ตอนที่แล้วChapter 39 อ้ายโจว ถูกทุบ?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 41 ความตั้งใจดั้งเดิมของเซียวจุ้ยจื่อ

Chapter 40 เจ้ายินดีที่จะรับขยะหรือไม่?


หลี่ชิงหยางกล่าวว่า ช่วย ส่วนลู่เชียนเชียนเอ่ยว่า ไม่ช่วย.

สองคนสองความแตกต่าง สองความคิด.

“ศิษย์พี่หญิงใหญ่!”

หลี่ชิงหยางที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม “ช่วยชีวิตคนได้กุศลกว่าสร้างเจดีย์เจ็ดชั้น!”

จุนซ่างเซียวถึงกับพูดไม่ออก.

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาเคยประสบกับตัวเองมาแล้ว สายตาของนางที่จดจ้องมองอีกฝ่าย ราวกับคนโง่ มันเกิดขึ้นกับหลี่ชิงหยางในเวลานี้.

“ฮึ.”

ลู่เชียนเชียนเอ่ย “คนในทวีปชิงหยุนตายกันทุกวันนับไม่ถ้วน เจ้าสามารถช่วยได้หมดอย่างงั้นรึ?”

หลี่ชิงหยางเงียบลง.

ลู่เชียนเชียนเอ่ย “พวกเราคือสำนัก ไม่ใช่ผู้ประเสริฐ ไม่ใช่เรือนหมอ เจ้าสำนักมีเม็ดยาไม่ได้มากมาย ไม่ควรที่จะใช้กับคน ที่ไม่รู้จัก ที่ไม่มีสัมพันธ์ใด ๆ มันควรจะเหลือไว้ให้กับพวกเราใช้ในยามจำเป็น.”

หลี่ชิงหยางที่ไม่เอ่ยกล่าวอะไรต่ออีก

จุนซ่างเซียวที่ตบไปที่บ่าหลี่ชิงหยางและกล่าวออกมาว่า “ชิงหยาง เจ้ามีจิตใจที่ดี เพียงเท่านี้ก็ถือว่าน่ายกย่องแล้ว ทว่าบางครั้ง ความเป็นจริงก็โหดร้ายมาก.”

“เจ้าสำนัก ข้า......”ท่าทางของหลี่ชิงหยางที่กลายเป็นลังเล.

จุนซ่างเซียวกล่าวต่อ “เปิ่นจั้วก่อนหน้านี้ ไม่รู้ว่าเม็ดยาที่เคยให้กับเจ้า เป็นสิ่งตกทอดจากโบราณ ไม่คิดเช่นกันว่ามันเป็นเม็ดยาที่คุณภาพยอดเยี่ยมถึงเพียงนั้น ดังนั้นจึงได้ทดสอบกับเจ้าไปในครั้งนั้น.”

“ตอนนี้รู้ถึงคุณค่ามันแล้ว แน่นอนว่ามัน คือเม็ดยาที่ล้ำค่ามาก มันควรจะเก็บไว้ใช้กับคนของพวกเรา ไม่ควรที่จะนำไปใช้กับคนที่ไม่รู้จัก.”

ลู่เชียนเชียนที่เอ่ยกล่าวเสียงเบา “ท้ายที่สุดก็กล้ายืดอกรับ.”

หลี่ชิงหยางที่กล่าวด้วยท่าทางขมขืน “เจ้าสำนักเสียใจ ที่ก่อนหน้าใช้เม็ดยาฟื้นฟูกับข้ารึ?”

จุนซ่างเซียวที่ส่ายหน้าไปมา และเอ่ยออกมาว่า “เพราะว่าช่วยเจ้า จึงทำให้เจ้าเข้าร่วมสำนักไท่กู่เจิ้งและกลายศิษย์ลำดับสอง หากไม่ช่วยเจ้า เปิ่นจั้วจะได้เพชรเม็ดงามได้อย่างไร?.”

หลี่ชิงหยางที่ได้ยินคำพูดดังกล่าว ภายในใจที่เผยท่าทางสุขใจขึ้นมาทันที.

จุนซ่างเซียวก้าวเดินมาอยู่ด้านหน้าชายหนุ่มที่หมดสติ พร้อมกับเอ่ยกล่าวออกมาเบา ๆ และรวดเร็ว “เม็ดยาฟื้นฟู ทำให้เปิ่นจั้วได้รับศิษย์ที่มีพรสวรรค์มา หวังว่าครั้งนี้จะเก็บเกี่ยวเรื่องที่น่าอัศจรรย์ได้อีกครั้ง.”

ลู่เชียนเชียนที่กล่าวออกมาด้วยความตกใจ “ท่านต้องการจะช่วยเขางั้นรึ?”

“ก่อนหน้านี้มีศิษย์คนหนึ่งเพิ่งตายไป การช่วยเขาสามารถนำมาทดแทนตำแหน่งที่ว่างได้.”จุนซ่างเซียวกล่าว.

ลู่เชียนเชียนไม่ได้เอ่ยอะไรอีกต่อไป.

แม้นว่าจะกล่าวอะไรไป ทว่าก็รู้ดี คงไม่สามารถเปลี่ยนใจเจ้าสำนักได้แล้ว.

“ติ้ง!”

“โฮสน์ใช้ 1 แต้มสนับสนุน ได้รับเม็ดยาฟื้นฟูสามัญขั้นต้น 1 ถูกส่งไปยังแหวนเก็บของแล้ว.”

“ติ้ง!”

“คะแนนสนับสนุนสำนัก: 29 / 100.”

หลี่ชิงหยางที่เขาช่วย จนมาถึงตอนนี้ มันผ่านมาได้เดือนเศษ ๆ แล้ว หากไม่เอ่ยถึงยาฟื้นฟู จุนซ่างเซียวคงจะลืมไปแล้วว่าแลกเปลี่ยนได้แล้ว.

1 แต้มสนับสนุน เขาได้แลกเปลี่ยนเม็ดยาฟื้นฟูทันที ไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย

จุนซ่างเซียวที่นำเม็ดยาออกมา ก่อนที่จะใส่เข้าไปในปากของชายหนุ่มที่บาดเจ็บ.

ลู่เชียนเชียนแค่นเสียงเย็นชา “เจ้าสำนัก ท่านคิดจริง ๆ รึ? ว่าเขาจะมีพรสวรรค์เหมือนกับศิษย์น้องรอง จึงได้ช่วยเขาง่าย ๆ เช่นนี้?”

“ข้าอาจจะโชคดี.”จุนซ่างเซียวยักไหล่.

ลู่เชียนเชียนที่มองบนเอ่ยออกมาว่า “หากเขามีพรสวรรค์ไม่ธรรมดา เขาจะถูกสวะเปิดชีพจรขั้นสองขั้นสามทำร้ายได้อย่างไรกัน.”

“เออ ใช่.”

จุนซ่างเซียวที่สีคางและกล่าวออกมาว่า “ทำไมข้า ถึงคิดไม่ถึงกัน.”

“แค๊ก แค๊ก.”

ในเวลาเดียวกันนั้น ผู้เยาว์คนดังกล่าวได้ได้สติ  ขณะที่เขาลืมตา ก็เอ่ยกล่าวออกมาด้วยท่าทางตื่นตะหนก “ข้า...ข้ายังมีชีวิตอยู่อีกรึ?”

“ไม่ผิด เจ้ายังมีชีวิต.”จุนซ่างเซียวกล่าว.

ผู้เยาว์คนดังกล่าวลุกขึ้นมาจากเตียง เผ้าผมของเขายังคงกระเซอะกระเซิง สายตาของเขาที่แจ่มชัดมองเห็นคนที่อยู่ด้านหน้า ก่อนจะยกมือขึ้นคารวะ “เจ้าสำนักจุน โปรดให้ข้าเข้าร่วมสำนักไท่กู่เจิ้งด้วย!”

จุนซ่างเซียวกล่าว “เจ้ารู้จักเปิ่นจั้วด้วยรึ?”

ผู้เยาว์คนดังกล่าวเอ่ย “เมื่อเดือนที่แล้ว ข้าเคยเห็นเจ้าสำนักจุนในงานรับศิษย์ร้อยสำนัก ครั้งนั้นข้าหวังที่จะได้เข้าร่วมสำนักไท่กู่เจิ้ง ติดตามเจ้าสำนักศึกษาวิถียุทธ์!”

“เป็นเช่นนี้นะเอง.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “เจ้ามีชื่อว่าอะไร แล้วเป็นใครมาจากใหน?”

ผู้เยาว์คนดังกล่าวหยุดและเอ่ยออกมาว่า “ข้ามีนามว่าเซียวจุ้ยจื่อ เคยเป็นลูกหลานของตระกูลเซียวเมืองหลี่หยาง.”

หลี่ชิงหยางที่ตกใจเล็กน้อย “เจ้านะรึ เซียวจุ้ยจื่อ?”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “เจ้ารู้จักเขางั้นรึ?”

หลี่ชิงหยางเอ่ย ด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เขาเป็นคนที่มีรากวิญญาณขั้นสุดยอดที่พันปีจะมีสักคน ทั่วทั้งมนทลชิงหยางไม่มีใครไม่รู้จัก.”

“รากวิญญาณระดับสุดยอดอย่างงั้นรึ?”

จุนซ่างเซียวที่ดวงตาเบิกกว้าง.

ลู่เชียนเชียนที่เผยแววตาประหลาดใจออกมาเช่นเดียวกัน.

ชายหนุ่มที่เสื้อผ้าขาดวิ่น รูปร่างที่เหมือนกับขอทาน ศิษย์น้องรองกับบอกว่าเขามีรากวิญญาณสุดยอด สูงกว่าศิษย์น้องรองอีกอย่างงั้นรึ?

“ฮ่าฮ่าฮ่า!”

จุนซ่างเซียวที่หัวเราะเสียงดัง กล่าวออกมาว่า “เชียนเชียน ดูเหมือนว่าการเดิมพันของเปิ่นจั้วจะถูกต้อง!”

เม็ดยาฟื้นฟู ได้รับหลี่ชิงหยางที่มีพรสวรรค์ขั้นสูง ตอนนี้ยังได้คนที่มีพรสวรรค์ขั้นสุดยอดอีก.

หมายความว่า สิ่งที่ลงแรงไปนั้นได้ผลตอบแทนดีมาก.

“นับจากวันนี้.”

จุนซ่างเซียวกล่าวออกมาด้วยความยินดี.”เจ้าคือศิษย์คนที่ 99 ของสำนักไท่กู่เจิ้ง.

เซียวจุ้ยจื่อยื่นมือคารวะไปด้านหน้าด้วยความตื่นเต้น “ศิษย์เซียวจุ้ยจื่อ คารวะเจ้าสำนัก!”

“อืม อืม.”

จุนซ่างเซียวกล่าว “ชิงหยาง นำทางเขาเข้าไปด้านในสำนัก.”

“ครับ.”

หลี่ชิงหยางที่ตอบรับคำทันที.

ทว่าเซียวจุ้ยจื่อที่ดูลังเลเล็กน้อย ก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า “เจ้าสำนัก ศิษย์มีเรื่องที่ต้องบอกให้ชัดเจน ครั้งหนึ่งศิษย์เคยเป็นคนที่มีพรสวรรค์หายาก หากแต่ในเวลานี้ รากวิญญาณของข้าถดถอยเหลือเพียงขั้นต่ำ ชีพจรทั้งสิบสองอุดตัน พลังบ่มเพาะหายไปไม่มีเหลือ.”

กึก.

ทันใดนั้นใบหน้าของจุนซ่างเซียวที่แข็งค้างไปในทันที.

เรื่องสำคัญขนาดนี้ ทำไมเจ้าไม่บอก ไม่ใช่ว่ามันสายไปแล้วรึอย่างไร?

เจ้าสำนักจุนที่รู้สึกเศร้าใจขึ้นมาแทบจะในทันที.

ทว่าคงทำอะไรไม่ได้แล้ว ไม่เช่นนั้นไม่ได้หมายความว่าเขาต้องคืนคำพูดที่พูดออกไปก่อนหน้านี้รึไง?

หลี่ชิงหยางกล่าว “เพราะว่ารากวิญญาณของเขาถดถอย คู่หมั้นของเจ้าจึงนำคนมายังตระกูลเซียวเพื่อถอนหมั้นงั้นรึ? ดูเหมือนว่าด้วยเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนั้น จะทำให้ตระกูลเซียวเสื่อมเสียเกียรติ และไล่เขาออกจากตระกูล.”

จุนซ่างเซียวที่มุมปากกระตุก.

พรสวรรค์ถดถอยกลายเป็นขยะ และยังถูกคู่หมั้นถอนหมั้นอีกอย่างงั้นรึ?

เรื่องนี้ ไม่เป็นละครน้ำเน่าไปหน่อยรึ? คาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะรับศิษย์เช่นนี้มา.

แม้นว่าหลี่ชิงหยางจะกล่าวเสียงเบา ทว่าเซียวจุ้ยจื่อก็ได้แต่ก้มหน้าก้มตา รู้สึกอับอาย แม้แต่กำหมัดเล็บจิกฝ่ามือตัวเอง เป็นระยะ ๆ.

เห็นท่าทางดังกล่าวแล้ว จุนซ่างเซียวเอ่ยออกมาว่า “พาเขาเข้าไปสำนักด้านในก่อน.”

“ครับ.”

หลี่ชิงหยางที่ถอยออกไป.

ลู่เชียนเชียนที่กอดอกและกล่าวออกมาเสียงเบา “เจ้าสำนัก ขยะ......”เห็นท่าทางของจุนซ่างเซียวที่ใบหน้าปั้นยาก นางจึงหุบปากลงในทันที.

“เจ้าสำนัก.”

เซียวจุ้ยจื่อ กล่าว “ท่านยินดีที่จะรับขยะหรือไม่?”

“ไม่ต้องการ.”

จุนซ่างเซียวที่กล่าวตามจริง.

เซียวจุ้ยจื่อกล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้าใจ “ข้าเองก็รู้ ว่าไม่คู่ควรเป็นศิษย์ของสำนักไท่กู่เจิ้ง...เจ้าสำนักขออภัยที่รบกวน.”

เขาที่ไหล่ตก ก้มหน้าก้มตาก้าวออกจากหอยา.

หลี่ชิงหยางที่เห็นเขาก้มหน้าก้มตาก้าวออกไป ท่าทางของเซียวจุ้ยจื่อที่หมดอาลัยตายอยาก เขากล่าวด้วยท่าทางสงสัย “ศิษย์พี่หญิงใหญ่ เขาเป็นอะไร?”

ลู่เชียนเชียนเอ่ย “เขารู้สึกว่าตัวเองเป็นขยะ ไม่คู่ควรจะเข้าร่วมสำนัก จึงคิดที่จะจากไปเอง.”

เห็นท่าทางห่อเหี่ยว หลี่ชิงหยางที่ก้าวตามและกล่าวปลอบ “นายน้อยเซียว ท่านเคยเป็นคนที่มีพรสวรรค์ที่พันปีจะมีสักคน ขอเพียงอยู่สำนักไท่กู่เจิ้ง แน่นอนว่าหากได้การชี้แนะจากเจ้าสำนักจะต้องได้ทุกอย่างคืนกลับมาอย่างแน่นอน!”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด