ตอนที่แล้วChapter 810 ชายหนุ่มผู้ร่ำรวย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 812 พี่น้องทั้งหลาย พวกเราพบกันอีกแล้ว

Chapter 811 โอกาสทำเงิน


งานภายในนิกายมีไม่น้อย หากแต่จุนซ่างเซียวก็นำหลิวหว่านซีมาเข้าร่วมงานประลองเทพอาหารด้วยตัวเอง นั่นก็เพราะว่าต้องสำเร็จภารกิจมหากาพย์ ไม่ใช่รึ?

ในเวลานี้เจ้าเด็กเฉียนปูโตว คาดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นหัวหน้ากรรมการ ทำให้เขาปรับตัวลื่นไหลเป็นปลาไหลในทันที.

การต่อสู้วิถียุทธ์คือการล้มคู่ต่อสู้ สามารถเห็นชัยชนะชัดเจนบนเวที.

อย่างไรก็ตาม การแข่งขันอาหารนั้นแตกต่างออกไป ตัดสินแพ้ชนะด้วยการประเมิน อาหารจะอร่อยหรือไม่อร่อยนั้นขึ้นอยู่กับผู้ประเมิน.

แม้นว่าจุนซ่างเซียวคิดว่าหลิวหว่านซีสามารถชนะด้วยความสามารถ ทว่าในเมื่อมีโอกาสได้พบกับหัวหน้ากรรมการแล้ว ท่าทางของเขาก็เปลี่ยนไป.

กล่าวให้ถูกต้อง.

เขาจะต้องทำให้ศิษย์ตัวเองได้อันดับหนึ่งในสาม ถึงจะสำเร็จภารกิจมหากาพย์ ดังนั้นจึงต้องทำทุกวิธีที่ทำได้.

เงินเหรอ.

ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการที่สุด!

“เจ้านิกายจุน.”เฉียนโปโตวที่เผยยิ้ม “แม่นางหลิวที่เตรียมอาหารให้ข้า เงินและศิลาวิญญาณนั้นคือว่าเป็นค่าตอบแทน การที่ท่านคืนกลับให้ข้า ต้องการจะติดสินบนให้กับข้าอย่างงั้นรึ?”

สหายน้อย.

จะกล่าวล้อเล่นก็ตรงไปหน่อยไหม!

จุนซ่างเซียวเอ่ย “น้องเฉียวกล่าวหนักไปแล้ว เปิ่นจั้วให้เจ้าเป็นพี่น้อง เงินและศิลาวิญญาณแน่นอนว่าย่อมไม่ต้องการ.”

“......”

ราชาสัตว์จื่อหลินรู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที.

ด้วยการจ่ายเงินไปก่อนหน้านี้ จึงทำให้เจ้าคนนี้เห็นว่าเป็นพี่น้องไม่ใช่หรอกรึ?

“เจ้านิกายจุน.”

เฉียนโปโตวเอ่ย “เงินและศิลาวิญญาณนั้นได้มอบให้กับแม่นางหลิวแล้ว ข้าไม่ต้องการ.”

“แน่นอน.”

เขาที่หยุดและเอ่ยออกมาว่า“ถึงข้าจะเป็นหัวหน้ากรรมการ ข้าย่อมมีหลักการตัดสินอย่างเป็นธรรม.”

เฮ้.

เจ้าเด็กนี้ยังมีอายุไม่มาก ทว่าลักษณะความเป็นกรรมการของเขากับแสดงออกมาอย่างสูงส่ง.

“แน่นอน.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “เปิ่นจั้วย่อมไม่บังคับ.”

เฉียนโปโตวเอ่ย “ที่จริงเจ้านิกายจุนไม่จำเป็นต้องกังวล ด้วยฝีมือของปลาหลี่ฮื้อผัดเปรี้ยวหวานเมื่อครู่นี้ สามารถเป็นหนึ่งในยี่สิบได้อย่างไม่มีปัญหา.”

หากเป็นคนอื่น ๆ หากได้ยินการประเมินของหัวหน้าผู้ตัดสินเช่นนี้ย่อมตื่นเต้นดีใจแน่นอน ทว่าจุนซ่างเซียวและหลิวหว่านซีที่ขมวดคิ้วไปมา.

หนึ่งในยี่สิบ?

ยังไม่สิ่งที่พวกเขาคาดหวัง!

“กล่าวตามตรง.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “ในเมื่อเปิ่นจั้วนำศิษย์เข้าร่วมงานประลองเทพอาหาร ก็จะต้องได้รับชัยชนะเลิศ.”

เฉียนโปโตวที่ส่ายหน้าไปมา “งานประลองเทพอาหารเต็มไปด้วยคนที่แข็งแกร่ง ต้องการชนะเลิศนั้นถือว่ายากมาก.”

แม้นว่าผัดเปรี้ยวหวานปลาหลี่ฮื้อจะน่าตื่นตะลึง ทว่าอาหารอื่น ๆ ที่คนอื่นทำ ย่อมไม่ด้อยกว่าเช่นกัน ดังนั้นเฉียนโปโตวก็ไม่สามารถที่จะยืนยันได้ว่า หลิวหว่านซีนั้นได้ทำอาหารที่ดีที่สุด.

“เช่นนั้น.”

จุนซ่างเซียวที่สีคางไปมา “งานประลองเทพอาหารสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ.”

“มีความสำคัญสูงมาก.”

เฉียนโปโตวเอ่ย.“แม้นว่าข้าจะเคยเห็นเพียงบันทึกภาพในอดีต ทว่าสุดยอดวิถีอาหารของเหล่าผู้เชี่ยวชาญที่มารวมตัวกัน ล้วนแต่มีความแข็งแกร่งที่สุด!”

หลิวหว่านซีที่แววตามีประกายส่องสว่างเล็กน้อย.

สาวน้อยที่กังวลเล็กน้อย นางกังวลว่าจะไม่ได้รับชัยชนะ กังวลว่าจะทำให้เจ้านิกายผิดหวัง.

ต้องไม่ลืมว่านางที่ยังเด็ก นางไม่ได้มีประสบการณ์การต่อสู้ใด ๆ นางรู้ว่างานประลองเทพอาหารนั้นมียอดฝีมือมากมาย หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่นางต้องเป็นกังวล.

“สาวน้อย.”

จุนซ่างเซียวที่มองไปยังนาง พร้อมกับกล่าวให้กำลังใจ“ไม่ว่าจะเอาชนะคู่ต่อสู้ได้หรือไม่นั้น สิ่งหนึ่งที่เจ้าต้องมี ก็คือ ต้องเชื่อว่าตัวเองว่าแข็งแกร่งที่สุด!”

หลิวหว่านซีที่กำหมัดน้อย ๆ ของนาง“ศิษย์จะต้องพยายามให้หนัก จะไม่ทำให้เจ้านิกายขายหน้าเด็ดขาด!”

“ออกเดินทาง.”

จุนซ่างเซียวที่เอ่ยเสียงดัง พร้อมกับนำทุกคนมุ่งสู่เมืองจักรพรรดิต้าจุน.

“น้องเฉียน ครอบครัวเจ้าทำธุรกิจอะไร?”

“ไม่ได้ทำธุรกิจ เพียงแค่มีเหมืองศิลาวิญาณสองสามแห่ง และพื้นที่ให้เช่า.”

“ไม่สนใจเข้าร่วมนิกายนิรันดรรึ?”

“เรื่องนี้....ไม่มีแผนที่จะเข้าร่วมนิกายชั่วคราว.”

......

ไม่กี่วันหลังจากนั้น.

จุนซ่างเซียวก็เข้ามาถึงจังหวัดจงจุน บนเส้นทางสู่เมืองจักรพรรดินั้น.

“ได้ยินมาว่าศิษย์ของเทพอหารซือเหว่ยเทียนได้เข้าร่วมงานประลองเทพอาหารครั้งนี้ สงสัยตำแหน่งชนะเลิศนั้นคงจะเป็นของเขาแล้ว.”

“ก็ไม่แน่ ข้าได้ยินมาว่ามีผู้เข้าร่วมการแข่งขันนั้นแข็งแกร่งมีมากมาย ไม่ได้ด้อยกว่าศิษย์เทพอาหารเลย.”

ระหว่างทาง เหล่าชาวยุทธ์ที่พูดคุยกันเบา ๆ.

เห็นชัดเจนว่า พวกเขาเดินทางมายังเมืองจักรพรรดิครั้งนี้ ก็เพื่อเข้าชมการแข่งขันเทพอาหารนั่นเอง.

แม้นว่าวิถีอาหารในทวีปชิงหยุนจะไม่ใช่สิ่งที่ได้รับความนิยมนัก ทว่างานแข่งขันวิถีอาหารระดับทวีปครั้งนี้ ก็มีคนสนใจไม่น้อย.

“สหายน้อย เกรงว่าเจ้าจะไม่รู้ ก่อนหน้านี้งานแข่งขันอาหารที่จังหวัดตงเห่า ซ่งเป้าศิษย์เทพอาหารได้ทำอาหารที่เกิดปรากฏการณ์มังกรและหงส์ร่ายรำเกิดขึ้น เป็นภาพมายาที่หมุนวนทะยานขึ้นสรวงสวรรค์เลย!”ชายยุทธ์คนหนึ่งเอ่ย.

จุนซ่างเซียวได้ยินคำพูดดังกล่าว ใบหน้าที่เผยความประหลาดใจออกมา.

อาหารที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์ฟ้าดิน นี่มันเหมือนนิยายไปหรือไม่?!

“เรื่องนี้?”

เหล่าชาวยุทธ์ไม่น้อยที่อยู่รอบ ๆ ต่างก็เผยความประหลาดใจออกมา.

ชายอีกคนเอ่ยกล่าว“การที่ทำอาหารก่อให้เกิดปรากฏการณ์ฟ้าดินเกิดขึ้นเช่นนี้ รสชาติต้องสุดยอดแน่ ศิษย์ของเทพอาหารจะต้องได้รับชัยชนะในครั้งนี้แน่นอน!”

“วิถีอาหารไม่ได้วิถีปรุงยา แต่กับสามารถทำให้เกิดปรากฏการณ์ฟ้าดินอย่างคาดไม่ถึง เรื่องนี้น่าเหลือเชื่อจริง ๆ!”

“เป็นเรื่องธรรมดา อาหารของซือเหว่ยเทียนทำในอดีตก็เกิดปรากฏารณ์จนทำให้เขาได้รับฉายาเทพอาหาร การที่ส่งต่อความสามารถให้ศิษย์ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก.”

......

“เจ้านิกาย.”

หลิวหว่านซีเอ่ย “ข้ารู้สึกขาดความมั่นใจขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว.”

“อย่าคิดฟุ้งซ่าน.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “เจ้ายอดเยี่ยมที่สุด!”

แม้นว่าเจ้าคนนามซ่งเป้านั้นจะเป็นยอดฝีมือจริง ๆ ทว่าศิษย์ของเขาพร้อมกับตำราอาหารจีน ที่มากมายหลายชนิด ไม่มีทางที่จะพ่ายแพ้ได้.

อีกอย่าง.

อาหารตัดสินกันที่รสชาติต่างหาก.

แม้นว่าอาหารที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์ฟ้าดินได้ ถือว่าเป็นสุดยอด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า จะอร่อยยอดเยี่ยมเสมอไป.

......

เมืองจักรพรรดิต้าจุน.

เป็นหนที่สองแล้วที่จุนซ่างเซียวมา ดังนั้นเมื่อเข้ามาในเมือง การเห็นความคึกคักของผู้คนก็ไม่ได้เผยท่าทางประหลาดใจ.

“เจ้านิกายจุน.”

เจ้าเมืองหานยืนอยู่บนหอคอยเมืองส่งเสียงผ่านเข้ามา “ท่านมาได้อย่างไร!”

ทั้งสองที่ถูกนับว่าเป็นคนคุ้นเคยกันก็ได้ในเวลานี้.

จุนซ่างเซียวเผยยิ้ม “ข้านำศิษย์มาเข้าร่วมงานประลองเทพอาหาร.”

“เป็นเช่นนี้นะเอง.”

เจ้าเมืองหานเอ่ย “มีที่พักแล้วรึยัง?”

“วางแผนไว้ว่าจะไปเช่าโรงแรมที่พักอยู่เหมือนกัน.”

“เจ้านิกายจุน หากไม่รังเกียจ มาพักที่คฤหาสน์ของหานโหมวดีหรือไม่?”

“เรื่องนี้......ก็ดีเหมือนกัน.”

เจ้าเมืองหานแทบกระโดดลงจากหอคอยประตูเมือง.

ข้าเพียงแค่พูดตามมารยาท ไม่คิดเลยว่าเขาจะตอบรับโดยไม่เกรงใจเลยรึ?

อา ใช่แล้ว เจ้านิกายจุนคนนี้เป็นคนที่มุทะลุ หน้าหนาไม่เกรงใจอยู่แล้ว.

......

คฤหาสน์เจ้าเมือง สวนด้านหลัง.

จุนซ่างเซียวที่ก้าวเข้ามาเห็นมีบ่อปลาด้วย จึงเอ่ยออกมาว่า“สถานที่เจ้าเมืองเตรียมไว้ จุนโหมวพอใจนัก.”

“......”

เจ้าเมืองหานไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา.

ดูเหมือนว่ายิ่งพูดอะไรไป เขาจะยิ่งเสียเปรียบ.

“ใช่แล้ว.”

จุนซ่างเซียวที่นั่งลงที่ศาลาเล็ก ๆเอ่ยออกมาว่า“งานประลองเทพอาหาร เป็นที่สนใจของทุกคนทั่วทวีป เจ้าเมืองหานวางแผนที่จะถ่ายทอดสดหรือไม่?”

เจ้าเมืองหานที่ส่ายหน้าไปมา “งานแข่งขันทำอาหารนั้นมีตระกูลใหญ่ร่วมมือกัน ไม่ได้เกี่ยวข้องกับหานโหมวเลย.”

“เรื่องนี้.”

จุนซ่างเซียวที่ยกน้ำชาขึ้นจิบ กล่าวอย่างจริงจัง “เจ้าเมืองหาน ข้าคิดว่านี่คือโอกาสทำเงินเลย.”

“โอกาสทำเงิน?”เจ้าเมืองหานที่กลายเป็นงงงวย.

จุนซ่างเซียวเอ่ย “แม้นว่าในทวีปชิงหยุนวิธียุทธ์ จะได้รับความนิยมสุงสุด ทว่าทุกคน ต่างก็ต้องกิน ต้องดื่ม ดังนั้นเกี่ยวกับรายงานอาหารย่อมเป็นที่สนใจของผู้คนแน่นอน พวกเราสามารถถ่ายทอดสดไปทั่วทวีปได้.”

เจ้าเมืองหานที่มุมปากกระตุก เอ่ยออกมาว่า“การควบคุมค่ายกลก็ต้องใช้กำลังคนและทรัพยากร แล้วจะหากำไรอย่างไร?”

“ง่ายมาก.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “ต้องเชิญเหล่าหอการค้ามาเข้าร่วม!”

“เชิญหอการค้ามาเข้าร่วมอย่างงั้นรึ?”

“เรื่องนี้.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “ก่อนการแข่งขันพวกเราต้องฉายภาพ โฆษณางานประลองเทพอาหารให้ทุกคนสนใจ จากนั้นในเวลาพักต่าง ๆ ก็จะโฆษณาสินค้าให้กับพวกเขา.”

เจ้าเมืองหานแทบสำลักน้ำชา.

เรื่องโฆษณานี้ เขายังคงจำฝังใจ เจ้าเด็กนี้เสนอตัวออกไปหน้าจอขวางงานประลองผู้นำพยัคฆ์มังกรซ้ำแล้วซ้ำเล่า.

“เรียนท่านเจ้าเมือง.”

คนรับใช้คนหนึ่งเข้ามารายงาน“นายน้อยสองตระกูลถังขอเข้าพบ.”

จุนซ่างเซียวเผยยิ้ม“เจ้าเมืองหาน หากท่านยินดีที่จะทำเงินด้วยค่ายกลสะท้อน ข้าคิดว่านายน้อยถังต้องยินดีที่จะจ่ายค่าโฆษณาอย่างแน่นอน.”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด