ตอนที่แล้วบทที่ 22 เหตุนองเลือดในเฮยเฟิง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 24 เพลงหมัดโลหิตมังกร

บทที่ 23 ขั้นราชันยุทธ์


เหล่าวิญญาจารย์ทุกคนในหมู่บ้านเฮยเฟิงต่างหันมองยังหยางเสี่ยวเทียนผู้เป็นต้นเหตุของการนองเลือดทั้งหมด

และเขาในตอนนี้ ได้สวมหน้ากากมังกรปกปิดตัวตนเอาไว้ ซึ่งเป็นเพียงหน้ากากมังกรธรรมดาที่เขาซื้อตอนไปเที่ยวงานเทศกาลกับครอบครัวในเมืองเมื่อวาน เพื่อการนี้โดยเฉพาะ

“รีบจัดการมัน แล้วช่วยผู้นำหมู่บ้าน!” วิญญาจารย์ผู้หนึ่งของหมู่บ้านเฮยเฟิงตะโกนเสียงดัง พร้อมคนกลุ่มหนึ่งชักอาวุธออกมาวิ่งกรูเข้าหาหยางเสี่ยวเทียนตามคำสั่งในทันที

เห็นดังนั้น เขาก็ทำเพียงขมวดคิ้วก่อนเหวี่ยงกระบี่ตงเทียนในมือ ทันทีหลังจากตวัดแกว่ง กระบี่ก็ส่องแสงเป็นประกายพร้อมปลดปล่อยปราณกระบี่สองเล่มพุ่งออกไปอีกครั้ง

นั่นทำให้วิญญาจารย์สองคนที่โผเข้าใกล้เขาก่อนใคร ถูกแทงยังลำคอทรุดตัวลงพร้อมกันอย่างปุบปับจนน่าใจหาย

ถึงกระนั้น พวกคนที่เหลือก็ยังคงดาหน้าปรี่เข้าหาเขาเรื่อยๆ แบบไม่หยุดหย่อนไร้ซึ่งความเกรงกลัวใดบนใบหน้า

นัยน์ตาเขาจึงเหลือเพียงความเยือกเย็นและสูญสิ้นความเมตตาให้แก่คนพวกนี้ ที่สมควรโดนคมกระบี่จากเขาฟาดฟันจนดับสลาย

แสงสว่างจากจันทราตอนนี้ ต้องกระทบตัวกระบี่เป็นประกายงดงามในความมืดมิด ช่างขัดกับสีแดงฉานพร้อมกลิ่นคาวเลือดที่สาดกระเซ็นทั่วพื้นดินยังลานกลางหมู่บ้านอันน่าสยดสยอง

เสียงคำรามอย่างบ้าคลั่งของเหล่าวิญญาจารย์หมู่บ้านเฮยเฟิงที่ยังโจนเข้าหาด้วยโทสะ ต่างถูกคมกระบี่จากเขากวัดแกร่งจนร่วงลงไปกองกับพื้นทีละคนราวใบไม้แห้งยามสารทฤดู

ทำบริเวณโดยรอบลานกลางหมู่บ้านตอนนี้ เต็มไปด้วยเลือดแดงฉานไหลนองและกระเซ็นไปทั่วพื้นที่

เมื่อหยางเสี่ยวเทียนสังหารเหล่าวิญญาจารย์ของเฮยเฟิงจนหมดสิ้น เขาก็หันกลับมาพร้อมกระบี่ในมือจ่อไปที่คอของหม่าตงผิง ผู้ได้แต่นอนเฝ้าดูคนของตนล้มตายไปทีละศพ หลังสังหารผู้คนไปตั้งมากมาย แววตาเขากลับไร้ซึ่งความรู้สึกใดต่อคนตรงหน้า

“ข้าจะถามเจ้าอีกแค่ครั้งเดียว คือใครใต้เท้าเว่ย”

ตอนนี้ กลับเป็นแววตาของหม่าตงผิงเอง ที่เต็มไปด้วยความกลัวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เขากลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเคืองแล้วตอบคำถามนั้นน้ำเสียงสั่นเครือ

“ข้าไม่รู้ ข้ารู้เพียงนามของเขาคือใต้เท้าเว่ย แต่ทุกครั้งที่ปรากฏตัว เขาจะสวมหน้ากากทองแดง”

เมื่อคำตอบที่ได้ ทำเขาต้องขมวดคิ้วไม่พึงใจจนดันกระบี่แนบชิดยังคอหอยผู้นอนกองอยู่ตรงหน้า

“ขะ... เขาแข็งแกร่งมาก อย่างน้อยก็อยู่ในขั้นราชันยุทธ์” หม่าตงผิงกล่าวเสริมน้ำเสียงอึกอัก

อยู่ในขั้นราชันยุทธ์งั้นหรือ…

ใบหน้าหยางเสี่ยวเทียนเคร่งขรึมมากขึ้น

สูงกว่าวิญญาจารย์ขั้นเซียนสวรรค์ คือขั้นราชันยุทธ์

เช่นนั้น ขั้นราชันยุทธ์คงต้องเป็นผู้ที่แข็งแกร่งสุดในอาณาจักรเสินไห่แห่งนี้แน่นอน

แต่ด้วยเหตุใด ชายผู้แข็งแกร่งถึงขั้นนั้นจึงจ้องเล่นงานคนสกุลหยางกันล่ะ

ขณะที่เขานึกสงสัยใคร่รู้ถึงมูลเหตุของคนผู้นั้น กำลังเสริมจากหมู่บ้านเฮยเฟิงก็เริ่มกรูกันเข้ามายังลานกลางหมู่บ้านเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ยังไม่ทันที่หม่าตงผิงจะเอ่ยปากอ้อนวอนขอความเมตตา หยางเสี่ยวเทียนก็ดันกระบี่ในมือแทงเข้าตรงกลางคอหอยของเขา ดับลมหายใจอันไร้ค่านั้นลงทันที

เลือดไหลพุ่งออกจากคอไม่ขาดสาย

ม่านตาของหม่าตงผิงเบิกกว้างขณะยื่นมือออกไปข้างหน้าพยายามไขว่คว้าไปในอากาศ จนที่สุดก็สิ้นใจแล้วฟุบลงกับพื้นต่อหน้าผู้คนตรงนั้น

เหล่ากำลังเสริมของหมู่บ้านเฮยเฟิงที่หลั่งไหลเข้ามา ต่างพากันตัวแข็งทื่อยืนหน้าซีดด้วยความหวาดกลัว เมื่อเห็นร่างอันไร้วิญญาณของหม่าตงผิงพร้อมกับเหล่าวิญญาจารย์ขั้นเซียนสวรรค์ทั้งหมดนอนจมกองเลือดกลาดเกลื่อนอยู่บนพื้น

แม้กลุ่มโจรเหล่านี้จะโหดเหี้ยม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาไม่กลัวตาย

เมื่อเห็นหยางเสี่ยวเทียนเดินมุ่งหน้าหาพวกเขาพร้อมกระบี่ในมือ เหล่ากำลังเสริมของเฮยเฟิงต่างตกใจจนต้องล่าถอย

แต่ยังมีบางคนกล้าชักดาบออกมาเตรียมพุ่งเข้าหาเขาด้วยความโกรธ ก่อนจะถูกชกเข้าด้วยหมัดตัวปลิวออกไปชนเข้ากับประตูลาน

แม้แต่ประตู ก็ถูกแรงกระแทกจนกระเด็นลอยไปราวกับใบไม้ไม่ต่างกัน

บรรดาโจรคนอื่น ที่เห็นถึงความแข็งแกร่งนี้ต่างหยุดทุกการเคลื่อนไหวไม่มีใครกล้าบุกเข้ามาอีก ก่อนจะมีบางคนตัดสินใจวิ่งเอาตัวรอด นำผู้อื่นหันหนีตามด้วยความแตกตื่นไปคนละทิศละทาง

แต่เพราะโจรชั่วเหล่านี้ก่อกรรมทำเข็ญไว้มากมาย หากหลบหนีไปได้ จะมีหญิงและเด็กอีกกี่คนที่ต้องตายด้วยน้ำมือของพวกเขา ดังนั้น หยางเสี่ยวเทียนจึงไม่คิดปล่อยพวกเขาไป อากาศโดยรอบสั่นสะเทือนจากการที่เขาเริ่มใช้กระบวนท่าโจมตีของมวยไท้เก๊ก

หนึ่งหมัด หนึ่งศอก หนึ่งฝ่ามือ

หยางเสี่ยวเทียนโจมเข้าไปท่ามกลางเหล่าโจรที่กำลังเกาะกลุ่มหลบหนีจากความตาย ทุกการเคลื่อนไหวของเขา มีคนต้องบาดเจ็บกระเด็นปลิวไปหลายฉื่อ

คนเหล่านี้ที่ถูกชกด้วยหมัดของหยางเสี่ยวเทียน ต่อให้ไม่ตายก็ต้องพิการเป็นแน่

เมื่อเห็นว่าหยางเสี่ยวเทียนยังคงล่า ไล่จัดการไปทีละคน กลุ่มโจรของหมู่บ้านเฮยเฟิงจำนวนมากต่างกรีดร้องขณะรีบหนีเอาตัวรอดด้วยความกลัวจะเป็นรายต่อไป ส่งเสียงดังระงมทั่วหุบเขาอย่างน่าสะพรึง

เพลานั้นเอง คณะเดินทางของหยางเฉาก็ได้มาถึงยังเชิงเขาต้าหลัว

หยางเฉามองขึ้นไปยังหุบเขาต้าหลัวที่อยู่เบื้องหน้า ซึ่งไม่ต่างจากบึงมังกรหรือถ้ำเสือ*ใบหน้าก็ยิ่งแสดงถึงความเป็นกังวลมากขึ้น

แต่ในขณะที่เขากำลังกัดฟันข่มอารมณ์ทำเป็นใจดีสู้เสือนำเหล่าองครักษ์ขึ้นไป ก็เห็นกลุ่มคนจำนวนมากของหมู่บ้านเฮยเฟิงวิ่งกรูกันลงมาจากหุบเขา ด้วยสีหน้าตื่นตระหนกราวกับหวาดกลัวสิ่งใด

“เหล่าพี่น้องเฮยเฟิง พวกเรามาจากหมู่บ้านสกุลหยาง…” เมื่อหยางเฉากำลังจะกล่าวต่อ กลับพบว่าผู้คนจากหมู่บ้านเฮยเฟิงไม่แยแสเขาเลย เอาแต่ตั้งหน้ารีบวิ่งผ่านกลุ่มของพวกเขาไปอย่างรวดเร็ว

ขณะที่กลุ่มคนเหล่านี้กำลังวิ่งหลบหนี พวกเขาก็หันกลับไปมองยังเบื้องหลังเป็นครั้งคราวพร้อมใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวั่นกลัว

เชิงอรรถ

*龙潭虎穴  [lóng tán hǔ xué] อุปมาว่า แหล่งที่เต็มไปด้วยอันตราย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด