ตอนที่แล้วChapter 1469 สมกับเป็นอาจารย์แบบอย่าง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 1471 บิดาจะสู้กับเจ้า

Chapter 1470 เปลี่ยนเรื่องใหญ่ให้เป็นเรื่องเล็ก จากเรื่องเล็กจนไม่มีปัญหา


ในอดีตเผ่าโม่หวังถูกทำลายไม่ใช่แค่สิบนิกายเซียน ยังมีกลุ่มชาติพันธุ์ด้วย ครั้งนี้เพราะบรรพชนมารจะคืนชีพ ทำให้พวกเขาส่งยอดฝีมือออกมา.

กล่าวให้ถูกต้อง.

เพราะปัญหาที่พวกเขาสร้างในอดีต จึงไม่สามารถที่จะหลีกหนีความรับผิดชอบได้.

ในเวลานี้เหยาเมิ่งหยิงที่ได้รับสืบทอดกายาต้นกำเนิดมารศักดิ์สิทธิ์มา เพื่อป้องกันหายนะที่อาจจะเกิดขึ้นในอดีต สิบนิกายเซียนจึงยืนกรานที่จะสังหารนาง และตอนนี้ต้องการความเห็นจากเผ่าอื่น ๆ ด้วย.

กลายเป็นว่าเจิ้นเหรินตงกู่และเจิ้นเหรินฉีเยว่กำลังจะต่อสู้กับคนทั้งโลกอย่างงั้นรึ?

อย่างไรก็ตาม.

ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นดั่งที่ยอดฝีมือนิกายเซียนต้องการ.

เหล่ากลุ่มชาติพันธุ์แต่ละกลุ่ม กับยืนอยู่ฝั่งจุนซ่างเซียวอย่างคาดไม่ถึง.

“พวกเจ้า......”

ใบหน้าของยอดฝีมือสิบนิกายเซียนที่กลายเป็นเดี๋ยวเขียวเดี๋ยวแดงทันที.

มีสิ่งที่พวกเขาไม่รู้ สายตาของกลุ่มชาติพันธ์ไม่ได้จ้องมองไปยังจุนซ่างเซียวอย่างเดียว พวกเขาที่จ้องมองไปยังศิษย์ของอีกฝ่ายต่างหาก.

หลี่ชิงหยาง และพวกเซียวจุ้ยจื่อที่ขยับเข้าใกล้เหยาเมิ่งหยิง ราวกับตัดสินใจอย่างหนักแน่นแล้ว.

นี่ก็ถือว่าบอกทุกอย่างแล้ว.

หากใครกล้าทำอะไรศิษย์น้องหญิงพวกเขา พวกเขาก็พร้อมจะต่อสู้อย่างเต็มที่.

เหล่ายอดฝีมือเผ่าพันธุ์ต่าง ๆ จะยอมได้อย่างไร.

อย่าลืมว่าผู้สืบทอดพวกเขาผูกสัญญาแท้จริงกับคนเหล่านี้ หากศิษย์นิกายนิรันดรตกตาย ก็เท่ากับทำให้พวกเขาสูญเสียไปด้วย.

ไม่ได้!

ยืนอยู่ฝั่งนั่นไม่ได้เด็ดขาด.

หลังจากครุ่นคิด เหล่ายอดฝีมือเผ่าต่าง  ๆ จึงยืนอยู่ข้างเดียวกับจุนซ่างเซียวทันที.

เด็กสาวที่รับรับสืบทอดกายาของบรรพชนมาร ในอนาคตจะต้องเป็นมารหรือไม่? ไม่มีใครบอกได้อย่างแน่นอน การยืนอยู่ฝั่งเดียวกับสิบนิกายเซียน มีแต่เสียกับเสีย!

เดิมทีความสัมพันธ์ของสิบนิกายเซียนและเหล่ากลุ่มชาติพันธุ์ก็ไม่ได้แน่นแฟ้นอะไรนัก หากให้เลือก พวกเขาพร้อมจะสละเรือขึ้นเรือฝั่งนิกายนิรันดรดีกว่า.

“ฟู่!”

เจิ้นเหรินตงกู่และเจิ้นเหรินฉีเยว่ที่ลอบพ่นลมหายใจ.

ไม่ต้องบอกว่าเพียงพวกเขาสองคนคงยากจะต้านสิบนิกายใหญ่ได้ ทำให้ภายในใจกดดันเป็นอย่างมาก ยิ่งหากกลุ่มชาติพันธุ์เข้าข้างพวกเขา ก็จะยิ่งยากเข้าไปใหญ่อีก.

“ทุกท่าน.”

จุนซ่างเซียวเอ่ยออกมาเล็กน้อย “ศิษย์ของข้า แม้นว่าจะได้รับสืบทอดกายาต้นกำเนิดมารศักดิ์สิทธิ์ ทว่าก็ไม่เคยทำเรื่องชั่วร้าย โปรดอย่าได้ตัดสินเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น ไม่เช่นนั้น....”เขาหยุด และเอ่ยออกมาว่า“เผ่าศิลาของข้าคงไม่เห็นด้วย.”

ใช่แล้ว!

เจ้านี่เป็นเผ่าพันธุ์ศิลาจริง ๆ!

เหล่ากลุ่มชาติพันธ์ที่ได้แต่กล่าวกระซิบในใจ คิดว่าพวกเขายืนอยู่ถูกฝั่งแล้ว!

พิภพเบื้องบนแม้นว่าจะมีเผ่าพันธุ์มนุษย์เป็นผู้ครอบครอง ทว่าเผ่าศิลาก็มีพลังแข็งแกร่งไม่ได้ด้อยกว่ากันมากนัก หากว่าปะทะกันจริง ๆ แน่นอนว่าเผ่ามนุษย์จะต้องจ่ายไปด้วยราคาที่สูงมาก.

ยอดฝีมือสิบนิกายเซียนที่ขมวดคิ้วไปมา.

พวกเขาที่ได้ยินว่า อีกฝ่ายที่เน้นย้ำว่าตัวเองเป็นเผ่าศิลาก็ทำให้พวกเขาคิดหนักขึ้นมาทันที.

พวกเขารู้เรื่องนี้ดี จึงไม่กล้าลงมือโดยไม่คิดอะไร เพราะว่าเผ่าพันธุ์ที่บ้าคลั่งนี้ เป็นปัญหาเล็กน้อย.

“แน่นอน.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “หลังจากนี้หากศิษย์ของข้ากระทำเรื่องชั่วร้ายไร้มนุษย์ธรรม ไม่จำเป็นต้องให้พวกท่านลงมือหรอก เปิ่นจั้วจะจัดการเอง.”

ทั้งอาจารย์และเผ่าพันธุ์อื่น ๆ ยืนอยู่ข้างเขา ทำให้เขากล่าวด้วยความอหังการได้ ทว่าเพื่อไม่ให้เรื่องนี้ใหญ่โตเขาควรทำให้มันเป็นเรื่องเล็กลงมา ต้องไม่ลืมว่าความแข็งแกร่งของเขาในเวลานี้ ไม่อาจสู้สิบนิกายเซียนได้.

ที่จริงเขาไม่ต้องการที่จะท้าทายใครเลยจริง ๆ.

เห็นได้ชัดเจนว่า เขาต้องการพัฒนานิกายอย่างเงียบ ๆ รอให้มีพลังที่แท้จริงก่อน จากนั้นก็จะสามารถพูดเสียงดังได้นั่นเอง.

“เจ้านิกายจุน.”

ยอดฝีมือนิกายเซียนคนหนึ่งเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “สตรีนางนี้อันตรายมาก หวังว่าท่านจะสั่งสอนนางให้ดีได้ หากวันหนึ่งนางทำเรื่องชั่วราย พวกเราไม่มีทางยอมแน่!”

“ไป!”

ด้วยมีเจิ้นเหรินตงกู่และเจิ้นเหรินฉีเยว่ แม้แต่กลุ่มชาติพันธ์ต่าง ๆ ปกป้อง สิบนิกายเซียนย่อมไม่สามารถทำอะไรเหยาเมิ่งหยิงได้ ดังนั้นแม้นว่ะไม่ยินดีแต่ก็ทำได้แค่จากไปเท่านั้น.

แรงกดดันที่หนักหน่วงบนท้องฟ้าค่อย ๆ สลายหายไป ยอดฝีมือที่ลอยอยู่รอบ ๆ ประตูโลหะ  ค่อย ๆ แยกย้ายกันไป เขตแดนโม่หยวนได้มาถึงบนสรุปแล้ว นับจากนี้ดูเหมือนว่าจะไม่มีสมบัติแล้ว วิญญาณบรรพชนมารเองก็หนีไปแล้วเช่นกัน.

สรุป.

เหยาเมิ่งหยิงได้รับกายาต้นกำเนิดมารศักดิ์สิทธิ์.

เสี่ยวเซี่ยและเสี่ยวฮัวได้กลั่นหลอมปราณพลังที่จะใช้คืนชีพบรรพชนมาร ทำให้ยกระดับจากร่างเด็กไปเป็นร่างเด็กโต ความแข็งแกร่งเพิ่มพูนขึ้นเป็นอย่างมาก.

และ......

หลังจากยอดฝีมือสิบนิกายเซียนจากไป จุนซ่างเซียวก็คืนสภาพจากมนุษย์เคลือบศิลา กลายเป็นคน ๆ เดิมที่ดูไร้พิษภัยเหมือนก่อน.

มาแล้ว กลับมาแล้ว!

เจ้านิกายที่คุ้นเคย!

เห็นจุนซ่างเซียวที่กลับคืนสภาพดังเดิม ความเย็นชาก็สลายหายไป หลี่ชิงหยางและพวกเซียวจุ้ยจื่อก็เผยยิ้มออกมาในทันที.

“เจ้าเด็กเหลือขอ!”

เจิ้นเหรินตงกู่ด่าว่าเสียงดัง “ไม่ก่อเรื่องสักทีจะตายไหม!”

เจิ้นเหรินฉีเยว่ที่ขมวดคิ้วกล่าวเสริม “ปราณมารในดินแดนโม่หยวนนั้นหนาแน่นมาก การที่เจ้ารอดชีวิตมาได้ถือว่าปาฏิหาริย์แล้ว หลังจากนี้ อย่า....”

“อาวุโส บุหรี่หน่อยใหม.”

จุนซ่างเซียวที่ส่งบุหรี่ให้กับอีกฝ่ายทันที.

“......”เจิ้นเหรินฉีเยว่ที่เหลือกตามองบน ก่อนที่จะรับบุหรี่มา คำพูดมากมายที่จะเอ่ย กลืนมันลงท้องไปแล้ว เพราะรับของอีกฝ่ายมาแล้วรู้สึกเปี้ยวปากขึ้นมาทันที.

แน่นอน.

สำหรับเหล่ายอดฝีมือของกลุ่มชาติพันธุ์ที่ยืนอยู่ข้างเขา เขาก็รู้สึกขอบคุณเป็นอย่างมาก พร้อมกับส่งผลิตภัณฑ์พิเศษนี้ให้กับพวกเขาอย่างไม่ตระหนี่เลย เพื่อแสดงความขอบคุณ.

ทำไมต้องเป็นผลิตภัณฑ์พิเศษนี้ด้วยล่ะ?

เพราะเขาอาจจะนำไปเปิดตลาดกับคนเหล่านี้ภายหลังได้นั่นเอง.

ก่อนหน้านี้เพราะว่ามีความขัดแย้งกันเล็ก ๆ  ตอนนี้ดูเหมือนว่าภายในใจจะไม่มีอะไรขัดแย้งกันแล้ว.

“เจ้านิกายจุน ขอลา!”

“ไป!”

จุนซ่างเซียวที่ยกมือประสานไปด้านหน้ากล่าวลาเหล่ายอดฝีมือของกลุ่มชาติพันธุ์ หลังจากเสร็จสิ้นเขาก็หันหน้ามองไปยังศิษย์ของตัวเอง “พวกผู้ฝึกยุทธ์มารที่เปิ่นจั้วจัดการไปก่อนหน้านี้ ทำไมพวกเจ้าไม่เก็บแหวนมิติมา! หะ?”

หลี่ชิงหยางและพวกเซียวจุ้ยจื่อ แทบทรุดไปตาม ๆ กันทันที.

“ศิษย์น้อย.”

เจิ้นเหรินตงกู่เอ่ยอย่างจริงจัง “ศิษย์ของเจ้าได้รับกายาต้นกำเนิดมารศักดิ์สิทธิ์มา พวกนิกายเซียนทั้งสิบคงไม่ยอมง่าย ๆ แน่ หลังจากนี้ต้องระมัดระวังตัวให้ดี อย่าตกไปอยู่ในมือพวกเขาซะล่ะ.”

“อืม.”

จุนซ่างเซียวที่พยักหน้ารับ “ศิษย์ทราบแล้ว!”

ที่จริงเขาเข้าใจเรื่องนี้ดี สิบนิกายเซียนต้องการกำจัดเหยาเมิ่งหยิงไม่ใช่เพื่อประชาชนผู้บริสุทธิ์อะไรหรอก ทว่าพวกเขากังวลว่าอีกฝ่ายที่ได้กายาบรรพชนมาร จะแข็งแกร่งขึ้นจนสามารถสั่นคลอนตำแหน่งที่พวกเขา ยืนอยู่ในตอนนี้ต่างหาก.

“ที่จริงแล้ว.”

จุนซ่างเซียวลอบคิดในใจ“ท่านควรกังวลเกี่ยวกับข้าดีกว่า หลังจากนี้ ไม่ใช่พวกเขาที่จะมาสร้างปัญหา เมื่อไหร่ที่ข้าทรงพลังพอ ข้าจะไปคิดบัญชีกับโถงพิภพด้วยตัวเอง!”

“ไม่มีปัญหาแล้วสินะ.”

ระบบเอ่ย “ดูเหมือนว่าโฮสน์จะมีศัตรูที่แข็งแกร่งจริง ๆ.”

“!”

จุนซ่างเซียวที่ด่าว่าในใจ“ข้าคิดว่าเจ้าตายไปแล้ว!”

“ไม่ ๆ.”

ระบบเอ่ย “เมื่อโฮสน์กำลังกลั่นปราณมารอยู่นั้น ข้าเองก็กำลังยกระดับตัวเองอยู่เช่นกัน เรื่องต่าง ๆ หลังจากนั้นจึงไม่รู้อะไรเลย.”

หึ หึ.

เป็นคำแก้ตัวอย่างแน่นอน.

“เป็นเช่นนี้นะเอง.”

จุนซ่างเซียวที่ไม่ได้เอ่ยอะไรต่อ ทว่าก็ยังรู้สึกโมโหในใจเช่นกัน.

ครั้งนี้เพราะมีอาจารย์และกลุ่มชาติพันธ์ยื่นมือเข้ามาช่วย หาไม่แล้ว เกรงว่ายอดฝีมือสิบนิกายเซียนคงต้องลงมือกับเขาแน่ เกรงว่าทั้งเขาและศิษย์คงตายแหงแซะ!

ดังนั้น.

ความแค้นของเขาและโถงพิภพจึงลึกยิ่งขึ้นกว่าเดิม.

หากไม่เพราะว่ามีความแข็งแกร่งไม่พอ เขาจะต้องระเบิดความโกรธ ไล่สังหารคนเหล่านั้นให้เกลี้ยงแน่.

น้ำหนักของศิษย์ในใจของจุนซ่างเซียวนั้นมากมายมหาศาล ไม่จำเป็นต้องเอ่ย หากใครกล้าทำลายพวกเขา เขาก็พร้อมที่จะทำลายล้างโลกใบนี้ไปพร้อมกันเลย.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด