ตอนที่แล้วChapter 665 ศักดิ์ศรีราชันรัตติกาล โหมดนรก.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 667 เป่ยอาหนิว

Chapter 666 โล่เหล็กกล้าลึกล้ำ ดาบสะบั้นเมฆา


โหมดนรกนั้นน่าพรั่นพรึงมาก เพียงแค่ด่านแรกก็เต็มไปด้วยสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่มีพลังเทียบเท่าราชันย์ยุทธ์.

ความอหังการของราชันย์รัตติกาล และพลังของเขาแน่นอนว่ายอดเยี่ยมแต่เป็นชาติที่แล้ว เวลานี้เขามีเพียงแค่ศักดิ์ศรีเท่านั้นหาได้มีพลัง!

การต่อสู้ที่จบลงอย่างรวดเร็ว!

“พรึด โครม!”

ทางเข้าดินแดนลับเป็นตาย เย่ซิงเฉินที่พ่ายแพ้ ร่างที่นอนเป็นผักอยู่บนพื้น ร่างกายที่สั่นกระตุกเป็นระยะ

กษัตริย์ยุทธ์เพียงแค่ยืนอยู่ต่อหน้าสัตว์ศักดิ์สิทธิ์.

เพียงแค่นี้ ก็ถือว่ายอดเยี่ยมแล้ว!

แต่ที่หน้าเศร้าที่สุด สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ยังไม่โจมตีด้วยซ้ำ กลิ่นอายเปลวเพลิงที่พวยพุ่งออกจากร่างของมันก็จัดการเย่ซิงเฉินตายไปแล้ว.

อดีตราชันย์รันติกาล ยังไม่ได้ร้องด้วยซ้ำ.

ไม่มีพลังที่จะกระทำอะไรทั้งสิ้น!

“ชิงหยาง.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “ยกเขา ไปฝังให้ดี.”

ไปฝัง?

หลี่ชิงหยางที่มุมปากกระตุก ก่อนที่จะเร่งรีบไปยกเย่ซิงเฉินกลับไปยังที่พักของเขา.

เช้าวันถัดมา.

เซียวจุ้ยจื่อที่นำเขามากินข้าวต้มเพิ่มพลังของหลิวว่านซีด้วยตัวเอง.

ความสัมพันธ์ที่เหมือนกับพี่น้อง!

“ศิษย์น้อง.”

ก่อนที่เซียวจุ้ยจื่อจะลุกออกไป ได้เอ่ยออกมาว่า “อย่าได้เสียจิตใจ หลังจากบาดแผลหายดีแล้ว ค่อยไปท้าทายโหมดง่ายด้วยกัน.”

“น่ารังเกียจนัก!”

อดีตราชันย์รัตติกาลครุ่นคิดในใจ “รอให้เปิ่นตี้คืนกลับพลังเดิมก่อนเถอะ เพียงแค่สัตว์ศักดิ์สิทธิ์จะกระทืบให้จมดินเลย!”

การท้าทายผู้เยาว์พรสวรรค์ผังผู้กล้าชั้นปฐพี ง่าย ๆ สบาย ๆทำให้เขาเบิกบานใจเป็นอย่างมาก แต่กลับมาตายในโหมดนรกเขตแดนลับเป็นตาย ทำให้เขารู้สึกไม่ดีจริง ๆ!

......

เย่ซิงเฉินท้าทายโหมดนรก แม้นว่าจะไม่ได้เป็นอะไรนัก.

อย่างไรก็ตามก็ได้เป็นการเตือนสำหรับศิษย์นิกายนิรันดร ว่าควรเลือกโหมดง่ายเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด.

ในแต่ละวันจะมีศิษย์จับกลุ่มเข้าไปท้าทาย.

ในแต่ละวันเองก็มีคนที่ผ่านและได้รับยกระดับเพียงบางคน และคนจำนวนไม่น้อยที่พ่ายแพ้และได้รับผลข้างเคียง.

ครึ่งเดือนหลังจากนั้น.

ศิษย์มากกว่า 10,0000 คนได้เข้าไปในเขตแดนลับกันทั้งหมด.

จากสถิติที่หลี่ชิงหยางบันทึกเอาไว้ ศิษย์ที่เข้าไปผ่าน 6,000-7,000 ที่เหลือล้มเหลว.

“อัตราพ่ายแพ้นับว่าสูงอยู่เล็กน้อย.”จุนซ่างเซียวที่ส่ายหน้าไปมา.

หลี่ชิงหยางเอ่ย “เจ้านิกาย ตามที่ศิษย์วิเคราะห์ ศิษย์ที่ผ่านล้วนแต่เป็นศิษย์ที่ฝึกฝนในหอคอยเก็บประสบการณ์อย่างเข้มงวด ส่วนศิษย์ที่พ่ายแพ้บางคนยังไม่เคยเข้าฝึกหรือเพิ่งเริ่มฝึกเท่านั้น.”

“หากยังไม่ผ่านประสบการณ์กลั่นร่างกายขั้นสุด ก็ไม่ควรที่จะเข้าไปในเขตแดนลับเป็นตายสินะ.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

ดินแดนลับเป็นตายนั้นสามารถยกระดับพลังได้ แต่หากล้มเหลวล่ะก็ ถึงจะมีเขตแดนกาลอวกาศเพื่อลดเวลาผลข้างเคียงที่ได้ ทำให้เสียเวลาไม่น้อย.

“ถ่ายทอดคำสั่งออกไป.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “หากยังไม่ผ่านหอคอยเก็บประสบการณ์ครึ่งปี ห้ามเข้าเขตแดนลับเป็นตาย.”

“รับทราบ.”

หลี่ชิงหยางที่รับคำสั่งและจากไป.

เมื่อมีคำสั่งออกมาแล้ว เหล่าศิษย์ทั่วไป ก็ไม่กล้าเข้าไปอีกต่อไป พวกเขาที่เริ่มปั้นร่างกายในห้องปั้นกล้ามเนื้อและหอคอยเก็บประสบการณ์เป็นการด่วน.

......

เพราะว่าขีดจำกัดคือสามเดือนเข้าได้หนึ่งขั้น ดังนั้นกลุ่มเซียวจุ้ยจื่อจึงบ่มเพาะฝึกฝนวิธีอื่นต่อ.

อย่างไรก็ตาม.

ตั้งแต่เขตแดนลับเป็นตายปรากฏ.

ภารกิจในหอภารกิจก็เปลี่ยนไป ความยากของภารกิจมีมากขึ้น และยังเป็นภารกิจไล่ล่าสังหารสัตว์ร้ายเพื่อปรับสภาพให้พวกเขาเขามีประสบการณ์ในการไปไล่ล่าในเขตแดนลับเป็นตายด้วย.

จุนซ่างเซียวเอ่ย “ดูเหมือนว่าจะช่วยเพิ่มความเร็วเติบโตไม่น้อย.”

“เจ้านิกาย.”

ลี่ลั่วฉิวเอ่ย “รายการสินค้าที่ให้หอจัดซื้อไปซื้อ ได้รับของมาแล้ว.”

“จริงรึ?”

จุนซ่างเซียวที่เร่งรีบไปยังหอจัดซื้อ ก่อนที่จะนำวัตถุดิบใส่เข้าไปในแหวนมิติทันที พร้อมกับเปิดฟังก์ชันหอปรุงยาและหอตีอาวุธทันที พร้อมกับเลือกจำนวนขั้นสุด.

กระบี่เจิ้นหยางระดับสูง 50.

ดาบสะบั้นเมฆาระดับสูง 30.

โล่เหล็กกล้าลึกล้ำระดับกลาง 15.

เขาที่เลือกจำนวนสูงสุด และเริ่มหลอมอัตโนมัติทันที.

ในเวลานั้น จุนซ่างเซียวที่ได้หลอมมาก่อนหน้านั้น ยังไม่ได้ตรวจสอบกระบี่เจิ้นหยางเลยว่าเป็นอย่างไร ก่อนนำออกมา.

“เคร้ง!”

กระบี่ชักออกจากฝัก ริ้วแสงกระบี่เป็นประกาย!

กระบี่เจิ้นหยางดูไม่ต่างจากกระบี่ทั่วไป ทว่าใบกระบี่ค่อนข้างหนา ดูคลายกับไม่มีคม อาจจะเรียกว่ากระบี่หนักก็ว่าได้ เหมาะสำหรับพวกที่นิยมใช้แรงเป็นอย่างมาก.

“ฟิ้ว! ฟิ้ว!”

จุนซ่างเซียวที่เหวี่ยงกระบี่ไปมา บนอากาศที่ทิ้งริ้วแสงเอาไว้บนอากาศ.

หลังจากทดสอบแล้ว เขาที่เอ่ยท่าทางพอใจเป็นอย่างมาก “ดูดีกว่ากระบี่หานมั่งมาก.”

“เหลวไหล.”

ระบบเอย ”นี่คืออาวุธระดับสูง.

จุนซ่างเซียวที่เก็บกระบี่ เอ่ยออกมาว่า “หากให้ศิษย์ได้ใช้ น่าจะผ่านเขตแดนลับเป็นตายง่ายขึ้น.”

......

ที่หลังเขา พื้นที่โล่ง.

เซียวจุ้ยจื่อตั้งท่ากำหมัดแน่น กล่าวด้วยความจริงจัง“ศิษย์พี่ เตรียมพร้อมยัง?”

ซูเซียวโม่มุมปากกระตุก “เจ้านิกาย ข้าคิดว่าตั้งโล่เอาไว้ แล้วให้ศิษย์น้องเซียวใช้ไรเฟิลสไนเปอร์ทดสอบก็น่าจะพอแล้ว!”

“เลิกพูดไร้สาระได้แล้ว.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “รีบยกเร็วเข้า.”

“.....”ซูเซียวโม่ที่ได้แต่ยกโล่เหล็กกล้าลึกล้ำขึ้น.

เป็นโล่ที่ใหญ่กว่าโล่เหล็กกล้าก่อนหน้านี้ หนักกว่า และผิวหน้านั้นสลักด้วยอักขระที่ซับซ้อน กลายเป็นลวดลายที่แปลกตา.

หากซูเซียวโม่กระตุ้นโล่พลังวิญญาณพร้อมกับใช้โล่เหล็กกล้าพร้อมกัน จะต้องดูงดงามเป็นแน่.

“ฟู่!”

เขาที่สูดหายใจลึก เอ่ยออกมาว่า “พร้อมแล้ว!”

“ตูมมมม!”

กล่าวจบ เซียวจุ้ยจื่อที่รวมพลังวิญญาณ ก่อนที่จะต่อยไปยังโล่เหล็กกล้าลึกล้ำ.

ด้วยการกลั่นร่างกายขั้นสุด ทำให้พลังหมัดของเขานั้นรุนแรงมาก.

อย่างไรก็ดี.

ซูเซียวโม่ที่ยืนอยู่กับที่ ไม่รู้สึกแม้แต่แรงกระแทกที่ผ่านเข้ามาด้วยซ้ำ.

“ต่อไป.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

“ตูมมม!”

“ตูมมม!”

เซียวจุ้ยจื่ออดไม่ได้เลยที่จะประหลาดใจ ไม่เพียงแค่ร่างกายของเขาที่แข็งแกร่ง ทว่ายังใช้พลังหมัดถล่มปฐพีออกไป เสียงที่ดังกึกก้องราวกับจุดดอกไม้ไฟ.

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเขาจะโจมตีอย่างไร ใช้พลังเท่าไหร่ ซูเซียวโม่ที่ถือโล่ป้องกันกลับไม่ขยับเลยแม้แต่นิดเดียว.

“เจ้านิกาย!”

ซูเซียวโม่เผยท่าทางประหลาดใจ “พลังป้องกันของโล่ชิ้นนี้ร้ายกาจมาก!”

“เปิ่นจั้วทดสอบเอง.”

จุนซ่างเซียวก้าวเข้าไป หมัดขวาที่รวมพลังวิญญาณ พร้อมกับต่อยออกไปทันที.

“เดี๋ยว....”

ตูมมมม---

กึก! ครืนนนนนน!

ซูเซียวโม่ที่ยกโล่ถูกกระแทก ท้ายที่สุดก็ครูดไปกับพื้นสิบกว่าเมตร ดวงตาที่เหลือกค้าง ที่มุมปากเต็มไปด้วยน้ำลายฟูมปาก.

เซียวจุ้ยจื่อ“......”

“ยังแข็งแกร่งไม่พอ.”จุนซ่างเซียวส่ายหน้าไปมา.

เขาที่เป็นจักรพรรดิสองวิถี ถึงจะโจมตีทั่วไป พลังก็มากกว่าสิบล้าน ถึงจะเป็นโล่เหล็กกล้าลึกล้ำ ซูเซียวโม่ก็ยากจะต้านได้.

อย่างไรก็ตาม.

ทนหมัดของเขาได้โดยที่ไม่พังทลาย โล่เหล็กกล้าลึกล้ำนับว่ามีพลังป้องกันสูงมาก.

“ควรจะผลิตออกมาให้มากกว่านี้”จุนซ่างเซียวสีคางไปมา.

ใช่แล้ว เขายังขาดแร่อยู่ไม่น้อย ดังนั้นจะต้องหาวิธีในการซื้อแร่มาให้ได้มากกว่านี้.

......

ปัก ปัก ปัก!

เสียงสับที่ดังขึ้นต่อเนื่องในโรงอาหาร.

หม่าหยงหนิงที่ยืนอยู่ที่มุมกำลังใช้ดาบสั้นของเขาสับเนื้อ.

หลายปีมานี้.

ด้วยการสับซอย เนื้อและผักเป็นจำนวนมาก.

ทำให้หม่าหยงหนิงตัดผ่านกลายเป็นกษัตริย์ดาบ ทักษะมีดของเขานั้นร้ายกาจ ในแต่ละฉับนั้น ลึกล้ำทรงพลัง.

“เฮ้.”

จุนซ่างเซียวที่ก้าวเข้ามาที่ด้านหน้าประตูเอ่ย “เปิ่นจั้วเพิ่งหลอมดาบเล่มหนึ่งขึ้นมา เจ้าต้องการหรือไม่.”

กึก!

หม่าหยงหนิงหยุดและเอ่ยกล่าวอย่างภาคภูมิ “เจ้านิกาย ข้ามีดาบของข้าแล้ว.”

เขาคือมือดาบ.

ไม่ควรที่จะเปลี่ยนดาบง่าย ๆ

ยกตัวอย่างดาบทำครัวของเขานี้ ถึงมันจะหักกลายเป็นปังตอไปแล้วแต่ก็คือคู่หูที่ยอดเยี่ยมของเขา!

“วิ้ง!”

จุนซ่างเซียวที่ส่งดาบสะบั้นเมฆาออกไปวางข้าง ๆ ก่อนที่จะหันหลังกลับ พร้อมกับเอ่ยออกมาว่า “สับเนื้อและผักให้มันมีจิตวิญญาณด้วย.”

“ทราบแล้ว.”

หม่าหยงหนิงที่ยังคงหั่นเนื้อต่อไป.

อย่างไรก็ตาม เวลานั้นดวงตาของเขาที่แอบเหล่ไปยังดาบสะบั้นเมฆาที่แผ่กลิ่นอายที่น่าเกรงขามออกมา.

ถึงแม้นว่าจะยังไม่ใช้ แต่กับสัมผัสได้ถึงพลังทำลายแล้ว.

“ฟิ้ว!”

ท้ายที่สุดหม่าหยงหนิงก็ทนไม่ไหว ยื่นมือไปยังด้ามดาบสะบั้นเมฆา พร้อมกับใช้ลิ้นเลียริมฝีปาก แววตาที่เป็นประกายหัวใจเต้นแรงขึ้นมาทันที “ดาบเล่มนี้ ไม่เลวเลย!”

เขาที่สัมผัสได้ถึง ดาบที่มีคุณภาพสูงมาก.

นี่สิถึงจะเหมาะกับกษัตริย์ดาบ!

“อาเด๊ะ?”

หลิวหว่านซีที่ก้าวเข้ามาในครัว พบว่าหม่าหยงหนิงที่วางดาบหักของเขาเอาไว้ แต่คนนั้นกับหายไปใหนไม่รู้ ก่อนที่นางจะเอ่ยออกมาด้วยความประหลาดใจ “ลุงหม่าไม่ได้เอ่ยว่ามีดทำครัวเล่มนี้คือชีวิตของตัวเอง แล้วไม่นำไปด้วยอย่างงั้นรึ?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด