ตอนที่แล้วตอนที่ 41 ตัวตนของเพื่อนร่วมชั้น เซี่ย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 43 ตระกูลเฉิน ที่แสนจะน่าภาคภูมิใจ

ตอนที่ 42 รถหรูสามคัน


“ลูกชาย และลูกสาวของเธออยู่ในเมืองม่อ ดังนั้นเธอจึงอยากมาที่นี่”

แม่อธิบาย..

“ได้ยินมาว่าลูกสาวของเธอแต่งงานกับนักธุรกิจที่ร่ำรวย อีกอย่างแม่ได้ยินว่าคนคนนี้ร่ำรวยมากด้วย”

“ลูกชายเธอจบการศึกษาไปเมื่อสองปีก่อน และตอนนี้กำลังทำงานเป็นผู้บริหารระดับสูงที่บริษัทใหญ่แห่งหนึ่งในเมือง รายได้ต่อเดือนเห็นว่าตั้งหลายหมื่นแน่ะ”

“และด้วยสองเรื่องนี้ ป้าหยาง ของลูกเอง เธอแทบที่จะอยากวิ่งเข้าออกบ้านเราวันละแปดร้อยรอบ ตอนเช้าพูดครั้งหนึ่ง ตอนเย็นพูดอีกครั้งหนึ่ง ด้วยความกลัวที่ว่าเราจะไม่รู้”

“สำคัญคือไม่นานมานี้ ลูกเขยของเธอยังตั้งใจซื้อบ้านให้กับพ่อตาแม่ยายในเมืองม่อโดยเฉพาะ เพื่อให้พ่อตาแม่ยายย้ายมาอยู่ที่เมืองม่อนี้”

“ดังนั้นครั้งนี้พอเห็นว่าเราจะมาที่เมืองม่อ พวกเขาก็พร้อมที่จะอยากมากับพวกเราด้วย และบอกอีกว่าจะพาเราไปดูบ้านหลังใหญ่ที่พวกเขาจะได้อาศัยอยู่..”

ในอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ แม่ของเขายังพูดต่อ

น้ำเสียงยังแฝงด้วยอารมณ์หงุดหงิดเล็กน้อย และดูเหมือนเธอจะไม่เต็มใจที่จะมาด้วยกันกับอีกฝ่ายหนึ่ง

แต่ทั้งหมดก็เป็นเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ชิดกัน มันจึงดูเป็นการยากที่จะปฏิเสธคำขอจากเพื่อนบ้านโดยตรง

ซูเหวิน ฟังแล้ว เขาก็เข้าใจไปในที่สุด

ดูเหมือน ป้าหยาง จะยังคงเป็น ป้าหยาง คนเดิม อีกทั้งเธอยังคงไม่ทิ้งนิสัยโอ้อวดไร้สาระนั้นอีก

เธอพูดว่ามาเมืองม่อด้วยกัน แล้วจะพาพ่อแม่ของเขาไปดูบ้านของเธอด้วย..

พูดตรงๆ เลยดีกว่าไหมว่า.. อยากถือโอกาสนี้ ‘อวด’

“อืม.. เข้าใจแล้วครับ”

“เออ..ใช่ อีกอย่างครับแม่ ผมซื้อบ้านใหม่ในเมืองม่อไว้ด้วย…”

พูดพลาง ซูเหวิน ก็บอกแม่เรื่องวิลล่าหลังใหญ่ของเขา

พวกเขากลับมาครั้งนี้ เขายังขอให้พวกเขาทิ้งบ้านในเขตเมืองเก่าไว้ แล้วมาอาศัยอยู่ในบ้านหลังใหม่ ซึ่งก็ทำให้แม่ของเขาเกิดความประหลาดใจขึ้นมาอีกครั้ง

หลังจากนั้นทั้งสองก็คุยกันอีกสองสามคําก่อนที่จะวางสายไป…

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว และหนึ่งชั่วโมงครึ่งก็ได้ผ่านไปในพริบตาเดียว

ทุกคนกินแล้วก็กิน ดื่มแล้วก็ดื่ม

ซูเหวิน เองเวลานี้รู้สึกว่า ถึงเวลาตบก้นแล้วจากไปได้แล้ว

ดังนั้น หลังจากบอกลาเพื่อนนักธุรกิจที่ดีหลายคนแล้ว

เขาจึงพา เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย ออกไปท่ามกลางคําอำลาด้วยความเคารพจาก ถัง จื้อตง หญิงชราตระกูลถัง ตลอดจนแขก และเพื่อนนักธุรกิจอีกมากมาย

เมื่อทั้งสองขึ้นลิฟต์ลงมาจากชั้นบน และมาถึงล็อบบี้ชั้นหนึ่งของโรงแรม เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย ก็ถอนหายใจทันที : “เฮ้อ! สงสัยจะอ้วนอีกแล้ว”

“เอ่อ…อ้วนขึ้น?”

“อ้วนอะไร?” ซูเหวิน สงสัยเลยถามไปอย่างไม่เข้าใจ

“คือแบบ.. ฉัน! ฉันคงอ้วนขึ้นหลายกิโลแน่ๆ” เสียงของ เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย เหมือนจะร้อง แต่กลับไม่มีน้ำตา ..ไหลออกมาเลยด้วยซ้ำ

และทั้งหมด.. มันเป็นเพราะว่าคืนนี้เธอกินมากเกินไป

เธอลูบท้องตัวเองป้อยๆ แล้วดูเหมือนว่ามันจะพองนูนขึ้นมาเล็กน้อย

สิ่งนี้จึงทำให้เธอรู้สึกอารมณ์ไม่ดีขึ้นมาทันที (.??︿??.)

“คุณ?”

“นี่คือ คุณ..อ้วน?”

ซูเหวิน มองไปที่รูปร่างที่เพรียวบางของ เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย และอดไม่ได้ที่จะตกใจ

“ผมกลับเห็นว่าตัวคุณสูงมาก แทบจะเทียบผมได้แล้ว”

“แต่เท่าที่ผมเห็นน้ำหนักคุณไม่น่าจะเกิน 100 ปอนด์ด้วยซ้ำ คือแบบคุณ.. อ้วนตรงไหน?” (100 ปอนด์ ประมาณ : 45 กิโลกรัม)

เมื่อเห็น เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย ทําหน้านิ่วคิ้วขมวด ซูเหวิน ก็อดจะยกยิ้มขึ้นอย่างช่วยไม่ได้

“ตอนนี้มันดูไม่ออกหรอก แต่อีกเดี๋ยวสักพักน้ำหนักฉันต้องขึ้นแน่ๆ จริงมั้ยล่ะ?”

“ถ้าคุณกินมากเกินไป และไม่เผาผลาญแคลอรี คุณเองก็จะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นได้”

เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย มีสีหน้าพูดไม่ออก มันเหมือนกับว่าตอนนี้ ซูเหวิน กำลังหัวเราะเยาะเธอว่าเป็นมือใหม่อะไรอย่างนั้น

สําหรับเธอ รูปร่างมีความสําคัญกว่าอาหารที่กินเข้าไปมาก

แต่บางที.. เธอก็ไม่สามารถควบคุมปากของตัวเองได้เลย

เอาจริงๆ ตอนกินก็มีความสุขดีอยู่หรอก.. แต่พอหลังกินเสร็จนี้สิแทบจะบ้าตายที่ต้องมานั่งเผาศพตัวเอง (เผาผลาญ)

โอเค.. ก็ได้!

ซูเหวิน ไม่เข้าใจเรื่องนี้ ยิ่งพอเห็นสีหน้าอีกฝ่ายหนึ่งแล้ว…

เขาทำได้เพียงแต่เอามือลูบหัวเธอเพื่อปลอบใจเท่านั้น

ในเวลานี้เอง ระบบได้ส่งเสียงแจ้งเตือนดังขึ้นในใจ(หัว)ของเขา

“ติ๊ง!”

“ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่สำเร็จภารกิจเข้าร่วมงานเลี้ยง…”

“ระบบมอบรางวัล : รถยนต์สุดหรูในระดับชั้นนำอย่าง Lamborghini Veneno, Koenigsegg Gemera และ Lotus Evija อย่างละหนึ่งคัน”

“รถยนต์สุดหรูจะใช้เวลาส่งมอบสองวัน โฮสต์โปรดอดใจรอ”

“ติ๊ง!”

“ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่ทำภารกิจรองสำเร็จ : เชิญ เพื่อนร่วมชั้น เซี่ย ไปเป็นคู่ควงในงานเลี้ยงอาหารค่ำ”

“ระบบมอบรางวัล : เสียงที่เป็นธรรมชาติ และสุดยอดเทคนิคการร้องเพลงระดับโลก”

หลังจากแจ้งเตือนทั้งหมดเสร็จ ระบบก็หายไป..

ทันใดนั้น ซูเหวิน ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้นอีกครั้ง

แค่มาเข้าร่วมงานเลี้ยง 2 ชั่วโมง ก็ได้รับรถหรูในระดับท็อปถึง 3 คันรวด, มีอะไรที่ฟินไปกว่านี้อีกไหม? (พันลำสิ..เพื่อน)

ส่วนเรื่องเสียงที่เป็นธรรมชาติอะไรนั้น เขาไม่สนใจในตอนนี้...

สองวันต่อมา บริเวณวิลล่า อ่าว ไห่หยุน

เนื่องจากเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ซูเหวิน จึงกลับไปที่วิลล่า

แม้ว่าบ้านที่เขาเช่าในเขตเมืองเก่ายังไม่ได้ย้าย แต่เขาอาศัยอยู่ที่นี่มาหลายวันแล้ว

ต้องบอกว่าถ้าเทียบกับบ้านเช่าเดิมที่มีพื้นที่ไม่ถึง 60-70 ตารางเมตร ที่นี่ก็เปรียบเหมือนกับสวรรค์เลย

แค่ห้องหนึ่งของที่นี่ก็มีขนาดพื้นที่ประมาณ 50-60 ตารางเมตร หรือแม้กระทั่ง 70-80 ตารางเมตรได้แล้ว คือมันมีขนาดใหญ่ และกว้างขวางเอามากๆ ทำให้การเป็นอยู่มีความสะดวกสบายมากขึ้นด้วย

แล้วทําไมเขายังต้องไปอาศัยอยู่ในเขตเมืองเก่าด้วย!

ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น

ซูเหวิน รู้ว่าต้องเป็นคนขับรถขนส่งที่โทรเข้ามาอีกครั้งแน่นอน

เพราะตั้งแต่ช่วงบ่ายวานนี้ มีพนักงานขนส่ง 2 คน ทยอยกันโทรศัพท์เข้ามาว่าจะนำรถ Lamborghini และ Koenigsegg มาส่งวันนี้

หลังจากรับโทรศัพท์แล้ว.. มันกลับไม่เป็นไปตามที่เขาคาดไว้ เพราะรถคันสุดท้ายก็มาส่งด้วย

ซูเหวิน โทรหา รปภ. และขอให้เขาปล่อยให้คนขับรถขนส่งเข้ามา แล้วจึงเดินออกจากวิลล่าทันที

นาทีต่อมา ซูเหวิน ก็เห็นรถหรูคันหนึ่งขับมาทางนี้ตรงมาที่วิลล่าของเขา หลังจากนั้นคันอื่นๆ ก็ทยอยเข้ามา

หลังจากเขาเซ็นเอกสารเสร็จเรียบร้อย และได้รับกุญแจรถมาแล้ว

ในที่สุด ตอนนี้รถหรูทั้งสามคันก็ได้มารวมกันอยู่ที่นี่แล้ว

Lamborghini Veneno สุดเท่ และเต็มไปด้วยดีไซน์สุดล้ำ

Koenigsegg Gemera มีเส้นสายลวดลายที่ยอดเยี่ยมมาก และเต็มไปด้วยงานศิลป์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ทั้งนี้มันสมแล้วที่เป็นสุดยอดไฮเปอร์คาร์

Lotus Evija ดีไซน์รอบคันดูอลังกาลมาก ผสมผสานกับความเรียบหรูได้อย่างยอดเยี่ยม…

นอกจากนี้ยังมีอีกคันหนึ่งที่โดดเด่นอย่างมาก นั่นก็คือคันเดิมที่เขาใช้อยู่ .. Aston Martin One-77

ปัจจุบัน ซูเหวิน เป็นเจ้าของรถซุปเปอร์คาร์ในระดับท็อปของโลกถึง 4 คันแล้ว

วิลล่า ในเขตอ่าว ไห่หยุน ไม่มีลานจอดรถเพียงพอ ดังนั้นเขาจึงมีการวางแผนทำพื้นที่จอดรถไว้ติดกับวิลล่าโดยตรง

เขาเองกำลังมองดูอยู่เหมือนกัน ในเวลานี้

การเห็นรถหรู 4 คันจอดเรียงกันเป็นแถวเช่นนี้ ดูโอ่อ่าไม่น้อยจริงๆ

และยิ่งไปกว่านั้นรถสปอร์ตสุดหรูเหล่านี้ราคาถูกที่สุดก็อยู่ที่ 19 ล้านหยวน/คัน ที่แพงที่สุดก็ยิ่งมีมูลค่ามากกว่า 40 ล้านหยวน/คัน แล้ว นี่เรียกได้ว่าหรูหราขั้นสุดจริงๆ

“นาย(主人  มันแปลได้หลายความ)โทรมาแล้ว โทรมาแล้ว รีบรับสาย ทำไมยังไม่รีบรับสาย~”

ซูเหวิน ที่กำลังมองชื่นชมรถสปอร์ตของตัวเองอย่างมีความสุขอยู่นั้น  จู่ๆ ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นอีกครั้ง

คราวนี้เป็นแม่ของเขาที่โทรเข้ามา..

“พวกเรามาถึงเมืองม่อแล้ว ตอนนี้กําลังมุ่งหน้ากลับบ้านอยู่”

พอ ซูเหวิน รับสาย แม่ที่อยู่อีกด้านหนึ่งของปลายสายก็พูดขึ้นทันที

“แม่ ถึงเมืองม่อแล้วเหรอ?” ซูเหวิน รู้สึกประหลาดใจ

“ทําไมไม่โทรหาผมล่วงหน้าหน่อยล่ะ ผมเองยังคิดว่าพ่อกับแม่คงยังมาไม่ถึงวันนี้!”

“วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์พอดี ผมไปรับได้นะ!”

ซูเหวิน รู้สึกทำอะไรไม่ถูก

“ไม่เป็นไร เฉินเหว่ย ลูกชายของ ป้าหยาง ได้มารับเราแล้ว ตอนนี้กําลังกลับไปที่บ้านของเราอยู่ ลูกอยู่บ้านหรือเปล่า?”

“ผมอยู่ที่วิลล่า และมันไม่ใช่อยู่ในเขตเมืองเก่า”

“แต่ไม่เป็นไร ผมจะรีบกลับไปตอนนี้ทันที”

เมื่อพูดเช่นนั้น ซูเหวิน ก็วางสายไป

จากนั้นเขาก็เลือก Koenigsegg Gemera มาขับ รถใหม่คันนี้มี 4 ที่นั่ง สามารถบรรทุกคนได้พอดี

จากนั้นเขาเหยียบคันเร่ง รถก็ได้พุ่งตัวออกไปทันที...

ขณะเดียวกัน ..อีกด้านหนึ่ง

บนถนนที่มีการจราจรที่หนาแน่น

รถ Range Rover คันสีดำที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นกำลังขับอยู่บนถนน มุ่งหน้าสู่เขตย่านเมืองเก่า

ในรถ Range Rover คันนี้ มีคน 5-6 คนนั่งอยู่ข้างในในเวลานี้

ซู กว่างเซิง พ่อของ ซูเหวิน และอู๋เจวียน แม่ของเขาก็เป็นหนึ่งในนั้น

เห็นได้ชัดว่ารถคันนี้น่าจะเป็นรถของ เฉินเหว่ย ลูกชายของ ป้าหยาง

“ลูกชายคุณเปลี่ยนรถอีกแล้ว?”

ทันใดนั้นมีผู้หญิงในรถพูดขึ้นด้วยความประหลาดใจ

การแต่งตัวของผู้หญิงคนนี้ดูดีไม่น้อย อายุเธอเองน่าจะประมาณห้าสิบกว่าปี

เธอมีชื่อว่า หยางหยิง ซึ่งก็คือ ป้าหยาง ที่ ซูเหวิน พูดถึงเมื่อคุยกับแม่ของเขา

“อืม..เห็นเขาว่าเปลี่ยนรถแล้ว เปลี่ยนมาหลายเดือนแล้วนะ”

“ก็เหมือนผมนั่นแหละ ก่อนหน้านี้ ขับ Audi มาสองปีแล้ว เรียกได้ว่าขับจนเบื่อ ดังนั้นผมจึงเปลี่ยนมาใช้รถ Range Rover คันนี้ในปีนี้”

เฉินเหว่ย ลูกชายของ ป้าหยาง เองพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มพลางหัวเราะ

“อา.. แล้วรถคันนี้ดูน่าจะแพงมากเลยใช่ไหม?” ป้าหยาง ถามต่อ

“ก็ไม่เลว ราคามันอยู่ที่ 1.4 ล้านกว่าๆ”

เฉินเหว่ย พูดอย่างสบายๆ และน้ำเสียงของเขาดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด