ตอนที่แล้วตอนที่ 44 การละเล่นอันภาคภูมิ (อ่านฟรี 02/05/2567)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 46 สิทธิส่วนบุคคลรู้จักรึเปล่า? (อ่านฟรี 07/05/2567)

ตอนที่ 45 ขายเนื้อครั้งที่สอง (อ่านฟรี 04/05/2567)


“เถ้าแก่! เกิดอะไรขึ้นรึเปล่า ?” หานจุนหมิงที่รีบเดินมายังศาลา กล่าวออกมาหลังจากมาถึง

ภาพตรงหน้าเขาคือ ศาลาไม้กลางน้ำขนาดใหญ่ แต่มีรูโผว่ขนาดเท่าตัวมนุษย์ปลาอยู่ที่พื้นหนึ่งรู และที่หลังคาอีกรูหนึ่ง สงสัยว่าทั้งคู่คงจะเล่นอะไรกันบางอย่าง

“ไม่มีอะไรหรอก ว่าแต่เจ้าคุยธุระเสร็จแล้วรึ?” ชายหนุ่มกล่าวถามออกมาหลังจากจิบชาเสร็จ

“เรื่องนั้น มีคนมาขอพบเถ้าแก่น่ะ” หานจุนหมิงกล่าวออกมา

“ใครกัน? เชิญเขาเข้ามาสิ” ชายหนุ่มกล่าวจบ ชายกลางคนก็หันไปพยักหน้าให้ชายในชุดคลุมสีดำ ทำให้ชายคนนั้นที่รออยู่นอกศาลาเดินเข้ามา

“สวัสดีเถ้าแก่ ข้ามาจากภัตตาคารหงส์เพลิง มาซื้อเนื้ออสูรตามที่ได้ตกลงกันไว้” เมื่อเดินเข้ามาถึงชายในชุดคลุมสีดำก็กล่าวทักทาย ก่อนที่จะกล่าวเข้าเรื่องทันที

“อ๋ออ เรื่องนั้นนี่เอง เจ้าจะซื้อไปหนึ่งก้อนตามที่ตกลงใช่ไหม” ชายหนุ่มนึกขึ้นได้ เขาได้ทำสัญญากับภัตตาคารหงส์เพลิงเรื่องจะขายเนื้อให้เป็นรายอาทิตย์จนกว่าเนื้อจะหมดหรือเลิกขาย

“เจ้าของร้านได้กล่าวว่าการเดินทางมันลำบากกว่าที่คิด เลยให้เงินข้ามาห้าหมื่นผลึกเพื่อซื้อเนื้อกลับไปให้ได้มากที่สุดขอรับ” หลังกล่าวจบเขาก็หยิบแหวนมีติออกมาหนึ่งวง มันเป็นแหวนระดับกลางที่สามารถยืดอายุของสดที่ใส่เข้าไปได้เจ็ดวัน

“งั้นเราไปหาที่กว้าง ๆกันเถอะ ข้าจะได้เรียกเนื้อออกมาให้เจ้าเลือก รบกวนเจ้าด้วย หานจุนหมิง” ชายหนุ่มกล่าวจบเขาก็หันไปพยักหน้าให้พานจุนหมิง อีกฝ่ายพยักหน้าตอบก่อนจะเดินนำทางไป

ชายสามคนกับปลาหนึ่งตัวเดินไปยังลานกว้างที่เอาไว้ใช้ฝึกซ้อมของโรงเตี๊ยมแห่งนี้ ตามปกติจะมีผู้ที่เข้าพักโรงเตี๊ยมแวะมาใช้งานลานฝึกซ้อมแห่งนี้บ้าง แต่เนื่องจากต้องการความเป็นส่วนตัวหานจุนหมิงเลยปิดลานซ้อมแห่งนี้ไว้ชั่วคราว

ตึง! ตึง! ตึง!

“เหลืออยู่เท่านี้แหละ เพราะกินไปบ้างก่อนหน้านี้ระหว่างเดินทาง” ชายหนุ่มกล่าวขึ้นมาหลังจากเรียกเนื้ออสูรระดับสาม สิงโตยักษ์ออกมาเต็มลานกว้าง

มันเป็นก้อนเนื้อทั้งหมดสิบห้าก้อน มีก้อนที่ขนาดใหญ่ที่สุดห้าก้อน ก้อนขนาดกลางสามก้อน ก้อนขนาดเล็กเจ็ดก้อน แต่ถึงจะบอกว่าก้อนขนาดเล็กมันก็มีขนาดใหญ่กว่าตัวของเจ้าปลาปากเสียในร่างปลาตีนซะอีก

“นะ นี่มัน ข้าก็ไม่คิดว่ามันจะเยอะขนาดนี้!” หานจุนหมิงอุทานออกมา มันเยอะเกินไปหน่อยไหม?

“แถมคุณภาพก็ดีเยี่ยมซะด้วย ถ้าข้าจำไม่ผิดเถ้าแก่น่าจะเก็บเนื้อพวกนี้ไว้ เกือบสองสัปดาห์แล้วนี่” หานจุนหมิงลูบเนื้อพลางกล่าววิเคราะห์ออกมา

“ใช่ ข้ามีวิธีพิเศษนิดหน่อย ว่าแต่เจ้าจะเอาก้อนไหนล่ะ ?” ชายหนุ่มกล่าวตอบหานจุนหมิง ก่อนจะหันไปถามชายในชุดคลุมสีดำ

“ข้าก็เลือกไม่ถูก ว่าแต่ แต่ละก้อนน้ำหนักเท่าไหร่ ? ก้อนใหญ่แบบนี้จะชั่งน้ำหนักยังไง” ชายชุดคลุมดำก็ทึ่งในขนาดของเนื้อเหมือนกัน ก่อนจะคิดว่าตาชั่งมันจะไปชั่งเนื้อก้อนใหญ่ขนาดนี้ได้ยังไง

ถ้าคาดคะเนจากสายตา ก้อนที่เล็กที่สุดคงจะมีน้ำหนักประมาณสี่ร้อยจิน ส่วนก้อนที่ใหญ่ที่สุดคงเกือบ ๆสองพันจินได้ ราคารับซื้อสองจิน สามสิบผลึก ผลึกที่เอามายังไงก็คงไม่พออย่างแน่นอน!

“เถ้าแก่ เรามาตัดเป็นก้อนเล็ก ๆ แล้วชั่งน้ำหนักกันเถอะ” หานจุนหมิงเสนอขึ้น ชายหนุ่มก็เห็นด้วย ดังนั้นชายกลางคนจึงได้เรียกให้คนเอาตาชั่งขนาดใหญ่ออกมา แต่มันก็ชั่งได้มากสุดแค่ห้าร้อยจินเท่านั้น

“เรามาตัดแบ่งกันก่อนเถอะ หลังจากนั้นค่อยชั่งหนักหนักอีกที” ชายหนุ่มกล่าวขึ้นมาก่อนที่ทุกคนจะช่วยกันหั่นเนื้อให้เป็นชิ้นๆ

...

“ได้เยอะกว่าที่คิดเหมือนกันนะ” ชายหนุ่มปาดเหงื่อจากหน้าผากก่อนจะกล่าวออกมา พวกเขาใช้เวลาอยู่หนึ่งก้านธูปกว่าจะตัดแบ่งเนื้อจนเสร็จ

“มาชั่งน้ำหนักกันเถอะ” ชายหนุ่มจบก็ทยอยขนก้อนเนื้อขึ้นไปช่างทีละก้อน โดยมีหานจุนหมิงยืนจดลงบนกระดาษอยู่ข้าง ๆ จะได้ไม่ผิดพลาด

ผ่านไปสองก้านธูป พวกเขาก็ชั่งน้ำหนักก้อนเนื้อจนเสร็จ

ก้อนเนื้อขนาดเล็กเจ็ดก้อน มีน้ำหนักเฉลี่ยอยู่ที่ก้อนละ สามร้อยถึงห้าร้อยจิน ก้อนขนาดกลางสามก้อนมีน้ำหนักเฉลี่ยอยู่ที่ก้อนละ หนึ่งพันจิน ส่วนก้อนขนาดใหญ่ที่สุดห้าก้อน มีน้ำหนักเฉลี่ยอยู่ที่หนึ่งพันแปดร้อยจิน รวมน้ำหนักทั้งสิ้นเป็นจำนวน หนึ่งหมื่นสี่พันแปดร้อยจิน

“ข้าขอไม่ขายทั้งหมดนะ” ชายหนุ่มกล่าวขึ้น

ชายหนุ่มตัดสินใจที่จะเก็บไว้เป็นอาหารให้ฟิชกับกินเองสี่พันแปดร้อยจิน จึงตัดสินใจที่จะขายเพียงหนึ่งหมื่นจินเท่านั้น ราคาที่ตกลงกันไว้คือสองจิน สามสิบผลึก  หรือก็คือจินละสิบห้าผลึก ดังนั้นราคาของเนื้อทั้งหมดจึงอยู่ที่ หนึ่งแสนห้าหมื่นผลึก

“เถ้าแก่ ข้าซื้อทั้งหมดไม่ไหวหรอก ข้านำมาแค่ห้าหมื่นผลึกเท่านั้น” ชายในชุดคลุมดำกล่าวออกมา ทำให้ชายหนุ่มนึกขึ้นได้ว่าเขาบอกเรื่องนี้ไว้ตอนแรกแล้ว

“ข้าจะซื้อส่วนที่เหลือเองเถ้าแก่” แต่เป็นหานจุนหมิงที่กล่าวขึ้น

เขามีแหวนมิติที่ใช้เก็บสิ่งของได้นานหนึ่งเดือน ดังนั้นจึงมีความคิดที่จะแบ่งขายเนื้อเหล่านี้ในตลาดเมืองหลวงและส่งเนื้อไปยังโรงเตี๊ยมพลบค่ำตามเขตต่าง ๆ คงจะทำกำไรได้ไม่ใช่น้อย

“ตกลงตามนี้” ชายหนุ่มก็ไม่ได้สนใจว่าใครจะเป็นคนซื้อ ตอบตกลงทันที

หลังจากที่แบ่งเนื้อกันเสร็จแล้วชายหนุ่มก็นับผลึกที่ได้รับมา ตอนนี้ตัวเขามีผลึกทั้งหมด สองแสนสองหมื่นสามพันหกร้อยผลึกแล้ว เพียงพอที่จะซื้อเคล็ดวิชาบำเพ็ญเซียนเสียที!

“ถ้าเช่นนั้นข้าขอตัวก่อนนะเถ้าแก่ ท่านหานจุนหมิง ถ้าพวกท่านต้องการใช้บริการในการรับส่งสิ่งของ อย่าลืมนึกถึงฟ่านเกอหลี่นะขอรับ” ชายในชุดคลุมสีดำกล่าวอำลาก่อนที่จะพริ้วกายจากไป เขาต้องรีบไปส่งของให้เสร็จจะได้จบงานแล้วไปฝึกตนต่อ

“ดูเหมือนเขาจะเป็นผู้ฝึกตนที่รับงานส่งของนะ” หานจุนหมิงกล่าวขึ้นมา เขาเคยได้ยินเกี่ยวกับผู้ฝึกตนกลุ่มนี้มาก่อน

“มันคืออะไรรึ ?” ชายหนุ่มที่ได้ยินเลยกล่าวถามออกมา

“พวกเขาเป็นผู้ฝึกตนรับจ้างที่รับฝากส่งสิ่งของต่าง ๆ ของอาณาจักรนี้น่ะ ไม่ต้องกังวลเรื่องการจะโดนคดโกงเลย เพราะพวกเขามีชื่อเสียงมาก แต่ราคาค่าส่งก็ตามระยะทางและความเสี่ยงนั่นแหละ อย่างการส่งของจากเมืองหลวงไปเขตยี่หลง มีค่าบริการอยู่ที่หนึ่งหมื่นผลึกเลยทีเดียว” หานจุนหมิงกล่าวออกมา ทำให้ชายหนุ่มพอจะเข้าใจ คงจะคล้าย ๆพวกขนส่งในโลกเก่าของเขานั่นแหละ แต่ใช้บริการผู้ฝึกตนแทน

“แล้วถ้าพวกเขาถูกฆ่าหรือถูกปล้นระหว่างทางจะทำยังไงล่ะ ?” ชายหนุ่มกล่าวถามสิ่งที่สงสัย แบบนั้นของไม่หายฟรีรึไง?

“จะมีการทำประกันสินค้าก่อนส่งเสมอ แถมผู้ส่งของแต่ละคนจะได้รับยันต์ป้องกันระดับราชวงศ์ให้ยืมใช้ด้วย แต่ข้าก็ไม่เข้าใจว่าพวกเขาป้องกันเรื่องคนส่งของขโมยของได้ยังไง” หานจุนหมิงกล่าวตอบ

“บางทีคงเป็นโดยการทำสัญญา ?” ชายหนุ่มกล่าวออกมาหลังครุ่นคิดตาม ด้วยสิ่งนี้มันรัดกุมเสียยิ่งกว่ากฎหมายบ้านเมืองเสียอีก

“คงจะเป็นเช่นนั้น” หานจุนหมิงก็เห็นด้วยเช่นกัน

‘น่าสนใจเหมือนกันนะ จะว่าไปเราก็มีเคล็ดวิชาเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยนี่นาเสียดายที่ราคามันโดนระบบปรับขึ้น’ ชายหนุ่มคิดในใจ ถ้าเขามีเคล็ดวิชานี้คงทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำ นี่แค่ส่งของรอบเดียวได้ตั้งหมื่นผลึก ถ้าเดินทางด้วยขบวนรถม้าแบบพวกเขา ต่อด้วยค่าจ้างคนคุ้มกัน เบ็ดเสร็จก็คงห้าพันผลึกได้ แถมเดินทางเอาเองก็เสี่ยงภัยตัวเองอีกต่างหาก แถมเสียเวลาด้วย

“ฟิช แกน่าจะไปทำงานนี้นะ จะได้หาผลึกเข้าบ้านบ้าง” ชายหนุ่มหันไปกล่าวกับสัตว์เลี้ยงของเขาที่นอนแผ่หลาอยู่บนพื้น

“นายท่านอย่าล้อเล่นแบบนี้สิ ข้าจะติดตามท่านไป ข้าจะปกป้องท่าน ข้าไม่ไปส่งของหรอก!” ไอ้ปลาปากเสียกล่าวขึ้น นอกจากปากเสียแล้วมันยังขี้เกียจอีก!

“จะว่าไป ปลิงมันเป็นยังไงแล้วบ้างหว่า ไม่ได้ตรวจสอบมันเลยแหะ” ชายหนุ่มนึกขึ้นได้ จึงเรียกโหลแก้วที่ใส่ปลิงเอาไว้ออกมาวางบนพื้น เขาคอยเปลี่ยนน้ำแดงให้มันทุกวันเพราะมันกินจนหมด จนตอนนี้ขนาดตัวของมันยาวหนึ่งฉื่อแล้ว ! แถมยังอ้วนอีกต่างหาก โชคดีที่เขาเตรียมโหลแก้วที่ขนาดใหญ่กว่าเดิมไว้มันจึงยังพอมีที่ให้ขยับได้บ้าง

‘ตรวจสอบ’ ชายหนุ่มมองไปยังปลิงสีดำ ที่ตอนนี้บนตัวของมันมีลายเส้นสีทองเป็นอักขระประหลาดบางอย่างเรืองแสงอยู่ตลอดเวลาก่อนจะเรียกใช้ทักษะตรวจสอบในใจ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด