ตอนที่แล้วChapter 666 โล่เหล็กกล้าลึกล้ำ ดาบสะบั้นเมฆา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 668 บุรุษไร้หัวใจ!

Chapter 667 เป่ยอาหนิว


บนลานยุทธ์.

หม่าหยงหนิงที่เหวี่ยงดาบสะบั้นเมฆา ปราณดาบที่ถูกส่งออกไปเป็นชั้น ๆ!

ฟิ้ว!

จากนั้น เขาก็เก็บดาบเข้าฝัก.

เขาอดไม่ได้เลยที่จะถูไปมา แววตาที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน.

ก่อนหน้านี้มีดทำครัวของเขาไม่เคยห่างกาย.

ตอนนี้กลับกลายเป็นอดีตคนรักไปซะแล้ว.

ไม่ใช่ว่าหม่าหยงหนิงเป็นคนโลเล ทว่าดาบสะบั้นเมฆานั้นมันยอดเยี่ยมเต็มเปี่ยมความปรารถนาของเขาอย่างแท้จริง.

ถึงแม้นว่ามีดทำครัวของเขาจะมีความสัมพันธ์ที่ลึกล้ำ ทว่าเวลานี้เขาพบดาบที่ดีกว่า ย่อมอดไม่ได้ที่จะต้องเปลี่ยนใจไปในที่สุด.

ใช่แล้ว.

กินในถ้วย แต่มองในกระทะเป็นเรื่องธรรมดา.

[ “吃着碗里 看着锅里” อ่านว่า ชือ เจอะ หวัน หลี่  คั่น เจอะ กัว หลี่. แปล: กินในถ้วย แต่มองในกระทะ// เนื่องจากคนจีนเวลาทานข้าว ถ้าแบบบ้านๆทั่วไป จะใช้ถ้วยในการรับประทานอาหาร เวลาผัดข้าวหรือทอดอะไรก็ต้องใช้กระทะอยู่แล้ว เวลาทานอาหารก็ตักไส่ถ้วยกินข้าวให้เพียงพอ ให้อิ่มท้องของตน สำนวนนี้จึงกล่าวว่า กินอยู่ในถ้วยตัวเอง แต่ยังไปมองของกินในกระทะอีก จึงเป็นสำนวนที่ใช้กล่าวถึงคนที่ไม่รู้จักพอ โลภ การได้อะไรอย่างหนึ่งแล้วแต่ในขณะเดียวกันก็อยากได้ที่มันดีกว่าหรือยิ่งใหญ่กว่า คล้ายๆได้คืบจะเอาศอก ได้ศอกจะเอาวา]

“เจ้านิกาย!”

จงอี้ที่ทดสอบดาบสะบั้นเมฆาเช่นกัน “คุณภาพดาบเล่มนี้สูงกว่ากระบี่หานมั่งซะอีก!”

“เจ้าเหมาะกับดาบเล่มนี้มากกว่า.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

จงอี้คือขุนพลทะลวงฟันของกองกำลังขี่หมาป่า การที่เขามีดาบสะบั้นเมฆา ย่อมมีพลังในการทะลวงแนวรบข้าศึกได้ดีขึ้น.

อีกอย่าง ดาบนั้นเหมาะกว่ากระบี่ในการต่อสู้ของทัพเคลื่อนที่เร็ว.

“ขอบคุณเจ้านิกายที่ประทานดาบให้กับข้า!”จงอี้เอ่ยด้วยความตื่นเต้น.

เขาที่หลอมดาบสะบั้นเมฆาได้ 20 เล่ม ในเวลานี้ จุนซ่างเซียวไม่ได้มอบให้กับศิษย์อีก ทว่าใส่มันไว้ในตู้ขายสินค้าพร้อมกับกำหนดราคา ให้เหล่าศิษย์ใช้แต้มสนับสนุนมาแลกเปลี่ยน.

หากมีจำนวนมาก เขาก็สามารถมอบให้ทุกคนได้.

หากแต่มันมีน้อยมาก ทำได้แค่ให้พวกเขานำแต้มสนับสนุน มาแลกเปลี่ยน หรือไม่ก็ใช้เป็นรางวัลจากการทำภารกิจ.

“แร่ ข้าต้องการแร่.”

จุนซ่างเซียวที่กลับห้องโถง พร้อมกับเอ่ยกับตัวเอง.

สูตรอาวุธและอุปกรณ์ที่ได้รับ ไม่ต้องบอกเลยว่ายอดเยี่ยมเพียงใด ทว่าเขากับไม่มีแร่ที่จะผลิตจำนวนมาก เรื่องนี้ทำให้เขาห่อเหี่ยวใจเป็นอย่างมาก.

ที่แย่ที่สุด.

แร่ที่ใช้หลอมอุปกรณ์และอาวุธ ยังมีระดับไม่ต่ำเลย ต้องการซื้อในตลาดทั่วไป ไม่เพียงแค่ยากลำบากแล้ว ยังต้องใช้เงินมหาศาล.

“หากมีเหมืองแร่ที่หลากหลายชนิดรวมกันก็คงจะดี.”จุนซ่างเซียวเอ่ยเสียงเบา.

ระบบเอ่ย “เพ้อเจอ.”

“หุบปากเลย ในร้านค้าระบบมีขายรึ?”

“ไม่.”

“......”

จุนซ่างเซียวที่รู้สึกเหนื่อยล้าเป็นอย่างมาก.

เขาที่เปิดฟังก์ชันปรุงยา ก่อนที่จะมองไปยังเม็ดยารวมวิญญาณระดับสูงและเม็ดยากลั่นจิตวิญญาณระดับต้น.

ยาสองชนิดนี้ถือว่าไม่เลวเลย.

อย่างไรก็ตาม มันกลับต้องการสมุนไพรหลากหลายชนิดมาก.

วัตถุดิบนั้นจุนซ่างเซียวไม่ได้ขาด ต้องไม่ลืมว่าเขาได้เมล็ดมาจากหลุมศพปราชญ์แพทย์ร้อยหน้า ทว่ากับจำเป็นต้องใช้เวลาไม่น้อยในการปลูก.

“เหล่าเหว่ย.”

เขาที่มายังหอยา ก่อนส่งรายการสมุนไพรให้ “ให้จัดเตรียมพื้นที่ ปลูกสมุนไพรเหล่านี้ด้วย.”

“อืม.”

เหล่าเหว่ยรับรายการมา เอ่ยออกมาว่า ”คุณภาพที่ต้องการไม่สูง สักเดือนครึ่งถึงสองเดือนน่าจะเติบโตเพียงพอ.

“หนึ่งเดือนครึ่งถึงสองเดือนอย่างงั้นรึ?”

จุนซ่างเซียวที่สีคางไปมา เอ่ยออกมาว่า “ก็พอยอมรับได้.”

......

เมืองฮู่หยาง.

จุนซ่างเซียวที่ปรากฏขึ้นอีกครั้ง เหล่าชาวยุทธ์และประชาชนทั่วไปต้อนรับอย่างอบอุ่นมาก.

ในเวลานี้เขามีชื่อเสียงไม่น้อย ไม่มีใครเหยียดหยันดูแคลนเหมือนเมื่อครั้งเป็นเจ้าสำนักไท่กู่เจิ้งใหม่ ๆ อีกต่อไป.

กับการได้รับความเคารพเช่นนี้ เป็นเรื่องที่สุดยอดมาก.

จุนซ่างเซียวที่เดินทางมาหยุดที่ร้านสมุนไพรตระกูลอ้าย.

ร้ายแห่งนี้ได้รับการปรับปรุง ดูยิ่งใหญ่อลังการกว่าแต่ก่อนมาก.

ตระกูลอ้ายที่เปิดประมูลเม็ดยา ฟื้นฟูและเม็ดยาบูรณะร่างกายทุกเดือน ทำให้มีทรัพย์สินมากมาย.

เม็ดยาที่ได้รับจากจุนซ่างเซียว พวกเขาที่เพียงแค่รับผิดชอบในการประมูล แต่ละเดือนได้รับกำไรสูงมาก หากไม่ร่ำรวยสิถึงเป็นเรื่องแปลก.

นอกจากนี้กิจการของตระกูลอ้ายที่ขยายออกไปเรื่อย ๆ.

ในเมืองทั้งแปดของมนทลชิงหยาง ล้วนแต่มีสาขาของพวกเขากันทั้งหมด.

“เจ้านิกายจุน!”

อ้ายซ่างหนี่ที่เร่งรีบออกมาอย่างรีบเร่ง.

ตระกูลอ้ายที่เติบโตเป็นอย่างมาก นั้นไม่สามารถขาด จุนซ่างเซียวได้ แน่นอนว่าพวกเขาย่อมไม่กล้าละเลยคนผู้นี้อย่างแน่นอน.

“ประมุขอ้าย.”

จุนซ่างเซียวเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ปรับปรุงร้านยาตั้งแต่เมื่อใดกัน?”

“หนึ่งเดือนที่แล้ว.”

อ้าวซางหนี่ที่เร่งรีบเชิญ ก่อนที่จะสั่งบ่าวรับใช้เสิร์ฟน้ำชาทันที.

จุนซ่างเซียวที่นั่งลง ก่อนที่จะกวาดตามองพื้นที่ด้านในที่เปลี่ยนไป ก่อนที่จะเอ่ยกล่าวเข้าประเด็นทันที “ประมุขอ้าย เป่นจั้วมาในครั้งนี้เพื่อที่จะถาม มีที่ใหน มีแร่มากมาย?”

อ้ายซ่างหนี่ที่ไม่หยุดคิดแม้แต่น้อย “จังหวัดเป่ยโม่!”

ทางภาคเหนือของทวีปชิงหยุน แม้นว่าจะเป็นทะเลทราย ทว่าใต้ดินนั้นกับอุดมไปด้วยแร่ต่าง ๆ.

“เจ้านิกายจุนต้องการแร่อย่างงั้นรึ?”

“ไม่เพียงต้องการ แต่ต้องการมากด้วย.”

อ้ายซ่างหนีเอ่ย “หากเป็นเช่นนี้ อ้ายโหมวแนะนำให้เจ้านิกายจุนไปยังจังหวัดเป่ยโม่ หากโชคดี อาจได้พบกับเจ้าของแร่ก็ได้.”

“อืม.”

จุนซ่างเซียวที่คิดเหมือนกัน.

ดูเหมือนว่าเขาคงต้องออกเดินทางสักหน่อย.

“เจ้านิกายจุน.”

อ้ายซ่างหนี่ที่ส่งแหวนมิติสองสามวงออกไป “นี่คือสมุนไพรและเมล็ดสมุนไพรที่ตระกูลอ้ายเก็บรวบรวมได้เมื่อเร็ว ๆ นี้.”

“รบกวนแล้ว.”

จุนซ่างเซียวรับมา ก่อนจะส่งขวดยาฟื้นฟูสองขวดและเม็ดยาบูรณะร่างกายขวดหนึ่ง แล้วกล่าวลาจากไป.

ฟิ้ว ----

หลังจากออกจากเมือง เขาที่ไม่จำเป็นต้องปกปิดอะไร บินกลับไปในทันที.

การที่เขาตัดผ่านไปยังระดับจักรพรรดิยุทธ์ ตอนนี้ไม่มีใครรู้ ดังนั้นทักษะบินได้ของเขาเองก็ไม่สะดวกที่จะให้คนอื่น ๆ ได้เห็นเช่นกันเพื่อปกปิดการถ่อมตน.

......

“หืม?”

ขณะที่เขาบินมาถึงนิกาย จุนซ่างเซียวก็พบว่าที่เชิงเขานั้น มีคนธรรมดาทั่วไปรวมตัวกันอยู่.

วันนี้ไม่ได้รับศิษย์ พวกเขามาทำอะไรกัน?

“หัวหน้าหมู่บ้าน.”

ในกลุ่มนั้น มีสตรีที่งดงามผู้หนึ่งเอ่ย “พวกเราไปเถอะ พี่อาหนิวคงจะลืมข้าแล้ว.”

ถึงนางจะสวมชุดธรรมดาทั่วไป แต่ก็ยากจะปกปิดความงามของนางได้.

“ไม่ได้!”

ชายชราวัย 80 ปี ยืนค้ำไม้เท้าเอ่ยออกมาว่า “ในเมื่อมาแล้วก็ต้องขึ้นไปถาม จะจากไปได้อย่างไรหากไม่ถามว่าทำไมถึงได้ทิ้งเจ้าไป!”

“ชิ!”

ชายที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อคนหนึ่งเอ่ยออกมาว่า “ไม่คิดเลยว่าจะเข้าร่วมนิกายนิรันดรได้ หากว่าเขาทำให้เจ้าผิดหวัง พี่ใหญ่คนนี้จะทุบมันเอง!”

สตรีคนนั้นเอ่ย “หัวหน้าหมู่บ้าน พี่ใหญ่ บางทีเขาอาจจะแค่ดูคล้ายอาหนิวก็ได้.”

“เป็นไปไม่ได้!”

ชายที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเอ่ยอย่างเคร่งขรึม “ข้าได้สอบถามแล้ว ชายคนนี้คืออาหนิวแน่นอน!”

“อาหนิว?”

จุนซ่างเซียวที่ลอยอยู่กลางอากาศ เอ่ยกับตัวเอง “นิกายนิรันดรของข้าไม่มีคนชื่อนั้น.”

“พี่ใหญ่.”

สตรีคนดังกล่าวเอ่ยออกมาว่า “หากเขาคือพี่อาหนิวจริง ๆ การที่เขาได้เข้าร่วมนิกายเช่นนี้ถือว่าเป็นวาสนาแล้ว พวกเราเป็นเพียงคนธรรมดา บางทีอาจจะนำปัญหามาให้กับเขาได้.”

“ก็มีเหตุผล.”หัวหน้าหมู่บ้านที่ขมวดคิ้วไปมา.

“เจ้าสารเลวนั่นบอกว่าจะแต่งงานกับน้องสาวของข้า เป็นบุรุษต้องรักษาคำสัญญา!”ชายที่เต็มไปด้วยกล้ามเอ่ยด้วยความโกรธ เห็นชัดเจนว่าเขาต้องการไปพบกับอาหนิวเพื่อน้องสาวของเขา.

“ไม่ผิด.”

“เป็นบุรุษต้องรักษาคำมั่น.”

ในเวลานั้นเสียงของบุรุษคนหนึ่งที่ดังขึ้น ทำให้คนอื่น ๆตกใจ ก่อนที่จะหันหลังกลับ พบผู้เยาว์คนหนึ่งที่ไม่รู้ว่ามาปรากฏด้านหลังพวกเขาเมื่อไหร่.

ชายกล้ามใหญ่เอ่ย “เจ้าเป็นใคร?”

แม้นว่าน้ำเสียงจะอ่อนนุ่มลงมาก ทว่าคำพูดของเขาก็ยังดูไม่เป็นมิตรเท่าใดนัก!

จุนซ่างเซียวเอ่ย “เจ้านิกายนิรันดร.”

“เขาคือเจ้านิกายอย่างงั้นรึ?”

“ไม่คาดคิดเลยว่าจะยังเด็กขนาดนี้!”

เหล่าชาวบ้านที่เอ่ยกล่าวเสียงต่ำ.

หัวหน้าหมู่บ้านที่ยกมือประสานเอ่ยออกมาว่า “เหล่าฟู่คือหัวหน้าหมู่บ้านถัว วันนี้มายังนิกายของท่านเพื่อพบกับศิษย์ที่ชื่อว่าเป่ยอาหนิว.”

“เป่ยอาหนิว?”

จุนซ่างเซียวส่ายหน้าไปมา “ขออภัย ศิษย์ของข้าไม่มีคนชื่อนี้.”

ได้ยินคำพูดดังกล่าว สตรีวัยเยาว์ที่เผยความโศกเศร้าออกมา ทว่าก็ปรับตัวอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะเผยยิ้มออกมา “ข้าบอกแล้วว่าเข้าใจผิดคน!”

“ท่านเจ้านิกาย.”

หัวหน้าหมู่บ้านเอ่ย “ไม่มีศิษย์ชื่อเป่ยอาหนิวจริง ๆ รึ?”

“ไม่.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

แม้นว่าจะมีศิษย์จำนวนมาก ทว่าเขาก็จำได้ ถึงจะเคยอ่านผ่าน ๆ รายงานที่หลี่ชิงหยางส่งมาเพียงรอบเดียวก็เถอะ.

“หัวหน้าหมู่บ้าน พี่ใหญ่.”

สตรีคนดังกล่าวเอ่ย “พี่อาหนิว ในเมื่อไม่อยู่ที่นี่ พวกเรากลับเถอะ.”

“ไม่กลับ!”

ชายกล้ามโตเอ่ย “เจ้าคนชื่อเป่ยอาหนิวนั้นจะต้องเปลี่ยนชื่อแน่ พวกเราต้องไปดู ต้องหาเจอแน่!”

“ตกลง.”

จุนซ่างเซียวที่โบกมือ กล่าวออกมาว่า “โปรดตามเปิ่นจั้วขึ้นไปยังนิกาย.”

คนเหล่านี้ถึงจะเป็นเพียงคนธรรมดาทั่วไป แต่ก็เป็นคนที่ใสซื่อ ในเมื่อมาหาคนในนิกาย เขาย่อมให้ความร่วมมือ.

อีกอย่าง เจ้านิกายจุนเองก็สงสัยเป็นอย่างมาก.

คนที่ชายกล้ามโตจำว่าเป็นเป่ยอาหนิวในนิกายนิรันดร เขาคือใครกันแน่?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด