ตอนที่แล้วบทที่ 174 ท้องระยะที่สาม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 176 พูดคุย (2)

บทที่ 175 พูดคุย


ฉินชิงอุ้มเสวี่ยถวนนั่งอยู่หน้าประตูลานตำหนักจงชุ่ยเช่นนี้

รู้สึกว่าช่วงเวลาเช่นนี้คือมีความสุขอย่างมาก ทุกวันคือกินๆ ดื่มๆ นอนๆ

แต่ชีวิตแบบนี้อาจจะดูจืดชืดไปบ้าง แต่ฉินชิงก็รู้สึกว่าควรจะมีการปรับอะไรบางอย่าง

ฉินชิงคิดว่าเรื่องของสนมเยว่และฮองเฮาเป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก

แม้ว่าตอนนั้นจะไม่อยากเห็นฮองเฮาไม่สนใจอาการประชวรของตัวเอง ดังนั้นถึงได้ยอมรักษา และถูกลากเข้าไปในเรื่องนี้ แต่ฉินชิงก็รู้สึกว่ายิ่งน่าสนใจมากขึ้น

ตอนนั้น เรื่องที่สนมเยว่บอกตน ฉินชิงก็สนใจมาก และถือว่าได้ปลดความสงสัยออกจากใจตัวเองแล้ว

แต่เมื่อคิดถึงเรื่องของฮองเฮาและสนมเยว่ ฉินชิงก็ยังอยากรู้ว่าทำไมสนมโหลวถึงต้องทำร้ายฮองเฮาและสนมเยว่ด้วย

แม้ว่าวังหลังจะต่อสู้กันเพราะความหึงหวงกันอยู่แล้ว ต่อให้มีแผนการชั่วร้ายอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ถึงขั้นทำร้ายใคร

แต่ทุกสรรพสิ่งล้วนมีเหตุผลเสมอ ฉินชิงไม่คิดว่าสนมโหลวจะกล้าวางแผนทำร้ายฮองเฮาเพียงเพราะความหึงหวง

สนมโหลวและสนมหรงมีความอิจฉากันถือเป็นเรื่องปกติมาก ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่การลงมือกับฮองเฮา บอกได้แค่ว่ากล้าหาญชาญชัยมาก

ถึงอย่างไรก็เป็นฮองเฮา ความอิจฉาริษยาและความหึงหวงระหว่างนางสนม ฮองเฮาอาจไม่ได้สนใจ แต่การลงมือกับฮองเฮา ไทเฮาและฝ่าบาทจะสืบสวนให้ถึงที่สุดอย่างแน่นอน

ฮองเฮาคือแม่แห่งแผ่นดิน ทุกการกระทำของนางล้วนเชื่อมโยงกับบ้านเมือง ไม่ใช่แค่การจัดการดูแลวังหลังเพียงอย่างเดียว

แต่เพราะฮองเฮาองค์ปัจจุบันมีพระวรกายไม่แข็งแรง ในเวลานั้นหมดหวังอยากมีชีวิตอยู่ต่อ เลยได้แต่ฝืนไว้ และบังเอิญฮองเฮาทรงประชวรต้องพักรักษาอยู่บนเตียง ดังนั้นการใช้ยาพิษในประมาณน้อยๆ จึงไม่ถูกค้นพบ

หากฮองเฮาที่เดิมทีมีวรกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ อยู่ๆ ก็ถูกวางยาพิษ แบบนั้นต้องถูกตรวจสอบจนถึงที่สุดแน่นอน เมื่อถึงตอนนั้นสนมโหลวก็หนีไม่พ้น

แต่อาจจะเป็นเพราะสนมโหลวมีความมั่นใจในพิษของตนมาก นางคิดว่าไม่มีใครพบแน่นอน และเรื่องนี้ถ้าทำสำเร็จก็จะมีประโยชน์ตามมามหาศาล ดังนั้นสนมโหลวจึงเต็มใจที่จะยอมเสี่ยง

บางทีสนมโหลวอาจต้องการอำนาจและตำแหน่งมากกว่านี้? ถึงอย่างไรถ้าฮองเฮาสิ้นพระชนม์ สนมที่มีตำแหน่งสูงในวังหลังก็เหลือแค่นางและสนมหรง เป็นความจริงการสู้กันเอง จะมีหนึ่งคนที่ได้ยืนอยู่เหนือคนนับหมื่น

ฉินชิงไม่รู้เช่นกันว่าสนมโหลวกำลังคิดสิ่งใดอยู่ แต่ฉินชิงก็รู้สึกมาตลอดว่ามันไม่มีสิ่งใดง่ายอย่างที่คิด

ฉินชิงยิ่งสงสัยมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเหตุใดการที่ทำให้สนมโหลวทำร้ายฮองเฮาและสนมเยว่

บางทีการประชุมในวันนี้อาจจะมีข้อมูลใหม่ๆ ฮองเฮาและสนมเยว่น่าจะสืบข้อมูลอะไรมาได้บ้าง ถึงอย่างไรฮองเฮาก็คือฮองเฮา อำนาจของสกุลเดิมก็ยังอยู่

ส่วนสนมเยว่ ฉินชิงคิดว่านางเองก็ไม่ธรรมดา เจอหญิงชราในวังหลังก่อนหน้านี้มานานแล้ว น่าจะพอมีอำนาจอยู่บ้าง

ฉินชิงอยากให้ถึงวันพรุ่งนี้มากอยากรู้ว่าจะได้ยินอะไรเพิ่มเติมหรือไม่

วันต่อมา ฉินชิงไม่เข้าใจเลยว่าเหตุใดฮองเฮาและสนมโหลวถึงต้องนัดเจอกันในตอนเช้า

ฉินชิงรู้สึกว่าตนตื่นได้ยากลำบากมากจริงๆ

เมื่อมองไปที่แสงแดดอันสดใสนอกหน้าต่าง ฉินชิงรู้สึกว่าวันนี้เป็นเช้าที่วิเศษจริงๆ คงจะดีไม่น้อยที่จะได้นอนต่อในเช้าที่สวยงามเช่นนี้

แต่น่าเสียดายที่ตนไม่สามารถนอนต่อไปได้แล้ว หลังจากถูกหยินผิงปลุก ฉินชิงก็ยังหงุดหงิดมาก

แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังต้องตื่นอยู่ดี แน่นอนว่าเพราะอาหารเช้าที่ห้องครัวเล็กทำในวันนี้อร่อยมาก

ฉินชิงคิดว่าอาหารเช้าที่อร่อยมากขนาดนี้ไม่ควรถูกทิ้งให้เสียเปล่า

แม้ว่าจะเป็นแค่น้ำเต้าหู้ ปาท่องโก๋ ไข่ไก่ หรือเครื่องเคียงอีกสองสามจานอย่างเรียบง่าย

แต่ระดับฝีมือของพ่อครัวในห้องครัวเล็กของนางเยี่ยมมากจริงๆ อีกทั้งยังเข้าใจด้วยว่านางอยากจะกินอะไร

น้ำเต้าหู้หวานกำลังพอดี ไม่ได้หวานมากจนเลี่ยน และไม่ได้จืดจนเกินไป

ส่วนปาท่องโก๋ด้านนอกมีความกรอบ แต่ด้านในมีความเหนียวนุ่ม เวลากินแล้วก็เพลินมาก ห่อด้วยกระดาษน้ำมัน ทำให้มือไม่เลอะโดนน้ำมัน

ก่อนหน้านี้คนในห้องครัวเล็กส่งปาท่องโก๋ที่ตัดเป็นชิ้นเล็กๆ วางไว้ให้บนจานให้ฉินชิงกิน แต่ฉินชิงก็รู้สึกว่าการกินเช่นนี้มันไร้รสชาติเกินไป ดังนั้นจึงให้คนในห้องครัวเล็กนำปาท่องโก๋ทั้งชิ้นส่งมาให้นาง จากนั้นก็ใช้มือหยิบกิน

จากนั้นก็ใส่ชิ้นปาท่องโก๋ลงในน้ำเต้าหู้กินคู่กัน เป็นรสชาติที่สมบูรณ์แบบที่สุด

ไข่ไก่ที่ต้มสุกแล้วแต่ไข่แดงด้านในยังไหลเยิ้มเล็กน้อยก็เป็นของโปรดของฉินชิงเช่นกัน

ความรู้สึกหลังจากกัดลงไปหนึ่งคำจนถึงไข่แดงมันช่างวิเศษมากจริงๆ

เครื่องเคียงก็น่าอร่อย น่ากินอย่างมาก

หลังจากฉินชิงกินอิ่มแล้วก็นั่งเกี้ยวมุ่งหน้าไปที่ตำหนักคุนหนิง

เมื่อฉินชิงมาถึงตำหนักคุนหนิงแล้ว ก็พบว่าสนมเยว่และฮองเฮาก็อยู่ด้วย

"วันนี้สนมเยว่มาเช้าจริงๆ" ฉินชิงทักทายสนมเยว่

"หม่อมฉันมาเร็วเพราะมีเรื่องร้อนใจเพคะ" สนมเยว่ตอบฉินชิง ไม่ได้ปิดบังเลยแม้แต่น้อย นางอยากจะทำลายสนมโหลวจะแย่

"สืบได้อะไรมาบ้างหรือ?" ฉินชิงถามด้วยความสนใจ

"อีกเดี๋ยวรอให้ฮองเฮาออกมาแล้วค่อยพูดทีเดียวดีกว่าเพคะ ซูเจาอี๋คงไม่ได้...รีบร้อนใช่หรือไม่" สนมเยว่กล่าว

"ไม่รีบๆ ไม่รีบแน่นอน"

ไม่นานฮองเฮาก็ออกมาจากหลังฉากกั้น วันนี้สภาพของฮองเฮาดูดีขึ้นมาก ฉินชิงคิดว่ายาที่ตนให้กินคงได้ผลดี

ผิวพรรณใบหน้าของฮองเฮาดูดีขึ้นมาก ไม่มีซีดขาวแต่อย่างใด วันนี้เหมือนจะไม่ไอเท่าไรแล้ว แต่ฉินชิงก็รู้สึกว่าพระวรกายของฮองเฮาน่าจะยังไม่ดีขึ้นเท่าไร สภาพในวันนี้ เป็นเพราะว่าพิษเพิ่งจะถูกกำจัดออกไปไม่น้อย ร่างกายก็เลยรู้สึกว่าดีขึ้น ดังนั้นจึงเกิดเป็นปฏิกิริยาเช่นนี้

แต่หลังจากนั้นไม่กี่วัน พระวรกายของฮองเฮาก็จะอ่อนแอลง ตอนนั้นแหละจะเป็นอาการจริงๆ ของฮองเฮา

แม้ว่าฉินชิงจะคิดเช่นนี้ แต่จะดีกว่าถ้าให้นางได้ตรวจชีพจรยืนยันด้วยตัวเอง จึงตัดสินใจมองไปที่ฮองเฮาแล้วถาม

"หม่อมฉันขอตรวจชีพจรให้ฮองเฮาได้หรือไม่เพคะ"

"ได้แน่นอน ซูเจาอี๋มาเถอะ"

ฮองเฮายื่นข้อมือออกมาจากแขนเสื้อเล็กน้อย จากนั้นก็ยื่นไปทางฉินชิงให้นางตรวจชีพจร

ฉินชิงก้าวไปข้างหน้าเพื่อตรวจชีพจรให้ฮองเฮา และมันก็เป็นอย่างที่ฉินชิงคาดไว้จริงๆ

ร่างกายที่แข็งแรงยังต้องพักฟื้นอีกนาน แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นก็ยังไม่สามารถรับประกันได้ว่าฮองเฮาจะมีชีวิตอยู่ได้นานแค่ไหน

ฉินชิงรู้สึกว่าไม่ควรบอกเรื่องนี้กับฮองเฮา ยิ่งเศร้าและกังวลมากแค่ไหน มันก็ยิ่งจะทำให้ร่างกายดีขึ้นช้าลงเท่านั้น ฮองเฮาเองก็น่าจะรู้สถานการณ์ของร่างกายตัวเองดี

ดังนั้นในเวลานี้ฉินชิงจึงไม่สามารถบอกฮองเฮาได้

ฉินชิงต้องการให้ฮองเฮามีความหวังต่อร่างกายของตัวเอง ดังนั้นจึงกล่าวว่า

"พิษในพระวรกายของฮองเฮาถูกกำจัดออกไปไม่น้อยแล้วเพคะ"

เมื่อฮองเฮาได้ยินเช่นนั้นก็ดีพระทัยมาก นางจึงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

"ที่เป็นเช่นนี้ได้ก็เพราะฝีมือของซูเจาอี๋ พอถึงตอนนั้นข้าจะเตรียมรางวัลจำนวนมากมอบให้เจ้า"

"เช่นนั้นหม่อมฉันจะรอรางวัลจากฮองเฮาเพคะ"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด