ตอนที่แล้วตอนที่ 43 ที่ดินทั้งสาม (เปิดให้อ่านฟรี 29/04/2567)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 45 ขายเนื้อครั้งที่สอง (อ่านฟรี 04/05/2567)

ตอนที่ 44 การละเล่นอันภาคภูมิ (อ่านฟรี 02/05/2567)


“แล้วที่ดินนี้ เป็นแบบประมูลรึ?” ชายหนุ่มถามชายกลางคนที่นั่งอยู่ตรงข้าม

“ใช่แล้วเถ้าแก่ การประมูลจะเริ่มในอีกสามวันถัดไปนี่แหละ ดีที่พวกเรามาถึงก่อนเวลาพอดี” หานจุนหมิงตอบกลับไป

แต่ในตอนที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกันอยู่นั้นก็ได้มีคนมาขัดจังหวะซะก่อน

“นายท่านเจ้าคะ มีคนมาขอพบเจ้าค่ะ” มีพนักงานสาวคนหนึ่งเดินเข้ามากล่าวกับหานจุนหมิง ทำให้เขาทำหน้ามึนงงออกมา เพราะเขาไม่ได้นัดใครไว้นี่นา

“เถ้าแก่...” เขาหันไปกล่าวกับชายหนุ่มเพื่อดูท่าที เพราะกลัวว่าจะทำให้ชายหนุ่มไม่พอใจที่กำลังคุยกันอยู่แล้วมีคนมาขัดจังหวะ

“ไปสิ ข้ารออยู่นี่แหละ” ชายหนุ่มยิ้มให้ก่อนจะตอบกลับไป

“ข้าจะรีบกลับมา” หานจุนหมิงกล่าวจบก็เดินตามพนักงานสาวคนนั้นไป ทำให้ตอนนี้บนศาลาไม้ขนาดใหญ่เหลือผู้คนเพียงหนึ่งคนและหนึ่งตัวเท่านั้น

“นายท่าน ข้าขอลงไปว่ายน้ำเล่นได้ไหม ?” ฟิชกล่าวถามออกมาเพราะความเบื่อหน่าย

“ไม่ได้! มันเสียมารยาท ถึงเจ้าจะไม่มีก็เถอะ” ชายหนุ่มกล่าวตอบไปก่อนจะหยิบขนมมากินต่อ

อร่อยจริง ๆ เจ้าเซาปิ่งนี่

‘เฮ้อ เมื่อไหร่ผลึกของข้าจะครบกันนะ จะได้ซื้อคัมภีร์บำเพ็ญเซียนมาฝึกสักที’ ชายหนุ่มบ่นอยู่ในใจ ขาดอีกนิดก็จะครบแล้วแท้ ๆ หรือเขาควรลองเปิดร้านข้างทางในเมืองหลวงกันนะ?

.....................

“สวัสดีท่านหานจุนหมิง ข้ามาจากภัตตาคารหงเพลิง” ชายในชุดคลุมสีดำปกปิดตัวตนมิดชิดกล่าวออกมาหลังจากที่หานจุนหมิงมาถึง เขายืนรออยู่หน้าประตูได้สักพักแล้วแต่ก็ไม่ได้มีอารมณ์อะไรแม้แต่น้อย เขายื่นตราแสดงตัวตนของภัตตาคารหงส์เพลิงให้ดูเพื่อยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง

“สวัสดี ที่แท้ก็มาจากร้านของเจ้าโล้นเหาไห่นี่เอง มีธุระอะไรล่ะ” ชายกลางคนยิ้มให้ก่อนจะกล่าวเชิญให้อีกฝ่ายเข้ามาหลังจากที่ตรวจสอบตราดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว

“ข้าได้รับคำสั่งให้มารบพลบกับเถ้าแก่เย่เพื่อหาซื้อเนื้ออสูรกลับไป” ชายในชุดคลุมกล่าวตอบ

“อืม เรื่องนี้นี่เอง เจ้ามารอที่เมืองหลวงนานหรือยังล่ะ” หานจุนหมิงถามกลับ เขาไม่ได้แปลกใจเท่าไหร่ที่อีกฝ่ายจะรู้ว่าเถ้าแก่พักอยู่ที่นี่ เพราะก่อนออกมาเขาก็คุยกับเจ้าโล้นนั่นอยู่เหมือนกันว่าจะมาเมืองหลวงกับเถ้าแก่

“ประมาณสองวัน” ชายชุดดำตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจ ซึ่งหาได้ยากที่จะมีผู้ฝึกตนระดับสาม ขั้นเก้าสักคนมาคอยทำหน้าที่วิ่งส่งของแบบนี้ เส้นสายของเจ้าโล้นเหาไห่ก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน

“ถ้าอย่างนั้นเชิญเจ้าไปพูดคุยกับเถ้าแก่พร้อมกับข้าก็แล้วกัน จะได้ทำธุระกันต่อ” หานจุนหมิงกล่าวจบก็พาชายในชุดคลุมสีดำเดินไปยังศาลากลางน้ำที่ชายหนุ่มกำลังนั่งเล่นอยู่

เดินกันมาเกือบหนึ่งก้านธูปก็มีเสียงดังสนั่นให้ได้ยิน

ตู้ม! เปรี้ยง! อ๊ากกกกก

“นายท่าน! ท่านขี้โกงนี่!” เสียงโวยวายแว่วมาให้ได้ยินตั้งแต่ยังไม่ทันจะมองเห็นศาลา

“เขาเรียก ทำการศึกไม่หน่ายอุบาย!!” มีเสียงของชายหนุ่มสวนกลับทำทีพร้อมด้วยเสียงที่ดังลั่นอีกรอบ

เปรี้ยง! โอ๊ย!!

.....................

ภายในศาลากลางน้ำก่อนที่หานจุนหมิงจะได้ยินเสียงเมื่อสักครู่

“ฟิช มาเล่นอะไรแก้เบื่อกันเถอะ!” ชายหนุ่มที่ไม่มีอะไรทำจึงกล่าวกับฟิชออกมา

“อะไรล่ะนายท่าน? แต่ข้าเล่นพวกหมากกระดานไม่เป็นนะ ต่อให้เป็นฉิน วาดรูป เขียนอักษร ข้าก็ทำไม่เป็นทั้งนั้นแหละ!” มันพูดพร้อมกับยืดอกขึ้น เหมือนจะภูมิใจในความไร้ประโยชน์ในจุดนี้เป็นอย่างมาก

“ไม่ใช่พวกนั้น ข้ามีการละเล่นมาแนะนำ” ชายหนุ่มกล่าวออกมาโดยไม่สนใจสิ่งที่มันพูดก่อนหน้านี้

“เกมเป่า ยิ้ง ฉุบ ตีหัว!” เมื่อได้ยินสิ่งที่ชายหนุ่มกล่าว ก็มีเพียงคำเดียวที่ปรากฏขึ้นในหัวเจ้ามนุษย์ปลา

งง ! มันคืออะไร

“เอาง่าย ๆ ทำมือแบบนี้ มีค้อน กรรไกร กระดาษ” ชายหนุ่มสอนกฎกติกาให้เจ้าปลาโง่ตรงหน้าได้รับรู้ ซึ่งมันก็จดจำได้อย่างไม่ยากนัก

“ก็ไม่เห็นจะยากเลยนิ นายท่าน” มันกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงภูมิใจ เหมือนตัวมันฉลาดมากอะไรอย่างนั้น

“เออ ๆ ใครชนะก็เอาเจ้านี่ฟาดหัวอีกฝ่าย ส่วนอีกฝ่ายก็ต้องเอาเจ้านี่ป้องกันการโจมตี” ชายหนุ่มเรียกอาวุธระดับสูงซึ่งเป็นค้อนที่ได้มาจากตลาดเพราะตอนนั้นเขาแค่อยากซื้ออาวุธทุกชนิดมาไว้เล่น ๆ จึงได้ติดมา กับโล่สีดำที่ทำจากเหล็กทงเสอ ซึ่งเป็นวัตถุระดับสูงเช่นกันมาวางเอาไว้

“อึก...ท่านแน่ใจใช่ไหม??” มันลอบกลืนน้ำลายด้วยความหนักใจ นี่เจ้านายของมันคงไม่ได้หาทางฆ่ามันทางอ้อมใช่ไหม?

“อย่าขี้ขลาดไปหน่อยเลย มามา” ชายหนุ่มกล่าวจบพร้อมกับจ้องปลาปากเสียตรงหน้าตาเขม็ง เขาอยากตบเจ้าปลาตรงหน้ามาสักพักแล้ว ตอนนี้ก็คงเป็นโอกาสเหมาะพอดี!

ไม่ต้องห่วง ไม่ถึงตายหรอกน่า!

“เป่า ยิ้ง ฉุบ!” สิ้นเสียงของทั้งสองก็ปรากฏว่าชายหนุ่มได้ออกค้อน ส่วนเจ้าปลาปากเสียออกกรรไกร!

ฟึบ! หมับ

“ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าหยิบโล่ทัน!” เจ้าปลาปากเสียหัวเราะออกมาดังลั่น แต่แล้วมันก็รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างไม่ปกติ

“ใช่! หยิบ โล่ ทัน!” ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ด้านตรงข้ามของมันลุกขึ้นยืน ขณะจับค้อนด้วยมือทั้งสองข้าง เวลานี้ค้อนยักษ์ที่เป็นอาวุธระดับสูงกำลังถูกชูอยู่เหนือหัวของเขา

เปรี้ยง!! ตู้ม!!

ค้อนยักษ์ถูกฟาดลงมาด้วยความเร็วที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น ทั้งความแรงจากพละกำลัง บวกกับความเร็วของการถูกฟาดลงมาเป็นแนวเส้นโค้งอันสมบูรณ์แบบ ทำให้ตัวของปลาปากเสียถูกทุบจนทะลุผ่านพื้นที่นั่งของศาลาลงไปคลุกอยู่ในสระด้านล่างแทน

ส่วนเจ้าโล่ที่ทำมาจากเหล็กทงเสอก็สมกับที่เป็นอาวุธระดับเดียวกันกับค้อนยักษ์ มันเพียงแค่มีรอยบุบลงไปเล็กน้อย แต่ก็เป็นเพราะชายหนุ่มควบคุมพลังให้ทะลุผ่านโล่ไปโจมตีเจ้าปลายักษ์แทนนั่นแหละ

เกมนี้มันไม่สำคัญอยู่แล้วว่าคนที่ป้องกันจะหยิบโล่มาทันหรือไม่!

“โอ๊ยย มันเจ็บนะนายท่าน!” หลังตั้งตัวได้มันก็พุ่งตัวกลับขึ้นมานั่งบนศาลา ข้าง ๆจุดที่เป็นรูโหว่แล้วกล่าวออกมา แล้ววางโล่ไว้ที่เดิม

“แค่นิดหน่อยน่า มาเล่นกันต่อเถอะ” ชายหนุ่มกล่าวออกมาพร้อมกวักมือให้ปลาปากเสีย ทำให้เลือดนักสู้ของฝ่ายตรงข้ามมันลุกโชนขึ้นมา!

“ได้เลย! คราวนี้ข้าตรงชนะ!” มันรีบรับคำทันที

“เป่า ยิ้ง ฉุบ!”

“ข้าชนะ! ถึงทีข้..... เปรี้ยง!” ยังไม่ทันที่เจ้าปลาปากเสียจะพูดจบ มันก็สัมผัสได้ว่าใบหน้าโดนอะไรบางอย่างฟาดเข้าให้ ทำให้หน้ามันสะบัดไปด้านบนทันที

“นายท่าน! ท่านขี้โกงนี่!” คราวนี้มันรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ชายหนุ่มตรงหน้าของมันใช้โล่ฟาดใส่มันยังไงเล่า!

“ไหนท่านว่าคนแพ้ต้องใช้โล่ป้องกันไง!” มันโวยวายออกมาทันที

“ข้าก็ป้องกันอยู่นี่ไง เจ้าไม่เคยได้ยินรึ? การป้องกันที่ดีที่สุดคือการโจมตีน่ะ!!” ชายหนุ่มกล่าวจบก็จัดการซัดโล่เข้าใส่หน้าของปลาปากเสียเข้าไปอีกที คราวนี้ดูเหมือนจะแรงไปหน่อยเพราะร่างของมันลอยออกไปจากศาลาอีกแล้ว

ตู้ม! เปรี้ยง! อ๊ากกกกก

ซึ่งเสียงนี้ก็เป็นเสียงที่พวกหานจุนหมิงได้ยินนั่นเอง...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด