ตอนที่แล้วChapter 73 สำนักที่จะคว้าแชมป์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 75 รอบชิงที่น่าเบื่อที่สุด

Chapter 74 แชมป์โซนกลุ่ม การต่อสู้ภายในสำนักไท่กู่เจิ้ง.


ขณะที่เซียวหลินเย่ถูกเหยียบติดกับพื้น พร้อมกับมือของเซียวจุ้ยจื่อกำคอของอีกฝ่ายไว้ พร้อมกับต่อยใบหน้าจนจมพื้นเวที อาวุโสใหญ่ตระกูลเซียวก็ไม่สามารถทนนั่งได้อีกต่อไป.

ขณะที่เขากำลังคำรามด่า เพื่อข่มขู่เซียวจุ้ยจื่อไม่ให้ลงมืออีก.

ต้องไม่ลืมว่า การประลองสำนักนั้นถูกจัดโดยเจ้าเมืองเมืองลี่หยาง ถึงอาวุโสใหญ่ตระกูลเซียวก็ไม่มีความสามารถบุกขึ้นไปบนเวทีการต่อสู้ได้.

จุนซ่างเซียวไม่รู้ว่าเขาที่โกรธจนต้องลุกขึ้น เพียงเพื่อแค่ต้องการตะโกนข่มขู่เซียวจุ้ยจื่อเท่านั้น เขาจึงได้ลั่นไกปล่อยกระสุนออกไปอย่างไม่ลังเล.

เขาที่ปล่อยลูกกระสุนสร้างรอยการโจมตีครึ่งเมตรบนที่นั่งด้านหน้าฝ่ายตรงข้าม เป็นการข่มขู่ที่ได้ผลอย่างชัดเจน.

นี่ควรจะถูกเรียกว่า ยิงข่มขู่.

ลูกกระสุนที่สร้างขึ้นมาจากแกนผลึกวิญญาณอัดก้อน ความแข็งแกร่งไม่ธรรมดา ถึงกับทำให้อาวุโสใหญ่ตระกูลเซียวตื่นตะลึงตกใจไปเหมือนกัน.

ในเวลาเดียวกันนั้น เขาไม่ต้องสงสัยเลยว่า หากเขากระทำอะไรลงไป อีกฝ่ายคงทำร้ายเขา ไม่ตายก็บาดเจ็บแน่!

อาวุโสใหญ่ตระกูลเซียวที่เวลานี้เขาทำได้แค่มองดูเซียวหลินเย่ถูกเซียวจุ้ยจื่อทุบตีอย่างรุนแรง มือทั้งสองกำแน่น ใบหน้าบิดเบี้ยวอัปลักษณ์.

ขยะที่ถูกไล่ออกจากตระกูล ได้ทุบตีลูกหลานที่เป็นอนาคตของตระกูล เรื่องนี้เหมือนกับเขาถูกตบหน้าจนสั่นสะท้าน!

เหล่าลูกหลานตระกูลเซียวคนอื่น ๆ แทบทรุดนอนราบไปบนเก้าอี้ ความรุ่งโรจน์ความมั่นใจเวลานี้แตกสลายหายไปอย่างสิ้นเชิง.

......

หลังจากที่กรรมการประกาศชื่อเซียวจุ้ยจื่อชนะ บนเวทีก็เงียบกริบไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมาอีก.

เพียงแค่ความแข็งแกร่งของกายเนื้อ สามารถเอาชนะระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นหนึ่งได้  เรื่องนี้น่าตื่นตะลึงอย่างแน่นอน!

ขยะอย่างงั้นรึ?

ไม่มีใครคิดเช่นนั้นอีกต่อไป.

กับคนที่เอาชนะแม้แต่ยอดฝีมือ ระดับศิษย์ยุทธ์ได้ จะไปบอกว่าเป็นขยะได้อย่างไร ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะกลายเป็นตัวอะไรกัน?

เซียวจุ้ยจื่อก้าวไปยังพื้นที่ผู้ชนะ แววตาของทุกคน จับจ้องมองมา ทำให้เขารู้สึกราวกับว่าได้ย้อนเวลากลับไป “นี่คือความรู้สึกของผู้โดดเด่นเหมือนกับห้าปีที่แล้ว......”

ความรู้สึกนี้มัน?

สายตาแห่งความอิจฉาของผู้คนมากมายกำลังมองมาสินะ.

ในครั้งนี้เขากับรู้สึกเพลิดเพลินกับความรู้สึกนี้เป็นอย่างมาก พรสวรรค์ที่เต็มไปด้วยความอหังการ เขาได้ลิ้มรสมันมาก่อนแล้ว เพียงแต่ความรู้สึกเวลานี้มันเปลี่ยนไป จิตใจของเขาที่รู้สึกสงบราวกับสายน้ำนิ่ง.

“ศิษย์น้อง!”ซูเซียวโม่ที่ก้าวเข้าไปหา พร้อมกับยกนิ้วโป้งให้ “เจ้าทำได้ดีมาก!”

เซียวจุ้ยจื่อที่เผยยิ้มสดใส.

ต่อหน้าเจ้าสำนักและเหล่าศิษย์พี่ มันทำให้เขาอบอุ่นจนต้องเผยยิ้มสะอาดสดใสออกมา.

......

และอีกคนที่ผ่านเข้ารอบก็คือเถียนซี.

เพราะว่าฝ่ายตรงข้ามมีระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นที่หนึ่งเช่นกัน ส่วนเขามีระดับเปิดชีพจรขั้นที่ 12 จึงจำเป็นต้องใช้พลังวิญญาณเข้าช่วย ก่อนจะเอาชนะมาได้ในที่สุด.

หลังจากได้รับการฝึกโหมดปิศาจ ด้วยวิชาบ่มเพาะเปลี่ยนเส้นเอ็นก็ทำให้เขามีโอกาสทะลวงจุดชีพจรได้มากกว่าปรกติ 50% ทำให้เถียนซีสามารถยกระดับจากเปิดชีพจรขั้นที่ห้าไปยัง ขั้นที่สิบสองได้อย่างไม่ยากเย็น.

หากจะพิจารณาอย่างระเอียด จะเห็นได้ว่าสามารถทะลวงชีพจรได้วันละจุดทีเดียว!

“ผู้ชนะรอบห้าคู่ที่แปด เถียนซี!”กรรมการประกาศออกมาเสียงดัง.

เถียนซีระดับเปิดชีพจรขั้นที่สิบสอง เอาชนะศิษย์ยุทธ์ขั้นที่หนึ่ง ทำให้เหล่าผู้ชมกลายเป็นเงียบลงอีกครั้ง.

“ติ๊ง!”

“ศิษย์ห้าคนที่ผ่านเข้ารอบที่หก ภารกิจมหากาพน์สำเร็จ 50% โฮสน์ได้รับ 20 แต้มสนับสนุน.”

“ติ๊ง!”

“คะแนนสนับสนุนสำนัก: 112 / 500.”

จุนซ่างเซียวกล่าวเสียงเบา ”จุ้ยจื่อและเถียนซีดูเหมือนจะต้องพบกันในรอบชิงผู้ชนะโซนต่อสู้ซะแล้ว.

ใช่แล้ว.

ในโซนที่สี่นั้น เหลือเพียงแค่สองคนเท่านั้น นั่นก็คือเซียวจุ้ยจื่อและเถียนซี.

เหล่าผู้ชมเวลานี้ที่ตระหนักได้ ต่างก็พูดคุยกันเสียงอื้ออึง สองคนนี้ หากสู้กัน ใครจะได้รับชัยชนะกัน?

......

การต่อสู้รอบห้าจบแล้ว แต่ละโซนการต่อสู้เหลือเพียงสองคน.

จากนี้ พวกเขาต้องประลองกัน เพื่อหาผู้ชนะในโซนนั้น ๆเพื่อเข้ารอบไปชิงชนะเลิศ.

เหล่าผู้ฝึกยุทธ์เวลานี้แทบล้มทั้งยืน แปดผู้แข็งแกร่ง มีศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งห้าคน ศิษย์ของพวกเขาไม่มีคนตกรอบเลยแม้แต่คนเดียว!

“ผ่านมานานหลายปีแล้วมีสำนักมากมายเข้าร่วม ทว่าก็ไม่เคยมี การปรากฏว่าศิษย์ของสำนักเดียวอยู่ในรอบแปดผู้แข็งแกร่งเลย และยังมีสิทธิเข้ารอบชิงชนะเลิศมากที่สุดอีกด้วย!”

“น่ากลัวเกินไปแล้ว!”

“ลู่เชียนเชียนและหลี่ชิงหยาง เห็นชัดเจนว่ามีสิทธิ์เข้าชิงมากที่สุด และยังมีโอกาสได้เป็นผู้ชนะเลิศด้วย!”

ขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกันเสียงดังอื้ออึงด้วยความอัศจรรย์ใจ กรรมการก็ตะโกนออกมาเสียงดัง “การต่อสู้แปดผู้แข็งแกร่ง คู่ที่หนึ่ง หลี่ชิงหยาง ปะทะ โห่วหยวนหมิง!”

“เริ่มได้!”

“ไม่รู้ว่าศิษย์ของสำนักไท่กู่เจิง จะใช้พลังที่แท้จริงออกมาในรอบนี้หรือไม่?”

พวกเขาที่รอคอย หลี่ชิงหยางและเห่าหยวนหมิงเดินขึ้นเวที.

หลังจากที่กรรมการประกาศให้เริ่มต่อสู้ ทั้งสองก็พุ่งเข้าหากัน พลังวิญญาณที่หมุนวนรอบ ๆ หมัด แผ่กระจายออกไป ส่งความหนาวเย็นทำให้อุณหภูมิรอบ ๆ เย็นลงทันที.

หลี่ชิงหยางที่รู้ว่าคู่ต่อสู้ไม่ธรรมดา ดังนั้นจึงไม่คิดที่จะปิดบังพลังของตัวเองเอาไว้ ระเบิดพลังบ่มเพาะที่มีระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นที่หนึ่งออกมา พร้อมกับโจมตีหนักหน่วงเปี่ยมออกไปทันที.

“เขามีระดับศิษย์ยุทธ์แล้ว!”

“ในงานรับศิษย์ร้อยสำนัก เขามีระดับเปิดชีพจรขั้นที่สิบ ไม่ถึงสองเดือน เขาก็ก้าวไปถึงระดับศิษย์ยุทธ์ได้ เหลือเชื่อ น่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว อ๊าก ๆ!”

“นี่สำนักไท่กู่เจิ้งมีเม็ดยาวิญญาณที่ร้ายกาจงั้นรึ? ถึงได้ทำให้ศิษย์ยกระดับได้เร็วขนาดนี้!”

......

บนสนามการต่อสู้ หลี่ชิงหยางที่ใช้พลังบ่มเพาะเต็มกำลังสนับสนุน หลังจากนั้นสิบกระบวนท่าผ่านไป เขาก็สามารถกุมความเหนือกว่าโหวหยวนหมิงที่มีพลังศิษย์ยุทธ์ขั้นที่หนึ่งได้อยู่หมัด.

“ผลชนะและพ่ายแพ้มันแทบจะถูกตัดสินไปแล้ว.”เหล่าผู้ฝึกยุทธ์ต่างก็เริ่มส่ายหน้าไปมา เมื่อเห็นการต่อสู้ที่ฝีมือต่างชั้นกันเกินไป.

“ตูมมมมม!”

เป็นความจริงหลังจากนั้น หมัดของหลี่ชิงหยางได้กระแทกอีกฝ่ายลอยกระเด็นตกเวทีไปในที่สุด.

“เฮ้เฮ้.”

ซูเซียวโม่ที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม “ศิษย์พี่รองเอาจริง น่ากลัวเกินไปแล้ว!”

“การต่อสู้แปดผู้แข็งแกร่งคู่แรก ผู้ชนะหลี่ชิงหยาง!”กรรมการที่ประกาศออกมาเสียงดัง.

เหล่าผู้ฝึกยุทธ์รอบ ๆ ถึงกับปากกระตุก.

พวกเขารับรู้ว่าหลี่ชิงหยางนั้นแข็งแกร่ง แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ เพียงพริบตาเดียวก็เอาชนะคู่ต่อสู้ในระดับเดียวกันได้อย่างง่ายดาย.

จากนั้นลู่เชียนเชียนก็ขึ้นเวที ทำให้ทุกคนตื่นตะลึงขึ้นไปอีก เพราะเพียงแค่เริ่ม พริบตาเดียวนางก็เอาชนะฝ่ายตรงข้ามที่มีระดับศิษย์ยุทธ์ระดับสองในทันที.

ใช่แล้ว.

ระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นที่สองจริง ๆ.

หากเป็นการแข่งขันเมื่อคราวที่แล้ว หากไม่ได้ตำแหน่งชนะเลิศก็ได้ที่สอง อ๊าก!

“งานประลองยุทธ์สำนัก ดูเหมือนว่าวันข้างหน้าจะยิ่งยากขึ้นไปอีก ศิษย์สองคนของสำนักไท่กู่เจิ้ง เอาชนะฝ่ายตรงข้ามได้ง่าย ๆ เลย!”

เหล่าผู้ชมทุกคน เวลานี้จิตใจสั่นสะท้านกับเรื่องที่พวกเขาคาดไม่ถึงที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า.

จุนซ่างเซียวเอ่ย ”ดีมาก ทำได้ดีมาก.

ในเวลานี้ศิษย์สองคนของเขา ได้เข้ารอบชิงชนะเลิศเรียบร้อยแล้ว ซึ่งอีกเพียงแค่หนึ่งคนก็เขาเงื่อนไขสามอันดับแรกแล้ว.

......

จากนั้นก็ถึงเวลาของซูเซียวโม่.

คู่ต่อสู้ของเขาก็คือจางหลิงเหอ เป็นศิษย์ที่โดดเด่นของสำนักระดับหก มีความแข็งแกร่งระดับศิษย์ยุทธ์ขั้นที่สอง!

เหล่าผู้ฝึกยุทธ์ที่เชื่อว่าสำนักไท่กู่เจิ้ง คงจะมีคนตกรอบก็คราวนี้ล่ะ!

ใครจะรู้ หลังจากสิ้นเสียงกรรมการสั่งให้เริ่ม ซูเซียวโม่ที่วิ่งวนรอบเวทีอย่างรวดเร็ว จนจางหลิงเหอไม่สามารถจับตำแหน่งของเขาได้.

“นี่มันจะเร็วเกินไปแล้ว!”

“นี่เขามีท่าเท้าที่ร้ายกาจขนาดนี้เลยรึ?”

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น!”

ผู้ฝึกยุทธ์หลายคนที่ไม่สามารถเข้าใจได้ ความเร็วของซูเซียวโม่ มันเร็วเกินไป ราวกับเป็นท่าเท้าที่มีระดับสูงมาก.

แต่ความเป็นจริงนะรึ?

ไม่ได้มีวิชาอะไรเลย เขาใช้สองเท้าของตัวเองวิ่งวนด้วยความเร็วสูงเท่านั้น.

ซูเซียวโม่ไม่ได้วิ่งวนด้วยความเร็วเท่านั้น หากมีโอกาสโจมตี เขาก็จะโจมตีทันที หากไม่โดนก็ถอยกลับไปวิ่งวนใหม่ ไม่ปล่อยโอกาสให้ฝ่ายตรงข้ามโจมตีกลับมาได้เลย.

จางหลิงเหอที่เวลานี้ถูกยั่วยุเริ่มโกรธเกรี้ยวคุมอารมณ์ไม่อยู่  เขาที่ปลดปล่อยพลังวิญญาณเหวี่ยงหมัดออกไปสะเปะสะปะ จ้วงไปยังอากาศที่ว่างเปล่าเท่านั้น.

“เฮ้อ ไม่โดน ต่อยได้แค่อากาศรึ? หรือตั้งใจจะต่อยอากาศกัน?”ซูเซียวโม่ที่หลบเลี่ยงได้อย่างง่ายดาย พร้อมกับกล่าวยั่วยุอีกฝั่ง ยั่วให้โกรธจนสูญเสียความสุขุมไปอย่างสมบูรณ์.

แน่นอนว่าจางหลิงเหอเป็นคนยโสโอหังอยู่แล้ว เวลานี้จึงโกรธปอดโยก โจมตีออกไปอย่างบ้าคลั่ง.

หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วยาม พลังวิญญาณที่ใช้ไปก็แทบหมด เขาที่หอบอย่างหนัก หากแต่แววตายังคงโกรธเกรี้ยวพร้อมจะเผาไหม้ทุกอย่างไปพร้อม ๆ กัน.

“ล่วงไปซะ!”ทันใดนั้นฝ่ายตรงข้ามก็เผยจุดอ่อน ซูเซียวโม่ที่โจมตีออกไป ฝ่าเท้ากระแทกไปยังใบหน้า ทำให้เขาลอยโด่งออกนอกเวทีไป.

“ยอดเยี่ยม!”

จางหลิงเหอที่ล่วงหล่นลงเวที จุนซ่างเซียวอดไม่ได้ จนต้องลุกขึ้นมาปรบมือเสียงดัง.

ซูเซียวโม่ที่ก้าวไปยังพื้นที่ผู้ชนะ ซึ่งเหลือเพียงคู่ของเซียวจุ้ยจื่อและเถียนซี ผู้เข้ารอบชิงก็จะครบ และกลายเป็นการชิงกันเองของสำนักไท่กู่เจิ้งทันที!

“พรึด โครม!”

จางหลิงเหอที่ล่วงหล่นลงพื้น ใบหน้าที่มีรอยเท้าประทับอยู่.

“นี่มัน....ข้ากำลังฝันอยู่รึ?”

เหล่าผู้ฝึกยุทธ์เวลานี้ แววตาที่ใสกระจ่างไร้ซึ่งความคิดใด ๆ ภายในใจที่ตื่นตระหนกอย่างหนัก จนไม่สามารถจะอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้.

ผู้ชนะโซนที่ 1 หลี่ชิงหยาง!

ผู้ชนะโซนที่ 2 ซูเซียวโม่!

ผู้ชนะโซนที่ 3 ลู่เชียนเชียน!

ผู้ชนะโซนที่ สี่ เซียวจุ้ยจื่อหรือเถียนซี!

ผู้เข้าชิงสี่โซนการต่อสู้ ทุกคนล้วนแต่เป็นคนของสำนักไท่กู่เจิ้ง เรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นและจะถูกเล่าขานไปอีกนานเท่านาน!

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด