ตอนที่แล้วChapter 71 เวทย์เปลี่ยนรูป กล้องส่องทางไกลแปดเท่า.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 73 สำนักที่จะคว้าแชมป์

Chapter 72 แผลเก่าของเป่ยเจี้ยน


รอบที่สี่ คู่ที่หก.

เซียวจุ้ยจื่อก้าวขึ้นเวที เป่ยเจี้ยนหัวเราะออกมาทันที “โฮ๊ะ โฮ๊ะ อดีตสุดยอดพรสวรรค์ ถึงกับเอาชนะผ่านมาได้สามรอบ ช่างคาดไม่ถึงจริง ๆ.”

ได้ยินเสียงหัวเราะ “โฮ๊ะ โฮ๊ะ”ที่น่าขยะแขยง ทำให้จุนซ่างเซียวรู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก.

อยากกระโดดออกไป ถีบแรง ๆ ให้ลอยกระเด็นออกไปเลย.

“เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง.”ระบบที่กล่าวเตือนออกมาทันที.

จุนซ่างเซียวแทบทรุดลงกับพื้น คิดโอดครวญในใจ “แค่คิดก็ไม่ได้รึไง!”

เซียวจุ้ยจื่อไม่ได้กล่าวอะไร เขาที่กำหมัดแน่น แววตาที่เผยความเย็นชาออกมา ลอบคิดในใจ “เจ้าสำนักบอกว่าต้องทุบเขาให้หนัก ๆ หน่อย ครั้งนี้ข้าคงไม่ออมมือแล้ว.”

“โฮ๊ะ โฮ๊ะ.”

เป่ยเจี้ยนหัวเราะเย้ยหยัน “ดูเคร่งขรึมน่าเกรงขามจริง ๆ เจ้าคิดว่าตัวเองสามารถยโสได้เหมือนกับห้าปีที่แล้วอีกรึ?”

“ไม่ ๆ ขอเปลี่ยน.”

เขาที่เปลี่ยนคำพูดใหม่ “ถึงเจ้าจะมีพรสวรรค์เหมือนห้าปีที่แล้ว ข้าเป่ยเจี้ยนก็ไม่ได้อ่อนแอเหมือนกับห้าปีที่แล้วอีกต่อไป.”

กับคำว่าห้าปีที่แล้ว แววตาของเขาที่เผยความโกรธเกรี้ยวขึ้นมาในทันที ราวกับว่าเรื่องในอดีตนั้นเขาไม่เคยลืมเลย.

“เริ่มได้!”กรรมการประกาศเสียงดัง.

“ฟิ้ว ฟิ้ว!”

เป่ยเจี้ยนที่ยื่นมือออกไปด้านหน้า สร้างกลุ่มก้อนเปลวเพลิงขึ้นมาบนฝ่ามือ กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มที่มืดมน “เซียวจุ้ยจื่อ ไม่ว่าเจ้าจะเก่งแค่ใหน แต่สามารถสร้างเปลวเพลิงเช่นนี้ได้หรือไม่?”

“วิชาควบคุมเปลวเพลิง!”

“คาดไม่ถึงเลยว่าเป่ยเจี้ยนจะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ธาตุเพลิง!”

“เซียวจุ้ยจื่อแม้มีกายเนื้อที่ทรงพลัง แม้นว่าจะแข็งแกร่ง ทว่าต่อหน้าผู้ฝึกยุทธ์ธาตุเพลิง คงไร้ประโยชน์ใด ๆ เดี๋ยวก็ต้องลงไปนอนกอง เพียงแค่การโจมตีเดียวแหงม ๆ.”

ทุกคนต่างก็พูดคุยกันมาด้วยความอัศจรรย์ใจ.

ผู้ฝึกยุทธ์ในทวีปชิงหยุนนั้น ผู้ที่จะสามารถตระหนักรู้ในวิญญาณเพลิง วิญญาณน้ำ หรือธาตุอื่น ๆให้ได้นั้น ถือว่าเป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่หาได้ยากมาก.

“ฮ่าฮ่าฮ่า ด้วยเปลวเพลิงนั่น กายเนื้อของแกต้องมอดไหม้อย่างแน่นอน!”

“ถุยยย ไร้พลังวิญญาณ ไร้ซึ่งพลังวิญญาณปกป้องร่างกาย กายเนื้ออย่างเดียว จะเหนือกว่าระดับศิษย์ยุทธ์ได้อย่างไง กลับไปเป็นขยะเหมือนเดิมซะ.”

“ยอดเยี่ยมจริง ๆ เป่ยเจี้ยน ต้องเผามันให้ไหม้ไปทั้งตัวแน่.”

เหล่าตระกูลเซียวและตระกูลเป่ยที่ราวกับฉลองกันแล้ว ทายาทตระกูลเซียวที่ตื่นเต้นดีใจที่จะได้เห็นเซียวจุ้ยจื่อกำลังจะถูกเป่ยเจี้ยนจัดการ หัวใจที่กำลังชื่นบานอย่างถึงที่สุด.

ไม่ใช่แค่พวกเขาเท่านั้น.

เหล่าอาวุโสของตระกูลเซียวอีกหลายคน ถึงกับเผยยิ้มออกมา.

อาวุโสใหญ่ที่นั่งบนโต๊ะ ความโกรธเกรี้ยวและจิตสังหารที่หมักหมมมากมายค่อย ๆ จางลง หากเจ้าขยะนั่นพ่ายแพ้ เขาก็ไม่จำเป็นต้องใส่ใจอีก.

“ผู้ฝึกยุทธ์ธาตุเปลวเพลิงอย่างงั้นรึ?”

จุนซ่างเซียวที่เผยท่าทางดูแคลนด้วยซ้ำ ต้องไม่ลืมว่าเขานั้นมีเมล็ดเพลิงขั้นสุดยอด เพลิงประณีต.

เซียวจุ้ยจื่อที่หาได้ใส่ใจแม้แต่น้อย.

เป่ยเจี้ยนที่เห็นอีกฝ่ายไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวเขาแม้แต่น้อย ทันใดนั้นก็โกรธเกรี้ยวขึ้นมา ก่อนจะเหวี่ยงปล่อยบอลเปลวเพลิงพุ่งออกไป.

“ตูมมมม!”

เซียวจุ้ยจื่อที่ก้าวไปด้านหน้า หมัดของเขาที่เหวี่ยงออกไป กระแทกไปยังบอลเปลวเพลิง เสียงดังสนั่น จนบอลเพลิงแตกสลายหายไปในอากาศ.

หมัดของเขา ไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อย!

“อะไรกัน!”

เหล่าผู้ชมมากมายที่เวลานี้ถึงกับตื่นตกใจลุกขึ้นยืนขึ้นมาทันที.

นั่นมันเพลิงวิญญาณนะ อ๊าก!

ไม่ต้องกล่าวถึงพลังของมัน เพียงแค่ความร้อนของบอลเพลิงนั้น ไม่มีทางที่กายเนื้อที่ไร้ซึ่งพลังวิญญาณ จะสามารถป้องกันได้!

นี่เขา?

ไม่เพียงแต่ทำลายบอลเพลิงได้ ทว่ากับไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ เลย!

“เป็นไปไม่ได้ ข้าไม่เชื่อ!”เหล่าผู้ฝึกยุทธ์ต่างอุทานออกมาด้วยความตกใจ.

ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งที่จ้องมองด้วยความตื่นตระหนก “เป็นไปได้ ว่ากายเนื้อของเขาหนาแน่นแข็งแกร่ง จนแม้แต่เปลวเพลิงก็ไม่สามารถกล้ำกลายได้อย่างงั้นรึ?”

ในเวลานั้น อาวุโสตระกูลเซียวแม้แต่เหล่าทายาทของพวกเขาที่ดีใจค้างเติ่ง ขนทั่วร่างที่ลุกตั้งชัน ตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น.

จุนซ่างเซียวเอ่ยออกมาเบา ๆ “เปลวเพลิงกาก ๆระดับนี้นะรึ? ที่จะทำร้ายศิษย์ของข้า? น่าขัน.”

เปลวเพลิงที่สามารถเผาทุกอย่างได้ ทว่ากับกายเนื้อที่ยกระดับไปจนถึงขีดสุด ไม่มีทางใดที่จะมีความร้อนทั่วไปกล้ำกลายได้ คงมีเพียงแค่ความรู้สึกคัน ๆ เท่านั้น.

“ร้ายกาจ ร้ายกาจมาก!”

อาวุโสสำนักต้าหงถึงกับต้องยกนิ้วโป้งให้.

ไม่มีพลังวิญญาณ แต่สามารถทำลายเพลิงวิญณาณได้ด้วยหมัดลุ่น ๆ ไม่ให้ชื่นชมไม่ได้อย่างไร.

“เป็นไปไม่ได้....”เป่ยเจี้ยนที่เห็นบอลเพลิงของตัวเองถูกต่อยสลายไป เขาที่งงงันตื่นตะหนกยืนสั่นอยู่กับที่ทันที.

“ฟิ้ว!”

ในเวลานั้น เงาหมัดที่ขมุกขมัวก็พุ่งมาแล้ว.

กว่าจะได้สติก็ไม่มีเวลาให้หลบอีกต่อไป ทุกคนได้ยินเพียงเสียงดัง “ปัง” เป่ยเจี้ยนก่อนรับหมัดของเซียวจุ้ยจื่อกระแทกไปยังท้อง ดวงตาของเขาก็แทบถลน ความเจ็บปวดที่ไหลผ่านไปทั่วร่าง เขาทรุดลง ยืนไม่อยู่อีกต่อไป.

หลังจากต่อยหมัดออกไปแล้ว หมัดซ้ายของเซียวจุ้ยจื่อก็ปล่อยออกไปในทันที เสยคางเป่ยเจี้ยนอย่างรุนแรง จนตัวเขาลอยขึ้นไปบนอากาศ.

สองหมัด ที่รุนแรงเป็นอย่างมาก!

“พรึด โครม!”เป่ยเจี้ยนที่ล่วงหล่นลงบนพื้น ใบหน้าบิดเบี้ยว เต็มไปด้วยความเจ็บปวด แม้แต่หายใจได้อย่างยากลำบาก.

เหล่าผู้ฝึกยุทธ์ที่อุทานออกมาด้วยความตกใจอีกครั้ง “หมัดสองหมัดนั่น อย่างน้อยก็ต้องมีพลังกว่าสองพันจิน!”

“โอ้ว สวรรค์!”

“ไม่มีพลังวิญญาณ แต่ต่อยออกมาด้วยพลังสองพันจิน นี่พลังกายเนื้อของเขาอยู่ในระดับใดกัน น่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!”

“กายเนื้อของเขาอัดแน่นไปด้วยพลัง ความแข็งแกร่งนั้นเหนือล้ำยากจะทะลวงได้ ไม่สงสัยเลยเปลวเพลิงไม่สามารถทำร้ายเขาได้!”

เมื่อเซียวจุ้ยจื่อไม่ต้องการจะปกปิดความแข็งแกร่งอีกต่อไป พลังที่หนักหน่วงรุนแรงก็ถูกเผยออกมา ทำให้เหล่าผู้ฝึกยุทธ์ตะลึงงันไปตาม ๆ กัน.

“น่า...น่ารังเกียจ!”เป่ยเจี้ยนที่สะกดความเจ็บปวด พยายามที่จะลุกขึ้น ทว่าเขาก็ได้ยินเสียง“ปัง”หมัดที่กระแทกมายังใบหน้า ทำให้ร่างเขาสะบัดพยายามถอยออกไปด้านหลัง.

เซียวจุ้ยจื่อไม่ปล่อยให้เขาถอยหลบได้อีก เขาที่ก้าวตาม ก่อนที่จะต่อยไปที่จมูกของเขาอีกครั้ง “ปัง โครม!”

ห่างกันไม่ถึงนาที เหล่าผู้ชมรอบ ๆ ถึงกับมุมปากกระตุก ร่างกายสั่นสะท้านขนลุก ราวกับรับรู้ถึงความเจ็บของเป่ยเจี้ยน!

“แก๊ก.”เซียวจุ้ยจื่อที่ก้าวเข้าหาก่อนที่จะกระชากผมของเขาดึงคว้า ยกร่างอีกขึ้นมา กล่าวออกมาด้วยความเย็นชา “เจ้าจำตอนเด็กได้ไหม ข้าทุบตีเจ้าอย่างไร?”

เป่ยเจี้ยนที่นึกถึงอดีตในทันที.

อีกครั้งแล้วที่เขาถูกทุบอย่างโหดร้าย.

มันนานมาแล้ว หากแต่ความเจ็บปวดนั่น มันยังฝังแน่นลึกเป็นเมล็ดพันธ์ที่ถูกปลูกเอาไว้ในใจของเขา.

เซียวจุ้ยจื่อที่จ้องมองด้วยสายตาเย็นชา กล่าวออกมาเสียงดัง “ในอดีตเจ้าข่มเหงรังแกผู้หญิง ร้องไห้ไม่หยุด ตอนนี้ข้าจะทุบตีเจ้า ให้มันเหมือนกับในครั้งนั้น.”

“ฟิ้ว!”

หมัดของเซียวจุ้ยจื่อที่เหวี่ยงฟาดออกไป.

เหมือนกับเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต!

เป่ยเจี้ยนที่จิตใจของเขา ล่มสลายในทันที เขาที่ร้องไห้ขอความเมตตาออกมา “อ๊าก ฮือ ฮือ.......อย่าตีข้า!”

ความรู้สึกที่ราวกับมันหวนคืนกลับไปเหมือนเมื่อครั้งยังเด็ก เขาที่ถูกทุบตีเจ็บปวดร้องไห้เอาเป็นเอาตาย.

ความเจ็บปวดฝังใจนั่น มันได้ดึงเขาให้หวนกลับไปเป็นเด็กในตอนนั้น........

“ปัง! ปัง!”

หมัดของเซียวจุ้ยจื่อที่ต่อยออกไป ซ้าย ขวา พลังที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เวลานี้ใบหน้าของอีกฝ่ายที่บวมเป่ง ห้อโลหิต หัวของเขาที่บวมฉึ่งเหมือนหัวหมู.

ใบหน้าของเขาเวลานี้แม้แต่บิดาและมารดาของเขาเกรงว่าคงจำไม่ได้แล้ว.

เซียวจุ้ยจื่อที่โยนและเตะเป่ยเจี้ยนลอยออกไป ตกลงจากเวที.

“สาแก่ใจแล้ว!”

จุนซ่างเซียวที่พิงเก้าอี้ ใบหน้าที่เผยยิ้มบาน.

อย่างไรก็ตาม ปลายกระบอกปืนของเขาก็ยังคงเล็งไปยังอาวุโสใหญ่ตระกูลเซียว ด้วยหวั่นเกรงว่าอีกฝ่ายจะไม่สามารถระงับความโกรธของตัวเองเอาไว้ได้.

......

“การแข่งขันรอบสี่คู่ที่หก ผู้ชนะเซียวจุ้ยจื่อ!”กรรมการที่ตะโกนออกมาเสียงดัง เหล่าผู้ฝึกยุทธ์บนที่นั่ง ผู้ชมยืนขึ้นอ้าปากค้าง แววตาที่เผยความไม่อยากเชื่ออย่างลึกล้ำ.

ผู้ฝึกยุทธ์ธาตุเปลวเพลิงเป่ยเจี้ยน พ่ายแพ้ ก่อนหน้าที่จะเริ่ม ไม่เคยมีใคร คาดคิดเลยว่าผลจะจบเช่นนี้!

“การต่อสู้รอบสี่ คู่ที่เจ็ด ชิงหมิง ปะทะ เซียวหลินเย่!”

การต่อสู้คู่ต่อไปกำลังจะเริ่ม.

เซียวหลินเย่ที่กำลังก้าวขึ้นเวที เขาที่เดินเฉียดมาทางเซียวจุ้ยจื่อ กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม เอ่ยเสียงเบา ๆ “ถางเกอ ไม่มีพลังวิญญาณ แต่กับมีความแข็งแกร่งขนาดนี้ ถางตี้ชื่นชมยิ่งนัก.”

เซียวจุ้ยจื่อที่หาได้สนใจเขา เขาก้าวไปยังพื้นที่ผู้ชนะอย่างไม่แยแส.

เซียวหลินเย่ หากว่าเอาชนะชินหมิงได้ เซียวจุ้ยจื่อจะเป็นคู่ต่อสู้คนต่อไปของเขา เขาที่จ้องมองไปยังพื้นที่ผู้ชนะกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม “คู่ต่อสู้ของถางเกอคนต่อไปก็คือข้าเอง.”

เซียวจุ้ยจื่อที่นั่งพักหลับตาลง.

การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไป หลี่ชิงหยางและคนอื่น ๆ ในโซนต่าง ๆ ก็เอาชนะคู่ต่อสู้ในรอบสี่ได้อย่างง่ายดาย.

จุนซ่างเซียวที่นั่งเหยียด อย่างสบายอารมณ์ กล่าวออกมาราวกับช่วยไม่ได้ “ง่ายจริง ๆ.”

เขาที่คิดว่า ยิ่งผ่านเข้ารอบมาลึกเท่าไหร่เกรงว่าศิษย์ของเขาจะพบกับความยากลำบาก แต่ท้ายที่สุด ทุกคนก็สามารถจบการต่อสู้ได้อย่างรวดเร็ว.

อาวุโสสำนักต้าหงเวลานี้ถึงกับนั่งทรุดแบนราบไปกับเก้าอี้ เพราะว่าศิษย์ของเขาถูกเถียนซีเอาชนะ ศิษย์ทั้งหมดตกรอบไปทั้งหมดแล้ว.

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด