ตอนที่แล้วChapter 438 บรรพชนยุทธ์ขั้นปลาย.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 440 คิดอะไรได้สิ่งนั้น!

Chapter 439 มั่นใจ 100 เปอเซ็น.


จุนซ่างเซียวที่เปิดคอนโซนข้อมูล ปรากฏข้อมูลมหากาพย์.

เนื้อหา---

ภารกิจมหากาพย์【4】 : มนทลเจิ้นหยางโจมตี มนทลชิงหยางอยู่ในอันตราย โฮสน์จะต้องนำศิษย์เข้าต้านการรุกราน ปกป้องเมืองชิงหยางเอาไว้.

ภารกิจล้มเหลว : มนทลชิงหยางถูกทำลาย.

รางวัลภารกิจ : ??

ภารกิจมหากาพ เนื้อความหลัก ๆ นั้นคือปกป้องมนทลชิงหยางเอาไว้!

“มันจะง่ายขนาดนี้เลยเหรอ!”

จุนซ่างเซียวถึงกับพูดไม่ออก อย่างน้อยก็เป็นเป้าหมายเดียวกัน ต้องการให้ข้าทำให้สำเร็จให้ได้สินะ!

มันจะมีเพียงแค่ปกป้องเมืองชิงหยางแน่รึ?!

“ไม่ใช่ ไม่ใช่แน่.”

ขณะที่นึกถึงภารกิจที่แล้วมา จุนซ่างเซียวที่กล่าวอยู่ในใจ “ภารกิจเหล่านี้ต้องมีภารกิจซ่อนเอาไว้อีกแน่.”

ซ่อนอะไรเอาไว้ บางอย่างที่เขายังไม่รู้?

ถามระบบอย่างงั้นรึ?

มันบอกข้าก็แปลกแล้ว.

“อืม.”

ระบบที่ราวจะมีความสุข “ดูเหมือนโฮสน์จะฉลาดขึ้นนะ.”

“ไสหัวไปเลย.”

จุนซ่างเซียวที่สีคางไปมา กล่าวเบา ๆ “ดูเหมือนว่า ภารกิจมหากาพนั้น เป็นการบังคับ ไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้.”

ส่วนสำนักกลุ่มอิทธิพลอื่น พวกเขาสามารถที่จะเลือกเข้าร่วม หรือไม่เข้าร่วมในสงครามครั้งนี้ก็ได้.

ทว่าตอนนี้เขาอยู่ในระดับบรรพชนยุทธ์ขั้นปลายแล้ว ภารกิจมหากาพย์ เกี่ยวข้องกับบ้านเกิด รางวัล เองก็คงจะเกี่ยวข้องกัน.

“ดีคือการป้องกัน หากเป็นการโจมตี คงจะย่ำแย่แน่.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย.

เดี๋ยวนะ!

ยังมีปัญหาหนึ่ง!

“ภารกิจมหากาพไม่ใช่มีคำว่ารอด้วยหรอกรึ?.”

จุนซ่างเซียวที่ขมวดคิ้วไปมา “ข้าเพียงแค่รอให้กองทัพของมนทลเจิ้นหยางบุกมา และปกป้องเมืองชิงหยาง ก็ควรถือว่าภารกิจสำเร็จแล้วรึ?”

“ไม่ผิด.”ระบบเอ่ย.

จุนซ่างเซียวเกาศีรษะไปมา “มนทลเหอหยางและมนทลฮวยหยาง หากพวกเขาต่อต้าน น่าจะกินเวลา 1หรือ 2 ปี หากเป็นเช่นนั้นไม่ใช่ว่าข้าต้องรอตัดผ่านระดับเป็นเวลา 1 หรือสองปีไปด้วยหรอกรึ?”

ระบบเอ่ย “ดังนั้นโฮสน์ควรจะเป็นผู้ล่า ทำให้พวกเขาเลือกที่จะยอมจำนนเร็วที่สุด ให้มนทลเจิ้นหยางยอมแพ้ที่จะปล่อยมือออกจากมนทลชิงหยางซะ.”

จุนซ่างเซียวเบ้ปาก “ข้าต้องเป็นคนเริ่มก่อน ให้พวกเขารุกเข้ามางั้นรึ?!”

ด้วยเงื่อนไขภารกิจคือปกป้องเมืองชิงหยาง.

หากทัพมนทลเจิ้นหยางบุกมาในตอนนี้ แน่นอนว่าเขาต้องจ่ายไปด้วยราคาที่สูงมากอย่างแน่นอน.

และยิ่งทำให้เวลาสำนักไท่กู่เจิ้งไปอีก เหล่าศิษย์ของเขาก็จะยิ่งมีระดับสูงขึ้น ไม่เพียงแค่ป้องกันได้ง่าย ยังสามารถสังหารฝ่ายตรงข้ามได้มากขึ้นด้วย.

......

“บุก!”

“บุก!”

ภายในพื้นที่โล่กว้าง กองกำลังหมาป่าพันคน ที่เวลานี้ถือหอกผู้พิชิตมือขวา ก่อนที่จะพุ่งออกไปด้านหน้าด้วยความเร็ว.

ที่นำหน้าคนอื่นเวลานี้ก็คือจงอี้.

ด้วยอารมณ์ที่เต็มไปด้วยความเที่ยงธรรม ทำให้เขาเลือกเป็นสมาชิกหอขี่หมาป่า.

เพราะว่ามีพลังบ่มเพาะสูงอยู่แล้ว ทำให้คนที่เสวี๋ยเหรินกุยเลือกมานั้น สามารถที่จะเป็นนักรบขี่หมาป่าที่เพรียบพร้อม.

การเข้าร่วมสำนักไท่กู่เจิ้ง แม้ว่าจะไม่นาน ด้วยทรัพยากรมากมาย จงอี้ที่มีรากวิญญาณระดับสูง ก็ก้าวไปถึงอาจารย์ยุทธ์ชั้นที่เก้าเรียบร้อยแล้ว.

ก่อนหน้านี้ใช้ชีวิตด้านนอก ตลอดเวลาที่ต้องเสี่ยงภัยก็เพื่อทรัพยากรทั้งนั้น.

คิดถึงเวลานี้เพียงแค่เวลาไม่นาน เขาที่ตัดผ่านระดับได้เร็วมาก ๆ!

จงอี้ที่หลอมรวมเข้ากับสำนักไท่กู่เจิ้ง หากว่าต้องเข้าร่วมสงคราม เขาก็พร้อมที่จะบุกน้ำลุยไฟ โดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย.

ฟิ้ว!

บนเทือกเขา เสวี๋ยเหรินกุยที่คอยให้สัญญาณธง.

“นี่คือการจัดขบวนเคลื่อนทัพ!”

จงอี้ที่ตะโกนเสียงดัง ประสานเสียงพร้อมกับเหล่าสมาชิกหอขี่หมาป่าคนอื่น ๆ.

ห้วงอากาศที่ผสานรวมเป็นกระแสพลัง พุ่งออกไปพร้อมกันจากปลายหอกในมือของพวกเขา พุ่งตรงไปด้านหน้าด้วยพลังที่หนักหน่วงรุนแรง!

“เจ้าสำนัก.”

เสวี๋ยเหรินกุยเอ่ย “ด้วยการผสานพลังหอกของพวกเขา จะสามารถฉีกกระชากการป้องกันของทัพศัตรูให้แหลกเป็นเสี่ยง ๆ ได้”

จุนซ่างเซียวพยักหน้ารับ “ยอดเยี่ยมมาก.”

เสวี๋ยเหรินกุย กล่าวออกมาว่า “หากว่าเป็นสนามรบ ข้ามั่นใจว่าจะทำลายขบวนทัพของฝ่ายตรงข้ามให้พังทลายสร้างความวุ่นวายได้.”

ตอนแรกเขามั่นใจว่าสมาชิกหอขี่หมาป่าที่มีพลังบ่มเพาะสูงย่อมร้ายกาจมาก นอกจากนี้ยังสวมยุทโธปกรณ์คุณภาพสูง ย่อมทำให้กลายเป็นทัพเคลื่อนที่เร็วที่ร้ายกาจทรงพลังขึ้นไปอีกหลายเท่า.

จุนซ่างเซียวเอ่ย “เมื่อทัพมนทลเจิ้นหยางบุกมา หอขี่หมาป่าของพวกเรา จะต้องทำให้พวกเขาประหลาดใจได้แน่.”

“.”

เสวี๋ยเหรินกุยที่ขมวดคิ้วไปมา “ข้ากังวลเพียงกองกำลังของไป่รุ่ยหู่ที่มีหน้าไม้ระเบิดปิศาจ สิ่งนี้ทรงพลังมาก จะสร้างปัญหาให้กับกองกำลังขี่หมาป่าของพวกเรา.”

จุนซ่างเซียวที่โบกมือนำหน้าไม้ระเบิดปิศาจออกมา ที่ได้จากผู้ฝึกยุทธ์หอเชื่อมปิศาจนั่นเอง “เจ้าหมายถึงสิ่งนี้นะรึ?”

เสวี๋ยเหรินกุยเอ่ย “ไม่ผิด.”

เจ้าสำนักมีสิ่งนี้ได้อย่างไรกัน?

“จุ้ยจื่อ.”

จุนซ่างเซียวที่ตะโกนออกไปว่า “ยกโล่เหล็กล้าขึ้น เปิ่นจั้วจะลองหน้าไม้.”

เซียวจุ้ยจื่อที่นำโล่เหล็กกล้าออกมา “เจ้าสำนัก ให้เปิดใช้งานม่านพลังป้องกันหรือไม่?”

“ไม่จำเป็น.”

ระหว่างที่กล่าวนั้น จุนซ่างเซียวที่ขึ้นสาย ใส่ลูกศรระเบิดปิศาจเตรียมยิง.

เสวี๋ยเหรินกุยที่ใบหน้าเปลี่ยนสี “เจ้าสำนัก ลูกศรระเบิดปิศาจนั้นทรงพลังเทียบเท่ากับพลังของอาจารย์ยุทธ์ขั้นปลายชั้นธรรมดา โล่เหล็กกล้านั้นไม่.....”

ฟิ้ว---

เจ้าสำนักจุนที่เหนี่ยวไก หน้าไม้ระเบิดปิศาจที่พุ่งออกไปเป็นริ้วแสงในทันที.

ตูมมมม!

เกิดระเบิดเสียงดังสนั่น ฝุ่นผงที่คละคลุ้งม้วนกวาดไปยังพื้นที่รอบ ๆ.

หลังจากหมอกควันกระจายสลายหายไป เซียวจุ้ยจื่อที่ยืนไม่ขยับ ถือโล่เหล็กกล้า ผิวโล่ที่ปรากฏรอยไหม้ดำเล็กน้อย.

“เรื่องนี้....”

เสวี๋ยเหรินกุยที่ใบหน้าชะงักงัน แววตาที่เผยท่าทางไม่อยากเชื่อออกมา.

เขารู้ว่าเจ้าสำนักนั้นมียุทโธปกรณ์มากมายให้กับทุกคน ทว่าไม่คาดคิดว่าโล่เหล็กกล้านั้น จะทรงพลังต้านทานการโจมตีที่มีพลังมากกว่า 50,000 จินของธนูระเบิดปิศาจได้!

เซียวจุ้ยจื่อเอ่ย “เจ้าสำนัก โล่เหล็กกล้าน่าจะต้านได้ 4-5 ลูก.”

“ถางจู่เสวี๋ย.”

จุนซ่างเซียวเผยยิ้ม “อาวุธเหล่านี้นับว่าทรงพลังเป็นอย่างมาก ในความคิดของเปิ่นจั้ว หากเดาไม่ผิด ต้นทุนในการสร้างไม่ต่ำอย่างแน่นอน.”

เสวี๋ยเหรินกุยเอ่ย “ลูกละ 10,000 เหรียญ.”

“กล่าวอีกอย่างหนึ่ง ในแต่ละลูกที่ยิงออกมาเท่ากับยิงศิลาวิญญาณเทียมลูกหนึ่ง เปิ่นจั้วไม่เชื่อว่า ทัพของมนทลเจิ้นหยางนั้น จะสามารถยิงออกมาไม่หยุดเหมือนกับศรไม้.”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

“เป็นไปไม่ได้.”

เสวี๋ยเหรินกุยกล่าวอย่างมั่นใจ “ถึงจะเป็นดินแดนระดับสูง ก็ไม่สามารถยิงได้เหมือนกับลูกศรไม้ ต้องไม่ลืมว่าต้นทุนสร้างนั้นสูงมาก.”

“ดังนั้นหอขี่หมาป่าที่มีโล่เหล็กล้าทุกคน หน้าไม้ระเบิดปิศาจจะสร้างปัญหาให้ได้อย่างงั้นรึ?”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

“ไม่.”

เสวี๋ยเหรินกุยผ่อนคลาย ขึ้นมาทันที.

ด้วยพลังป้องกันสูง และพลังโจมตีที่รุนแรงของหอขี่หมาป่า จะกลายเป็นกองกำลังที่ทรงพลังสูงเป็นอย่างมาก!

“นอกจากนี้.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “หากพวกเขากล้าใช้หน้าไม้ระเบิดปิศาจ เปิ่นจั้วก็จะไม่ให้พวกเขาได้ยิง แม้แต่ทำให้ระเบิดเป็นลูกโซ่อย่างแน่นอน.”

“ระเบิดลูกโซ่อย่างงั้นรึ?”เสวี๋ยเหรินกุยที่กลายเป็นงงงวย.

“ถางจู่ลี่.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “ข้าจะให้สมาชิกหอฝนพรำฝึกฝนร่วมกับหอขี่หมาป่า.”

“อืม.”

ลี่ลั่วฉิวที่กล่าวตอบกลับ.

ที่ไกลออกไปสมาชิกหอฝนพรำ ที่นอนราบไปกับพื้น พร้อมกับตั้งท่าเล็งไรเฟิล AWM จากระยะไกล.

หลังจากได้ตำแหน่งที่เหมาะสม พวกเขาก็ลั่นไกในทันที.

ฟิ้ว!

ฟิ้ว!

เสียงของสายลมฉีกกระชากหวีดหวิว!

ริ้วแสงสองสายที่พุ่งมาด้วยความเร็ว และเข้าเป้าศิลาก้อนเท่ากับหัวแม่โป่งที่อยู่ไกลออกมาอย่างแม่นยำ!

เสวี๋ยเหรินกุยที่จ้องมองด้วยดวงตาเบิกกว้างกลมโต.

พื้นที่ระหว่างศิษย์สองคนและเป้าศิลานั้น อย่างห่างราว ๆ 500 จั้ง หากแต่กับยิงเข้าเป้าอย่างแม่นยำ คาดไม่ถึงเลยว่าจะร้ายกาจขนาดนั้น!

“กึก แก๊ก!”

ทั้งสองที่โหลดกระสุนในทันที.

ลี่ซ่างเทียนที่วิ่งออกไป ในมือนั้นมีเป้าศิลา เขาที่โยนขึ้นไปบนอากาสทันที.

ฟิ้ว! ฟิ้ว!

กระสุนที่ถูกยิงออกไปด้วยความเร็ว.

ปัง!

ปัง!

ก่อนที่เป้าที่ลอยขึ้นไปบนอากาศแตกสลายกลายเป็นผุยผงทันที.

“......”

เสวี๋ยเหรินกุยที่มุมปากกระตุกไปมา.

แม้นแต่เป้าบิน ยังถูกยิงอย่างแม่นยำ!

“ถางจู่เสวี๋ย.”

จุนซ่างเซียวเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “หากว่าสมาชิกหอฝนพร่ำซ่อนอยู่ในที่ลับสนับสนุน หากฝ่ายตรงข้ามจะมีหน้าไม้ระเบิดปิศาจ ก็ไม่เท่ากับว่ากำลังฆ่าตัวตายอยู่หรอกรึ?”

เสวี๋ยเหรินกุยที่คิดถึงหน้าไม้ระเบิดปิศาจระเบิดออกมาพร้อมกัน ไม่จำเป็นต้องบอกเลยว่า จะเกิดอะไรขึ้น.

นี่คือ....การระเบิดครั้งใหญ่อย่างแน่นอน.

“เจ้าสำนัก.”

เสวี๋ยเหรินกุยเอ่ยอย่างจริงจัง “หากพวกเขากล้าบุกมา พวกเราจะขุดหลุมฝังพวกเขาอย่างแน่นอน!”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “หากว่าศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งทั้งหมด ตัดผ่านไปยังระดับจารย์ยุทธ์ทุกคน เจ้ารู้สึกมั่นใจในการปกป้องเมืองชิงหยางใหม?”

ตัดผ่านไปยังระดับอาจารย์ยุทธ์ทั้งหมดอย่างงั้นรึ?

ศิษย์ทั้งหมดที่มีมากกว่า 2500 คน หากว่ามีระดับอาจารย์ยุทธ์ทั้งหมดจริง ๆ ไม่ต้องบอกเลยว่าทัพเหล่านี้จะทรงพลังขนาดใหน!

เสวี๋ยเหรินกุยที่เป็นแม่ทัพมาก่อน ย่อมเข้าใจเรื่องนี้ดี เขาที่เอ่ยออกมาว่า “มั่นใจร้อยเปอเซ็น!”

จุนซ่างเซียวที่ลอบคิดในใจ “ขอให้มนทลเหอหยางและมนทลฮวยหยางลากเวลาออกไปอีกหน่อย ให้สมุนไพรหลอมเม็ดยาอาจารย์ยุทธ์เติบโตพร้อมหลอมก็พอแล้ว.”

ไม่จำเป็นต้องนาน ขอเพียง 20 วันพอ!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด