ตอนที่แล้วChapter 439 มั่นใจ 100 เปอเซ็น.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 441 เดินทางพันลี้มาให้เด็ดศีรษะ

Chapter 440 คิดอะไรได้สิ่งนั้น!


จุนซ่างเซียวที่รอการบุกของมนทลเจิ้นหยาง แน่นอนเขาย่อมหวังให้มนทลเหอหยางและมนทลฮวยหยางช่วยถ่วงเวลาเอาไว้ เพื่อที่จะทำให้เขาพัฒนาตัวเองขึ้นไปอีก.

อย่างไรก็ตาม กับไม่ได้เป็นดั่งที่หวัง.

ไม่กี่วันหลังจากนั้น เจ้าเมืองเซี่ยที่กล่าวว่ามีเวลาเพียงหนึ่งเดือน คนของหอฝนพรำก็แจ้งข่าวมาว่า ผู้พิทักษ์ของมนทลฮวยหยางนั้นเลือกที่จะยอมจำนน.

“...”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “ขี้ขลาดจริง ๆ.”

ลี่ลั่วฉิวที่ส่ายหน้าไปมา “ผู้พิทักษ์มนทลยอมจำนน ก็ไม่ต่างกับการปล่อยให้ดินแดนเป็นไปตามยถากรรม เหล่าประชาชนที่น่าสงสาร คงต้องกลายเป็นทาสของมนทลเจิ้นหยาง.”

เลือกจำนนยอมแพ้ ยกบ้านเกิดให้กับคนอื่น ถึงจะมีชีวิตรอด แต่ก็ไม่เหลือศักดิ์ศรีใด ๆ อีกต่อไป.

เซี่ยกวนคุนที่ยืนหยัดไม่ยอมจำนน ปกป้องเมืองชิงหยางเพื่อเกียรติแล้วศักดิ์ศรีของตัวเอง.

“แต่ก็มีข่าวดีด้วยเหมือนกัน.”

ลี่ลั่วฉิวเอ่ย “เหล่าเจ้าเมืองของมนทลฮวยหยาง เลือกจะต่อสู้จนตัวตาย สามารถช่วยถ่วงเวลาให้กับพวกเรา.”

“ในโลกใบนี้ ก็มีคนที่ยืนหยัดไม่หวาดกลัวความตายเช่นกัน.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

ผู้พิทักษ์มนทลยอมจำนน ทว่าเหล่าประชาชนเลือกที่จะต่อต้าน แม้นจะบอกได้ว่าไม่สามารถต้านกองทัพหนึ่งแสนเอาไว้ได้ก็ตาม.

หากเป็นไปตามนี้ ทัพของมนทลเจิ้นหยางที่จะบุกเข้ามามนทลชิงหยาง ก็ต้องใช้เวลาสักเล็กน้อย.

ทำให้จุนซ่างเซียวสามารถต่อลมหายใจไปได้อีกหน่อย.

สิ่งที่เขารู้สึกยังไม่ค่อยพอใจนัก กับกองกำลังขี่หมาป่า เขาต้องการเวลา เพื่อเพิ่มความสามารถของศิษย์ขึ้นไปอีก.

“เหล่าเหว่ย.”

จุนซ่างเซียวที่เดินไปยังสวนสมุนไพรเอ่ยออกมาว่า “ใช้เวลานานเท่าไหร่ที่สมุนไพรจะเก็บเกี่ยวได้?”

ด้วยความจำเป็นในการหลอมเม็ดยารวมวิญญาณ เพื่อเพิ่มการดูดซับพลังวิญญาณ 20 เท่า และอีกอย่างคือสมุนไพรสำหรับหลอมเม็ดยาอาจารย์ยุทธ์ที่สมุนไพรยังไม่เติบโตพอ.

ในเวลานี้ศิษย์กว่า 1500 คน ที่อยู่ในระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นปลายแล้ว.

การจะตัดผ่านไปยังดินแดนยุทธ์ต่อไป พวกเขาจะต้องตระหนักและเข้าใจวิถียุทธ์มากกว่านี้ ซึ่งจำเป็นต้องใช้เวลานาน.

ด้วยเม็ดยาอาจารย์ยุทธ์ จะทำให้ทุกคนสามารถตัดผ่านระดับไปยังดินแดนอาจารย์ยุทธ์ได้ ซึ่งจะทำให้พลังต่อสู้แข็งแกร่งขึ้นเป็นอย่างมาก!

ดังนั้น เจ้าสำนักจุนจึงรู้สึกกระวนกระวายใจ.

เหล่าเหว่ยเอ่ย “ต้องใช้เวลาอีกครึ่งเดือน.”

“ครึ่งเดือนสินะ.”

จุนซ่างเซียวที่กล่าวในใจ “เป็นไปตามคำนวณ ศิษย์ทุกคนน่าจะสามารถตัดผ่านไปยังระดับอาจารย์ยุทธ์ขั้นปลายได้ทุกคน เมื่อถึงเวลานั้นจะต้องสามารถตัดผ่านไปยังระดับอาจารย์ยุทธ์พร้อม ๆ กันได้แน่!”

......

เพราะว่าดินแดนเพื่อนบ้านกำลังทำสงคราม ทำให้ท้องฟ้ามีกลิ่นอายที่อึมครึมปรากฏขึ้นที่ขอบท้องฟ้าไกล.

เหล่าประชาชนที่เผยความกังวลใจ จ้องมองด้วยความเหนื่อยล้าหวาดหวั่น.

หากมนทลชิงหยางตกอยู่ในมือศัตรู พวกเขาตระกูลต่าง ๆ ก็จะสูญเสียสถานะตัวเอง แม้แต่กลายเป็นประชาชนชั้นสอง หรือแม้แต่ถูกตีตราเป็นทาสอีกด้วย.

สิ่งที่พวกเขารู้สึกขอบคุณ.

เจ้าเมืองทั้งแปด ที่ไร้ความหวาดกลัว พร้อมที่จะตกตายไปพร้อมกับทุกคน!

จุนซ่างเซียวเอ่ย “ผู้พิทักษ์มนทลชิงหยาง แม้นว่าจะไม่รู้อยู่ที่ใหน ทว่าเจ้าเมืองก็เลือกที่จะต่อสู้จนตัวตายไร้ซึ่งความหวาดกลัว.”

“เจ้าสำนัก.”

ลี่ลั่วฉิวกล่าวรายงาน “เมืองชิงหลิง มนทลฮวยหยางตกอยู่ในมือศัตรูแล้ว เพราะว่าเจ้าเมืองต่อสู้ไม่ยินยอม ทำให้ทัพของมนทลเจิ้นหยางโจมตีอย่างหนักเมื่อเข้าเมืองได้...ประชาชนหนึ่งล้านคนถูกสังหารทั้งหมด.”

จุนซ่างเซียวที่ขมวดคิ้ว.

เสวี๋ยเหรินกุยเอ่ย “แม่ทัพที่บุกเมืองชิงหลิง คงจะเป็นเหมี่ยวก้วย?”

“ไม่ผิด.”ลี่ลั่วฉิวเอ่ย.

เสวี๋ยเหรินกุยเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา.“เป็นเขาจริง ๆ.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “ถางจู่เสวี๋ยรู้จักเขาอย่างงั้นรึ?”

เสวี๋ยเหรินกุยเอ่ยออกมาด้วยความโกรธ “เหมี่ยวก้วยนั้นเป็นแม่ทัพแนวหน้าของไป่รุ่ยหู่ มีฉายาว่าแม่ทัพนักฆ่า เขาเป็นคนที่ดุร้าย เขาสังหารคนทั้งเมืองด้วยความสุขมาหลายเมืองแล้ว แม้แต่คนนอกจังหวัด ยังได้ยินชื่อเสียงอันชั่วร้ายของเขาเลย.”

“แม่ทัพนักฆ่าอย่างงั้นรึ?”

จุนซ่างเซียวที่มุมปากกระตุกกล่าวด้วยความเหยียดหยัน “หากกล้าเข้ามาในมนทลชิงหยาง เปิ่นจั้วจะใช้ดวงวิญญาณของเขาเซ่นสังเวยดาบ.”

ในเวลานั้น ลี่ลั่วฉิวที่ได้รับข้อความจากผู้ใต้บังคับบัญชา “เจ้าสำนัก ข่าวล่าสุด เหมี่ยวก้วยหลังจากทำลายเมืองชิงหลิงแล้ว ได้นำกองกำลังเคลื่อนที่เร็ว 10,000 นาย มุ่งตรงมาทางตำแหน่งหุบเขาแห่งความตายมนทลชิงหยาง.”

เป็นความจริง....คิดสิ่งใดมักได้สิ่งนั้น!

เสวี๋ยเหรินกุยที่เริ่มกางแผนที่ตรวจสอบเส้นทางการเคลื่อนทัพของอีกฝ่ายทันที “เจ้าสำนัก ด้วยทัพเคลื่อนที่เร็วของเหมี่ยวกุย เป็นไปได้ว่าเขาต้องการโจมตีทางไกล เมืองโชวหยางอย่างแน่นอน.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “ควรรับมืออย่างไร?”

เสวี๋ยเหรินกุยที่ครุ่นคิดเล็กน้อย กล่าวออกมาว่า “ด้วยหอขี่หมาป่าของพวกเราเวลานี้สามารถล่าสังหารพวกเขาได้อย่างง่ายดาย.”

ด้วยจำนวนกองกำลังเคลื่อนที่เร็วของฝ่ายตรงข้ามที่มีจำนวนถึง 10,000 เป็นคนอื่นย่อมหวาดกลัว ทว่าเขากับบอกได้ว่าสามารถจัดการได้อย่างรวดเร็ว.

จุนซ่างเซียวที่สีจมูกไปมา กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “การป้องกันที่ดีที่สุด ก็คือการโจมตี ในเมื่อมนทลเจิ้นหยางกล้ารุกรานมนทลชิงหยางของข้า เช่นนั้นข้าจะให้พวกเขาไม่สามารถกลับออกไปได้.”

......

“กับ กุบ กับ!”

เส้นทางพื้นที่ป่าของหุบเขาแห่งความตาย ทัพเคลื่อนที่เร็วจำนวน 10,000 นายของมนทลเจิ้นหยาง กำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว นี่คือทัพหน้าของไป่รุยหู่ นำโดยแม่ทัพแนวหน้าเหมี่ยวก้วย.

“แม่ทัพ.”

ระหว่างทาง รองแม่ทัพกล่าวด้วยรอยยิ้ม “พวกเรารอที่จะเข้าไปในมนทลชิงหยางไม่ไหวแล้ว รับรองว่าคงทะลวงเข้าเมืองได้ง่าย ๆ แน่!”

“แม่ทัพแข็งแกร่งอยู่แล้ว!”รองแม่ทัพอีกคนที่กล่าวประจบ.

“ชิ.”

บุรุษที่ร่างกายใหญ่โต ท่าทางดุร้ายเหมี่ยวก้วยแค่นเสียงดูแคลน “ถึงแม้นว่าจะบุกเข้าไปตรง ๆ ด้วยระดับมนทลชิงหยางที่ด้อยกว่ามนทลฮวยหยางมาก จะเอาอะไรมาต้านพวกเราได้.”

จากคำพูดของเขาแล้ว เขาไม่สนใจมนทลชิงหยางแม้แต่น้อย.

ดินแดนต่าง ๆ ของทวีปชิงหยุน ดินแดนระดับต่ำสุดคือขั้นที่เก้า มนทลชิงหยางระดับเก้า ไม่ต้องสงสัยว่าอ่อนแอที่สุด.

แม่ทัพของดินแดนขนาดใหญ่ ไม่แม้แต่เห็นพวกเขาอยู่ในสายตา.

“แม่ทัพ.”

รองแม่ทัพที่หัวเราะอย่างหื่นกระหาย “การบุกเมืองชิงหลิง พวกเราเข้าโจมตีไม่หยุดหย่อน ครั้งนี้เมื่อทะลวงเมืองโซวหยางได้แล้ว ให้น้องชายหาคู่ครองได้หรือไม่?”

เหมี่ยวก้วยกล่าว “ชนะสงครามเมื่อไหร่ สตรีในเมืองไม่ว่าจะเป็นใครเจ้าเลือกได้สบาย ๆ เลย!”

“รับทราบ!”

เขาที่กล่าวตอบรับ แววตาที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ในทันที.

“ฮี่ ฮี่—”ในเวลาไม่นาน ม้าศึกที่น่าเกรงขามจู่ ๆ ก็หยุดในทันที ก่อนที่มันจะสะบัดหัวไปมา ราวกับว่ากำลังหวาดกลัวอะไรบางอย่าง.

ด้วยเรื่องที่เกิดขึ้นทันทีทันใด ทำให้ทหารเกือบที่จะตกจากหลังม้า.

“เกิดอะไรขึ้น?”เหมี่ยวก้วยกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม.

“แม่ทัพ!”

รองแม่ทัพที่ชี้ไปยังเนินเขาที่ไกลออกไป “มี....มีหมาป่า...”

หมาป่า?

เหมี่ยวก้วยและผู้ใต้บังคับบัญชาจ้องมองไปตาม ๆ กัน.

ปรากฏหมาป่าหลายร้อยตัว ที่ร่างกายใหญ่ยักษ์ใต้เท้ามีสายลมหมุนสีน้ำเงินพัดวนไปมา!

“นี่....”เหมี่ยวก้วยเผยความดีใจออกมา “หมาป่าเฮอริเคน!”

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”

รองแม่ทัพเอ่ยออกมาว่า “ในดินแดนที่แห้งแล้งเช่นนี้ กับมาเจอสัตว์ร้ายธาตุวายุที่หายากอย่างคาดไม่ถึง แม่ทัพนี่ดวงดีจริง ๆ!”

หากเปลี่ยนเป็นผู้ฝึกยุทธ์ไร้สังกัดปกติ เห็นหมาป่าเฮอริเคน แน่นอนว่าจะต้องใบหน้าเปลี่ยนสีหวาดกลัว.

ทว่าเหมี่ยวก้วยนั้นดีใจเป็นอย่างมาก ต้องไม่ลืมว่านี่คือกองกำลังเคลื่อนที่เร็วกลุ่มใหญ่ แล้วจะกลัวหมาป่าได้อย่างไร!”

“เร็วเข้า!”

เขาที่ออกคำสั่ง “อย่าปล่อยให้หนี.....”

“ฟิ้ว---”

ยังกล่าวไม่จบ เสียงฉีกอากาศดังหวีดหวิวก็ดังขึ้น.

โพล๊ะ!

หัวของรองแม่ทัพคนหนึ่งก็ถูกทะลวง ก่อนจะล่วงหล่นลงจากหลังม้าในทันที.

“ศัตรูบุก! ศัตรูบุก!”

ฟิ้ว!

ฟิ้ว!

เป็นความจริง เสียงฉีกอากาศอีกสองเสียงก็ดังขึ้นทันที.

รองแม่ทัพของเหมี่ยวก้วยด้านข้างถูกเจาะสมองหล่นลงไปบนพื้นในทันที เป็นคนที่กล่าวว่าต้องการหญิงสาวเคียงคู่ก่อนหน้านี้นะเอง.

หึ! สามารถไปหาเจ้าสาวในนรกได้แล้ว.

“แก๊ก แก๊ก แก๊ก!”

สองสมาชิหอฝนพรำสองคนที่อยู่ห่างออกไป 2,000 เมตร ซุ่มยิงอยู่กำลังโหลดกระสุน กล่าวออกมาว่า “ถางจู่ เป้าหมาย 1 2 และ3 ถูกสังหารแล้ว.”

เสวี๋ยเหรินกุยที่มุมปากกระตุก.

นี่คือการทดสอบลอบยิงระยะไกล ไม่คาดคิดเลยว่า พวกเขาจะยิงได้อย่างแม่นยำขนาดนี้ ยอดเยี่ยมนัก!

“ฟิ้ว!”

ในเวลานั้น ธงสัญญาณรบก็โบกสะบัดไปในทันที.

“บู้ว!”

“บู้ว!”

เสียงหมาป่าที่หอนดังขึ้น ก้องไปทั่วดินแดนหุบเขาแห่งความตาย.

ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!

ในเวลาต่อมา ที่เนินเขา ปรากฏกองกำลังหมาป่ากว่าพันคน ที่ขี่หมาป่าเฮอริเคนปรากฏขึ้นอย่างพร้อมเพรียง.

“ฟิ้ว!”

จงอี้ที่นำหน้า ควบหมาป่าพุ่งเข้าไปยังทิศทางทัพของเหมี่ยวก้วยที่กำลังวุ่นวาย หอกผู้พิชิตที่ส่องประกายแสง เสียงของเขาที่ตะโกนออกมาเสียงดัง “บดขยี้ข้าศึก สังหารอย่าให้เหลือ---”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด