ตอนที่แล้วตอนที่ 99 พฤติกรรมฉวยโอกาสของนักลงทุน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 101 คิดเกี่ยวกับวิธีการใช้จ่ายเงิน

ตอนที่ 100 เดินทางสู่ ชิงเต่า


“ไม่เป็นไร เรื่องการลงทุนคุณไม่ต้องเป็นกังวล ผมจะจัดการเอง”

“สิ่งที่คุณต้องทําตอนนี้ก็คือชี้ขาดกับนักลงทุนเหล่านั้นโดยตรง และไม่จําเป็นต้องสุภาพกับพวกเขา”

ซูเหวิน เขากล่าวด้วยสีหน้าสงบ

เขาไม่ได้มองว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาใหญ่เลยด้วยซ้ำ

ขณะที่ รองประธานเผิง ที่อยู่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์, หลังจากได้ยินประโยคนี้ของ ซูเหวิน แล้ว

เขาไม่เพียงแต่ไม่รีบเกลี้ยกล่อมอีกฝ่าย แต่กลับหัวเราะยิ้มขึ้นมา แล้วพูดเหมือนกับว่ากำลังรอประโยคนี้อยู่แล้วไปว่า : “ฮ่าฮ่าๆ โอเคๆ ประธานซู ถ้าท่านพูดอย่างนั้นแล้ว ผมก็จะปฏิบัติตามคำสั่งที่ท่านมอบหมายมาให้โดยตรง”

ในฐานะรองประธานบริษัท รองประธานเผิง ที่ไหนเขาจะไม่รู้ถึงตัวตนของ ซูเหวิน?

ประธานซู ไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น เอาเพียงแค่บริษัท ‘Worster Electric’ ก็เป็นบริษัทลงทุนชั้นยอดแล้ว และซึ่งเพียงพอแล้วที่จะเปรียบเทียบกับบริษัทอื่นๆ ได้

เวลานั้น.. การแก้ปัญหาการลงทุนของ ช่านซิง มันยังไม่ใช่เรื่องง่ายอีกหรือ?

เมื่อพูดไปอย่างนั้น ทั้งสองก็ได้พูดคุยกันอีกสองสามคําก่อนที่จะวางสายไป...

ต่อมาเขาก็กลับไปที่มหาลัย

วันเวลาก็ผ่านไปเช่นนี้

เพราะ ซูเหวิน ได้นัดกับ เซี่ย ซินเหยา ไว้ว่าจะไปเที่ยวด้วยกัน

และเขาเกรงว่าเธอจะรู้สึกอึดอัดใจหากไปกันแค่ 2 คน เขาจึงนำเรื่องนี้ไปถามกับเพื่อนร่วมห้องอีกทีว่าพวกเขาอยากไปด้วยหรือไม่

พอได้ยิน ซูเหวิน บอกว่าจะพาพวกเขาไปกินเที่ยวพร้อมที่พักอาหารแบบรวมทุกอย่างฟรี เพื่อนร่วมห้องต่างตื่นเต้นมาก แล้วทำไมจะไม่ไปล่ะ?

ต่อจากนั้นทุกคนจึงตกลงกันเรื่องเวลา

ขณะเดียวกันนั้นก็ลาหยุดเรียนไปด้วย และรอวันออกเดินทาง

และแล้วเวลาก็มาถึงวันเวลาที่จะต้องออกเดินทาง

ซึ่งวันนี้เป็นวันที่ ซูเหวิน ได้นัดหมายกันไว้ว่าจะไปเที่ยวกับ เซี่ย ซินเหยา และเพื่อนๆ ของเขา

ในตอนเช้า ซูเหวิน และเพื่อนร่วมห้อง ไม่ได้ไปเรียนหลังจากตื่นขึ้นมาอาบน้ำ

หลังจากจัดเก็บเสื้อผ้าเพียงเล็กน้อยแล้วก็จัดใส่กระเป๋า เดินออกจากหอพักไปพบกับ เซี่ย ซินเหยา และคนอื่นๆ ที่หน้าประตูมหาลัย

เนื่องจากทุกคนได้ลาหยุดล่วงหน้าสิบวันแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีใครรู้สึกกังวลอะไร

หลังจาก ซูเหวิน และเพื่อนๆ ออกจากมหาลัยแล้ว พวกเขาก็ไปหาร้านอาหารเช้าร้านหนึ่งเพื่อเติมพลังกันก่อน ต่อจากนั้นจึงเรียกรถมารับ และไปที่สนามบิน

และสถานที่ที่พวกเขาจะไปกันในครั้งนี้ก็คือ ชิงเต่า ที่ ซูเหวิน ได้พูดคุยกับ เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย ไปเมื่อไม่กี่วันก่อน

ชิงเต่า เป็นเมืองที่สวยงาม และเป็นเมืองท่องเที่ยว

ในทุกๆ ปีเพราะเป็นเมืองท่องเที่ยว คนที่มาที่นี่จึงเรียกได้ว่าไม่ขาดสาย

ที่นี่มีบรรยากาศดี ทิวทัศน์ดี แถมยังมีสถานที่ให้เที่ยวชมอีกมากมาย

ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ขาดไม่ได้

และเมืองม่อก็อยู่ไม่ไกลจาก ชิงเต่า มากนัก

ดังนั้นกว่าสองชั่วโมงต่อมา ทุกคนก็ได้นั่งเครื่องบินจากเมืองม่อมาถึงชิงเต่า

เมื่อออกจากสนามบินมา พวกเขาดูเหมือนจะไม่อยากเชื่อเลยว่าพวกเขาไม่ได้อยู่ในเมืองม่ออีกต่อไปแล้ว!

“ว้าว ที่นี่คือ ชิงเต่า เหรอ? เมื่อก่อนได้ยินมาตลอดว่า ชิงเต่า สวยงามมากๆ แต่เมื่อมาถึงที่นี่วันนี้ มันเหมือนจะแตกต่างออกไปจริงๆ”

“ใช่! ดูสิที่นี่สวยงามมากๆ แม้ว่าความเจริญรุ่งเรืองจะไม่เท่ากับเมืองม่อ แต่ฉันรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาทันทีเมื่อมาถึงที่นี่”

“ฮ่าฮ่า ได้ยินว่า ชิงเต่า มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ครั้งนี้เราต้องสนุกกันให้เต็มที่แล้ว”

ไม่นานหลังจากออกจากสนามบิน เพื่อนๆ ของ ซูเหวิน ก็ดูเหมือนคุณยายหลิวไปเยี่ยมสวนต้ากวนหยวน(1) เหลียวซ้ายแลขวาราวกับว่าเห็นทุกสิ่งอย่างเป็นสิ่งแปลกใหม่ไปทั้งหมด

โดยเฉพาะกับ วัง ซิ่วซิ่ว และจี้หยวี่ ที่ดูเหมือนจะชอบสถานที่นี้มาก

และซูเหวิน เขาก็ไม่ได้อยู่เฉยเช่นกัน เริ่มมองไปมารอบๆ

ต้องบอกเลยว่าการได้เห็นท้องฟ้าสีคราม และเมฆสีขาวของที่นี่มันงดงามจริงๆ

ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า แต่ดูเหมือนว่าแม้แต่อากาศก็รู้สึกสดชื่นขึ้นด้วย

“เสี่ยวเหวิน เราไปหาโรงแรมพักกันก่อนดีไหม?”

เซี่ย ซินเหยา ที่ยืนอยู่ข้างๆ ซูเหวิน ยิ้มงดงามไปพลางกล่าวแนะนํา

ดูเหมือนเธอจะอารมณ์ดีมากเป็นพิเศษ

“อืมม ผมจะหาเดี๋ยวนี้”

ซูเหวิน พยักหน้า และรู้สึกว่า เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย พูดถูกมาก

ยังไงเราก็ควรหาที่พักดีๆ ก่อน

ดังนั้น ซูเหวิน จึงเปิดแผนที่บนโทรศัพท์มือถือ และค้นหาที่ตั้งของโรงแรมระดับเจ็ดดาวที่หรูหราที่สุดในชิงเต่า โดยตรง

เมื่อเขาดูแผนที่จึงพบว่า โรงแรมระดับเจ็ดดาวในชิงเต่านั้นมีจำนวนไม่น้อยเลย ในบริเวณใกล้เคียงพวกเขาก็มีอยู่สองแห่ง

ซูเหวิน ไม่ได้คิดที่จะเลือกโรงแรมทั้งสองแห่งนี้

แต่เลือกโรงแรมระดับเจ็ดดาวที่ค่อนข้างใกล้กับชายหาดแทน

มาถึงที่นี่แล้ว มันจะเป็นไปได้อย่างไรที่จะไม่ไปเที่ยวชายหาด?

ดังนั้น การเลือกที่พักใกล้ชายหาดจึงเป็นทางเลือกที่ฉลาดที่สุด

เมื่อคิดเช่นนี้ เขาจึงใช้เงินหนึ่งร้อยหยวนเพื่อจ้างแท็กซี่สองคันให้พาไปที่โรงแรมที่กำหนดกับเพื่อนๆ ของเขา

เป็นเรื่องจริงที่ยิ่งคุณเข้าใกล้ชายหาดมากเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นเท่านั้น

และโรงแรมระดับเจ็ดดวงแห่งนี้ยิ่งเตะตาทุกคน

มันให้อารมณ์ที่แตกต่างจากความยิ่งใหญ่อย่างอาคารที่สูงตระหง่านของ โรงแรม ฮิลส์ โรงแรมเจ็ดดาวแห่งนี้ให้ความรู้สึกเหมือนมีความโรแมนติกมากกว่า

หลังจากพวกเขาได้มองดูอยู่พักหนึ่ง ซูเหวิน จึงพาทุกคนเดินเข้าไปที่ล็อบบี้ของโรงแรม

หลังจากเข้าไปในห้องโถงแล้ว ทุกคนก็พบว่าห้องโถงโล่งโปร่งมาก

แต่ที่นี่มีคนไม่น้อยจริงๆ และยังมีตัวมาสคอตจากการ์ตูนต่างๆ ซึ่งดูน่าสนใจเป็นพิเศษ

ในขณะเดียวกัน ในห้องโถงล็อบบี้แห่งนี้ยังมีสิ่งของแปลกๆ มากมายจัดแสดง

มิกกี้ เมาส์, กูฟฟี่ และโดนัลด์ ดั๊ก เป็นงานประติมากรรมไม้ที่สร้างสรรค์ออกมาเป็นตัวการ์ตูนต่างๆ

นอกจากนี้ยังมีภาพวาดเรอเนซองส์(Renaissance) ที่แปลกตาแขวนอยู่ตามผนัง ยิ่งเสริมความเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่

เมื่อเทียบกับโรงแรม ฮิลส์แล้ว ต้องบอกว่าช่องว่างของสไตล์นั้นมันแตกต่างไป

ทำให้ผู้คนรู้สึกแปลกใหม่ซึ่งทำให้ความรู้สึกของที่นี่ยิ่งมีความน่าสนใจมากขึ้นไปอีก

ทุกคนชื่นชมตลอดทางมาจนถึงแผนกต้อนรับของโรงแรม

“สวัสดีคะท่าน ไม่ทราบว่าต้องการที่พัก หรือทานอาหารค่ะ?”

พนักงานต้อนรับเมื่อเห็นกลุ่มคนหนุ่มสาวเดินเข้ามาจึงถามด้วยรอยยิ้มอย่างสุภาพ

“เอ่อ.. ที่พักครับ”

“ขอถามหน่อยว่ามีห้องเพรสซิเดนเชียลสวีทไหมครับ? ผมต้องการสามห้อง”

ซูเหวิน กล่าวด้วยยิ้ม

มันง่ายพอๆ กับการพูดว่าจะกินอะไร

แต่เมื่อคนอื่นได้ยินคำพูดนี้ พวกเขาก็ตกตะลึงทันที

ทันใดนั้นทุกคนรอบตัวไม่ว่าจะเป็นเพื่อน หรือลูกค้าคนอื่นๆ ที่มาพักที่โรงแรมต่างก็มองด้วยสายตาประหลาดใจไปที่ ซูเหวิน

“เอ่อ…ห้องเพรสซิเดนเชียลสวีท มีก็.. มีอยู่คะ”

“แต่ห้องเพรสซิเดนเชียลสวีทมีราคาแพงมาก โดยมีราคาอยู่ที่ 300,000 ต่อคืน คุณแน่ใจหรือว่า ..คุณ ต้องการห้องนี้สามห้อง?”

ในขณะนี้ แม้แต่พนักงานหลายคนในแผนกต้อนรับก็ยังสับสนเล็กน้อย

ดูเหมือนพวกเธอจะตกใจเล็กน้อยกับคําพูดของ ซูเหวิน

ไม่ใช่เพราะพวกเธอไม่เคยรับแขกที่มาเข้าพักในห้องเพรสซิเดนเชียลสวีท

และไม่ใช่ว่าไม่เคยเห็นชายหนุ่มคนรวยรุ่นสองจองห้องเพรสซิเดนเชียลสวีทมาก่อน

แต่.. ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าที่ต้องการห้องเพรสซิเดนเชียลสวีทหลายห้องพร้อมกันในทันที พวกเธอกลับไม่เคยเห็นมาก่อนเลยจริงๆ

ดังนั้นพวกเธอจึงเตือนเขาด้วยความหวังดี

ไม่ต้องพูดถึงพวกเธอ แม้แต่เพื่อนๆ ของเขาก็อดไม่ได้ที่จะตกใจ

“ฉันว่า เหล่าซู มันเกินไปแล้ว แค่หาห้องพักสักสองสามห้องก็พอ มันจำเป็นอะไรที่ถึงกับต้องพักห้องเพรสซิเดนเชียลสวีท?”

“ใช่เลย ห้องระดับนี้พักหนึ่งคืนราคาตั้งหลายแสน มันเกินจริงเกินไป”

“นั่นสิ มันแพงเกินไป”

จูเหยี่ยน, เฉินหมิง, จี้หยวี่ และคนอื่นๆ รีบปฏิเสธอย่างรวดเร็ว

ห้องเพรสซิเดนเชียลสวีท คืนเดียวราคา 300,000 หยวน ราคามันแพงเกินจริงเกินไปแล้ว

พวกเขากลัวว่าหากนอนเกินมาแม้แต่คืนเดียว ชีวิตพวกเขาจะสั้นลง

“เสี่ยวเหวิน ทำไมคุณไม่ลองหาห้องที่ถูกกว่านี้ล่ะ? ห้องเพรสซิเดนเชียลสวีทมันแพงเกินไปจริงๆ”

แม้แต่ เซี่ย ซินเหยา ก็รู้สึกว่ามันไม่คุ้ม เธอจึงเริ่มโน้มน้าวเขา

ถึงแม้เธอจะรวยมาก แต่ที่พักที่ดีสุดที่เธอเคยมาพักตอนออกมาท่องเที่ยวเมื่อก่อนก็เพียงแค่ ห้องดีลักซ์

ในความเห็นของเธอ ห้องดีลักซ์ เพียงพอแล้วจริงๆ มีทุกอย่าง และมีพื้นที่กว้างขวางมาก

ส่วนห้องเพรสซิเดนเชียลสวีทนั้นมันให้ความรู้สึกเหมือนจ่ายภาษีไอคิว(IQ)ไปหน่อยจริงๆ (จ่ายภาษีไอคิว[จ่ายค่าโง่] , 智商税 )

“ไม่เป็นไร ไม่ใช่ว่าใช้เงินมากอะไร”

“เปิดห้องเพรสซิเดนเชียลสวีท 3 ห้อง 5 คืนก่อน ถึงเวลานั้นเดี๋ยวค่อยว่ากันทีหลัง”

อย่างไรก็ตาม แม้ทุกคนจะชักชวนเขา

ซูเหวิน กลับยังคงยิ้มรับอย่างใจเย็น และยืนกรานที่จะเปิดห้องเพรสซิเดนเชียลสวีท

ไม่ใช่ว่าเขามีเหตุผลอื่น เพียงแค่เขาต้องการอยากเห็นว่าการได้อยู่ในห้องเพรสซิเดนเชียลสวีทมันรู้สึกอย่างไรก็เท่านั้น

ถ้าไม่ได้สัมผัสความรู้สึกนี้อย่างน้อยสักครั้ง เขาก็ไม่มีทางจดจำมันได้ตลอดไป

ไม่สู้ลองพักมันสักครั้งแต่แรกจะได้รับรู้ถึงความรู้สึกนี้

แล้วต่อไปเงินเขาก็มีแต่จะมากขึ้นเรื่อยๆ ถามว่าจะเก็บเงินเอาไว้ทำอะไร?

“ได้คะ กรุณารอสักครู่”

เมื่อเห็นอีกฝ่ายต้องการเปิดห้องเพรสซิเดนเชียลสวีทสองสามห้องจริงๆ หญิงสาวพนักงานต้อนรับจึงทำเพียงยิ้มเล็กน้อย และเป็นธรรมดาที่เธอไม่คิดพูดอะไรมาก

ดังนั้นเธอจึงคํานวณเงินตามราคา แล้วพูดต่อทันทีว่า : “ท่านคะ ห้องเพรสซิเดนเชียลสวีทสามห้องที่ต้องการราคา 903,000 หยวนต่อวัน และ 4,515,000 หยวนเป็นเวลาห้าวันค่ะ”

หลังจากพนักงานต้อนรับคำนวนค่าบริการเสร็จแล้ว เธอก็เงยหน้าขึ้นมอง ซูเหวิน และตอบกลับด้วยรอยยิ้มอย่างสุภาพทันที

และราคานี้ทําให้หลายคนรอบข้างตกใจจริงๆ

(1)[คุณยายหลิวไปเยี่ยมสวนต้ากวนหยวน (刘姥姥进大观园)] - จาก ‘ความฝันในหอแดง’ เป็นคำอุปมาของบุคคลที่ไม่เคยเห็นโลก และได้ออกมาเปิดหูเปิดตา ตื่นตาตื่นใจไปกับสิ่งที่เห็น สามารถใช้เพื่อเยาะเย้ยผู้ที่มีสายตาสั้น และโง่เขลา หรือใช้เพื่อทำให้ตนเองประหม่า หรือไม่เห็นค่าตนเอง 

    ปัจจุบัน มีการนำไปใช้เพื่ออธิบายถึงใครบางคนซึ่งมักจะเรียบง่าย และไม่ซับซ้อน ซึ่งได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ และได้อยู่สภาพแวดล้อมที่หรูหรา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด