ตอนที่แล้วChapter 253 ตะกละ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 255 ชีวิตเจ้าสำนักช่างลำบาก

Chapter 254 กลายเป็นขี้ขลาดในเวลาไม่ถึงนาที


ฮั่วหลงที่กินจุอย่างมาก วันหนึ่งกินเนื้อไปหลายร้อยจิน นอกจากนี้ยังกินมากขึ้นและก็มากขึ้น จนทำให้ศิษย์ของสำนักไท่กู่เจิ้งแทบไม่ได้กินเนื้อเลย.

ไม่ใช่ว่าจุนซ่างเซียวไม่สามารถจัดหาได้ ทว่ากับการกินเช่นนี้ เนื้อที่ซื้อมาจากในเมืองใกล้ ๆ ไม่สามารถที่จะจัดเตรียมให้ได้แล้ว.

ทว่าให้เดินทางไปซื้อเนื้อในเมืองอื่นอย่างงั้นรึ?

ตอนนี้เขาต้องบ่มเพาะ การให้เดินทางไปยังเมืองหลาย ๆเมือง ไม่ใช่เป็นการเสียเวลาหรอกรึ? และเส้นทางระหว่างเมืองยังห่างกันค่อนข้างไกลด้วย.

ส่งศิษย์ออกไปซื้อรึ?

ไม่ได้การ ด้วยจำนวนที่เสี่ยวหลงกินนั้น ต้องใช้แหวนเก็บของจำนวนมาก.

“เทือกเขาไท่กู่เจิ้งค่อนข้างใหญ่ มีนกและสัตว์มากมาย มันควรจะออกล่าเพื่อเติมเต็มท้องของมันเอง.”

จุนซ่างเซียวกล่าวเสียงเบา.

การหาอาหารด้วยตัวเอง แน่นอนว่าเป็นเรื่องทั่วไปเป็นอย่างมาก เพียงแค่ส่งมันเข้าไปในป่า ก็มีอาหารมากมายก่ายกองให้กินแล้ว.

ระบบเอ่ย “มังกรเพลิงเพิ่งเกิด ความแข็งแกร่งยังอ่อนแอ หากพบกับสัตว์ร้ายระดับสูง เกรงว่ามันจะสู้ไม่ได้.”

จุนซ่างเซียวที่มุมปากกระตุกเอ่ยออกมาว่า “เพลิงที่มันปล่อยออกมานั้น ทำให้เซียวโม่สลบได้เลย ยังอ่อนแออีกรึ?”

ระบบเอ่ย “ศิษย์ของโฮสน์รู้ว่า นั่นคือสัตว์พันธะสัญญาของเจ้า ข้อแรกจึงไม่ได้ป้องกัน ข้อที่สอง พวกเขาเองไม่ได้ต้องการทำร้ายมัน ไม่เช่นนั้นจะถูกจัดการได้ง่าย ๆ ได้อย่างไร”

กล่าวเช่นนั้นก็ไม่ผิด.

ซู่เซียวโม่ เถียนซีและอีกหลายคนมีพลังไม่ได้ด้อยกว่าระดับอาจารย์ยุทธ์เลย แน่นอนควรจะสามารถจัดการมังกรเพลิงได้ง่าย ๆ.

พวกเขารู้ว่ามันเป็นสัตว์พันธะสัญญาของเจ้าสำนัก แม้นว่าจะถูกแย่งอาหารก็ยังไว้หน้าเขาอยู่.

กล่าวได้ว่า จะตีหมาจะต้องดูเจ้าของด้วย.

จุนซ่างเซียวเอ่ย “เจ้าหมายความว่า จะให้เสี่ยวหลงกินอยู่ในสำนักต่อไปรึ?”

ระบบเอ่ย “เจ้าต้องเลี้ยงดูก่อน รอให้ความแข็งแกร่งมันเพิ่มขึ้น มีพลังที่จะปกป้องตัวเอง จากนั้นค่อยส่งมันลงเขา ออกไปล่า.”

จุนซ่างเซียวที่เงียบไปชั่วคราวและเอ่ยออกมา “ก็ดี.”

การให้เจ้าตัวน้อยลงเขาเพียงคนเดียว ถึงจะเป็นเทือกเขาไท่กู่ ก็ไม่ทำให้เขารู้สึกวางใจได้อยู่ดี การซื้อเนื้อสัตว์สักหลายหมื่นจินมาสำรองไว้ก็ไม่ใช่เรื่องที่แย่.

ไม่ใช่สิ.

ไปยังหุบเขาแห่งความตาย ล่าสัตว์ร้ายขนาดใหญ่มาเก็บก็ได้.

“เจ้าสำนัก!”

ในเวลานั้นซูเซียวโม่ที่วิ่งเข้ามาด้วยท่าทางกระหืดกระหอบ ไม่รู้ว่ากำลังตื่นเต้นหรือเศร้าใจ “เสี่ยวหลงถูกศิษย์พี่หญิงใหญ่แช่แข็งไปแล้ว!”

“อะไรนะ?”

จุนซ่างเซียวที่เร่งรีบออกจากห้องโถงทันที.

เห็นแค่เพียงที่ลานยุทธ์ ลู่เชียนเชียนที่ใบหน้าเย็นชา มือของนางที่แผ่ไอเย็นฟุ้งกระจายไปทั่ว.

แม้แต่ศิษย์หลากหลายคนที่ยืนอยู่รอบ ๆ เพราะอากาศที่ลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ร่างกายทุกคนกำลังหนาวสั่นกันอยู่.

บนลานยุทธ์นั้นยังมีรูปปั้นขนาดเล็กอยู่ เป็นเสี่ยวหลงที่ถูกแช่แข็ง แขนขาทั้งสี่กำลังตะกายหนี.

“เกิดอะไรขึ้นรึ?”จุนซ่างเซียวเอ่ย.

ซูเซียวโม่เอ่ย “ศิษย์พี่หญิงใหญ่ไปกินอาหารปรกติ เสี่ยวหลงแย่งเนื้อนาง เลยกลายเป็นเช่นนี้.”

จุนซ่างเซียวถึงกับพูดไม่ออก “ให้ตายเถอะ.”

เจ้าตัวน้อยใจกล้าจริง ๆ กล้าแย่งชิงเนื้อจากธิดาน้ำแข็งอย่างคาดไม่ถึง การถูกแช่แข็งก็เป็นผลกรรมของมันแล้ว.

“แก๊ก แก๊ก แก๊ก!”

วินาทีต่อมา ผลึกที่คลายตัว น้ำแข็งหลุดร่อน เจ้าตัวเล็กที่นอนคว่ำ ร่างกายที่ชักกระตุกเป็นระยะ.

“กึก กึก.”

เช้าวันถัดมา เจ้าตัวน้อยที่นอนบนไหล่ของเจ้านายมัน ขณะจามออกมาเป็นระยะ.

มังกรเพลิงที่ถูกแช่แข็ง เห็นชัดเจนว่าธาตุเพลิงพ่ายแพ้ธาตุน้ำแข็งอย่างสิ้นเชิง มันถูกสั่งสอนอย่างรุนแรงจากศิษย์พี่หญิงใหญ่.

จุนซ่างเซียวส่ายหน้าไปมา “ในสำนัก จะหาเรื่องใครก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่สตรีผู้นี้.”

“จี้ จี้!”

เสี่ยวหลงที่กำลังประท้วง.

เฮ้.

สัตว์พันธะสัญญาข้านี่มันช่าง....

“ฟิ้ว!”

พริบตานั้น เจ้าตัวเล็กที่มุดเข้าในเสื้อเผยท่าทางตื่นตระหนกออกมา.

ทำไมนะรึ?

เพราะว่าลู่เชียนเชียนที่ก้าวมาจากลานด้านในแล้ว.

กำลังพูดถึงคน คนก็มาในทันที.

“เจ้าสำนัก.”

ลู่เชียนเชียนเอ่ย “สัตว์พันธะสัญญาของท่าน แย่งชิงอาหารของเหล่าศิษย์น้อง ไม่คิดจะจัดการอะไรเลยอย่างงั้นรึ?”

เหล่าศิษย์ที่กำลังฝึกฝนอยู่รอบ ๆ ลานยุทธ์ ได้ยินคำพูดของศิษย์พี่หญิงใหญ่ก็รู้สึกเศร้าอัดอั้นขึ้นมา คล้ายจะร้องไห้.

แม้แต่หลิวหว่านซี่ที่เป็นคนทำอาหาร นางที่ต้องกินอาหารจานผักมาหลายวัน หลายวันมานี้ทำให้นางอารมณ์ไม่ดีขึ้นมาเหมือนกัน.

“เปิ่นจั้วกำลังคิดถึงปัญหานี้อยู่.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “เอาล่ะ ข้าจะส่งคนไปยังเมืองชิงหยาง ซื้อเนื้อของสัตว์ร้ายกลับมาให้มากพอ ให้ทุกคนได้กิน ได้ดื่มซุปอย่างพอเพียง.”

ศิษย์มากมายที่เผยความตื่นเต้นดีใจ.

ซือหม่าจงต้าที่ขันอาสาทันที เขาเอ่ยออกมาว่า “เจ้าสำนัก ข้าเคยขายเนื้อมาก่อน ข้ารู้ถึงราคาดี ยินดีที่จะไปซื้อเนื้อที่เมืองชิงหยาง!”

“ตกลง.”

จุนซ่างเซียวที่นำแหวนเก็บของ ก่อนที่จะส่งมันออกไปให้กับซือหม่าจงต้า 20 วงพร้อมกับเงิน ให้เขาลงเขาไปซื้อเนื้อ.

ตอนเย็น.

ซือหม่าจงต้าก็กลับมา ในแหวนมิตินั้นมีเนื้อรวมกัน 20,000 จิน.

ถึงจะกินไปวันละ 500 จิน ก็สามารถกินได้ถึงหนึ่งเดือน.

“เนื้อจินล่ะ 10 เหรียญ สองหมื่นจิน ก็เป็นเงิน 200,000 เหรียญ หนึ่งปีเท่ากับ 2.4 ล้านเหรียญ อ๊ากๆ!”

จุนซ่างเซียวที่คร่ำครวญในใจ.

สำนักที่มีคนเพียง 500 คน หนึ่งปีก็ใช้เงินมากขนาดนี้ หากว่าเพิ่มขึ้นอีกจะยังสามารถสนับสนุนสำนักต่อไปได้อีกหรือไม่?!

“เจ้าสำนัก.”

ลี่ลั่วฉิวที่ก้าวมาจากด้านนอก เอ่ยออกมาว่า “ที่เมืองฮู่หยางนั้นมีข่าวส่งมา ประมุขอ้ายกำลังเดินทางไปยังมนทลหลิงหยาง ดินแดนระดับแปด เพื่อประมูลเม็ดยา.”

จุนซ่างเซียวที่ตื่นตกใจ “ไม่ประมูลที่มนทลชิงหยางอีกแล้วรึ?”

ลี่ลั่วฉิวเอ่ย “ข้าได้ยินข่าวลือมาว่า มนทลหลิงหยางนั้นมีตระกูลใหญ่ที่ใช้เงินจำนวนมหาศาลเชิญตระกูลอ้ายให้ไปประมูลที่นั่น.”

“เจ้าสำนัก.”

หลี่ชิงหยางเอ่ยรายงาน “ประมุขอ้ายขอเข้าพบ.”

ลี่ลั่วฉิวยังรายงานยังไม่จบด้วยซ้ำ อ้ายซางหนี่ก็มาถึง รวดเร็วทันใจ

“เชิญเข้ามาเลย.”

......

อ้ายซางหนี่ที่ก้าวเข้ามาในห้องโถง หลังจากพูดคุยกันเล็กน้อย เขาก็ส่งมอบสมุนไพรและเมล็ดพันธุ์สมุนไพรระดับสูงที่รวบรวมมาได้เร็ว ๆ นี้ออกไป พร้อมกับแจ้งว่าจะเดินทางไปยังมนทลหลิงหยาง.

“ประมุขอ้าย.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “ทำไมต้องการเดินทางไปยังมนทลหลิงหยางล่ะ?”

อ้ายซางหนี่เอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม “มนทลหลิงหยางนั้นมีตระกูลเฉียนที่ยอมจ่ายเงินมหาศาล เพื่อหวังให้ตระกูลอ้ายไปร่วมประมูลยังโรงประมูลยาของพวกเขา.”

ตระกูลเฉียน?

ได้ยินมาว่าร่ำรวยมาก!

อ้ายซางหนี่เอ่ย “อ้ายโหมวและประมุขตระกูลเฉียนนั้นมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน จึงยากจะปฏิเสธคำเชิญนี้ การประมูลครั้งต่อไปจึงย้ายไปจัดที่มนทลหลิงหยาง.”

ดูเหมือนว่าตระกูลเฉียนจะเชิญเข้าร่วมอย่างอบอุ่น ต้องไม่ลืมว่ามนทลชิงหยางนั้นเล็กมาก หากเดินทางไปยังดินแดนระดับแปด แน่นอนว่าจะต้องขายได้ราคาดีแน่.

สำหรับพ่อค้าแล้ว เรื่องกำไรย่อมต้องพิจารณามาก่อน.

หากว่าสามารถขายเม็ดยาฟื้นฟูและเม็ดยาบูรณะร่างกายได้สูงกว่าเดิม การเดินทางไปยังต่างถิ่นก็ไม่ใช่เรื่องยากลำบากอะไร.

“เป็นเช่นนี้นะเอง.”

จุนซ่างเซียวที่ครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนที่จะนำ 20 เม็ดยาฟื้นฟูและ 10 เม็ดยาบูรณะร่างกายออกมา เอ่ยออกมาว่า “มนทลหลิงหยางนั้นอยู่ไกลมาก การจะเดินทางไปแต่ละครั้งนั้นไม่ง่าย ประมุขอ้ายควรจะขายให้ได้มาก ๆ.”

อ้ายซางหนี่ที่รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก.

หากนับรวมกับที่มีอยู่ 70 เม็ดยาฟื้นฟู และ 20 เม็ดยาบูรณะร่างกาย การเดินทางไปยังมนทลหลิงหยางจะต้องได้รับผลกำไรเป็นกอบเป็นกำกลับมาอย่างแน่นอน.

หลังจากพูดคุยกันอีกชั่วขณะ ประมุขอ้ายก็กล่าวลา.

หลังจากที่จุนซ่างเซียวออกไปส่งประมุขอ้ายแล้ว เขาที่กล่าวเสียงเบา “ข้ากำลังขาดเงินอยู่ หวังว่าประมุขอ้ายคงจะนำเงินกลับมาจากมนทลหลิงหยางมากมาย.”

“ปับ.”

เขาปรบมือเสียงดัง เอ่ยออกมาว่า “เนื้อก็มีมากพอแล้ว คงจะบ่มเพาะได้อย่างหายห่วง.”

อย่างไรก็ตาม เกิดเรื่องที่น่าตื่นตกใจ เช้าวันถัดมา เสี่ยวหลงที่กินอาหารน้อยลงมาก เหลือเพียง 2-3 จินเท่านั้น ท่าทางยังสงบเสงี่ยมเป็นอย่างมาก.

ป่วยเพราะถูกแช่แข็งมาอย่างงั้นรึ?

หลังจากนั้นไม่กี่วัน เจ้าตัวน้อยก็เอาแต่นอนหลับอยู่ในห้องหนังสือ แทบจะไม่ออกไปใหน.

จุนซ่างเซียวที่เผยท่าทางเป็นกังวล.

ระบบเอ่ย “โฮสน์ไม่จำเป็นต้องกังวล เจ้าตัวน้อย น่าจะเข้าสู่การจำศีลแล้ว.”

จำศีล.

ตอนนี้มันฤดูใบไม้ร่วงนะเว้ยเฮ้ย!

ระบบเอ่ย “สัตว์ร้ายมากมายในทวีปชิงหยุน จะจำศีลได้ไม่เกี่ยวกับฤดูดกาล อย่างเช่นมังกรเพลิงเองก็เช่นกัน.”

“มันไม่ได้ป่วยอย่างงั้นรึ?”

“ไม่.”

“เช่นนั้นก็ดีแล้ว.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “เช่นนั้นการที่มันเข้าสู่สภาวะจำศีลมีประโยชน์อะไร?”

ระบบเอ่ย “สัตว์ร้ายที่ต้องการตระหนักถึงพลังฟ้าดินก็จำเป็นต้องหลับ เพื่อยกระดับความแข็งแกร่ง มันถูกเรียกว่า หลับเพื่อวิวัฒนาการ.”

ได้ยินว่ากำลังเพิ่มความแข็งแกร่ง จุนซ่างเซียวที่ดวงตาเป็นประกาย ราวกับเข้าใจได้ “เสียวหลงกินอาหารไปเป็นจำนวนมาก มันกำลังวิวัฒนาการอย่างงั้นรึ?”

“เอิ่ม....”

ระบบเอ่ย “ตามทฤษฎีควรเป็นเช่นนั้น.”

จุนซ่างเซียวสีมือไปมา กล่าวออกมาว่า “แล้วที่เรียกว่า หลับเพื่อวิวัฒนาการ ต้องใช้เวลาเท่าใด?”

“เร็วสุดก็ 3-5 เดือน ช้าก็ 300-500 ปี.”

300-500 อย่างงั้นรึ?

จุนซ่างเซียวแทบล้มทั้งยืน.

หากว่าเจ้าตัวเล็กใช้เวลานานขนาดนั้น กว่าจะตื่นขึ้นจากการจำศีล ตัวเขาคงระเบิดไปแล้ว ความหวังที่จะให้มันช่วยยกระดับสำนัก กลายเป็นสำนักที่แข็งแกร่งที่สุด สลายหายไปในทันที.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด