ตอนที่แล้วChapter 468 โชควาสนา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 470 ตราบฟ้าดินยังไม่สิ้น วิถีมารจะคงอยู่ตลอดกาล

Chapter 469 ตัวเลือกของเหยาเมิ่งหยิง


ผลของธวัชสงบศึกนั้นมีผลสามเดือน ตอนนี้ผ่านมาหนึ่งเดือนแล้ว ดังนั้นจุนซ่างเซียวจึงกังวลเล็กน้อย เขาจะรับมือกับมนทลระดับหกและสองนิกายระดับสี่อย่างไร.

ไปหาซ่างกวนหงหรือไม่?

ไม่ดีนัก.

นี่เป็นเรื่องระหว่างดินแดน สถาบันบัญชาสวรรค์ไม่สามารถเข้ามาก้าวก่ายได้.

ข้อแนะนำที่ระบบเอ่ยนั้น จุนซ่างเซียวค่อนข้างเห็นด้วยเหมือนกัน ต้องไม่ลืมว่าพลังของวังเมี่ยวฮัวนั้นไม่ธรรมดาเลย.

ในเวลานี้ เขาได้มอบศิลาวิญญาณธรรมชาติมากมายให้กับศิษย์ เพื่อให้พวกเขาเติบโตเร็วที่สุด.

กล่าวได้ว่า ด้วยค่ายกลรวมวิญญาณและเม็ดยารวมวิญญาณที่ได้รับแล้ว ทำให้ศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งเติบโตอย่างรวดเร็ว ยิ่งได้รับศิลาวิญญาณเข้าไปอีก ความเร็วเวลานี้เกินกว่าจะบรรยายได้เลย.

สองเดือน.

เวลาวิกฤติใกล้เข้ามาแล้ว.

หลังจากเตรียมการทั้งหมด จุนซ่างเซียวที่นำเสี่ยวหลงและราชาหมาป่าเฮอริเคนเดินทางออกจากสำนักไท่กู่เจิ้ง.

เขาไม่ได้นำศิษย์คนใดไปด้วย ต้องการให้พวกเขาตัดผ่านระดับให้เร็วที่สุดนั่นเอง.

ทุกคนไม่ได้ทำให้เจ้าสำนักจุนผิดหวัง ด้วยการโคจรวิชาชำระจิตควบคู่ ทำให้ความเข้าใจวิถียุทธ์ของพวกเขาพัฒนาอย่างก้าวกระโดด.

“ศิษย์พี่หลิว.”

เหยาเมิ่งหยิงที่นั่งอยู่ในโรงอาหาร ใบหน้าน้อย ๆ ของนางที่ซบลงบนโต๊ะ กล่าวด้วยความอิจฉา “ข้าเองก็ต้องการบ่มเพาะเหมือนกับศิษย์พี่คนอื่น ๆ ด้วย.”

ศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งที่ฝึกฝนอย่างขะมักเขม้น มีเพียงนางที่ว่างเว้นลอยไปลอยมา ไม่ได้ทำอะไร.

ด้วยการที่นางยังเด็กเกินไป เจ้าสำนักจุนจึงเอ่ยว่า เมื่อนางมีอายุ 12-13 ค่อยให้ฝึกฝนวิชายุทธ์อีกครั้ง.

หลิวหว่านซีเผยยิ้ม “เจ้าไปหาศิษย์พี่รอง ให้เขาอนุญาตเลือกวิชาบ่มเพาะให้กับเจ้าดู.”

“เจ้าสำนักบอกว่า ข้ายังเด็กไป ไม่เหมาะที่จะบ่มเพาะเวลานี้.”

เหยาเมิ่งหยิงที่เอ่ยกล่าว งุ้งงิ้งเป็นเสียงยุง.

หลิวหว่านซีที่วางทัพพี ขยิบตาให้ เผยยิ้มออกมา “ศิษย์พี่รองมีวิธี ข้าจะลองพาเจ้าไปหาเขาดู.”

ดังนั้น นางจึงนำเหยาเมิ่งหยิงไปหาหลี่ชิงหยาง พร้อมกับเอ่ยจุดประสงค์ที่มา.

หลี่ชิงหยางที่เป็นเหมือนผู้จัดการเรื่องราวในสำนัก เขาไม่สามารถที่จะขัดคำขอของหลิวหว่านซีได้เลย ด้วยคำหวานกึ่งบังคับ ท้ายที่สุดเขาก็ยอมให้ศิษย์น้องเล็กเข้าไปในหอคัมภีร์เพื่อเลือกวิชาบ่มเพาะ.

“เมิ่งหยิง.”

หลิวหว่านซีเอ่ยขณะก้าวเข้ามาในหอตำรา ก่อนที่จะหยิบตำราเปลี่ยนเส้นเอ็น เอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม “ก่อนอื่นเจ้าควรจะบ่มเพาะ เพื่อเปิดชีพจรที่จะฝึกยุทธ์ก่อน.”

“อืม.”

เหยาเมิ่งหยิงพยักหน้ารับ ทว่าเมื่อรับตำรามาแล้ว นางยังคงกวาดตามองไปรอบ ๆ ยังไม่ก้าวไปใหน.

บนชั้นแห่งหนึ่งนั้นมีวิชาของสำนักปิศาจ.

ด้วยจุนซ่างเซียวทำลายสำนักปิศาจมาหลายแห่ง ทำให้ได้รับวิชาเหล่านี้มา.

เขาไม่ได้ต่อต้านวิชาปิศาจ ดังนั้นจึงได้เก็บมันไว้ในหอตำรา หากว่ามีศิษย์ที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ก็สามารถนำมันไปฝึกฝนได้.

คนที่ฝึกวิชาปิศาจไม่ได้แปลว่าต้องกลายเป็นปิศาจร้ายกันทุกคน.

ถึงจะเป็นวิชาฝ่ายธรรมมะ ทว่าหากกระทำเรื่องชั่วช้าสามานย์ ก็ไม่ต่างจากปิศาจเช่นกัน.

แม้นว่าเหล่าผู้ฝึกยุทธ์วิถีปิศาจนั้นจะค่อนข้างสุดโต่ง ทว่าก็ไม่ใช่ว่าจะไร้หัวใจ แน่นอนว่ายังไกลเกินกว่าการเป็นปิศาจ.

อย่างไรก็ตาม.

เจ้าสำนักจุนที่ได้เตือนทุกคน หากไม่มีพรสวรรค์ที่จะฝึกวิชาปิศาจ ห้ามไม่ให้นำไปฝึกโดยเด็ดขาด.

ภายในสำนักไท่กู่เจิ้ง คนที่มีพรสวรรค์ฝึกวิชาปิศาจ มีเพียงเจียงเซี่ยคนเดียว ทว่าเวลานี้เขาได้ละทิ้งมันไปแล้ว เขาที่ทุ่มฝึกฝนวิชาของสำนักไท่กู่เจิ้งอย่างสุดใจ.

“ศิษย์พี่หลิว.”

เหยาเมิ่งหยิงที่หยิบวิชาปิศาจขึ้นมา เกาศีรษะไปมา “ข้าฝึกวิชานี้ได้หรือไม่?”

หลิวหว่านซีที่เผยความประหลาดใจออกมา “นี่เจ้าจะฝึกฝนวิชาปิศาจอย่างงั้นรึ?”

“ไม่ได้ ไม่ได้”นางส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว “เจ้าสำนักบอกว่าวิชาปิศาจนั้นไม่สามารถฝึกฝนได้ทั่วไป ไม่เช่นนั้นจะทำให้ธาตุไฟเข้าแทรกได้.”

เหยาเมิ่งหยิงที่กอดตำราแน่น กล่าวร้องขอ “ศิษย์พี่หลิว ข้าต้องการฝึกฝนจริง ๆ.”

“เอ่อ....”

หลิวหว่านซีที่เงียบเล็กน้อย ก่อนที่จะเอ่ยออกมาว่า “งั้น ก็ลองฝึกดูก็แล้วกัน.”

นางเองก็ไม่ประสีประสาเช่นกัน ไม่เข้าใจถึงผลกระทบของการฝึกวิชาปิศาจ  หากหลี่ชิงหยางตามมาด้วย แน่นอนต้องห้ามศิษย์น้องเล็กฝึกฝนวิชาเช่นนี้อย่างหนักแน่นแน่นอน!

“ขอบคุณ ศิษย์พี่หลิว!”

เหยาเมิ่งหยิงที่เผยยิ้มพราย ก่อนจะนำวิชาปิศาจ  ออกไปกับหลิวหว่านซีด้วยความสุข.

วิชาปิศาจ แต่ละวิชานั้น มีอันตรายซ่อนเอาไว้มากมาย.

โลลิน้อยที่เลือกวิชาปิศาจ เช่นนี้ ยากที่จะมีใครบอกว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้น.

......

เช้าวันถัดมา หลี่ชิงหยางที่มาตรวจสอบหอตำรา พบว่าเหยาเมิ่งหยิงได้เลือกวิชาปิศาจ ไป ถึงกับตื่นตะลึงอย่างแรง “นี่ศิษย์น้องเล็กเลือกวิชาปิศาจ ได้อย่างไร!”

“ตู้ตู้!”

เขาเร่งรีบไปยังโรงอาหาร กล่าวออกมาด้วยความกระวนกระวายใจ.“ศิษย์น้องเล็กล่ะ.”

หลิวหว่านซีเอ่ยออกมาว่า “กำลังฝึกวิชาที่ลานด้านใน.”

หลี่ชิงหยางที่เร่งรีบเข้าไปในลานด้านใน ก่อนที่จะไปถึงที่พักของเหยาเมิ่งหยิง ห้องของนางที่ล๊อกอยู่ เขาที่เคาะเรียกแต่ก็ไม่ตอบสนอง.

ลู่เชียนเชียนที่เดินผ่านมาโดยบังเอิญ ก่อนที่จะเห็นน้องรองกำลังหน้าตาตื่น จึงเอ่ยสอบถามออกมา “เกิดอะไรขึ้น?”

หลี่ชิงหยางที่เอ่ยเกี่ยวกับเรื่องที่เหยาเมิ่งหยิงเลือกวิชาปิศาจ ไปฝึกฝน.

โครม!

ประตูที่พังลง อากาศหนาวที่แผ่ออกไปรอบ ๆ.

“.....”หลี่ชิงหยางที่มุมปากกระตุก คิดว่าศิษย์พี่หญิงใหญ่ ช่างรุนแรงจริง ๆ!

ลู่เชียนเชียนที่เก็บฝ่ามือเดินเข้าไป ก่อนที่จะเห็นเหยาเมิ่งหยิงนอนอยู่บนพื้น แขนทั้งสองข้างที่ขาวซีด ก่อนที่จะอุ้มนางขึ้น พาไปหอยาทันที.

“แย่แล้ว ศิษย์น้องเล็กหมดสติ!”

“เกิดอะไรขึ้น?”

“ได้ยินจากศิษย์พี่หลี่ว่านางอาจจะฝึกฝนวิชาปิศาจ !”

เหล่าศิษย์ที่ได้ข่าว เร่งรีบไปยังหอยากันทันที.

“ฮือ ฮือ......”

ภายในหอยา หลิวหว่านซีที่กำลังร้องไห้ โทษตัวเองไปมา “เป็นข้าเอง....โทษข้าเอง ข้าไม่ควรให้นางเลือกวิชาปิศาจ ....”

“สาวน้อย หยุดร้องไห้ได้แล้ว.”

เหล่าเหว่ยที่เอ่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ขณะมือตรวจสอบชีพจรเหยาเมิ่งหยิง ทำไมนางถึงหมดสติอย่าไม่มีเหตุผล.

หลิวหว่านซีที่ค่อย ๆ หยุดร้องไห้ทว่าก็ยังสะอื้นเป็นระยะ ๆ.

“แปลก แปลกมาก.”

หลังจากตรวจสอบแล้ว เหล่าเหว่ยที่เต็มไปด้วยความสงสัย “ชีพจรก็ยังดี กลิ่นอายก็ยังมั่นคง แล้วหมดสติได้อย่างไร?”

เจียงเซี่ยที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เอ่ย “การฝึกฝนวิชาปิศาจ  ทำให้เจ็บปวดจนหมดสติไปอย่างงั้นรึ?”

“ก็เป็นไปได้.”

เหล่าเหว่ยที่เพ่งพิศครุ่นคิด.

“ฟู่ ฟู่!”

ในเวลานั้น เหยาเมิ่งหยิงที่หมดสติอยู่นั้น ร่างกายของนางที่มีกลิ่นอายความมืดมิดแผ่ออกมา.

เหล่าเหว่ยที่ใบหน้าเปลี่ยนสี เร่งรีบถอยออกมาสองก้าว กล่าวด้วยน้ำเสียงตกใจ “นี่มัน....นี่มัน.....”

เจียงเซี่ยที่ดวงตาเบิกกว้าง.

ฟู่ ฟู่!

กลิ่นอายที่แผ่ออกมามีสีดำเหมือนหมึก ปกคลุมทั่วร่างเหยาเมิ่งหยิง.

กลิ่นอายที่ทะลักปกคลุมทั่วหอยา ทำให้หลี่ชิงหยางและหลิวหว่านซีและคนอื่น ๆ หวาดกลัว.

เหล่าเหว่ยและเจียงเซี่ยที่แววตาสั่นไปมา หัวใจที่เต้นไปมา!

ทั่วร่างของเหยาเมิ่งหยิง ปกคลุมไปด้วยปราณความมืดช้า ๆ ร่างของนางที่ลอยขึ้นไปบนอากาศ ทั่วร่างของนางที่ราวกับจะถูกพลังความมืดกลืนกิน.

ผ่านไปสองสามนาที.

กลิ่นอายที่แปลกประหลาดค่อย ๆ คืนกลับเข้าไปในร่างเหยาเมิ่งหยิง ก่อนที่นางจะค่อย ๆ ลอยลงไปนอนบนเตียง.

กลิ่นอายดำมืดเองก็ค่อย ๆ หายไป ทุกอย่างคืนสู่ความปรกติ ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น.

“เหล่าเหว่ย.”

หลี่ชิงหยางที่เร่งรีบกล่าวออกมา “เกิดอะไรขึ้น?”

เหล่าเหว่ยเงียบ.

เจียงเซี่ยเงียบ.

“เกิดอะไรขึ้น?”หลิวหว่านซีที่สอบถามไม่ได้สนใจเรื่องปราณความมืด หากแต่นางเป็นห่วงเหยาเมิ่งหยิง!

“อาวุโสเจียง.”

เหล่าเหว่ยที่เอ่ยออกมาเล็กน้อย “เจ้าฝึกฝนวิชาปิศาจ  ควรจะรู้ หมายความว่าอย่างไร.”

เจียงเซี่ยพยักหน้ารับ กล่าวอย่างจริงจัง “ไม่จำเป็นต้องเดา เด็กสาวคนนี้จะต้องมีกายากำเนิดมาร.”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด