Chapter 859 โอกาสของโกวเซิ่ง
หลังจากที่เย่ซิงเฉินได้ทดสอบ ยันต์ทะยานสวรรค์เพิ่มเขตแดนยุทธ์ได้จริง ๆ.
นอกจากนี้การที่ยกระดับบ่มเพาะขึ้นได้ ทำให้เขาได้รับประโยชน์มากมายอย่างไม่ต้องสงสัย.
กล่าวสรุป.
เหตุผลของการใช้ยันต์ทะยานสวรรค์นั้น ก็เพื่อเพิ่มการตระหนักรู้การตัดผ่านระดับเขตแดนยุทธ์ให้เพิ่มมากขึ้นนั่นเอง.
แม้นว่าจะไม่สามารถช่วยการตัดผ่านระดับ ทว่ากับเป็นส่วนช่วยในการตระหนักรู้ ซึ่งจะลดเวลาการตระหนักรู้ วิถียุทธ์ลงอีกหลายขั้น.
“นับว่าไม่เลว.”
จุนซ่างเซียวที่รู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก.
อย่างไรก็ตามยันต์ทะลวงสวรรค์ยังไงก็พอแก้ขัดเม็ดยาจักรพรรดิยุทธ์ได้ ต้องไม่ลืมว่าเขาไม่ได้รีเฟรชร้านค้าระบบนั่นเอง.
อย่างไรก็ตาม เพราะว่าวัตถุดิบต้องใช้เม็ดยากษัตริย์ยุทธ์ ทำให้เขาไม่สามารถผลิตจำนวนมากได้.
“ก่อนอื่นก็หลอมขึ้นมาก่อน 100 ก็แล้วกัน.”
หลังจากหลอมเม็ดยากษัตริย์ยุทธ์มาได้หลายร้อยเม็ด จุนซ่างเซียวก็นำออกมา 100 เม็ดทันที.
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้จำนวนของศิษย์ที่จะตัดผ่านมายังระดับกษัตริย์ยุทธ์ลดลง.
อย่างไรก็ตามระดับกษัตริย์ยุทธ์ของนิกายนิรันดรนั้น เพิ่มขึ้นในทุก ๆ เดือน ด้วยจำนวนที่มีนี้ แม้จะเป็นนิกายระดับหนึ่งยังเทียบไม่ได้.
ความโกงนี้ ถือว่าบ้าคลั่งอย่างแท้จริง.
หลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จ.
เจ้านิกายจุนก็เปิดคอนโซนดูภารกิจมหากาพย์ ซึ่งเวลาที่ปรากฏตอนนี้ยังเหลืออีกสามเดือน.
ใกล้ ใกล้เข้ามาแล้ว!
“แล้วจะนำใครบ้างเข้าไปในพิภพสงคราม?”
เหล่าติง เจียงเซี่ยและอาวุโสคนอื่น ๆ คงต้องนำไปด้วย.
จื่อหลินและไป่ชิวก็ด้วย.
จากนั้นจุนซ่างเซียวที่ดูลังเล ว่าจะนำหลี่ชิงหยางและศิษย์หลักคนอื่น ๆ ไปด้วยหรือไม่?
หลังจากประเมินภารกิจมหากาพย์แล้ว พวกเขาไม่สามารถตัดผ่านระดับไปยังขั้นจักรพรรดิยุทธ์ได้ ทว่าก็สามารถแฝงตัวเข้าไปด้วยยันต์ทะยานสวรรค์ ทว่ากับอยู่ด้านในได้เพียงหนึ่งชั่วยามเท่านั้น.
“หากเกิดเรื่องอะไร ไม่สามารถกลับออกมาได้ จะต้องอันตรายอย่างแน่นอน.”
จุนซ่างเซียวที่เคาะนิ้วบนโต๊ะ เอ่ยออกมาว่า“จะต้องคิดให้ระเอียด.”
ไม่ใช่ไม่ให้ไป ทว่าเขาจำเป็นต้องคัดเลือกอย่างระเอียด ดังนั้นจึงได้เรียกหลี่ชิงหยางและอีกหลายคนมา.
“เจ้านิกาย!”
เซียวจุ้ยจื่อที่เอ่ยกล่าวอย่างหนักแน่น“ศิษย์ยินดีเข้าไป!”
“ศิษย์ยินดีเข้าไป!”
หลี่ชิงหยาง ลี่เฟยและเถียนซี ตลอดจนศิษย์หลักอีกหลายคนที่กล่าวอย่างหนักแน่น พวกเขาที่ไม่หวั่นเกรงอันตรายแม้แต่น้อย.
จุนซ่างเซียวเอ่ย “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ต้องตัดผ่านระดับไปยังกษัตริย์ยุทธ์ขั้นปลายให้ได้ภายในสามเดือน.”
“รับทราบ!”
ทุกคนที่ตะโกนรับเป็นเสียงเดียวกัน.
จากนั้น พวกเขาก็กลับออกไปบ่มเพราะอย่างหนัก.
......
“เจ้านิกาย.”
วันหนึ่ง ลี่ลั่วฉิวที่ก้าวเข้ามา เอ่ยออกไปว่า“เซียวโม่ได้ส่งข่าวมา อีกสิบวันจะไปหาประสบการณ์กับศิษย์สายนอกคนอื่น ๆ ที่เทือกเขาหยุนหลิง.”
“เทือกเขาหยุนหลิงนั้นถือว่าเป็นสถานที่พิเศษในการเก็บประสบการณ์ของนิกายไท่เสวียนเซิ่ง ด้านในนั้นมีสัตว์ร้ายมากมาย.”
“ทุก ๆ ปีพวกเขาจะมีการจัดการส่งศิษย์สายนอกออกไปหาประสบการณ์จริง และมีการแข่งขันกันด้วยใครที่สังหารสัตว์ร้ายได้มาก ก็จะยิ่งได้รับรางวัลมากขึ้น.”
จุนซ่างเซียวที่สีคางไปมา เอ่ยออกไปว่า“นี่เป็นโอกาสที่จะให้เซียวโม่ยกระดับตัวเอง แจ้งไปยังถางจู่จื่อ ให้เขานำคนไปยังเทือกเขาหยุนหลิง.”
“รับทราบ.”
ลี่ลั่วฉิวที่จากไป.
ในเวลาไม่นานจากนั้น ถางจู่จื่อก็ได้นำผู้ใต้บังคับบัญชาไปยังเทือกเขาหยุนหลิง.
แน่นอนว่าภารกิจของจุนซ่างเซียว คือส่งอีกฝ่ายไปทำให้ซูเซียวโม่ได้มีโอกาสเฉิดฉายท่ามกลางศิษย์สายนอกคนอื่น ๆ.
แน่นอนนี้ถือว่าเป็นโอกาสทำคะแนนสร้างเกียรติคุณเพื่อที่จะให้เขาเติบโตนิกายไท่เสวียนเซิ่งอย่างรวดเร็ว.
......
ภายในป่าเขาทึบ.
ศิษย์สายนอกนิกายไท่เสวียนเซิ่งได้ส่งศิษย์สายนอกพร้อมกับอาวุโสระดับจักรพรรดิยุทธ์คนหนึ่งออกมา มุ่งหน้าสู่เทือกเขาหยุนหลิง สายตาของทุกคนที่เป็นประกาย ทั้งฮึกเหิม กระวนกระวาย หลากหลายแตกต่างกันไป.
นิกายมีการให้ศิษย์ออกไปหาประสบการณ์จริงทุกปี หากใครทำผลงานได้ดี ไม่เพียงแค่ได้รับรางวัล ยังได้แต้มสมนาคุณด้วย.
สำหรับแต้มสมนาคุณนั้น ยิ่งใครเก็บสะสมได้มากเท่าไหร่ ก็จะทำให้มีโอกาสได้เป็นศิษย์สายในมากยิ่งขึ้น.
ศิษย์สายนอกยกระดับเป็นศิษย์สายในของนิกายไท่เสวียนเซิ่งนั้น วิธีปรกติก็คืองานประลองประจำปีเหมือนกับนิกายอื่น ๆ.
ทว่าก็มีเหล่าศิษย์สายนอกที่มีพรสวรรค์ที่ไม่ค่อยดี พวกเขาเองก็มีสิทธิ์เลื่อนเป็นศิษย์สายในได้ด้วยการเก็บสะสมแต้มสมนาคุณนั่นเอง.
“ศิษย์น้อง.”
ระหว่างทาง บุรุษที่ดูหล่อเหลาเอ่ยออกมาอย่างอหังการ“เทือกเขาหยุนหลิงนั้น แม้นว่าจะเต็มไปด้วยอันตราย ขอเพียงตามศิษย์พี่มา รับรองว่าเจ้าจะปลอดภัยอย่างแน่นอน.”
ซูเซียวโม่เผยยิ้ม“ขอบคุณศิษย์พี่ที่ช่วยเหลือ.”
ขณะกล่าวในใจ“ระดับบรรพยุทธ์ นี่คือสุดยอดฝีมือแล้วรึ?”
เขาที่ใช้ศาสตร์ปิดพลังปกปิดระดับบ่มเพาะจากกษัตริย์ยุทธ์ให้เหลืออาจารย์ยุทธ์ นั่นก็เพื่อที่จะแฝงตัวให้กลมกลืนเข้ากับศิษย์สายนอกระดับต่ำ ไม่ผิดสังเกตุนั่นเอง.
ไม่ว่าอย่างไร.
ภารกิจที่เจ้านิกายมอบให้ ซูเซียวโม่ย่อมต้องทำให้มันสำเร็จอย่างแน่นอน.
“พักได้ตามสบาย!”
หลักจากเดินทางมาได้ระยะหนึ่ง อาวุโสก็ตะโกนสั่งการ.
“ศิษย์น้อง.”
ซุนหยิงชวนเอ่ย “ทุบไหล่ให้ศิษย์พี่หน่อย.”
“รับทราบ!”
ซูเซียวโม่ที่วิ่งเข้ามาด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับออกแรงนวดไหล่“ศิษย์พี่ซุน แรงระดับนี้ได้หรือไม่?”
“อืม.”
ซุนหยิงชวนที่หลับตาพริ้ม “ไม่เลว.”
เรื่องนี้ หากเปลี่ยนเป็นราชันย์รัตติกาล เกรงว่าคงใช้ฝ่ามือสับไหล่อีกฝ่ายขาดเป็นสองท่อนไปแล้ว.
หากแต่ซูเซียวโม่ที่ปรับตัวเข้าได้กับผู้อื่นได้อย่างดี เป็นคนที่เหมาะสมที่จะเป็นสายลับตั้งแต่เกิดแล้ว.
“หยิงชวน!”
อาวุโสที่นำมา ใบหน้าสงบ กล่าวเสียงเบา“ข้าพาเจ้ามาหาประสบการณ์ ไม่ได้มาพักผ่อน!”
“ท่านพ่อ.”
ซุนหยิงชวนเผยยิ้ม“แค่นิดหน่อย.”
“เฮ้อ.”
อาวุโสซุนที่ส่ายหน้าไปมา จ้องมองซูเซียวโม่เอ่ยออกไปว่า“หลังจากกลับนิกาย เจ้าสามารถเข้าไปฝึกฝนในค่ายกลพลังวิญญาณได้สามวัน.”
ค่ายกลพลังวิญญาณนั้นเป็นสถานที่บ่มเพาะพิเศษของนิกายไท่เสวียนเซิ่ง ที่ด้านในนั้นมีความเข้มข้นของพลังวิญญาณมากกว่าด้านนอกหลายเท่า.
แม้นว่าจะไม่สามารถเทียบได้แม้แต่เพียงเศษเสี้ยวของค่ายกลรวมวิญญาณของนิกายนิรันดร ทว่าสำหรับศิษย์สายนอกนิกายไท่เสวียนเซิ่ง สถานที่ดังกล่าวถือว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อย่างแท้จริง ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถเข้าไปใช้ได้.
“ขอบคุณอาวุโสซุน!”
ซูเซียวโม่ที่แสดงท่าทางดีใจ แสดงออกให้เห็นชัดเจน.
“เป็นความจริง!”
“แผนการนี้ถูกต้องจริง ๆ!”
“ตราบเพียงคอยรับใช้ซุนหยิงชวน แน่นอนว่าย่อมได้รับการให้ความสำคัญจากอาวุโสซุน.”
ระหว่างที่ครุ่นคิด เขาจ้องมองไปยังสตรีที่สวยสง่า นั่งอยู่บนศิลาก้อนใหญ่ แอบครุ่นคิดในใจ“นางคือหลานของอาวุโสเซี่ย จะต้องหาโอกาสทำความรู้จักแล้ว.”
ซูเซียวโม่ที่เข้ากับคนได้ง่าย เขาที่ผูกสัมพันธ์รู้จักกับผู้คนมากมายทั้งระดับต่ำและสูงของนิกายไท่เสวียนเซิ่ง.
“ออกเดินทางต่อได้!”
เหล่าศิษย์นิกายไท่เสวียนเซิ่งหลังจากพักผ่อนไปชั่วครู่ จากนั้นก็เดินทางไปยังเทือกเขาหยวนหลิงต่อ.
....
ในเวลานี้ ถางจู่จื่อที่นำผู้ใต้บังคับบัญชาเดินทางมาด้วยเช่นกัน.
“เหล่าหนิว.”
“พวกเราควรทำอย่างไรดี?”
ด้วยคำสั่งที่เขาต้องมารับบทแสดงเพื่อให้ซูเซียวโม่โดดเด่น ดูเหมือนว่าจะเกินกำลังความคิดของเขาเล็กน้อย.
เหล่าหนิวเอ่ย “เจ้านิกายบอกว่าให้มาสร้างปัญหาให้กับนิกายไท่เสวียนเซิ่ง ไม่จำเป็นต้องสังหาร เพียงแค่เปลี่ยนร่างออกไปรังแกพวกเขาก็พอ.”
“ตกลง.”
ราชาสัตว์จื่อเหรินเอ่ย“เป็นไปตามนั้น.”
“องค์ราชา! เป้าหมายมาแล้ว!”
“ซ่อนตัว อย่าให้ใครพบ!”
“ฟิ้ว! ฟิ้ว!”
เหล่ายอดฝีมือโถงสัตว์วิญญาณที่ซ่อนตัวในทันที.
อาวุโสซุนและคนอื่น ๆ คงคาดไม่ถึง ว่าเทือกเขาหยวนหลิงเวลานี้มีสัตว์วิญญาณที่ทรงพลังแข็งแกร่งซ่อนตัวอยู่ เขายังคงนำศิษย์เดินทางมา มือขัดหลังพร้อมกับเอ่ยออกไปว่า“การหาประสบการณ์ครั้งนี้คือห้าวัน สามารถจับกลุ่มร่วมมือกันหรือไปคนเดียวได้ ทว่าเมื่อถึงเวลาจะต้องกลับมารวมตัวกันที่นี่.”
“รับทราบ!”
ศิษย์ทุกคนที่ตะโกนตอบรับเสียงดัง.
“การหาประสบการณ์เริ่มต้น!”
เมื่ออาวุโสซุนตะโกนคำพูดดังกล่าวออกไป ศิษย์ 500 คนก็แยกย้ายกันออกไปทันที บางคนเข้าไปในป่าลึกเพียงคนเดียว บางคนก็รวมกลุ่มสามหรือสี่คน.