ตอนที่แล้วChapter 59 เมื่อสวรรค์คิดจะมอบภารกิจอันยิ่งใหญ่ให้กับคนผู้หนึ่ง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 61 การฝึกฝนโหมดปิศาจ

Chapter 60 เปิดภารกิจมหากาพย์


ที่ด้านนอกห้อง.

เซียวจุ้ยจื่อที่กลิ้งเกลือกไถไปกับพื้น ใบหน้าที่ฟกช้ำดำเขียว เผยความหวาดกลัวอย่างร้ายแรงออกมา.

สองชั่วยาม อ๊าก!

จุนซ่างเซียวโดนทุบหนึ่งชั่วยาม ครั้งแรกยังน้ำลายฟูมปาก ไม่ต้องเอ่ยถึงเซียวจุ้ยจื่อที่ไม่มีพลังบ่มเพาะ.

แน่นอน.

ห้องปั้นกล้ามเนื้อนั้นแตกต่างจากการฝึกทั่วไปมาก มันจะบีบอัด กลั่นนวดร่างไปทั่ว แม้จะรุนแรง ร้ายกาจแต่ก็ไม่ได้ทำให้ผู้ใช้งานเสียชีวิต.

“ศิษย์น้อง เป็นอย่างไรบ้าง?”

“ไปโดนใครทุบมา สภาพยับเยินเลย!”

“ข้าได้ยินมาว่า ศิษย์น้องเซียวถูกเจ้าสำนักนำไปฝึกเป็นพิเศษ.”

เหล่าศิษย์คนอื่น ๆที่มองเห็น ต่างก็จ้องมองด้วยแววตาสงสาร.

จุนซ่างเซียวที่ก้าวออกมาจากห้องโถงและเข้าไปหากล่าวออกมาว่า “รู้สึกอย่างไรบ้าง?”

“เจ็บ......”เซียวจุ้ยจื่อที่เอ่ยเสียงแผ่ว ๆ.

จุนซ่างเซียวที่ตบไปที่บ่าของเขา กล่าวออกมาว่า “จำคำพูดเหล่านี้เอาไว้ เมื่อสวรรค์คิดจะมอบภาระกิจอันยิ่งใหญ่ให้กับคนผู้หนึ่ง อย่างแรก คนผู้นั้นจะต้องผ่านความทุกข์ใจแสนสาหัส เหนื่อยล้าเข้าไปถึงเอ็นและกระดูก.”

เซียวจุ้ยจื่อไม่กล่าวอะไร แววตาที่ไร้ซึ่งจิตวิญญาณ.

ด้วยการถูกห้องปั้นกล้ามเนื้อบีบอัดกระหน่ำทุบ ความเจ็บที่กระจายไปทั่วร่างระบมไปทั่วร่าง ลำพังเขามีวิชาบ่มเพาะระดับเทวะแต่กลับไม่สามารถรวมพลังวิญญาณได้ นี่ก็ทำร้ายจิตใจเขามากพอแล้ว.

“เจ้าสำนัก ข้ามันขยะจริง ๆ ข้ามันไร้ประโยชน์....”เซียวจุ้ยจื่อที่ราวกับยอมรับชะตากรรมของตัวเอง เขาที่เต็มไปด้วยความเศร้าสลดอย่างที่สุด.

ในโลกใบนี้ จะแข็งแกร่งขึ้นได้อย่างไร? มีเพียงแค่เหตุผลเดียวก็คือดูดซับพลังวิญญาณ!

ตัวเขาที่ยากจะดูดซับพลังวิญญาณ ยากที่จะทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น ยากที่จะทะลวงจุดชีพจรและเชื่อมต่อมันได้ เขาเวลานี้ก็ไม่ต่างอะไรจากขยะ.

“เซียวจุ้ยจื่อ.”

จุนซ่างเซียวจ้องมองไปยังเขา กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม “จำคำพูดของเปิ่นจั้วเอาไว้ คนของสำนักไท่กู่เจิ้งไม่มีขยะ!”

“เจ้าสำนัก ข้า......”

“เงียบ นับจากพรุ่งนี้ไป เจ้าจะต้องใช้ห้องปั้นกล้ามเนื้อทุก ๆ วัน วันละสองชั่วยาม.

สองชั่วยาม......

แขนขาของเซียวจุ้ยจื่อที่หมดเรี่ยวแรง แบนราบไปกับพื้นอีกครั้ง.

......

เช้าวันถัดมา.

เมื่อเขาลืมตาขึ้น ก็พบว่าร่างกายที่เจ็บระบมทั่วร่างก่อนหน้านี้ หายไปปลิดทิ้ง แม้แต่สามารถมองเห็นกล้ามเนื้อของตัวเองที่แข็งแกร่งขึ้นกว่าเมื่อวาน.

“หมายความว่าอย่างไรกัน?”ใบหน้าของเซียวจุ้ยจื่อถึงกับกลายเป็นงงงวย ทว่าทันใดนั้นเขาก็นึกถึงคำพูดของเจ้าสำนัก “เจ้าต้องไปใช้ห้องปั้นกล้ามเนื้อ” ต้องเป็นเพราะห้องปั้นกล้ามเนื้อแน่ ๆ ในเวลานั้นเขาไม่ผัดผ่อนที่ไปอีกต่อไป.

จุนซ่างเซียวที่ใช้งานมันตอนกลางคืน ทำให้ในเวลากลางวัน ห้องปั้นกล้ามเนื้อว่าง เซียวจุ้ยจื่อจึงสามารถเข้าไปใช้งานมันได้ในทันที.

เวลาที่ผ่านไปยาวนานเหมือนเดิม.

หลังจากถูกนวดเจ็บปวดไปทั่วร่างกาย เซียวจุ้ยจื่อที่แทบคลานออกมา ทว่าเวลานั้นเขาก็รู้สึกหิวขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง.

หลังจากกินอาหารของหลิวหว่านซีและนอนหลับพักผ่อน ความเหนื่อยล้าทั้งหมดก็หายไป กล้ามเนื้อของเขาที่ทรงพลังขึ้นไปอีกขั้น เวลานี้เขารู้สึกตื่นเต้นดีใจอย่างที่สุด ถึงกับเร่งรีบพุ่งไปยังห้องปั้นกล้ามเนื้อ.

“เอ๊ะ? ท่าทางของศิษย์น้องดูดีจังเลยวันนี้?”

“ถูกเจ้าสำนักจับไปฝึกอย่างหนัก ไม่คาดคิดเลยว่าจิตใจของเขาจะเข้มแข็งขนาดนี้เลย?”

เหล่าศิษย์ที่จ้องมองห่าง ๆ อย่างห่วง ๆ ต่างก็ส่ายหน้าไปมาด้วยความสงสาร.

แต่หากพวกเขารู้ว่า ห้องปั้นกล้ามเนื้อนั้นช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งของร่างกายและกล้ามเนื้ออย่างรวดเร็ว แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องเร่งรีบพุ่งไปฝึกอย่างบ้าคลั่งเช่นกัน.

......

เซียวจุ้ยจื่อที่รับการบีบอัด นวดเวลากลางวัน ส่วนจุนซ่างเซียวที่ถูกอัดนวดเวลากลางคืน คนทั้งสองที่เพิ่มความแข็งแกร่งของร่างกายเพิ่มมากขึ้นและก็มากขึ้น.

สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ เขายังไม่ได้บอก ศิษย์คนอื่น ๆ ต้องไม่ลืมว่าเขาจำเป็นต้องวางรากฐานร่างกายของตัวเองให้มั่นคง ก่อนที่จะช่วยเหลือคนอื่น ๆ ในภายหลัง.

สิ่งที่จุนซ่างเซียวทำนั้นเป็นอะไรที่ง่ายที่ทุกคนจะเข้าใจ เซียวจุ้ยจื่อไม่สามารถดูดซับพลังวิญญาณ จึงต้องถูกสั่งสอนเป็นพิเศษ ตราบเท่าที่ร่างกายของเขาก้าวไปถึงระดับสุดยอด ความมั่นใจในวิถียุทธ์ของเขาก็จะกลับคืนมามั่นคงอีกครั้ง.

หลังจากฝึกฝนไปช่วงหนึ่ง.

สามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว เซียวจุ้ยจื่อที่ทดสอบพลังของเขาเวลานี้มันเพิ่มขึ้นมาร้อยจินแล้ว จากก่อนหน้านี้มีพลังเพียง 20-30 จิน!

เพราะว่าเขาไม่สามารถเปิดชีพจรและรวบรวมพลังวิญญาณได้ แม้นว่ามันจะเพิ่มขึ้นมาช้า ๆ แต่ก็ทำให้เขามองเห็นแสงสว่างแห่งความหวัง ที่จะทำให้เขาแข็งแกร่ง แววตาที่ไร้จิตวิญญาณเวลานี้ มีประกายความหวังเป็นประกายขึ้นมา.

“เจ้าสำนัก ศิษย์ต้องการเพิ่มเวลา!”

“แล้วเจ้าต้องการเพิ่มเวลาเท่าไหร่?”

“หกชั่วยาม!”

“ตงลง.”

หลังจากเซียวจุ้ยจื่อจากไปแล้ว จุนซ่างเซียวที่สีคางไปมา เอ่ยออกมาว่า “ข้าควรจะซื้อห้องปั้นกล้ามเนื้อเพิ่มอีกหรือไม่?”

สินค้าชิ้นนี้ มีขีดจำกัดซื้อได้ห้าชิ้นในทุก ๆเดือน.

“ติ้ง!”

“หลี่เฟยส่งจดหมายไปยังหมู่บ้านหนิว ทำภารกิจสำนักเสร็จสมบูรณ์แล้ว.”

“ติ๊ง!”

“คะแนนสนับสนุนสำนัก : 84 / 100.”

“คะแนนความสำเร็จสำนัก : 71 / 100.”

เซียวจุ้ยจื่อที่ใช้ห้องปั้นกล้ามเนื้อสามวัน เหล่าศิษย์ที่ถูกส่งออกไปทำภารกิจเองก็ทำภารกิจสำเร็จคนแล้วคนเล่า เวลานี้แต้มสนับสนุนและความสำเร็จเพิ่มมา30 แต้มแล้ว.

จุนซ่างเซียวเอ่ยออกมาว่า “ยังมีภารกิจเหลือกว่า 20  ไม่มีปัญหา หากทำภารกิจทั้งหมดเสร็จสิ้น แต้มความสำเร็จก็จะเต็ม คะแนนสนับสนุนยังไงก็ล้น ต้องซื้อ.”

“งั้นซื้อเลย.”

“ติ๊ง!”

“โฮสน์ใช้ 20 แต้มสนับสนุน ได้รับห้องปั้นกล้ามเนื้อ 1 ถูกส่งเข้าไปในแหวนมิติแล้ว.”

“ติ้ง!”

“คะแนนสนับสนุนสำนัก : 64 / 100.”

จุนซ่างเซียวที่นำห้องปั้นกล้ามเนื้อมาวางไว้ข้าง ๆ กัน เป็นกระโจมที่เหมือนกับแคปซูลรังไหม.

เหล่าศิษย์คนแล้วคนเล่าที่ทำภารกิจเสร็จสิ้น เพื่อที่จะเสริมสร้างขวัญกำลังใจ เขาได้มอบผงรวมวิญญาณและกระบี่ไม้ขั้นต้นเป็นรางวัล เพื่อตอบแทนทุกคน.

......

วิชาบ่มเพาะก็มีแล้ว ค่ายกลรวมวิญญาณก็มีแล้ว และยังห้องฝึกฝนพิเศษ แม้แต่มีแม่ครัวชั้นหนึ่ง นี่แค่เพียงสำนักระดับเก้าเท่านั้น แต่การพัฒนานั้นกลับไปในทิศทางที่ยอดเยี่ยมมาก.

ทว่าสำหรับจุนซ่างเซียวนั้นเขารู้ตัวดี นี่เพียงแค่เริ่มต้นเท่านั้น เส้นทางของเขานั้นยังอยู่อีกยาวไกล.

“เจ้าสำนัก.”

หลี่ชิงหยางที่เข้ามารายงาน “ลานสวนด้านในเสร็จสิ้นการปรับปรุงแล้ว.”

“ใช้ไปมากเท่าไหร่.”จุนซ่างเซียวกล่าวสอบถาม.

หลี่ชิงหยางที่กล่าวอย่างขวยเขิน “เจ้าสำนัก ศิษย์ใช้ไป 10,000 เงิน ทว่าเวลานี้ก็ยังเหลืออยู่กว่า 2000 เงิน.”

ที่มุมปากของจุนซ่างเซียวกระตุกเล็กน้อย แอบบคิดในใจ “ต้องยอมเขาเลยจริง ๆ”

อย่างไรก็ตามใช้ไปมาก ประสิทธิที่ได้ก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน.

ขณะที่เข้าก้าวเข้ามาในสวนด้านใน เห็นสิ่งก่อสร้างต่าง ๆที่ได้รับการยกระดับให้สูงขึ้นอีกหลายขั้นก็ทำให้เขารู้สึกพึงพอใจมาก.

หลี่ชิงหยางที่ชี้ไปยังสวนที่ไกลออกไปและกล่าวออกมาว่า “เจ้าสำนัก ที่นั่นเป็นที่พักของท่าน มีสวนที่แยกออกเป็นส่วนตัว มีสระน้ำ มีสวนด้านหลังและมีห้องหนังสือด้วย.”

“ไม่เลว ไม่เลวเลย.”จุนซ่างเซียวกล่าว.

หลี่ชิงหยางเอ่ย “ฝั่งด้านเหนือจะเป็นตึกของศิษย์ชาย ส่วนฝั่งทิศใต้จะเป็นพื้นที่ของศิษย์หญิง และยังมีลานยุทธ์ขนาดเล็กที่แยกออกเป็นส่วนตัวด้วย.”

“เฮ้อ”

จุนซ่างเซียวกล่าว “ลืมบอกเจ้าเลย ลานสวนของเหล่าศิษย์ควรอยู่ติดกับสวนของเปิ่นจั้วสิถึงจะถูก.”

ใบหน้าของจุนซ่างเซียวที่เผยท่าทางเสียดายเล็กน้อย.

“เออ ใช่.”

จุนซ่างเซียวที่กล่าวมาอีก ”เจ้าเลือกศิษย์ที่มีพรสวรรค์ไม่เลวสักสองสามคน ให้พวกเขาเข้าไปฝึกฝนในห้องปั้นกล้ามเนื้อเหมือนกับจุ้ยจื่อด้วย แต่ละคนต้องใช้งานคนล่ะหนึ่งชั่วยาม.

......

“ศิษย์พี่ สิ่งนี้คืออะไรอย่างงั้นรึ?”

หลี่ชิงหยางที่นำซูเซียวโม่และศิษย์อีกสองสามคนมา พวกเขายืนอยู่ด้านหน้าห้องปั้นกล้ามเนื้อสองอัน เผยท่าทางงงงวยและสงสัย.

“ตูมมม!”

ในเวลานั้น เซียวจุ้ยจื่อที่เดินเข้ามา ก่อนที่จะต่อยหมัดออกไปยังเครื่องทดสอบพลัง ปรากฏตัวเลข 300 จิน.

“นี่...”หลี่ชิงหยางและศิษย์คนอื่น ๆที่เผยท่าทางตกใจ.

ศิษย์น้องเซียวไม่สามารถเปิดชีพจรได้ หมัดของเขาที่ไร้ซึ่งพลังวิญญาณ แต่กับมีพลังเทียบเท่ากับผู้ฝึกยุทธ์เปิดชีพจรระดับสองได้ น่ากลัวเกินไปแล้ว อ๊าก!

“ศิษย์น้อง.”

ซูเซียวโม่ที่เข้าไปหา จ้องมองไปยังกล้ามเนื้อทั่วร่างเซียวจุ้ยจื่อ พลางกล่าวออกมาด้วยท่าทางตกใจ “นี่เจ้าได้ใช้พลังวิญญาณหรือไม่?”

“ไม่เลย.”

เซียวจุ้ยจื่อจ้องมองไปยังห้องปั้นกล้ามเนื้อ กล่าวออกมาว่า “มันเป็นผลจากการใช้สิ่งนั้น.”

ขณะกล่าวเสร็จพวกเขาก็เปิดประตู ด้านในนั้นเป็นแคปซูลรังไหมที่เป็นเหมือนกับเบาะนุ่มให้พวกเขาเข้าไปนอน.

หลี่ชิงหยางและซูเซียวโม่ที่จ้องมองกันและกัน ได้ยินถึงผลประโยชน์ที่ได้รับ ใบหน้าของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น ยอดเยี่ยมขึ้นมาทันที.

ไม่สงสัยเลยว่าศิษย์น้องที่ฟกช้ำดำเขียวตลอดหลายวันมานี้ ที่แท้ก็แอบมาฝึกฝนที่นี่นั่นเอง อ๊าก!

“ข้าจะลองบ้าง.”

หลี่ชิงหยางที่เข้าไปในห้องปั้นกล้ามเนื้อ เพราะว่าจุนซ่างเซียวได้ทำการตั้งค่าไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ทำให้ประตูปิดและทำงานเองในทันที.

หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วยาม.

พรสวรรค์อันดับหนึ่งของเมืองชิงหยาง ร่างกายได้ไหลออกมาจากแคปซูลรังไหมน้ำลายฟูมปาก.

......

ภายในห้องโถง.

จุนซ่างเซียวที่โคจรวิชาเปลี่ยนเส้นเอ็นไม่หยุดหย่อน.

ตลอดหลายวันมานี้ เขาจะใช้เวลาปั้นกล้ามเนื้อสองชั่วยามในทุก ๆวัน แม้นความแข็งแกร่งจะไม่ได้เพิ่มขึ้น ทว่ากล้ามเนื้อของเขาเวลานี้เห็นเป็นริ้วเป็นลายเส้นกล้ามเนื้อกระชับเป็นอย่างมาก.

“ฟู่!”

จุนซ่างเซียวที่กล่าวกับตัวเอง “รวมพลังวิญญาณเพียงพอแล้ว หวังว่าการทะลวงชีพจรครั้งนี้จะสำเร็จ.”

บางทีเพราะว่าเขากลั่นร่างกายด้วยห้องปั้นกล้ามเนื้อ ทำให้การรวบรวมพลังวิญญาณเวลานี้มั่นคงขึ้น ท้ายที่สุดเขาก็สามารถทะลวงจุดและเชื่อมเส้นชีพจรได้!

“ฟู่ ฟู่!”

พลังวิญญาณมากมายที่ไหลเอ่อล้นกระจายไปทั่วเส้นชีพจรทั้งหมด ราวกับสายน้ำหลากที่อาบไปทั่วร่างกาย ทำให้เขารู้สึกดื่มด่ำ มีความสุขเป็นอย่างมาก.

“ฮ่า ฮ่า อ่า ฮ่า!”

“ท้ายที่สุดก็สำเร็จ ท้ายที่สุดก็เชื่อมเส้นชีพจรทุกเส้นได้แล้ว!”

การทะลวงจุดชีพจรและเชื่อมเส้นชีพจรของจุนซ่างเซียวนั้นพิเศษมาก เพราะเขาไม่ได้ใช้เม็ดยาที่ล้ำค่า ไม่มีคนช่วยเหลือ เขาใช้ความพยายามของตัวเองจนสามารถทำสำเร็จได้ในที่สุด.

“ติ้ง!”

“ยินดีกับโฮสน์ได้ทำภารกิจลับสำเร็จ【 ยืนบนล้ำแข้งของตัวเองอย่างต่อเนื่อง】ได้รับ 10 แต้มสนับสนุน!”

“ติ้ง!”

“คะแนนสนับสนุนสำนัก: 74 / 100.”

จุนซ่างเซียวที่กล่าวเสียงเบา “ไม่เสียแรงที่พยายามด้วยตัวเองอย่างยากลำบาก ถึงกับทำให้สำเร็จภารกิจลับเลย.”

“ติ้ง!”

“โฮสน์ได้เชื่อมเส้นชีพจรทั้ง 12 เส้นแล้ว เป็นไปตามความเงื่อนไข ภารกิจมหากาพน์เปิดใช้งาน!”

จุนซ่างเซียวถึงกับสะดุ้ง เร่งรีบเปิดคอนโซนระบบขึ้นมา จดจ้องมองที่ด้านล่างภารกิจสำนัก ปรากฏภารกิจมหากาพน์ รายระเอียด : เจ็ดวันหลังจากนี้ที่มนทลชิงหยาง มีการจัดประลองการต่อสู้ขึ้น ให้นำศิษย์ห้าคนเข้าร่วม [ยังไม่สำเร็จ]

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด