ตอนที่แล้วบทที่ 38: เหล็กวิญญาณ ชำระหนี้แค้น
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 40: จงรับบทลงโทษ!

บทที่ 39: ความประหลาดใจในการย้ายบ้าน


บทที่ 39: ความประหลาดใจในการย้ายบ้าน

เช่นเดียวกับที่ซูฟ่านกำลังค้นคว้าวิธีปรับแต่งสิ่งประดิษฐ์ชุดนี้อยู่ กระบี่บินที่ทำมาจากพลังวิญญาณก็ปรากฏขึ้นนอกยอดเขาของซูฟ่าน

ซูฟ่านโบกมือเพื่อปิดหน้าจอและเปิดช่องว่างให้กระบี่บินเข้ามา

“ให้ตายเถอะ เย่เสี่ยวเหยามันหาบ้านข้าเจอแล้วงั้นหรอ?”

“ไม่ได้การ พรุ่งนี้ข้าจะย้ายบ้านหลังจากที่ข้ารับลูกศิษย์แล้ว” ซูฟ่านกัดฟันแล้วพูดว่า “คนพวกนี้มันชักจะเอาใหญ่แล้ว”

...

วันรุ่งขึ้น ซูฟ่านมารับศิษย์ทั้งสองของเขานอกโรงเรียน เพียงแต่พวกเขาดูแตกต่างจากสิ่งที่เขาจินตนาการไว้

ซูกังยืนอย่างงุ่มง่ามต่อหน้าซูเยว่เซียน ใบหน้าของเขาบวมจนจำแทบไม่ได้ เด็กชายวัยรุ่นผิวดำอ้วนกำลังเผชิญหน้ากับซูกังพร้อมด้วยเด็กห้าถึงหกคนที่มีอายุใกล้เคียงกัน

ซูฟ่านหรี่ตาลงและมองดูฉากนี้ ราวกับกำลังดูเด็กๆ ทะเลาะกัน

“เด็กคนนี้ไม่มีท่าทีจะเสียเปรียบเลย” ซูฟ่านกล่าวพร้อมกับมองดูเด็กชายตัวอ้วนผิวดำที่มีดวงตาสีเข้ม ใบหน้าของเขาเองก็มีบาดแผลเช่นกัน”

“ซูกัง ซูเยว่เซียน ข้าจะบอกอะไรให้พวกเจ้าพี่น้องฟัง! ถ้าพวกเจ้าไม่ยอมจำนนต่อข้า ตงเห่ย ข้าก็จะทุบตีพวกเจ้าทุกครั้งที่ข้าพบพวกเจ้า!”

“อาจารย์ของข้าบอกว่าข้ามีกายาเทพสงคราม และหลังจากฝึกฝนเป็นเซียนแล้ว ข้าก็จะแข็งแกร่งยิ่งขึ้นกว่านี้อย่างแน่นอน”

“เมื่อถึงตอนนั้น ข้าจะเอาชนะพวกเจ้าโดยใช้นิ้วเดียวได้ด้วยซ้ำ”

ซูกังมองไปที่ตงเห่ยและพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“เจ้ากล้าต่อสู้กับข้าแบบตัวต่อตัวไหม?”

“คนกลุ่มหนึ่งสามารถเอาชนะเจ้าได้ แล้วทำไมข้าถึงต้องลดตัวไปสู้กับเจ้าแบบตัวต่อตัวด้วย?” ตงเห่ยมองไปที่ซูกังอย่างเหยียดหยาม แต่กระนั้นก็ยังมีร่องรอยของความกลัวในดวงตาของเขา เด็กคนนี้ใจกล้าเกินไป เขาจะเสียเปรียบอย่างแน่นอนในการต่อสู้แบบตัวต่อตัว

“นี่หรอกายาเทพครามกลม?” ดวงตาของซูกังเต็มไปด้วยความดูถูก

ซูฟ่านเกือบจะหัวเราะออกมาดังๆ นี่คือลูกศิษย์คนโตของเขางั้นหรอ?

ในขณะนี้ ซูฟ่านก็เดินเข้ามาหาพวกเขา

“ซูกัง เยว่เซียน มีใครรังแกพวกเจ้าอยู่รึเปล่า?” ซูฟ่านแสร้งทำเป็นดุร้ายและมองไปที่ตงเห่ยกับคนอื่นๆ

ตงเห่ยเห็นซูฟ่านเดินมาและดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความตกใจ เขารีบพาพวกลูกสมุนเดินหนีไปโดยทันที

“อ้ากก! ผู้ฝึกตนกำลังรังแกพวกเรา!” ตงเห่ยตะโกนขณะที่เขาวิ่ง

“ลูกหมูดำตัวน้อยตัวนี้เจ้าเล่ห์มาก”

ซูฟ่านไม่ได้ถามว่าทำไมพวกเขาถึงทะเลาะกัน แต่เขาตรวจสอบอาการบาดเจ็บของสองพี่น้องก่อน ซูกังได้รับบาดเจ็บภายนอก ในขณะที่ซูเยว่เซียนไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ เลย

“ไม่เลว เจ้าสมกับเป็นลูกผู้ชายจริงๆ”

พลังวิญญาณอันอ่อนโยนลอยเข้าหาซูกังและอาการบวมบนใบหน้าของเขาก็ค่อยๆ ลดลง

“จงมุ่งมั่นฝึกฝนให้ดีแล้วกลับมาแก้แค้นในภายหลัง” ซูฟ่านพูดเบาๆ มันเป็นเรื่องปกติที่เด็กๆ จะทะเลาะกัน

เมื่อเห็นว่าซูฟ่านไม่ได้โกรธพวกเขา สองพี่น้องก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

“ท่านอาจารย์ ข้าจะฝึกฝนอย่างหนักแน่นอน และสักวันหนึ่ง ข้าจะทำให้ใบหน้าของเจ้าอ้วนดำนั่นบวมแบบที่มันทำกับข้า”

“ใช่ ข้าเองก็จะตั้งใจฝึกฝน เพื่อที่จะได้ช่วยพี่ชายของข้าทุบตีเจ้าอ้วนดำนั่นด้วยอีกแรง” สีหน้าอันหนักแน่นจริงจังของซูเยว่เซียนทำให้ซูฟ่านรู้สึกสงสารเด็กชายตัวอ้วนดำอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นซูฟ่านก็หัวเราะเมื่อเห็นสองพี่น้องรักกัน

หลังจากพาสองพี่น้องกลับไปที่เนินเขาของเขาแล้ว ซูฟ่านก็เริ่มเตรียมที่จะย้าย

หนึ่งชั่วโมงต่อมา ซูฟ่านมองไปที่ถุงเก็บของห้าใบและเนินเขาที่ว่างเปล่า

“ไปกันเถอะ ข้าจะพาพวกเจ้าไปเลือกบ้านใหม่”

หลังจากพูดอย่างนั้น ซูฟ่านก็พาสองพี่น้องบินตรงไปยังสถานที่พิเศษในนิกายชั้นนอก

หอราชการ ศิษย์ชั้นนอกทุกคนที่ต้องการจะย้ายบ้านจะต้องรายงานสถานที่ที่เลือกไว้ที่นี่

ซูฟ่านและสองพี่น้องกำลังเลือกสถานที่จากบนโต๊ะทรายที่ส่องแสงระยิบระยับ

“เยว่เซียน เจ้าคิดว่าเราควรย้ายไปที่ไหนดี? มันควรจะเป็นสถานที่ที่ลับตามากที่สุด”

“ท่านอาจารย์ ที่นี่ไม่เพียงแต่มีขนาดกว้างขวางเท่านั้น แต่มันยังถูกซ่อนไว้อย่างดีอีกด้วย”

ซูเยว่เซียนชี้ไปที่สถานที่ใกล้กับขอบของกำแพงกั้นของนิกายชั้นนอก

ตามทิศทางของซูเยว่เซียน ดวงตาของซูฟ่านก็สว่างขึ้น

“ดีล่ะ เราย้ายไปที่นั่นกันเถอะ!”

หลังจากเสร็จสิ้นพิธีการแล้ว ซูฟ่านก็พาสองพี่น้องไปยังสถานที่ที่ซูเยว่เซียนได้เลือกเอาไว้

“ไม่เลว บนยอดเขานี้มีพื้นที่ให้ใช้สอยเยอะมาก นอกจากการอยู่ห่างจากยอดเขาหลักไปเล็กน้อยแล้ว นอกนั้นก็นับว่าดีเลย” ซูฟ่านมองไปที่บริเวณที่ก่อตัวเป็นยอดเขาและแนวป่า

นกวิญญาณสองตัวบินออกมาจากมือของซูฟ่าน ตัวหนึ่งไปที่ยอดเขาของหวังยู่หลุนและอีกตัวหนึ่งไปที่หอการค้าของผางฟู่

“อืม เรามาเริ่มทำความสะอาดกันเลยดีกว่า เราจะสร้างบ้านให้เสร็จภายในตอนเย็น”

“ซูกัง เยว่เซียน พวกเจ้าดูสิ่งนี้เอาไว้ นี่เป็นวิธีลับเฉพาะของอาจารย์ของพวกเจ้า”

ไข่มุกวิญญาณสองอันปรากฎขึ้นในมือของซูฟ่าน

'วิธีลับ: อัญเชิญชีวิต'

ไข่มุกวิญญาณอันหนึ่งบินลงมาบนพื้น และอีกอันก็บินเข้าไปในป่า

ป่าเริ่มรวมตัวกัน และกระแสน้ำวนก็ปรากฏขึ้นบนพื้น

ในเวลาไม่นาน หุ่นเชิดมนุษย์สองคนที่สูง 5 เมตรก็ปรากฏตัวขึ้น ทั้งคู่มีความแข็งแกร่งที่ขอบเขตก่อเกิดรากฐาน

“เจ้าเห็นไหม นี่คือผลสำเร็จจากการค้นคว้าล่าสุดของอาจารย์ของพวกเจ้า เมื่อพวกเจ้าเข้าถึงขอบเขตฝึกปราณขั้นสี่แล้ว พวกเจ้าก็จะสามารถเรียนรู้มันได้”

สองพี่น้องมองซูฟ่านด้วยสายตาชื่นชม

ในขณะนี้ หุ่นเชิดยักษ์สองตัวที่ซูฟ่านเรียกออกมาก็ได้เริ่มทำงานแล้ว

ยักษ์ธาตุไม้เคลียร์พื้นที่กว่า 50 เอเคอร์ ในขณะที่ยักษ์ธาตุดินปรับพื้นผิวของยอดเขาให้ราบเรียบทั้งหมด

ในเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมง ยอดเขาทั้งหมดก็กลายเป็นสถานที่ที่ซูฟ่านต้องการ

ตอนนี้ยักษ์ทั้งสองได้แปลงร่างให้สูงมากกว่า 10 เมตรแล้ว ขณะที่ซูฟ่านกำลังจะสั่งให้พวกมันสร้างบ้านพักต่อ ทันใดนั้นแสงสองดวงก็บินเข้ามาหายอดเขาของเขา

“ให้ตายเถอะ พวกเขามากันเร็วจริงๆ” ซูฟ่านมองไปที่แสงสองดวงที่อยู่ห่างไกลออกไปแล้วพูด

“พี่ซู ทำไมจู่ๆ ท่านถึงย้ายล่ะ?” หวังยู่หลุนมองไปที่ยักษ์ทั้งสองที่กำลังก่อสร้างแล้วพูด

“ข้าเพิ่งรับลูกศิษย์สองคนเข้ามา ดังนั้นเมื่อมีผู้คนมากขึ้น เราก็จำเป็นต้องมีสถานที่ที่ใหญ่ขึ้นตามไปด้วย” ซูฟ่านตอบอย่างสบายๆ เขาคงไม่สามารถพูดได้หรอกใช่ไหมว่าเขาย้ายหนีเย่เสี่ยวเหยามา

“ถ้างั้นข้าก็ขอแสดงความยินดีกับพี่ซูด้วยที่ได้ย้ายบ้านใหม่”

ในขณะนี้ หวังยู่หลุนก็หยิบเหล็กวิญญาณขนาดเท่าจานออกมาเพื่อเป็นของขวัญแสดงความยินดีกับซูฟ่าน

“พี่ซู นี่คือของขวัญจากเรา” มู่หรงเฉียนเอ๋อกล่าวด้วยรอยยิ้ม

ในเวลานี้ ซูฟ่านที่กำลังนั่งยองๆ อยู่ข้างๆ ก้อนเหล็กวิญญาณก็จ้องมองมันด้วยความประหลาดใจ

“เหล็กวิญญาณก้อนนี้มีมูลค่าอย่างน้อย 500,000 หินวิญญาณและสามารถขายได้มากสุดในราคา 700,000 หินวิญญาณ”

“พวกเจ้าแน่ใจหรอว่าต้องการจะมอบเหล็กวิญญาณนี้ให้กับข้า?” ซูฟ่านมองไปที่คนทั้งสองแล้วพูดอย่างจริงจัง เขาต้องการเหล็กวิญญาณเป็นอย่างยิ่ง เหล็กวิญญาณมีความสามารถในการบรรจุวิญญาณ และมันก็สามารถรักษาดวงวิญญาณไม่ให้หายไปได้ นั่นจึงทำให้มันกลายเป็นสิ่งของล้ำค่าที่สุดสำหรับเขา

“แน่นอน เราต้องการจะมอบมันให้กับพี่ซูจริงๆ” สามีภรรยาพูดอย่างมั่นใจ

“เอาล่ะ งั้นเข้าไปคุยกันข้างในก่อนเถอะ”

หลังจากพูดจบ ซูฟ่านก็ทำผนึกมือ และลำแสงวิญญาณสองสายก็พุ่งเข้าไปในร่างของยักษ์

ทันใดนั้น ยักษ์ดินก็แยกออกเป็นหุ่นเชิดดินขนาดเล็กจำนวนมาก

ตามคำแนะนำของซูฟ่าน หุ่นเชิดตัวเล็กเหล่านี้ก็วิ่งเข้ามารวมตัวกันและค่อยๆ เปลี่ยนร่างเป็นห้องทีละห้อง

ทันใดนั้น บ้านหลังใหญ่ก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าทุกคน ยักษ์ไม้กลายร่างเป็นมนุษย์ไม้ตัวเล็กๆ จำนวนมากและเข้าไปภายในห้องก่อนจะกลายร่างเป็นเฟอร์นิเจอร์

“พี่ซู ท่านอยู่ขอบเขตไหนกันแน่? การควบคุมวิญญาณและการสร้างสิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นวิชาของผู้ฝึกตนขอบเขตตัวอ่อนวิญญาณนี่?” มู่หรงเฉียนเอ๋อกล่าวด้วยความประหลาดใจ

“ใช่แล้ว ข้ารู้มาโดยตลอดว่าพี่ซูแข็งแกร่ง แต่มันก็กลับกลายเป็นว่าเขายังซ่อนความแข็งแกร่งของเขาเอาไว้อยู่อีก” หวังยู่หลุนกล่าว

“ไร้สาระ นี่เป็นเพียงวิชาโบราณธรรมดาๆ หากเจ้าต้องการจะเรียนรู้มัน ข้าก็สามารถสอนพวกเจ้าได้ในภายหลัง”

ขอบเขตตัวอ่อนวิญญาณหรอ? ข้ายังต้องรออีก 500 ปีนู่น..

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด