Chapter 878 เรื่องรักใคร่นั้นเปิ่นจั้วถือเป็นผู้เชี่ยวชาญ
ชุดเซตเจิ้นหยาง ที่ถูกมอบให้ศิษย์หลัก ก็เพื่อให้ใช้เตรียมตัวสร้างความคุ้นชิน.
จุนซ่างเซียวที่สีคางไปมา เอ่ยออกมาว่า“หากสามารถผลิตได้จำนวนมาก เตรียมให้หอสัตว์ขี่สงคราม จะต้องสุดยอดอย่างแน่นอน.”
เมื่อคิดได้ดั่งนั้น เขาก็ลุกขึ้น ก้าวตรงไปยังหอฝนพรำทันที.
“ถางจู่ลี่.”
จุนซ่างเซียวที่ก้าวไป ขณะกล่าว“แจ้งไปยังจังหวัดเป่ยโม่ ให้พวกเขาติดต่อกับเจ้านิกายเฟิง......”
กล่าวยังไม่จบด้วยซ้ำ.
เพราะลี่ลั่วฉิวได้ก้าวออกมาจากห้อง.
นางที่เปลี่ยนเซตเกราะเจิ้นหยาง รูปแบบของสตรี ที่ดูมีส่วนเว้าส่วนโค้งน่าดู หน้ากากสีเงินและร้องเท้าที่หุ้มขึ้นมายาว ยิ่งทำให้ทรวดทรงของนางโค้งเว้าได้ส่วนเป็นอย่างมาก.
“เจ้านิกาย.”
“ข้างดงามหรือไม่?”
ลี่ลั่วฉิวที่ก้าวมาหยุดอยู่ด้านหน้า ก่อนสะบัดผ้าคลุมหลัง ตัดผ่านหน้าจุนซ่างเซียว กลิ่นหอมที่พัดผ่านเข้าจมูกของเขา.
แม้นว่าสตรีจะสวมเซตเกราะต่อสู้เหมือน ๆ กัน ทว่ากับงดงามประณีตต่างจากบุรุษลิบลับ.
“ไม่เลว ไม่เลว.”จุนซ่างเซียวเอ่ยชม.
การที่เอ่ยกล่าวชื่นชมหญิงงาม หากเป็นคนอื่นคงทำให้จิตใจสั่นไหวอย่างแน่นอน.
ลี่ลั่วฉิวที่ก้าวมานั่ง พร้อมกับเสิร์ฟน้ำชาให้กับเจ้านิกาย พลางเผยยิ้ม“มาหาข้ามีเรื่องอะไรอย่างงั้นรึ?”
จุนซ่างเซียวที่นำรายการซื้อวางบนโต๊ะเอ่ยออกไปว่า“แจ้งไปยังสาขาเป่ยโม่ ให้เจ้านิกายเฟิงนำส่งแร่เหล่านี้มาที่นิกายของพวกเรา.”
เรื่องเล็กแค่นี้ไม่เห็นต้องมาด้วยตัวเอง ให้ศิษย์คนอื่นมาก็ได้.
“อืม.”
ลี่ลั่วฉิวที่รับมา เผยยิ้ม “ชุดนี้น่าจะเหมาะกับลู่เชียนเชียน.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “นางไม่ชอบสีแดง.”
ลี่ลั่วฉิวที่ขยิบตาให้ เอ่ยยิ้มกล่าวออกมาว่า“เจ้านิกายดูจะรู้เรื่องต่าง ๆ ศิษย์หญิงใหญ่ดี รู้แม้กระทั่งว่านางไม่ชอบสีแดง.”
“พวกหลี่ชิงหยางก็รู้.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
เกี่ยวกับเรื่องที่ลู่เชียนเชียนไม่ชอบสีแดงนั้นศิษย์ชุดแรกรู้ดี บางทีหลายปีมานี้ หลายคนก็อาจจะลืมหรือไม่ได้ใส่ใจแต่อย่างใด.
ส่วนเจ้านิกายเช่นเขา แน่นอนว่าเรื่องสำคัญของศิษย์ย่อมต้องสลักไว้ในใจ.
......
“ติ๊ง!”
หลังจากกลับห้องหนังสือ เขาที่ได้ยินเสียงแจ้งเตือน.
จุนซ่างเซียวที่ขยับก่อนที่จะนำปีกโลหะที่หลอมเสร็จแล้วออกมา.
แม้นว่าชื่อจะเขียนไว้ว่าเป็นโลหะ ทว่ากับเป็นปีกที่โปร่งใส หากไม่ตั้งใจมองก็แทบจะมองไม่เห็น.
เป็นไปได้ว่าปีกใสนี้อาจจะสร้างมาจากโลหะพิเศษที่เลือนใสนั่นเอง.
“ลองดู.”
จิตสัมผัสของเขาที่สื่อสารกับปีกโลหะขณะที่มันเลือนใสมากอยู่ด้านลัง ราวกับซ่อนตัวอยู่แทบมองไม่เห็น.
“สวมใส่ได้ไม่เลว.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.
ในทวีปชิงหยุนนั้นสามารถที่จะบินบนกระบี่ บินบนตราผนึก ทว่ากับปีกพิเศษนั้นแทบจะไม่เคยมีเลย.
“ฟี่ ฟี่!”
“ฟี่ ฟี่!”
เสียงสะบัดปีกที่ดังเบา ๆ.
จุนซ่างเซียวที่ทดสอบบินขึ้นลงภูเขา.
หลังจากทดสอบระยะหนึ่ง ก็เอ่ยออกมาว่า“ความเร็วการบินเพิ่มขึ้นมาก ทว่าก็ยังด้อยกว่าเกราะรบปีกจักรกลมาก.”
“เตรียมไว้ให้ศิษย์ที่สำเร็จระดับจักรพรรดิทุกคนก็ไม่เลว อย่างน้อยเวลาต่อสู้กับศัตรู สามารถที่จะถอยหลบหนี หากไม่สามารถสู้ได้.”
แม้นว่าเกราะรบปีกจักรกลจะสุดยอด ทว่าราคาก็แพงอย่างมาก ไม่มีทางที่จะซื้อให้กับศิษย์ได้ ส่วนปีกโลหะเพียงแค่มีแร่ก็หลอมสร้างขึ้นมาได้แล้ว เหมาะที่จะผลิตจำนวนมาก.
ด้วยมีเซตเจิ้นหยาง บวกกับปีกโลหะนี้แล้ว ความเร็วของพวกเขาย่อมมากล้น พลังต่อสู้เองก็ต้องมากขึ้นอย่างแน่นอน.
จุนซ่างเซียวที่ถูมือไปมา เอ่ยออกไปว่า“ถึงเวลานำทุกคนไปยังพิภพสงครามแล้ว!”
......
ภายในห้องโถง.
เจียงเซี่ยและสองพี่น้องหนิงตลอดจนคนอื่น ๆ ที่ได้เซตเจิ้นหยางและปีกโลหะ หลังจากทดสอบผล ก็เผยความตื่นเต้นดีใจออกมา.
ในระดับพวกเขานั้น การจะก้าวไปยังระดับที่สูงขึ้นค่อนข้างยากเล็กน้อย การที่มีอุปกรณ์ช่วยเพิ่มพลังได้เช่นนี้ เป็นอะไรที่ไม่ธรรมดาเป็นอย่างมาก.
“ใช่แล้ว.”
จุนซ่างเซียวที่นำเม็ดยาบูรณะร่างกายระดับกลางและเม็ดยากลั่นวิญญาณระดับกลางออกมา เอ่ยออกมาว่า“รับนี่ไปด้วย.”
เม็ดยาสองเม็ดที่ทุกคนได้รับนั้น จะช่วยกลั่นร่างกายและวิญญาณ เห็นชัดเจนว่าสามารถทำให้พวกเขามีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอีกมาก.
เพราะว่าเม็ดยามีจำกัด.
จุนซ่างเซียวจึงมอบให้อาวุโส ถางจู่และหลี่ชิงหยางและกลุ่มศิษย์หลักชั่วคราว.
ไว้กลั่นได้มากกว่านี้ ค่อยมอบให้กับศิษย์คนอื่น ๆ เพื่อยกระดับกายเนื้อและวิญญาณอีกครั้ง
......
ไม่กี่วันหลังจากนั้น.
ซูเซียวโม่ที่คืนกลับรูปลักษณ์เดิมกลับมายังนิกายนิรันดร ซึ่งได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น.
โดยเฉพาะลี่เฟย ที่วิ่งเข้าไปกอดแน่น เอ่ยออกมาว่า“ศิษย์พี่ ศิษย์น้องคิดถึงจะแย่แล้ว.”
“ไปไกล ๆ เลย!”
ซูเซียวโม่ที่สลัดอีกฝ่ายออกไป ก่อนเร่งรีบเดินเข้ามาในโรงอาหาร เอ่ยออกมาว่า“ตู้ตู้ รีบนำของอร่อยมาให้ศิษย์พี่เร็วเข้า!”
“มาแล้ว มาแล้ว!”
เสียงของหลิวหวานซีที่ดังขึ้นมาจากในครัว.
ไม่นานหลังจากนั้น ดำหนึ่งดำสองก็นำอาหารมาส่งวางบนโต๊ะเต็มไปหมด.
นางที่เตรียมอาหารเอาไว้ให้ศิษย์พี่โดยเฉพาะ แม้นว่าจุนซ่างเซียวก็ไม่ได้กินของเหล่านี้.
ซูเซียวโม่ที่หยิบตะเกียบขึ้นจัดการอย่างหิวโหย กินไปพลางน้ำตาไหล “อาหารนี้มันอร่อยกว่านิกายไท่เสวียนเซิ่งร้อยเท่า....ไม่ ๆ พันเท่าเลย!”
“ศิษย์พี่ ท่านคงหิว ดูสิ ผอมหมดเลย.”หลิวหว่านซีเอ่ยด้วยความเป็นห่วงเป็นใย.
หลังจากกินจนหนำใจแล้ว เขาก็ก้าวตรงเข้าไปในห้องโถงใหญ่ ยกมือประสานด้านหน้า“ศิษย์ซูเซียวโม่ คารวะเจ้านิกาย.”
จุนซ่างเซียวที่ก้าวออกมา ตบไปที่ไหล่ “หลายวันมานี้ต้องลำบากเจ้าแล้ว.”
“เพื่อนิกาย เพื่อเจ้านิกาย!”
ซูเซียวโม่ที่เอ่ยเสียงดัง“เหนื่อยเพียงใดก็ไม่หวั่น!”
จุนซ่างเซียวที่ส่งแหวนมิติออกไป เอ่ยออกมาว่า“ด้านในนั้นมีศิลาวิญญาณธรรมชาติ 50,000.”
“ห้า....50,000?”ซูเซียวโม่ที่ดวงตาเบิกกว้างกลมโต.
ศิลาวิญญาณจำนวนนี้นับว่ามากมายมหาศาลแน่นอน แม้แต่อาวุโสนิกายไท่เสวียนเซิ่ง ก็ไม่ใช่ว่าจะได้มาง่าย ๆ!
“ถึงจะเป็นสายลับก็อย่าได้ว่างเว้นฝึกฝน.”
นิกายไท่เสวี่ยนเซิ่งเองก็มีทรัพยากรมอบให้ศิษย์ฝึกฝนเช่นกัน ทว่าซูเซียวโม่ตอนนี้เป็นเพียงศิษย์สายนอกแทบจะไม่สามารถใช้อะไรได้ และการจะยกระดับเองก็ต้องทำเป็นการลับ ๆ ด้วยเช่นกัน.
“ขอบคุณเจ้านิกาย.”ซูเซียวโม่เอ่ย.
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ศิษย์นามเซี่ยซุยอวิ๋นยังคงติดพันเจ้าอยู่หรือไม่?”
“เอิ่ม....”ซูเซียวโม่ที่เกาศีรษะ “ตอนนี้มีเพียงนางมาขอให้ศิษย์ออกไปทำภารกิจด้วยเท่านั้น.”
จุนซ่างเซียวที่ยืนมือขัดหลัง“เรื่องรักใคร่นั้นเปิ่นจั้วถือเป็นผู้เชี่ยวชาญ เรื่องนี้ไม่ยากจะเอ่ย.”
ซูเซียวโม่ที่ดวงตาเบิกกว้าง.
ไม่ว่าจะเรื่องอะไรเขาย่อมเชื่อเจ้านิกายอย่างแน่นอน เพียงแต่เรื่องรักใคร่นี้ มันไม่น่าจะใช่นะ!
“แน่นอน.”
จุนซ่างเซียวเอ่ย “เรื่องรักใคร่เหล่าเหว่ยก็ไม่แพ้เปิ่นจั้วเช่นกัน เจ้าสามารถปรึกษาเขาได้.”
เป็นคำพูดที่เกินจริงมาก.
“ครับ!”ซูเซียวโม่ตอบรับเสียงดัง.
“ไปได้แล้ว จะได้ไม่เสียเวลา.”
“รับทราบ!”
ซูเซียวโม่ถอยกลับไป.
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ฝึกฝนใด ๆ ทว่าไปยังหอยาหาเหล่าเหว่ยทันที.
ภายใต้การแลกเปลี่ยนกันสองชั่วยามเขาก็บรรลุ ได้เข้าใจเกี่ยวกับหมอกในใจที่หนาแน่นอยู่ มันได้กลายเป็นท้องฟ้าที่สดใสแล้ว.
ซูเซียวโม่ เวลานี้กลับมายังนิกายนิรันดร มีสองเป้าหมาย อย่างแรก กินอาหารของหลิวหว่านซี อย่างที่สองก็คือปรึกษาเรื่องความรักกับเหล่าเหว่ยนั่นเอง.
ดังนั้นเหว่ยชิงหยางที่อยู่ที่สวนสมุนไพรและหอยา ก็จะมีเขาเป็นแขกอยู่เป็นประจำ เกี่ยวกับเรื่องนี้เขาสามารถที่จะสอนศิษย์ได้ทุกคน หากแต่ไม่สามารถสอนจุนซ่างเซียวได้.
