ตอนที่ 45 ไปที่ อ่าว ไห่หยุน

“ไปกันเถอะ!”

“พ่อ แม่ ขึ้นรถครับ ผมจะพาไปดูบ้านหลังใหม่ของเรา”

ขณะที่พวกเขากำลังสงสัย ซูเหวิน ได้กลับรถเสร็จแล้วขับรถมาหยุดอยู่ตรงหน้า

ในขณะที่เขากำลังพูดไปก็กดสวิตช์บนคอนโซลกลาง

ประตูด้านหลังทั้งสองบานก็เปิดออกในแนวทแยงมุมเหมือนปีกนกที่กำลังจะโบยบินขึ้นฟ้า

แม้ว่าพ่อแม่จะตกใจ แต่พวกเขาก็ยังก้าวขึ้นรถไปอย่างระมัดระวัง

ซูเหวิน มองไปที่ทุกคนในครอบครัวเฉินอีกครั้งแล้วพูดว่า : “พวกคุณมีรถ งั้นก็ขับตามหลังมานะครับ ผมจะขับไปอย่างช้าๆ”

พูดจบ ซูเหวิน ก็ปิดประตูรถ และสตาร์ตรถขับออกไป

“ไป.. พวกเราก็รีบตามไปด้วยเร็ว จะได้รู้กันสักทีว่าพวกนั้นมันคิดจะเล่นตลกอะไรกันแน่ เพราะฉันไม่เชื่อหรอกว่าเด็กคนนั้นมันจะมีวิลล่าอะไรที่ว่าจริงๆ”

หยางหยิง ยกยิ้มแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาออกไป

ดังนั้น ทุกคนในครอบครัวเฉินจึงรีบขึ้นรถทีละคน และขับตามหลังไป...

บนถนนเวลานี้ มีรถซุปเปอร์คาร์สีขาวสุดหรู และมีสไตล์อย่างยิ่ง ตามมาด้วยรถ Range Rover คันสีดํา

ในขณะนี้ ภายในรถซุปเปอร์คาร์ของ ซูเหวิน

ซู กว่างเซิง อู๋เจวียน ดูเหมือนจะยังคงตกใจอยู่ สีหน้าของพวกเขาดูออกจะกระวนกระวายใจเล็กน้อย

“เสี่ยวเหวิน ลูกบอกความจริงกับพ่อมา”

“เมื่อกี้ เฉินเหว่ย บอกว่ารถคันนี้ของลูกมีชื่อว่า Koenigsegg และมันมีราคาสูงถึง 23.88 ล้านหยวน มัน..จริงหรือเปล่า?”

ในที่สุด พ่อซู ก็อดไม่ได้ที่จะถาม..

“แล้ว..วิลล่านั่นที่ว่ามีจริงด้วยหรือไม่ลูก?”

อู๋เจวียน เองก็ตกใจเช่นกัน

“อืม..ก็ มันเป็นเรื่องจริงทั้งหมดครับ”

“และถ้าจะพูดถึงรถหรู ผมเองไม่ใช่มีแค่คันนี้คันเดียว!”

ซูเหวิน พยักหน้า แล้วพูด และจากนั้นเขาก็ไม่พูดอะไรต่อ

ท้ายที่สุดแล้ว แม้ว่าเขาจะไม่ได้บอกพวกเขา พวกเขาก็จะเห็นได้เองเมื่อพวกเขาไปถึงที่วิลล่า

หลังจากได้ยินลูกชายตนเองยอมรับแล้ว อู๋เจวียน และซู กว่างเซิง ต่างก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรแล้ว

ทั้งคู่ออกไปทํางานข้างนอกมาทั้งชีวิต และเนื่องจากค่าครองชีพที่มีมากเกินไป อีกทั้ง ซูเหวิน เองยังจำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายอีกมากมาย จนถึงตอนนี้เงินออมที่พวกเขามีก็มีไม่กี่หมื่นเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ลูกชายของพวกเขากำลังทำสิ่งต่างๆ ในโลกออนไลน์ เพียงแต่ว่าร้านค้าออนไลน์อะไรที่ว่านั้น ..มันกลับทําเงินได้มากมายขนาดนี้เลย

ชั่วขณะหนึ่ง.. สามีภรรยาคู่นี้ก็รู้สึกว่าโลกทัศน์ของพวกเขามันกําลังพังทลายลงแล้ว

อันที่จริงแล้ว พวกเขาจะรู้ได้อย่างไรว่า การเปิดร้านค้าออนไลน์จริงๆ นั้นจะมีสักกี่คนกันที่สามารถทําเงินได้มากมายขนาดนี้?

เพียงแต่แค่ว่า ซูเหวิน มี bug ทุกอย่างมันจึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขา…

ในระหว่างพูดคุยอยู่นั้น ..เวลาก็ได้ผ่านไปเร็วมาก

ซูเหวิน เองได้ขับรถหรู พาครอบครัวเฉินมาถึงเขต วิลล่า ในอ่าว ไห่หยุน แล้ว

“จริง..จริงๆ ..เขามาที่ อ่าว ไห่หยุน?”

เฉินเหว่ย มองไปที่ทางเข้าของเขต วิลล่า ที่อยู่ด้านหน้า พร้อมด้วยความตกตะลึงเล็กน้อยที่ฉายชัดภายในดวงตาของเขา

“เขาเข้าไปได้หรือ?” หยางหยิง ยังคงปากแข็งอยู่

แต่แล้วเธอก็ถูกตบหน้าอย่างจัง

เมื่อเห็น ซูเหวิน ขับรถหรูไปถึงที่ทางเข้า เจ้าหน้าที่ที่ยืนอยู่คนหนึ่งก็พยักหน้าทันที และออกมาโค้งคำนับให้ ซูเหวิน ด้วยความเคารพ

จากนั้นเห็น ซูเหวิน พูดอะไรบางอย่างกับชายคนนั้น

เมื่อเห็นราวบันไดขึ้น Koenigsegg ก็ขับรถเข้าไปอย่างสง่าผ่าเผย

เมื่อ เฉินเหว่ย ขับรถมาถึงที่ทางเข้าก็ไม่มีใครหยุดเขา ..จึงได้ขับรถติดตามเข้าไป

ทันใดนั้นหัวใจของสองพี่น้อง ตระกูลเฉิน ก็ไม่สงบอีกต่อไปแล้ว

อ่าว ไห่หยุน ในฐานะที่เป็นเขตวิลล่าในระดับชั้นนําของเมืองม่อ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะปล่อยให้คนนอกเข้าไปอย่างง่ายดายเช่นนี้

งั้น..ถ้าไม่ใช่คําสั่งของเจ้าของ ซูเหวิน และพวกเขาอีกหลายคนที่เป็นคนนอกจะเข้ามาได้อย่างไร?

และเมื่อพิจารณาจากท่าทางของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเมื่อกี้ เห็นได้ชัดว่า เขา.. รู้จักกับ ซูเหวิน

หรือ.. ซูเหวิน จะไม่ได้โอ้อวด และเขามีวิลล่าที่นี่อยู่จริงๆ?

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ทุกคนจะคิดได้อย่างชัดเจน พวกเขาก็ต้องตกตะลึงไปกับสภาพแวดล้อมที่สวยงามของชุมชน อ่าว ไห่หยุน

นี่มันชุมชนที่ไหนกัน… นี่มันเรียกได้ว่าสวรรค์บนดินชัดๆ

หลังจากนั้นไม่นาน ในที่สุด ซูเหวิน ก็พาพวกเขามาถึงวิลล่าของตัวเอง

แต่เมื่อทุกคนลงจากรถ ก็ต้องตกตะลึงกับฉากตรงหน้าทันทีอีกครั้ง

“ซูเหวิน รถ..รถพวกนี้เป็นของนาย?”

เฉินเหว่ย เบิกตากว้าง และเขาพูดออกไปด้วยความตกตะลึง

“โอ้…พระเจ้า มันเป็นไปได้ยังไง?”

เฉิน เสี่ยวเยว่ ก็ถึงกับยกมือขึ้นปิดปากตัวเอง

ลานจอดรถที่เห็นอยู่ตรงหน้า นอกจาก Koenigsegg ที่ ซูเหวิน เพิ่งขับแล้ว ยังมีรถซุปเปอร์คาร์ระดับท็อปสามคันจอดอยู่ในลานจอดรถ

Aston Martin One-77

Lamborghini Veneno

Lotus Evija…

เมื่อมองดูรถซุปเปอร์คาร์ชั้นนําของโลกเหล่านี้ เฉิน เสี่ยวเยว่ เฉินเหว่ย ต่างก็เริ่มสงสัยว่าตัวเองตาพร่าไปหรือไม่

Lotus Evija มีมูลค่า 19.88 ล้านหยวน..

Aston Martin และ Lamborghini Veneno ขึ้นแท่นรถหรูระดับท็อปด้วยราคาสูงถึงกว่า 45 ล้านหยวน

ซูเหวิน.. เขาเป็นเจ้าของรถหรูราคาแพงสี่คันนี้จริงๆ นะเหรอ?

นี่มันคือความหรูหราแบบไหน, มันคือความหรูหราแบบไหนกัน!?

แต่ในทางกลับกัน พวกเขาก็ฟื้นตื่นจากความตกใจอีกครั้ง

เพราะมันยังมีความจริงที่น่าตกใจยิ่งไปกว่านั้นอยู่ตรงหน้าพวกเขา.. นั่นก็คือ วิลล่าหรูอันโอ่อ่าที่ตั้งอยู่ตรงหน้า!

ถ้า ซูเหวิน เปิดประตูวิลล่าหลังนี้ได้จริงๆ..

ดังนั้นแม้ว่าพวกเขาจะไม่อยากที่จะเชื่อว่า ซูเหวิน เป็นเจ้าของวิลล่าหลังนี้จริงๆ ..พวกเขาก็อาจจะต้องเชื่อแล้ว

เพราะมันไม่มีเหตุผลอื่นใดอีกแล้ว ที่จะเข้าใจได้ว่าเขายืมรถหรูมาจากเพื่อน เพื่อจะแสร้งทำเป็นรักษาหน้าตัวเอง, และเพื่อแสร้งอวดตัว

แต่การถึงขนาดยืมวิลล่าหลังหนึ่งมาได้ นั่นก็ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงแล้ว

และก็ต้องถามก่อนว่า ใครถึงขนาดเอาวิลล่าของตัวเองไปให้คนอื่นยืม?

แถมยังเป็นวิลล่าหลังใหญ่ระดับ อ่าว ไห่หยุน

กินอิ่มแล้วไม่มีงานทำหรือไม่? (1)

ซูเหวิน แน่นอนว่าย่อมไม่รู้ถึงความคิดของคนเหล่านี้ เขามองทุกคนแล้วยกยิ้มขึ้นอย่างสงบ ก่อนจะพูดอย่างสบายๆ ไปว่า : “มาเถอะ เข้าไปนั่งในวิลล่ากันก่อน”

พอพูดจบเขาก็พาพ่อกับแม่เดินไปที่ประตูวิลล่า

ทุกคนในตระกูลเฉินต่างพากันกลืนน้ำลาย และติดตามเข้าไปด้วยเช่นกัน

หลังจากมาถึงประตูวิลล่าแล้ว

ซูเหวิน ยื่นมือออกไปวางนิ้วบนสวิตช์สแกนลายนิ้วมือ และมีเสียงดังขึ้น ‘ตีติ๊ด’ และประตูก็เปิดออกจริงๆ

จากนั้น ซูเหวิน ก็พาพ่อกับแม่เข้าไปข้างใน..

ทุกคนในครอบครัวเฉินก็เข้าไปในวิลล่าด้วยกันด้วยความตกใจ และหวาดหวั่น

“ฟู่~”

หลังจากเข้าไปในวิลล่านอกจาก ซูเหวิน แล้ว

ไม่ว่าจะเป็น ซู กว่างเซิง อู๋เจวียน หรือครอบครัวเฉิน ต่างก็อดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พวกเขาตกใจกับฉากที่อยู่ตรงหน้า

เพราะสภาพแวดล้อมในวิลล่า มันหรูหรา และสวยงามมาก ..ราวกับอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝันเลย

“ทุกคนอย่ายืนอยู่เลย มานั่งลงเถอะ!”

เมื่อเห็นทุกคนดูตกใจ ซูเหวิน ก็อดยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้

เมื่อหลังจากได้ยิน ทุกคนจึงตาม ซูเหวิน ไปที่โซฟา และนั่งลงทีละคน

“พวกคุณนั่งก่อน ผมจะไปชงชามาให้”

เขาพูดขึ้นอีกครั้ง และเดินไปที่ห้องครัวทันที

ท้ายที่สุดแล้ว เมื่อครอบครัวเฉิน ..มาถึง เขาก็จะได้รับถนนการค้าสายหนึ่งมา ทําไมจะไม่สร้างความประทับใจเล็กๆ น้อยๆ ให้แก่อีกฝ่าย?

หลังจาก ซูเหวิน จากไปแล้ว ทุกคนจึงฟื้นคืนสติตัวเองได้

เฉินเหว่ย รีบหันมองไปที่พ่อกับแม่ของ ซูเหวิน และพูดออกมาเป็นคนแรก

“พระเจ้า.. ไม่สิ ผมหมายถึง ลุงกว่าง ป้าอู๋”

“พวกคุณ... พวกคุณอย่าได้มาโกหกผมเลยนะ ตระกูลซู..ตระกูลซูของพวกคุณร่ำรวยมากใช่ไหม แต่แล้วพวกคุณถึงกลับจงใจแกล้งทําเป็นยากจน?”

เขาถามด้วยสีหน้าตกใจ

เชี้ย พระเจ้า.. นี่มันคือรถหรู และวิลล่าหลังใหญ่นะ

หากพ่อแม่ของ ซูเหวิน ยังบอกว่าพวกเขาอาศัยอยู่อย่างยากจนในเมืองม่อ ใครมันจะไปเชื่อ?

“ใช่คะ ป้าอู๋”

“ลูกชายของคุณร่ำรวยขนาดนี้ และเจริญรุ่งเรืองมากขนาดนี้ พวกคุณที่เป็นพ่อแม่จะไม่รู้เรื่องอะไรเลยไปได้ยังไง?”

เฉิน เสี่ยวเยว่ ก็ถามด้วยสีหน้าสงสัย

กลับเป็น หยางหยิง ที่ไม่ค่อยพูดอะไรมากแล้วในตอนนี้

แม้ว่าเธอกับ ตระกูลซู จะเป็นเพื่อนบ้านกัน แต่ในใจเธอก็ดูถูกคนจากตระกูลซู โดยคิดมาตลอดเลยว่าครอบครัวซูนั้น ..ยากจน

ต่อมาลูกสาวของเธอได้แต่งงานกับเศรษฐีในเมืองม่อ

ลูกชายของเธอเองก็ได้ทํางานเป็นผู้บริหารในบริษัทแห่งหนึ่งในเมืองม่อ และกำลังเจริญรุ่งเรือง ดังนั้นมันจึงยิ่งทำให้เธอไม่เห็นตระกูลซู ..อยู่ในสายตา

เดิมทีมาคราวนี้ ลูกเขยของเธอบอกว่าจะซื้อบ้านหลังใหญ่ให้ และขอให้เธอมาอาศัยอยู่ที่นั่น

เธอเองยังอยากจะใช้โอกาสนี้เพื่ออวดต่อหน้าคนตระกูลซูด้วย

แต่ เธอ.. ไม่คิดเลยว่าคนตระกูลซูจะแสร้งเป็นหมูเพื่อหลอกกินเสือ(2) และแท้จริง..แล้ว ครอบครัวพวกเขาก็ร่ำรวยมากถึงขนาดนี้

(1)[กินอิ่มแล้วไม่มีงานทำ (吃饱了撑的)] - ใช้บรรยายคนที่ชอบยุ่งเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง (เผือก)

(2)[แสร้งเป็นหมูเพื่อหลอกกินเสือ (扮猪吃老虎)] - อุปมาการใช้กลอุบายหลอกลวง จงใจแกล้งทำเป็นอ่อนแอไร้น้ำยา เพื่อหลอกลวงให้ศัตรูตายใจ