ตอนที่แล้วบทที่ 26 คดีขโมยศพ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 28 มีคนอยู่เหนือข้า! มีใครบางคนอยู่ข้างบน!

บทที่ 27 การตรวจร่างกาย


“ขอบคุณขอรับ พี่เอ้อจู”

"ยินดีต้อนขอรับ คุณชายจินอัน"

จินอันกุมมือขอบคุณเอ้อจู จากนั้นเขาก็ก้าวเท้าเข้าไปในลานบ้านของหลินลู่

เอ้อจูเปิดประตูลานบ้านให้จินอัน

หลังจากที่จินอันเข้ามา เขาก็ปิดประตูบ้านอีกครั้ง

กั้นพื้นที่ให้ห่างจากสายตาของผู้คนที่สอดรู้สอดเห็น

จินอัน เข้าเดินเข้ามาในลาน

จากนั้นเขาก็เห็นว่าลานเล็กๆ นั้น เต็มไปด้วยผู้คนมากกว่าสิบคน

คนเหล่านี้ล้วนเป็นสมาชิกในครอบครัวของ หลินลู่

ลูกพี่ลูกน้อง น้า และลุงของ หลินลู่ ก็อยู่ที่นี่ทั้งหมด

ม้านั่งไม้หลายตัวถูกวางไว้ในหลายทิศทาง มีสมาชิกอาวุโสบางคนของตระกูลหลิน หรือบุคคลสำคัญต่างนั่งอยู่ที่นั่นทั้งหมด

มีผู้เฒ่าจำนวนหนึ่งที่ชราภาพมากจนเคลื่อนไหวลำบากและคนหนุ่มจำนวนหนึ่งที่คอยดูแลอยู่ข้างหลัง

ในตอนนี้ สมาชิกในตระกูลหลินรวมถึงหลินลู่ และพ่อของเขาดูเหมือนจะเป็นกังวล พวกเขาทั้งหมดนั่งขมวดคิ้วและไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว

บรรยากาศน่าหดหู่และเงียบมาก

ภาพตรงหน้ามันเหมือนกับว่า...

ทุกคนต่างรอคอยบางสิ่งบางอย่างอย่างเงียบๆ...

และโลงศพสีขาวที่ตั้งอยู่ในลานยังคงอยู่ที่นั่นอย่างปลอดภัย และฝาโลงศพก็ถูกปิดอีกครั้ง

เพียงแต่ว่าผงปูนขาวที่โรยลงบนพื้นเมื่อวานนั้น ตอนนี้กลับปลิวว่อนไปหมดจนปกคลุมทั่วทั้งลาน โลงศพดูเหมือนจะเปียกโชกไปด้วยเส้นหมึกชาดที่ถูกน้ำชะล้างหายไปเหมือนมีเลือดหยดอยู่ทั่วทั้งโลงศพ

จินอันมองไปรอบๆ

ก็พบเห็นสิ่งที่แปลกประหลาด

มีเพียงบุรุษที่อยู่ในลานบ้านเท่านั้น แต่ไม่มีสมาชิกในตระกูลที่เป็นสตรีสักคน แม้แต่แม่ของหลินลู่ ก็ไม่อยู่ในลานบ้านด้วยซ้ำ

จินอันก้มศรีษะเดินไปอย่ามีมารยาท

จินอันไม่คุ้นเคยกับหลินลู่และสมาชิกคนอื่นๆ ในครอบครัว ดังนั้นเขาตรงไปหานักพรตเฒ่าลัทธิเต๋าที่ยืนอยู่ทันที

จินอันจงใจลดเสียงลงเพื่อให้มีเพียงเขาและนักพรตเฒ่าลัทธิเต๋าเท่านั้นที่ได้ยิน: "ตาเฒ่านักมายากล เกิดอะไรขึ้นงั้นเรอะ? ทำไมข้าถึงคิดว่ามันมีบางอย่างผิดปกติกับบรรยากาศในลานบ้านนี้ล่ะ"

“เมื่อคืนมีคนมาขโมยศพไปรึเปล่า...”

นักพรตเฒ่าลัทธิเต๋าจ้องมองไปที่จินอันโดยมีคนของตระกูลหลินอยู่ด้านหลังเขา

สายตานั้นหมายความว่าการเรียกเขาว่า "ตาเฒ่านักมายากล " เมื่อไม่มีใครอยู่ถือเป็นการดูถูกของเขา

แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาทะเลาะกัน นักพรตเต๋าลัทธิเต๋าพูดว่า: "ข้าสงสัยว่ามีคนวางยาลงในอาหารของเราเมื่อคืนนี้ แล้วข้ากับคนจากกระกูลหมดก็สติไปหลายคน"

“เพราะอาหารที่เรากินเมื่อวานนี้ปรุงโดย หลินลู่ ป้าและลุงของเขา ดังนั้นเมื่อพูดถึงเรื่องการวางยาในอาหาร ผู้ที่น่าสงสัยมากที่สุดก็คืนคนที่ทำอาหาร แล้วตอนนี้ก็กำลังทำการตรวจสอบป้ากับลุงหลินลู่ก่อน”

"อย่างไรก็ตาม เราซักถามอยู่นานแต่ก็ไม่ได้อะไร ไม่มีใครยอมรับผิด พอข้าเห็นสีหน้าการพูดของพวกเขาแล้ว มันก็ดูไม่เหมือนคำโกหก บางทีอาจจะไม่ใช่ฝีมือคนเป็น แต่รู้สึกเหมือนมีคนถูกครอบงำด้วยวิญญาณชั่วร้าย"

“ข้าเลยขอให้ตระกูลหลินเลือกผู้สตรีที่แข็งแกร่งสักสองสามคนแล้วพาป้าของหลินลู่ไป ซึ่งรับผิดชอบการทำอาหารให้เราเมื่อคืนนี้เข้าไปในห้องด้านหลังเพื่อทำการตรวจสอบร่างกาย”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น จินอันก็มีสีหน้าประหลาดใจ

"ข้าเคยได้ยินเรื่องที่มีคนถูกวิญญาณครอบงำ”

“ข้าจำได้ว่าตอนเด็กๆ ข้าชอบวิ่งเล่น พวกผู้ใหญ่ในครอบครัวมักบอกข้าว่าอย่าวิ่งเล่นตอนกลางคืน เวลาวิ่ง ส้นเท้าจะลอยจากพื้น วิญญาณชั่วร้ายจะแทรกเข้าไปในเท้าได้ง่ายจากด้านหลังแล้วดับไฟสามหยางของคนผู้นั้น”

“ยังมีคำพูดที่ว่าผู้คนที่มักจะพักผ่อนตอนพระอาทิตย์ตกดินจะสูญเสียปราณหยางในตอนกลางคืน หากวิ่งอย่างหนักในเวลากลางคืนเราจะเหงื่อออกมาก เหงื่อจะดึงความร้อนออกจากร่างกาย ทำให้ปราณหยางอ่อนแอลง คนที่มีปราณหยางน้อยจะถูกวิญาณชั่วร้ายครอบงำได้ง่าย ดังนั้นเลยไม่แนะนำให้วิ่งตอนกลางคืน”

“แต่ก็ไม่จำเป็นต้องพาเข้าไปในเรือนเพื่อตรวจสอบ แค่ดูว่าใครเดินเขย่งเท้าก็พอนี่”

เขาไม่รู้

นักพรตเฒ่าลัทธิเต๋าเหลือบมองไปด้านข้างที่จินอัน

แววตาแบบนั้น...

ดูเหมือนว่าเขาจะดุจินอันที่ผายลมเช่นนี้ออกมา!

“ตอนนี้มันกลางวัน แดดจ้า ท้องฟ้าและโลกก็ลุกเป็นไฟราวกับเตาอบ วิญญาณชั่วร้ายตัวไหนกล้าออกมาในเวลานี้กันเล่า”

“ข้าเห็นแล้วว่าป้าและลุงของหลินลู่ต่างก็เดินด้วยส้นเท้าที่ไม่ต่างอะไรจากคนทั่วไป อย่างน้อยพวกเขาก็ไม่ถูกวิญญาณชั่วร้ายครอบงำในระหว่างวัน”

“แต่สิ่งที่ข้าอยากตรวจสอบ คือใครในพวกเขาที่ถูกวิญญาณร้ายครอบงำเมื่อคืน”

“ตราบใดที่คนๆ นั้นถูกวิญญาณชั่วร้ายครอบงำ เขาจะทิ้งลักษณะพิเศษบางอย่างไว้ซึ่งจะไม่หายไปในทันที”

เมื่อนักพรตเฒ่าลัทธิเต๋ากล่าวเช่นนี้ เขาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย: "ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเส้นทางที่แตกต่างกันระหว่างหยินและหยาง มันเหมือนกับการเทน้ำเย็นลงในน้ำมันร้อน น้ำมันจะกระเด็นไปทั่วด้านนอกของหม้อ ไม่สามารถทำความสะอาดได้หมดจดโดยไม่ทิ้งร่องรอยอะไรไว้”

นักพรตเฒ่าเต๋าลัทธิเต๋าอธิบายต่อว่า: "มนุษย์คือหยางและสิ่งชั่วร้ายคือหยิน เมื่อสิ่งชั่วร้ายเข้าครอบงำ ร่างกายก็ไปขัดขวางการทำงานส่วนบนและล่าง ตับและปอดก็จะซบเซาได้ง่าย หากตับและปอดได้รับผลกระทบจากสิ่งชั่วร้าย ตับปอดและม้ามจะบกพร่องเพราะความอ่อนแอของปราณหยาง เส้นลมปราณก็จะเสียหาย

"ปราณหยางที่ไม่มีเพียงพอจะนำไปสู่การครอบงำของปราณหยิน และปราณตับและปอดจะกลับกัน และสร้างก้อนเนื้อแข็งๆ ที่บริเวณหน้าอกหรือรักแร้”

จากคำพูดของนักพรตเฒ่าลัทธิเต๋า หากคนเราถูกวิญญาณร้ายครอบงำ แม้ว่าบุคคลนั้นจะฟื้นตัวในภายหลัง แต่ความผิดปกติบางอย่างก็จะยังคงอยู่บริเวณหน้าอกใกล้กับปอดมากที่สุด

ดังนั้นจึงสามารถบอกได้ว่าจะถูกครอบงำหรือไม่นั้น ก็พิสูจน์ได้โดยการเปลื้องเสื้อผ้าออกและตรวจดูหน้าอกว่ามีความผิดปกติหรือไม่

แม้ว่าจะทำเพื่อความปลอดภัย แต่นักพรตเฒ่าลัทธิเต๋าก็คิดว่าการตรวจร่างกายด้วยตัวเขาเองนั้นจะปลอดภัยมากกว่าและจะไม่พลาดแม้แต่ร่องรอยของผิวหนัง เขายินดีสละชีวิตของตัวเองปราบปรามปีศาจ เพื่อความสงบสุข หากไม่เป็นเขาแล้วใครจะยอมทำเช่นนี้?

แต่สุดท้ายเรื่องนี้ก็ถูกปัดตกไป

ท้ายที่สุดแล้ว บุรุษและสตรีไม่ควรใกล้ชิดกัน

คนชราย่อมกลัวหมัดของหนุ่มสาว

ดังนั้นเขาจึงขอให้แม่ของหลินลู่ พร้อมด้วยสตรีที่มาจากตระกูลหลิน ที่แข็งแรงและมีพละกำลังหลายคนเข้าไปในเรือนปิดประตูและตรวจสอบรางก่าย

"?"

"!"

นักพรตเฒ่าลัทธิเต๋ากระพริบตาไปที่จินอัน และในที่สุดพวกเขาทั้งสองก็แสดงท่าทางที่บุรุษทุกคนเข้าใจดี

ขณะที่พวกเขากำลังคุยกัน ประตูห้องด้านหลังซึ่งปิดอยู่ก็เปิดจากภายในในท้ายที่สุด

กลุ่มนักรบเสือและหมาป่าสะโพกใหญ่ออกมาพร้อมกับญาติผู้เป็นสตรีหลายคน หนึ่งในนั้นกำลังร้องไห้ดวงตารูปอัลมอนด์ทั้งสองข้างของเธอแดงและบวมจากการร้องไห้

มือเล็กๆ ที่สั่นเทาทำอะไรไม่ถูก จับเสื้อผ้าที่ยุ่งเหยิงเล็กน้อยบนหน้าอกของเธอไว้อย่างแน่น

ไม่ต้องถามว่าผลการตรวจร่างกายนี้ออกมาเช่นไร

ผู้เฒ่ากลุ่มหนึ่งที่รออย่างเงียบๆ ในลานบ้านก็ลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้าตกใจและหวาดกลัว

“ทำไมล่ะท่านป้า!”

หลินลู่มีสีหน้าตกตะลึง

ในเวลาเดียวกัน ชายวัยกลางคนอีกคนในลานบ้านก็ทำหน้าตาเกลียดชัง

“ทุกท่านโปรดอย่าให้ภาพหลอกตา สาเหตุและผลของเรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของภรรยาท่านหรอก นางเองก็ตกเป็นเหยื่อเช่นกัน ท่านต้องไม่ถือโทษโกรธเคืองเพราะเหตุนี้ และปฏิบัติต่อภรรยาของท่านที่ประสบความทุกข์ยากเช่นเดียวกับท่าน”

นักพรตเฒ่าลัทธิเต๋าคำนับชายวัยกลางคน

ปรากฎว่าทั้งสองเป็นสามีภรรยานอนที่เตียงเดียวกัน

ขั้นต่อไปนั้นง่ายกว่ามาก เขาถามป้าของหลินลู่ ว่ามีอะไรแปลกๆ เกิดขึ้นรอบตัวเธอหลังจากหามโลงศพเมื่อวานนี้หรือไม่ หรือเขาได้ติดต่อกับคนแปลกหน้าบ้างไหม?

จากนั้นซักไซร้จนได้รู้ว่ามีชายคนหนึ่งไล่ตามเธอมา

ปรากฎว่าป้าของหลินลู่ ได้พบกับชายแปลกหน้าเมื่อคืนนี้ และเขาก็ไล่ตามเธอมาจนกระทั่งเธอวิ่งเข้าไปในบ้านของหลินลู่ แล้วเขาก็จากไป

หลินหลู่มีญาติหลายคนในครอบครัวของเขา พวกเขาวาดภาพเหมือนตามคำบอกเล่าของป้าหลินลู่ แล้วแจกจ่ายให้กับทุกคนกระจายไปรอบๆ เทศมณฑลฉางเพื่อค้นหาตัวตนของชายที่ไล่ตามป้าของหลินหลู่เมื่อคืนนี้

หลังจากผ่านไปครึ่งวัน ในที่สุดผลลัพธ์ก็มาถึง

ชายคนนั้นชื่อเฉินผี!

ดังนั้น กลุ่มคนที่โกรธแค้นจากตระกูลหลิน จับจอบพลั่วเป็นอาวุธ แล้วพานักพรตเฒ่าลัทธิเต๋าและจินอันเพื่อออกไปจับโจรขโมยศพ

(จบบทนี้)

หากชอบก็คอมเมนต์หรือกดดาวให้กำลังใจแอดด้วยนะครับ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด