บทที่ 23

เรื่องราวของโรงฝึกสกัดแร่สวรรค์ตระกูลเสี่ยว แพร่กระจายไปทั่วเมืองจีหนาน

เฉินฮั่น อดีตลูกเขยไร้ค่าของตระกูลเสี่ยว สามารถเอาชนะป๋ายหยงด้วยหมัดเดียว พลังอันน่าสะพรึงกลัวย่อมดึงดูดความสนใจจากหลายฝ่าย

ไม่บ่อยนักที่เมืองจีหนานจะปรากฏผู้เปี่ยมด้วยพรสวรรค์และความแข็งแกร่ง เฉกเช่นเฉินฮั่นหากตระกูลป๋ายคิดจะเล่นงานตระกูลเสี่ยวอีกครั้ง พวกเขาคงต้อง ชั่งน้ำหนัก และ คิดทบทวน ให้รอบคอบ

.......................

ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ตระกูลป๋าย ไม่มีการเคลื่อนไหว ป๋ายหยงผู้ก่อเรื่องถูกตำหนิอย่างหนักจากผู้อาวุโส บรรยากาศภายในตระกูลอึดอัด เต็มไปด้วยความกังวล

ข่าวคราวเรื่องเฉินฮั่น อดีตลูกเขยตระกูลเสี่ยว กลายเป็นที่พูดถึงไปทั่ว ทุกคนต่างทึ่งกับพลังอันน่าสะพรึงกลัวของเขา

หลายคนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ คิดถึงอนาคตของตระกูลเสี่ยว หากเฉินฮั่นสามารถก้าวไปสู่ขอบเขต เเดนเทพบังเกิดจริง

ตระกูลเสี่ยว จะกลายเป็นตระกูลอันดับห้าของเมืองจีหนาน เทียบเท่ากับ ตระกูลป๋าย

แต่ตระกูลป๋ายจะยอมให้ตระกูลเสี่ยวก้าวขึ้นมาเทียบชั้นตนได้ง่าย ๆ เช่นนั้นหรือ?

..................................

เสียงลมหายใจยาวของเฉินฮั่น ดังก้องไปทั่วห้อง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความปิติยินดี

“พลังเเห่งโชคชะตา ความเร็วในการฝึกฝนช่างเหลือเชื่อจริงๆ!” เขาอุทานออกมาด้วยความตื่นเต้น

เพียงไม่กี่วัน พลังของเขาก็พัฒนาขึ้นอีกขั้น ไปถึงขั้นที่เก้าของแดนบังเกิดเทพ

ในอดีต เขาต้องใช้เวลาหลายปีในการฝึกฝนเพื่อพัฒนาเพียงขั้นเดียว แต่วันนี้ ด้วยพลังของ ​โชคชะตา เขาสามารถพัฒนาได้อย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาด

“ด้วยพลังนี้ ข้าไม่ต้องกลัวพลังใดๆ ในเมืองจี่หนานอีกต่อไป!” เฉินฮั่นพูดด้วยความมั่นใจ

ทันใดนั้น ประตูห้องก็เปิดออกเสี่ยวหยูหยานเดินเข้ามาในห้องใบหน้าของเธอแดงก่ำ

แสงสว่างจ้าสาดส่องผ่านประตูห้อง ขับไล่ความมืดมิดที่ปกคลุม เผยให้เห็นร่างของหญิงสาว

“แดนกลั่นเทพ!” เธอพึมพำกับตัวเอง ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความสุข

ถ้าเป็นการฝึกครั้งนี้คงยาวนานถึงหนึ่งปี ด้วยความช่วยเหลือของยาอายุวัฒนะที่เฉินฮั่นมอบให้ ช่วยลดระยะเวลาลง ทำให้เธอสามารถก้าวข้ามขีดจำกัด และเข้าสู่แดนกลั่นเทพได้สำเร็จ

ทันใดนั้น ประตูห้องก็เปิดออก เฉินฮั่น ปรากฏตัวขึ้น รอยยิ้มของเขาสว่างไสว

“เสร็จสิ้นแล้วหรือ?” เขาถาม

เสี่ยวหยูหยานพยักหน้า แก้มของเธอแดงก่ำ

“ขอบคุณสำหรับยาอายุวัฒนะ” เธอพูด

“หากไม่มีมัน ข้าคงไม่สามารถก้าวเข้าสู่แดนกลั่นเทพได้”

“เจ้าไม่ต้องขอบคุณข้า” เฉินฮั่นพูด

“เจ้าเองก็มีความพยายาม และพรสวรรค์ ข้าเพียงแค่ช่วยสนับสนุนเจ้าก็เท่านั้น”

เขาจับมือเธอ ดึงเธอเข้ามาใกล้

เฉินฮั่นไม่เพียงแต่ให้ยาจำนวนมากแก่ตระกูลเสี่ยวเท่านั้น ยังได้นำเอาเหรียญวิญญาณ 50,000 เหรียญ มาช่วยเหลือตระกูลเสี่ยวในการสร้างคฤหาสน์ขึ้นใหม่ด้วย

เสี่ยวหยูหยานมองเขา ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความซาบซึ้ง

คฤหาสน์ของตระกูลเสี่ยว ตอนนี้หรูหรากว่าเดิมมาก! หากปราศจากเฉิน ฮั่นตระกูลเสี่ยว จะเติมโตขนาดนนี้ได้อย่างไร

เสี่ยวหยูหยานลังเล มองไปที่เฉินฮั่นแล้วพูดว่า

"เฉินฮั่น เช่นนั้น ตระกูลป๋าย คงไม่มาหาเรื่องอีกแล้ว ใช่ไหม?"

เฉินฮั่น หยิบแก้มของเสี่ยวหยูหยาน

"แน่นอน ถ้าพวกมันยังมาหาเรื่องอีก ข้าจะถอนรากถอนโคลนตระกูลป๋ายทิ้ง!"

เสี่ยวหยูหยานเอามือปิดปาก และหัวเราะคิกคัก ถ้าเป็นเมื่อก่อน เธอคงไม่เชื่อคำพูดไร้สาระของเฉินฮั่น

แต่ตอนนี้ เธอเชื่อสนิท

"พี่สาว น้องเขย!" เสียงใสดังขึ้น เด็กหญิงตัวน้อยวิ่งเข้ามาในห้อง

เสียงฝีเท้าวิ่งตึกๆ ดังขึ้น เสี่ยวหมวยอิง วิ่งกรุ่นเข้ามาด้วยท่าทางตื่นตระหนก

"เกิดอะไรขึ้น? วิ่งมาจนเหงื่อโชกขนาดนี้" เสี่ยวหยูหยาาน มองเห็นสภาพของเสี่ยวหมวยอิง ที่เต็มไปด้วยเหงื่อ แล้วถามด้วยความขมวดคิ้ว

เสี่ยวหมวยอิง หอบแฮ่ก ๆ "พี่สาว มันคือผู้อาวุโสของศาลายา!"

เสี่ยวหยูหยาาน มองเสี่ยวหมวยอิง ด้วยความประหลาดใจ สถานะของศาลยานั้น ไม่ได้ด้อยไปกว่าสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองจีหนาน หรืออาจจะสูงกว่าเสียด้วยซ้ำ!

ศาลายาในเมืองจีหนาน เป็นเพียงสาขาย่อยเท่านั้น ศาลายาที่แท้จริงนั้น มีพลังอำนาจระดับสูงสุดในแดนเหนือ!

การมาเยือนของผู้อาวุโสหยิงมู่ ถือเป็นเกียรติประวัติอันยิ่งใหญ่ของตระกูลเสี่ยวเลย!

เสียงฝีเท้าของเสี่ยวหยูหยานและเฉินฮั่นดังก้องไปทั่วโถงใหญ่ แววตาของทั้งคู่เต็มไปด้วยความสงสัยปนความอยากรู้อยากเห็น เกี่ยวกับการมาเยือนของผู้อาวุโสหยิงมู่

ภายในโถง หยิงมู่ ผู้อาวุโสแห่งศาลายา กำลังพูดคุยอย่างสนุกสนานกับเสี่ยวไต้เทียน หัวหน้าตระกูลเสี่ยว รอยยิ้มของเขาอบอุ่นและเต็มไปด้วยมิตรไมตรี

ข้างกายของหยิงมู่  มีหญิงสาวในชุดขาวบริสุทธิ์ ยืนสงบนิ่ง ดวงตาสีฟ้าใสจ้องมองไปรอบๆ ด้วยความสนใจ

เมื่อเสี่ยวหยูหยานและเฉินฮั่นปรากฏตัว เสี่ยวไต้เทียนรีบลุกขึ้นต้อนรับ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความยินดี

"มาแล้วเหรอ หยูหยาน เฉินฮั่น มาๆ มานั่งนี่" เสี่ยวไต้เทียนกล่าวเชิญชวน

เสี่ยวหยูหยานและเฉินฮั่นโค้งคำนับผู้อาวุโสหยิงมู่อย่างสุภาพ ก่อนที่จะไปนั่งลงที่เก้าอี้

หยิงมู่สังเกตเห็นเฉินฮั่น เอ่ยด้วยรอยยิ้ม "สหายน้อยเฉินฮั่น เราได้พบกันอีกแล้วนะ"

เฉินฮั่นยิ้มตอบ "การมาเยือนตระกูลเสี่ยวของท่านผู้อาวุโส ถือเป็นเกียรติประวัติอันยิ่งใหญ่ของตระกูลเสี่ยวเรา"

รอยยิ้มของเสี่ยวไต้เทียนกว้างขึ้น พร้อมกับพยักหน้าเห็นด้วย การมาเยือนของหยิงมู่ที่ตระกูลเสี่ยว ย่อมเกี่ยวข้องกับเฉินฮั่นอย่างแน่นอน

"ชิวเอ๋อซินขอคารวะเฉินกงจื๊อ" ชิวเอ๋อซินกล่าวทักทายอย่างสุภาพ เฉินฮั่นตะลึงไปเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มตอบ (กงจื๊อ ใช้คำผู้ที่ถึงขอบเขตบังเกิดเทพ)

หยิงมู่หันไปทางเสี่ยวไต้เทียน กล่าวต่อ "คนมาถึงแล้ว ข้าก็ขอพูดตรงๆ เลยแล้วกัน"

ศาลายาได้จัดงานเลี้ยงสวรรค์ยา ขึ้นในวันพรุ่งนี้ โดยได้เชิญปรมาจารย์ด้านการยา ชื่อดังมากมาย รวมถึงเหล่าผู้ทรงอิทธิพลในเมืองจีหนานด้วย ข้าเลยมาเชิญตระกูลเสี่ยวเข้าร่วมงานเลี้ยงครั้งนี้

เสี่ยวไต้เทียน ตื่นเต้นจนตัวสั่น "ตระกูลเสี่ยวของเราต้องไปร่วมงานอย่างแน่นอน!"

หยิงมู่ ยิ้มกว้างพร้อมกับปัดเคราสีขาวของเขา สายตาหันมองไปทางเฉินฮั่น "หวังว่าสหายน้อยเฉินฮั่น จะไปร่วมงานด้วยเช่นกันนะ"

"แน่นอนว่าข้าต้องไปร่วมงานเพื่อที่จะได้พบเห็นเหล่าปรมาจารย์ด้านการยาเเน่นอน" เฉินฮั่นกล่าวงานเลี้ยงยาครั้งนี้ จะรวบรวมเหล่าผู้แข็งแกร่งมากมายในเมืองจีหนาน และต้องมีเหล่าพรสวรรค์ชั้นยอดมากมายอย่างแน่นอน