหากัน?”

พวกหลี่ชิงหยางที่เชิดหน้ายืดอก ราวกับบอกกับศิษย์น้องว่า ถึงใครจะมาหาเรื่อง ศิษย์พี่ก็จะออกรับแทนเจ้าเอง!

“ฮือ ฮือ!”

เหยาเมิ่งหยิงที่ร้องดัง เอ่ยออกมาว่า“มีเจ้านิกายและศิษย์พี่ ข้าเป็นคนที่มีความสุขที่สุดในโลกแล้ว!”

จุนซ่างเซียวเอ่ยอย่างพอใจ “มีเจ้าเป็นศิษย์ เปิ่นจั้วก็มีความสุขเช่นกัน.”

ระหว่างเดินทางกลับนิกายเต็มไปด้วยสีสัน เหมือนกับมาท่องเที่ยว.

“ติ๊ง! ศิษย์เหยาเมิ่งหยิงได้รับสืบทอดสมบัติดินแดนโม่หยวน ได้รับ 1000 แต้มชื่อเสียง.”

“ติ๊ง! คะแนนชื่อเสียงนิกาย : 1000.”

จุนซ่างเซียวได้ยินเสียงแจ้งเตือนรู้สึกมีความสุขมาก เขาที่เปิดคอนโซนแสดงผลขึ้นมา จากนั้นใบหน้าของเขาที่กลายเป็นแข็งค้าง.

ไม่ใช่สิ!

แต้มชื่อเสียงไม่ควรมีแค่นี้!

“ฟิ้ว!”

โกวเซิ่งที่เร่งรีบกดตรวจสอบเนื้อหาข้อมูลอย่างระเอียด-

แต้มสนับสนุน 0!

แต้มความสำเร็จ 0!

แต้มชื่อเสียงมี 1000 ที่เพิ่งได้รับมา ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้คือ 0 หรอกรึ?!

แต้มทั้งสาม......

ที่จริงแล้วไม่มีเหลือเลย!!!!

“เปรี้ยง!!!”

จุนซ่างเซียวราวกับสายฟ้าหนึ่งแสนโวลต์ฟาดลงมากลางกบาลจนระเบิด เขาที่ยืนนิ่งเป็นไก่ไม้ทันที.

“เจ้านิกาย?”

เห็นอีกฝ่ายหยุด หลี่ชิงหยางกลายเป็นงงงวย.

“อ๊ากกกกกก!”

ในเวลานั้น จุนซ่างเซียวที่ยกมือกุมไปที่ลำคอ ร้องเสียงดัง “ไม่มีเหลือเลย!”

เสียงร้องดัง ทำให้พวกหลี่ชิงหยางถอยห่างออกมาสองสามก้าว จนแทบจะล้มทั้งยืน.

ซูเซียวโม่และพวกเซียวจุ้ยจื่อที่หวาดผวา ได้แต่กล่าวในใจ ไม่มี ไม่มีอะไรกัน!

“ระบบ!”

จุนซ่างเซียวที่ตะโกนในใจ “นี่มันหมายความว่าอย่างไร!”

“ก่อนหน้านี้ข้ากำลังยกระดับ เลยไม่รู้เรื่อง!”ควรค่าที่เป็นคู่หูโกวเซิ่งมายาวนาน การแสดงเป็นเลิศ โกหกชั้นครู บอกปัดความรับผิดชอบอย่างไม่มีจุดอ่อน.

“ผายลมสิ!”

จุนซ่างเซียวคำรามดัง ”เรื่องนี้มันจะต้องเกี่ยวกับเจ้าอย่างแน่นอน.

บอกไม่รู้แล้วคิดว่าจะจบรึ?

โทษที โกวเซิ่งที่ไร้เหตุผลยิ่งกว่าระบบ แต้มทั้งสามมีแค่เจ้าและข้าที่คอยจัดการ ไม่โทษเจ้าแล้วโทษใคร!

ที่ด้านนอก.

จุนซ่างเซียวที่เริ่มบีบคอตัวเองหน้าเขียวหน้าแดงเรียบร้อยแล้ว.

อุตส่าห์เก็บแต้มสนับสนุนและแต้มความสำเร็จได้  5,000,000-6,000,000 ตอนนี้จู่ ๆ กับหายไปทันที ใครมันจะทนไหว!

“เฮ้อ.”

ระบบเอ่ย “เรื่องเป็นเช่นนี้....”

จากนั้นก็เริ่มเอ่ยอ้างเกี่ยวกับโหมวดคลายวิกฤติขึ้นมา ซึ่งในการใช้งานจำต้องผลาญแต้มทั้งสามไปในทันที จุนซ่างเซียวที่บีบคอแน่นยิ่งกว่าเดิม ใบหน้าบิดเบี้ยว “บิดาสั่งให้เจ้าออกไปจากข้าเดี๋ยวนี้!”

“เกิดอะไรกันนี่?”

กู่เจ้าซีที่ตกใจกำลังจะเข้าไปห้าม ทว่าถูกซูเซียวโม่ขวางเอาไว้ “เจ้านิกาย ปกติก็พูดกับตัวเองแบบนี้ล่ะ ซิซูไม่ต้องใส่ใจ ไม่ต้องทำอะไรหรอก!”

หลี่ชิงหยางและพวกเซียวจุ้ยจื่อต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย.

กำลังบีบคอตัวเองจนกำลังจะตกตายแบบนี้ เป็นเรื่องปรกติอย่างงั้นรึ?

กู่เจ้าซีที่กลายเป็นเซ่อไปเลย ก่อนที่จะตระหนักอะไรได้ เผยยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์“แท้จริงแล้วพี่ชายก็มีงานอดิเรกพูดกับตัวเองสินะ ควรค่าเป็นพี่น้องร่วมสาบานของข้า!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด