ตอนที่แล้วChapter 637 ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ย่อมมีหวัง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 639 ใครเป็นมือใหม่?

Chapter 638 บุรุษที่ยอดเยี่ยมต้องมีคนแบ่งเบาภาระ


เมล็ดสมุนไพรที่ปราชญ์แพทย์ทิ้งเอาไว้มีมากมาย เรื่องขาดสมุนไพรของจุนซ่างเซียวสามารถแก้ไขได้แล้ว ในเวลานี้ทำให้เขาสามารถอยู่พัฒนานิกายอย่างปลอดภัยได้.

สัญญาสามปีใกล้เข้ามาแล้ว.

เขาต้องการให้ศิษย์อยู่ในสภาพที่แข็งแกร่งที่สุด เพื่อไปประลองกับศิษย์นิกายไป่เหอเซิ่ง.

เจ้านิกายจุนที่นำศิษย์ไปจัดการนิกายระดับสี่มาแล้ว แม้แต่นิกายระดับสามก็ยังต้องถอย ตอนนี้เขาก้าวไปท้าทายนิกายระดับสองแล้ว ไม่ต้องบอกเลยว่าน่าเกรงขามขนาดใหน.

แน่นอน.

การท้าทายนิกายระดับสอง นี่จะเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างเกียรติยศให้กับเขา.

หากเป็นคนอื่น แน่นอนว่าไม่มีใครกล้าแน่นอน.

จุนซ่างเซียวที่หาญกล้า เพราะเขาต้องการเป็นนิกายที่แข็งแกร่งที่สุด ต้องการก้าวให้สูงกว่าทุกคน.

“จูเหริน.”

ปราชญ์ปิศาจอู๋จิวก้าวเข้ามาในห้องโถง ยากที่จะกล่าวอะไรออกมาได้ “นี่คือนิกายระดับห้าจริง ๆ รึ?”

เขาที่ตระเวนไปรอบ ๆ สองวันแล้ว เขาเห็นศิษย์ที่มีระดับกษัตริย์ยุทธ์มากมาย ทำให้เขาตื่นตะลึงอย่างหนัก.

นิกายระดับห้า กษัตริย์ยุทธ์สองคนก็ถือว่ายอดเยี่ยมแล้ว.

นิกายนิรันดรมีหลายสิบคน หากบอกเขาว่าเป็นนิกายระดับสอง ปราชญ์ปิศาจอู๋จิวย่อมเชื่ออย่างแน่นอน!

“แน่นอน.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “เพิ่งยกระดับเมื่อเร็ว ๆ นี้.”

ปราชญ์ปิศาจอู๋จิวมุมปากกระตุก เข้าใจแล้วทำไมเกอชิงหมิงถึงต้องการเข้าร่วมนิกายนิรันดร.

นิกายที่มีกษัตริย์ยุทธ์เดินไปทั่ว ศักยภาพไร้สิ้นสุด.

เหล่าเกอหลังจากได้รับเม็ดยาบูรณะรางกาย และเม็ดยากลั่นวิญญาณ ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นดีใจเป็นล้นพ้น.

ค่าสมัคร 10,000 เข้านิกายนิรันดร.

คุ้ม!

ยิ่งกว่าคุ้ม!

......

ด้านนอก.

เกี่ยวกับปรากฏการณ์ที่จังหวัดหนานหวง มีของวิเศษปรากฏ ที่จริงแล้วมันกลับเป็นสุสานของปราชญ์แพทย์ร้อยหน้าได้กระจายไปเรียบร้อยแล้ว.

สุดยอดแพทย์ที่โดดเด่นได้จากไปแล้ว ทำให้ผู้คนเต็มไปด้วยความเศร้าใจ.

เพราะว่าปรากฏการณ์นั้นไม่ใช่การกำเนิดของวิเศษ ดังนั้นการพูดคุยที่ค่อย ๆ เงียบลงช้า ๆ.

จุนซ่างเซียวที่เบาใจ.

อย่างน้อยมันก็ไม่ได้สร้างคลื่นใหญ่ จนมาพัวพันถึงเขา.

ที่จริงสมุนไพรเทวะที่เขาได้มา แม้แต่เมล็ดสมุนไพรมากมายตลอดจนตำราแพทย์ นับว่าเป็นสิ่งที่ดึงดูดผู้คนได้เช่นกัน.

ทว่ามันก็ไม่ได้มีมากพอที่ต้องรุกรานนิกายนิรันดร.

......

เหล่าศิษย์นิกายนิรันดรบ่มเพาะกันอย่างจริงจัง.

ปราชญ์ปิศาจอู๋จิวที่รับผิดชอบสอนเหยาเมิ่งหยิง ตลอดจนโม่ซ่างด้วย.

อย่างไรก็ตาม ต้องไม่ลืมว่าเขาคือผู้ฝึกตนปิศาจ.

ประสบการณ์ทั้งหมดที่มี อาจไม่เกี่ยวกับวิถีมารซะทีเดียว

แต่กระนั้นด้วยระดับปราชญ์ก็ถือว่ามีความรู้ที่ไม่เลว.

เหล่าเหว่ยและสมาชิกหอสมุนไพรที่ยุ่งวุ่นวายในการปลูกสมุนไพร เตรียมทรัพยากรให้กับศิษย์ทั้งนิกายให้เพียงพอ.

เสวี๋ยเหรินกุยและเถาหยวน สองคนที่ปรึกษา กันและกัน ฝึกฝนกองกำลังขี่หมาป่าอย่างแข็งขัน.

ที่ยุ่งที่สุดคงจะเป็นลี่ลั่วฉิว.

ไม่เพียงดูแลการสืบข้อมูล ทว่ายังต้องดูแลหอจัดซื้อด้วย.

โชคดีที่หอลงทัณฑ์ไม่ได้มีงานมากมาย เพราะไม่มีความขัดแย้งระหว่างศิษย์ เพราะทุกคนต่างก็ฝึกฝนกันอย่างหนักหน่วง.

หนึ่งเดือนถัดมา.

ภายใต้การดูแลของหลี่ชิงหยาง นิกายก็ขยายออกไปอีก กว้างขวางยิ่งกว่าเดิมมาก

นอกจากนี้สิ่งก่อสร้างที่เขาสร้างยังมีการแบ่งพื้นที่อาศัยกันอย่างชัดเจน.

ศิษย์สายใน สายนอกและศิษย์ฝึกหัด แยกพื้นที่และอุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่เหมือนกัน.

“ไม่เลว ไม่เลว.”

หลังจากตรวจสอบ จุนซ่างเซียวที่พึงพอใจกับผลงานของหลี่ชิงหยางเป็นอย่างมาก.

สองพี่น้องหนิงรับผิดชอบรับศิษย์ การทดสอบขึ้นเขาครั้งที่สาม รับศิษย์ได้สามร้อยกว่าคน ซึ่งจะมากขึ้นและก็มากขึ้น.

หากทุกอย่างเป็นไปตามปรกติ ไม่มีอะไรรบกวน จึงทำให้จุนซ่างเซียวมีเวลา ตกปลาเดินเล่นเป็นครั้งคราว.

“ครึ่งปี จะต้องท้าทายนิกายไป่เหอเซิ่งแล้ว.”

วันนี้ จุนซ่างเซียวที่นั่งอยู่ข้างสระ กำลังตกปลา ลอบคิดในใจ “นางจะกลับมาหรือไม่?”

นาง?

หมายถึงลู่เชียนเชียนนั่นเอง.

การท้าประลองนิกายระดับสอง จุนซ่างเซียวหวัง ที่จะให้ศิษย์หญิงใหญ่ไปด้วยเช่นกัน.

หลัก ๆ นั้น เพราะศิษย์นิกายไป่เหอเซิ่งนั้นเต็มไปด้วยสตรี.

การให้ลู่เชียนเชียนที่งดงาม ขึ้นไปประลอง จะสามารถกำราบความงามของอีกฝั่งได้ด้วย!

“เจ้านิกาย.”

หลี่ชิงหยางเอ่ย “เจ้าเมืองมู่ขอเข้าพอ.”

“มาได้อย่างไร?”จุนซ่างเซียวเผยท่าทางประหลาดใจ.

มู่หงเหลียนได้ร่วมนิกายหลายเดือนแล้ว มู่ซ่างหงไม่ได้มาบ่อยหนัก เว้นแต่มีเรื่องสำคัญ.

มีอะไรสำคัญ?

แน่นอนต้องการรับอีกฝ่ายเป็นลูกเขยนั่นเอง.

“รีบเชิญ.”

......

ในห้องโถง.

มู่ซ่างหงนั่งลง ทว่าไม่ได้เอ่ยสอบถามเกี่ยวกับธิดา เขาที่ขมวดคิ้วและเอ่ยออกมาว่า “เจ้านิกายจุน ได้ยินมาว่านิกายของท่านและนิกายไป่เหอเซิ่งจะประลองกันอย่างงั้นรึ?”

“เจ้าเมืองมู่รู้ได้อย่างไรกัน?”จุนซ่างเซียวเผยท่าทางประหลาดใจออกมา.

มู่ซ่างหงเอ่ย “สองสามวันก่อน ข้าได้รับข่าวมาจากเจ้าเมืองจังหวัดตงเห่า.”

นิกายไป่เหอเซิ่งตั้งอยู่ในจังหวัดตงเห่านั่นเอง.

แม้นว่าดินแดนจะไม่ใหญ่นัก ทว่าความแข็งแกร่งก็เป็นรองแค่จังหวังจงจวิน.

“ไม่ผิด.”

จุนซ่างเซียวเอ่ยรับ “เป็นเช่นนั้น.”

มู่ซ่างหงที่เผยท่าทางประหลาดใจ “นิกายไป่เหอเซิ่งถือว่าเป็นนิกายชั้นยอด เจ้านิกายจุนท้าทายยักษ์ใหญ่ ข้าคิดว่าไม่เร็วไปหน่อยรึ?!”

เขาเชื่อในศักยภาพของนิกายนิรันดร.

ทว่าควรจะพัฒนาไปอย่างช้า ๆ การท้าทายนิกายระดับสูง ดูเหมือนว่าจะเร่งรีบไปหน่อย.

“ไม่ช้า.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “กำลังดี.”

ความแข็งแกร่งโดยรวมของนิกายนิรันดรเองก็ไม่ได้ด้อยกว่านิกายระดับสองแล้ว การประลองกับศิษย์ระดับสูง เขาย่อมมั่นใจ.

“ในความเห็นของข้า.”

มู่ซ่างหงที่กล่าวอย่างจริงจัง “เกี่ยวกับงานประลองเลื่อนไปก่อน รอให้มีพลังพอค่อยท้าประลองอีกครั้งไม่ดีกว่ารึ?”

นิกายนิรันดรที่เพิ่งโดดเด่น ท้านิกายระดับสองหากแพ้ จะต้องส่งผลเสียงอย่างแน่นอน.

“เจ้าเมืองมู่.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “คำพูดบุรุษที่ลั่นไปแล้ว ไม่สามารถถอนคืน.”

เขาไม่ได้ห่วงชื่อเสียงอะไรแต่อย่างใด ทว่าสิ่งที่เซียวจุ้ยจื่อเสียไปต้องนำกลับมา.

เจ้าเมืองมู่ซ่างหง แนะนำก็เพราะเป็นห่วงนั่นเอง..

สัญญาสามปี ต้องสู้!

“เฮ้อ.”

มู่ซ่างหงที่ถอนหายใจ “ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ขอให้เจ้านิกายจุนประสบความสำเร็จ.”

เขาหวังให้จุนซ่างเซียวเอาชนะนิกายไป่เหอเซิ่งแน่นอน เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดซีเหนียนหยาง ทว่ากับนิกายระดับสองและห้าก็ยังห่างไกลเกินไป.

จุนซ่างเซียวเข้าใจความคิดของอีกฝ่ายได้.

ในอดีตเขาเคยท้าทายนิกายหลิงชวน ใครจะเชื่อว่าศิษย์ของเขาเอาชนะได้ถึง 70 คนกันล่ะ?

อธิบายอะไรออกไปก็ไร้ผล สู้ทำให้เห็นเลยจะดีกว่า!

มู่ซ่างหงที่เปลี่ยนหัวข้อ“การฝึกฝนของหงเหลียนเป็นอย่างไรบ้าง?”

“นางตัดผ่านไปถึงระดับบรรพชนยุทธ์ขั้นปลายแล้ว.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

มู่ซ่างหงที่เผยความประหลาดใจ “เร็วขนาดนี้เลยรึ?”

ไม่เร็วเลย.

หากมีเม็ดยากษัตริย์ยุทธ์ ไม่กี่นาทีบุตรสาวของท่านก็เป็นกษัตริย์ยุทธ์แล้ว.

จุนซ่างเซียวเอ่ย “พรสวรรค์ของจวิ้นจู่ไม่ธรรมดา ด้วยการชี้แนะของเปิ่นจั้ว การที่พัฒนารวดเร็วก็สมเหตุผล.”

“ฮ่าฮ่าฮ่าอ่า.”

มู่ซ่างหงหัวเราะ ก่อนเอ่ยออกมาว่า “หงเหลียนได้ท่านชี้แนะ ถือเป็นวาสนาแล้ว!”

“ใช่แล้ว.”

สบโอกาส เขาที่เอ่ยกล่าวออกมาอย่างจริงจัง “เจ้านิกายจุนอายุก็มากแล้ว คิดถึงเรื่องที่จะแต่งงานหรือยัง?”

“เรื่องนี้......”

จุนซ่างเซียวส่ายหน้าไปมาเอ่ยออกไปว่า “จุนโหมวคิดที่จะพัฒนานิกายอย่างเดียว เรื่องความสัมพันธ์นั้นยังไม่คิดตอนนี้.”

มู่ซ่างหงเอ่ย “เหล่าบุรุษการมีสตรีเคียงข้าง ก็ไม่เห็นมีอะไรเสียหาย.”

เขาที่แนะนำจุนซ่างเซียวมากขึ้นและก็มากขึ้น.

เกี่ยวกับเรื่องของความรัก หาคู่มาเพื่อแบ่งเบาภาระ.

“เจ้านิกายจุน.”

มู่ซ่างหงเอ่ย “บุรุษควรที่จะเริ่มคิดถึงเรื่องนี้ได้แล้ว ท่านสามารถหาคนมาช่วยแบ่งเบา ทำให้นิกายเจริญยิ่งขึ้น ต้องไม่ลืมว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ อย่างน้อยก็ยังมีผู้สืบทอด.”

“เรื่องนี้ ค่อยคิดอีกที ก็แล้วกัน.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด