ตอนที่แล้วตอนที่ 22 : แรนช์จะไม่มีวันลืมนิติสำนึกของเขา (1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 24 : โชคของไฮพีเรียน

ตอนที่ 23 : แรนช์จะไม่มีวันลืมนิติสำนึกของเขา (2)


แรนช์ลูบหลังศีรษะของเขาอย่างเขินอายเล็กน้อย

เขาไม่คาดคิดเลยว่าการสอบรอบที่สามจะใช้วิธีจับคู่แบบทีมเช่นนี้

“คุณรู้จักกันงั้นเหรอ”

อาจารย์เทเรซามองปฏิกิริยาอันละเอียดอ่อนระหว่างทั้งสองแล้วถามอย่างสงสัย

ทั้งสองส่ายหัว

จากนั้น.

“ฉันชื่อแรนช์ วิลฟอร์ด ฉันเป็นนักเวทย์ขาว แต่เทียบกันแล้วฉันถนัดการรักษามากกว่า”

แรนช์เริ่มแนะนำตัวอย่างใจเย็น

สิ่งสำคัญระหว่างเพื่อนร่วมทีมก็คือความซื่อสัตย์ ต้องไม่มีอะไรปิดบังต่อกัน

หลังจากเงียบไปสักพัก

“...ไฮพีเรียน อารันซา”

ท่านหญิงลังเลเล็กน้อย แต่ในที่สุดก็เอ่ยชื่อของเธอออกมา

“คิดซะว่าฉันเป็นนักฆ่า”

คำพูดของเธอหยุดลงกะทันหันอีกครั้ง การแนะนำตัวค่อนข้างสั้น

เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ไว้วางใจแรนช์สักเท่าไหร่

แรนช์พยักหน้า

เขาไม่ได้วางแผนที่จะถามคำถามอีกต่อไป

เขามองไปยังทางเข้าห้องสอบ ดูเหมือนกำลังรอเพื่อนร่วมทีมคนที่สาม

“ไม่ต้องรอ เขาคงไม่มาหรอก”

ไฮพีเรียนกล่าว

คำพูดที่ฉับพลันของเธอดึงดูดสายตาที่สับสนของทั้งแรนช์และเทเรซา

“ทำไม”

“ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด หลังจากนี้ก็คงจะได้รับข่าวว่าผู้เข้าสอบคนนี้มาที่นี่ไม่ได้เพราะเหตุผลอะไรบางอย่าง อยู่ที่ว่าจะถูกบังคับหรือสมัครใจเอง”

ไฮพีเรียนกางมือออกแล้วพูดด้วยสายตาเย็นชา

แม้ว่าจากน้ำเสียงของเธอจะฟังดูค่อนข้างหมดหนทาง แต่ความโกรธที่ลุกโหมอยู่ในใจก็ไม่สามารถปกปิดไว้ในแววตาของเธอได้

เธอรู้ดีว่าพวกคนชั้นสูงที่ชอบบงการสถานการณ์จะลงมือยังไง

“เอ่อ… นักเรียนไฮพีเรียน นี่เป็นแค่การคาดเดาของคุณใช่ไหม?”

อารมณ์ของไฮพีเรียนตรงกันข้ามกับของแรนช์อย่างสิ้นเชิง ซึ่งทำให้กระดูกสันหลังของเทเรซารู้สึกหนาวสั่นเล็กน้อย

หากแรนช์เป็นเหมือนดวงอาทิตย์สีขาวบริสุทธิ์ในฤดูใบไม้ผลิ ไฮพีเรียนก็เหมือนกับสิ่งชั่วร้ายในแอ่งเลือดสกปรกและเย็นเยียบที่ไม่สามารถชำระล้างได้

เทเรซามองไปยังแรนช์

แรนช์ดูจะไม่สะทกสะท้านและไม่แยแสเลย สภาพอารมณ์ของเขายังคงไม่เปลี่ยนแปลง

เนื่องจากแรนช์ไม่ได้พูดอะไร มันจึงเป็นเรื่องยากสำหรับเธอที่จะแสดงความคิดเห็นในฐานะอาจารย์

ใช้เวลาไม่นาน

การสอบกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว

ตามที่คาดไว้ อุปกรณ์เวทมนตร์ในมือของอาจารย์เทเรซาส่งเสียงแจ้งเตือน —

เพื่อนร่วมทีมของพวกเขาตัดสินใจย้ายไปเรียนสถาบันอื่นและสมัครใจยกเลิกการสอบ

“นี่…”

อาจารย์เทเรซาสัมผัสได้เช่นกันว่ามีปัญหาบางอย่าง

เธอคงรู้อยู่ในใจว่าเหตุการณ์ที่ดูเหมือนบังเอิญนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องบังเอิญเสมอไป

ท้ายที่สุดแล้ว แม้แต่ไฮพีเรียนก็ยังคาดเดาได้ล่วงหน้า

“คุณต้องการให้ฉันขอคำแนะนำจากคณบดีหรือรองคณบดีไหม?”

เทเรซาถามด้วยท่าทางลังเล

เธอรู้ดีว่าการสอบต่อสู้จริงที่เฟอร์ราตเป็นผู้ดำเนินการหลังจากนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างแน่นอน

ยิ่งไปกว่านั้น เฟอร์ราตเองก็เป็นหนึ่งในคนที่ “ไม่ต้องการให้ไฮพีเรียนเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย”

อาศัยแค่ไฮพีเรียนและนักเวทย์ขาวแรนช์ที่มีพลังเวทมนตร์อันอ่อนแอ แทบไม่มีโอกาสที่คนทั้งสองจะผ่านการสอบนี้เลย…

ไฮพีเรียนส่ายหัว

แววตาที่เย็นชาของเธออ่อนลงเล็กน้อยเมื่อมองไปยังเทเรซา

แม้ว่าเธอจะไม่ค่อยได้รับรู้ถึงความมีน้ำใจ อีกทั้งยังเติบโตมาพร้อมกับความอาฆาตพยาบาท

แต่เธอยังสามารถแยกแยะความดีและความชั่วในตัวผู้อื่นได้ไม่มากก็น้อย

“ขุนนางพวกนั้นมักจะใช้วิธีทำให้มันเป็นอุบัติเหตุที่สมบูรณ์แบบ โดยไม่ทิ้งหลักฐานไว้ให้ใครจับได้”

ไฮพีเรียนยิ้ม

“ถึงแม้การสอบครั้งนี้จะไม่ถูกเผยออกสู่โลกภายนอก แต่ก็ไม่พ้นดวงตาสองสามคู่ที่แอบดูอยู่ใกล้ๆ”

แม้จะดูสุดโต่งไปสักหน่อย แต่พวกเขาก็สามารถทำให้เพื่อนร่วมทีมคนสุดท้ายของไฮพีเรียนเข้าสอบได้ตามปกติ แต่เป็นการแฝงตัวเข้ามา หรือแม้กระทั่งแทงหลังไฮพีเรียนโดยตรงก็ได้

แต่หากชัดเจนเกินไปและคณบดีลอเรนค้นพบเบาะแสบางอย่าง ลอเรนอาจลงมือสอบสวนความเป็นธรรมของการสอบด้วยตัวเอง

ดังนั้นพวกเขาจึงเต็มใจใช้วิธีทำให้มันดูเป็นอุบัติเหตุมากกว่า

“แล้วทำไมพวกเขาถึงไม่มาหาฉันล่ะ”

แรนช์เชิดคางขึ้นพลางขมวดคิ้ว ดูเหมือนจะกำลังคิดหนักเกี่ยวกับบางสิ่งบางอย่าง

ไฮพีเรียนเงียบไปเล็กน้อย

เธอไม่รู้ว่าแรนช์ไม่เข้าใจจริงๆ หรือว่าแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจ

“คนพวกนี้เองก็ยังต้องการรักษาหน้าตาไว้อยู่ หากพวกเขาติดสินบนผู้เข้าสอบโดยตรง ก็ไม่น่าจะทำให้มันกลายเป็นอุบัติเหตุได้”

ไฮพีเรียนอธิบายสั้นๆ

แน่นอนว่าเธอเชื่อว่าคนฉลาดอย่างแรนช์สามารถเข้าใจเหตุผลที่แท้จริงได้อย่างง่ายดาย —

ชนชั้นสูงเหล่านั้นไม่คิดว่าแรนช์จะมีความสามารถในการต่อสู้มากนัก

ไม่เพียงเท่านั้น พวกเขายังสามารถปล่อยให้แรนช์เข้าร่วมการสอบตามปกติและกลายเป็นเครื่องมือในการถ่วงรั้งไฮพีเรียนได้

หากเหลือผู้เข้าสอบแค่ไฮพีเรียนคนเดียวจริงๆ ทางมหาวิทยาลัยก็คงไม่โหดร้ายถึงขนาดปล่อยให้เธอเข้าไปท้าทายผู้คุมสอบต่อ ในทางกลับกัน มีแนวโน้มว่าจะให้เธอเข้าร่วมทีมอื่นและเพิ่มความยากลำบากโดยรวมของการสอบเล็กน้อย

“น่าเสียดายจริงๆ…”

แรนช์พยักหน้าเล็กน้อยพร้อมกับถอนหายใจ

ประโยคนี้ของเขาฟังดูเหมือนจะเสียดายที่พลาดโอกาสในการหาเงิน

“นายอยากให้พวกเขาติดสินบนงั้นเหรอ?”

ไฮพีเรียนจ้องมองท่าทางเสียใจอย่างไม่สะทกสะท้านของแรนช์ เธอรู้สึกว่ามันไร้สาระมาก

อะไรทำให้เขากล้าดูหมิ่นเธอโดยที่คิดว่าเธอจะไม่ลงมือทำอะไร?

แม้ว่าชายคนนี้จะมีความสามารถอยู่บ้าง แต่เขาก็ไม่ต่างจากไอ้สารเลวที่มีเจตนาไม่ดี

“แน่นอน”

แรนช์ยิ้มเยาะ เขาพยักหน้าและยืนยันอย่างหนักแน่น

“หึ หากพวกเขากล้าก่อปัญหาในการสอบของฉัน ฉันจะรวบรวมหลักฐานของพวกเขาทันที จากนั้นก็บริจาคเงินที่ถูกติดสินบนให้กับโบสถ์เทพีแห่งโชคชะตา พร้อมกับแจ้งความจับคนกลุ่มนี้ฐานติดสินบนและขัดขวางการสอบตามปกติของอาณาจักร ในขณะเดียวกันก็บังคับยื่นคำร้องต่อมาตรา 675 ของประมวลกฎหมายแห่งราชอาณาจักรฮัตตัน ขอให้ทางโบสถ์ใช้เวทมนตร์ศักดิ์สิทธิ์เพื่อสืบหาตัวผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังและดำเนินการสอบสวนอย่างละเอียด นักบวชของโบสถ์เทพีแห่งโชคชะตาจะตัดสินว่าฉันไม่ได้มีเจตนารับสินบน แต่เพียงเพื่อรวบรวมหลักฐานเท่านั้น จากนั้นฉันก็จะได้รับรางวัลและการคุ้มครองจากคริสตจักร ซึ่งอาจทำให้ฉันเลื่อนขั้นเป็นนักบวชฝึกหัดได้ในคราวเดียว…”

คำพูดของเขาเต็มไปด้วยความชอบธรรม หากเขามีประมวลกฎหมายอยู่ในมือ เขาคงจะเปิดมันและอธิบายให้ไฮพีเรียนฟังอย่างละเอียดไปแล้ว

ไฮพีเรียน: “...”

เทเรซาที่อยู่ข้างๆ ริมฝีปากของเธออ้าออกเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดของแรนช์ เธอไม่สามารถเอ่ยคำใดออกมาได้เป็นเวลานาน

ไฮพีเรียนตระหนักว่าเธอเข้าใจผิด

เธอตัดสินใจถอนคำพูดที่กล่าวไปก่อนหน้านี้

เมื่อเปรียบเทียบกับพวกไร้ยางอายแล้ว แรนช์คนนี้คือสุสานกระบี่ของจริง!

(จบตอน)

สุสานกระบี่เคยอธิบายไว้แล้วในตอนก่อนนู้น คร่าวๆ ก็ประมาณหลุมคำสาป สถานที่ชั่วร้าย

0 0 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด