ตอนที่แล้วChapter 252 ฮั่วหลง.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 254 กลายเป็นขี้ขลาดในเวลาไม่ถึงนาที

Chapter 253 ตะกละ


หลิวหว่านซี่ที่อุ้มเสี่ยวหลงได้ ทำให้จุนซ่างเซียวประหลาดใจเป็นอย่างมาก.

ตัวเขานั้นไม่ถูกเผา เพราะว่าเจ้าตัวเล็กคือสัตว์พันธะสัญญาของเขา แล้วนางล่ะ?

หลังจากนั้นซูเซียวโม่ก็เข้ามา มันปะทุเปลวเพลิงเผาอีกฝ่ายทันที ทำให้จุนซ่างเซียวเข้าใจในที่สุด เจ้าตัวน้อยไม่ปฏิเสธอิสตรี แต่ผลักไสบุรุษ!

เฮ้อ.

สัตว์พันธะสัญญาของเขานั้นดูเหมือนว่าจะหน้าไม่อายอยู่เหมือนกัน.

“ตู้ตู้.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย “เสี่ยวหลงกำลังหิวอยู่ ทำอะไรอร่อย ๆให้มันกินหน่อย ให้เป็นอาหารประเภทเนื้อนะ.”

“อืม อืม!”

หลิวหว่านซี่ที่สวมชุดกันเปื้อน เริ่มเตรียมอาหารในทันที.

ซูเซียวโม่ที่ถูกเผาโดยเสี่ยวหลง ถูกยกไปยังหอยา รักษาโดยซุนปู่กง.

เรื่องนี้เจ้าสำนักควรจะบอกพวกเราก่อนหรือไม่? ถึงแม้นว่าจะดูเหมือนสัตว์ตัวน้อยไม่มีพิษมีภัย แต่กลับมีอันตรายสูงมาก ไม่สามารถสัมผัสได้.

ขณะรออาหาร จุนซ่างเซียวที่นั่งอยู่บนโต๊ะกับเสี่ยวหลง เขาที่สีคางไปมา “เพิ่งเกิดขึ้นมา เปลวเพลิงกับแข็งแกร่ง น่าประหลาดใจจริง ๆ.”

“จี่ จี่.”

เสี่ยวหลงที่ร้องออกมาคราหนึ่ง.

มันต้องบอกกับเจ้านายของมันว่า ตัวมันนั้นแข็งแกร่งมาก.

จุนซ่างเซียวที่ยกนิ้วลูบหัวของมันไปมา กล่าวออกมาว่า “หวังว่าเจ้าจะโตเร็ว ๆ หลังจากนี้เปิ่นจัวรอเจ้าเป็นองค์รักษ์อยู่.”

สายตาของมันที่เป็นประกาย ราวกับว่าต้องการทำหน้าที่ดังกล่าวมาก.

หากว่าเจ้าตัวน้อยเติบโตเป็นมังกรเพลิง มันจะทรงพลังขนาดใหนกัน.

เมื่อถึงเวลานั้น ค่ายกลคุ้มสำนักอาจจะไม่ต้องใช้ เพียงแค่ให้มันยืนอยู่ด้านหน้าประตูก็ไม่มีใครกล้าบุกเข้ามาแล้ว.

“อาหารเสร็จแล้ว!”

เสียงของหลิวหว่านซี่ที่ดังขึ้น.

อาหารหลากหลายจานที่ถูกนำมาวาง อาหารจานเนื้อที่ส่งกลิ่นหอมกรุ่น.

“จี่ จี่!”

กลิ่นหอมฉุย เสี่ยวหลงที่ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตื่นเต้น อดไม่ได้จะกลืนน้ำลายเสียงดัง.

“กินได้.”

จุนซ่างเซียวเอ่ย.

ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!

เสี่ยวหลงที่ไม่เกรงใจ กินอาหารอย่างรวดเร็ว ปากน้อย ๆของมันที่กัดเคี้ยวคำแล้วคำเล่า.

เพียงแค่เวลาไม่นาน อาหารทั้งหมดก็เกลี้ยงไปอย่างรวดเร็ว.

จุนซ่างเซียวและหลิวหว่านซี่ที่ดวงตาเบิกกว้าง.

บัดซบ!

ตัวเล็กเท่ากับฝ่ามือ คาดไม่ถึงว่าจะกินอาหารไปแปดจาน นี่มันกินจุไปแล้ว!

“จี่ จี่!”

เสี่ยวหลงที่วิ่งวนจานเปล่า คลายกับบอกว่า อาหารหมดแล้ว!

จุนซ่างเซียวที่มุมปากกระตุก เอ่ยออกมาว่า “ตู้ตู้ ทำอาหารมาอีกชุด.”

“ได้!”

หลิวหว่านซี่ที่กลับเข้าครัวอีกครั้ง.

จากนั้นไม่นาน เสี่ยวหลงก็กินอิ่มในที่สุด มันนอนท้องป่องแบนราบอยู่บนพื้นโต๊ะ.

ใบหน้าของจุนซ่างเซียวที่ราวกับเห็นผี เจ้าตัวเล็กนี้ ฟาดอาหารไปสามสิบกว่าจาน จานที่กองพูนตั้งสูงอยู่ข้าง ๆ.

“เจ้าสำนัก.”

หลิวหว่านซี่เอ่ยอย่างงงวย “เสียวหลงกินเก่งมากเลย!”

มันเกินกว่าคำว่ากินเก่งแล้ว ต้องเลือกว่าเขมือบ!

อาหารกว่าสามสิบจาน หากเปลี่ยนเป็นศิษย์สำนักทู่เจิ้งที่กินจุ ต้องใช้จำนวนสิบคนถึงจะกินได้ขนาดนี้.

เห็นเจ้าตัวเล็กขนาดเท่าฝ่ามือ กินไปมากมายขนาดนี้ มันเอาอาหารไปยัดอยู่ตรงใหนกัน!

จุนซ่างเซียวที่เก็บความตกใจเอาไว้ กล่าวออกมาว่า “เจ้าตัวเล็กเพิ่งเกิด คงจะกินจุอย่างนี้ล่ะ.”

ในตอนเย็น ขณะศิษย์คนอื่น ๆมากินอาหาร.

ศิษย์คนอื่น ๆ ที่ก้าวมาในโรงอาหาร ขณะหยิบตะเกียบ จ้องมองไปยังโต๊ะเจ้าสำนัก ใบหน้าของทุกคนที่แข็งค้าง แววตาตื่นตกใจอย่างหนัก.

“เอิ๊ก!!”

ในเวลานั้น เสียวหลงที่อิ่มจัดเรอออกมาเสียงดัง ร่างกายของมันที่ยังคงนอนบนโต๊ะ ดวงตาหรี่เล็ก เผยความพึงพอใจเป็นอย่างมาก.

มุมปากของเจ้าสำนักถึงกับกระตุกอย่างรุนแรง.

เพราะกองจานพูนกว่าสามสิบจานที่วางขวางมันอยู่ ทำให้ทุกคนคิดว่าเขาหิวหนักกินอาหารไปกว่าสามสิบจาน.

เช้า กลางวันและเย็นวันถัดมา เหมือนกับตอนเย็นไม่มีผิด เจ้าตัวเล็กยังกินอาหารไปเป็นจำนวนมาก อธิบายได้ว่ามันกินอาหารจุจนน่าตื่นตะลึง.

วันถัดมา.

เสียวหลงที่มากินอาหารได้ด้วยตัวเอง.

มันกินอาหารสามมื้อต่อหนึ่งวัน รวม ๆ แล้วร่วมร้อยจาน นอกจากนี้อาหารแต่ละจานยังเป็นอาหารจานเนื้อที่พูนเต็มจานอีกด้วย!

“อะไรกันเนื้อไม่มี  เหลือแต่น้ำซุปและผัก”

วันที่สาม อาหารเช้า จุนซ่างเซียวที่เวลานี้อาหารของเขามีแต่น้ำซุป.

สิ่งนี้แทบจะไม่มีเนื้อเหลืออยู่ มีแต่ผัก หลายวันมานี้ เขาที่แทบจะได้กินอาหารเจไปแล้ว.

น่าเศร้า เสี่ยวหลงที่ไม่สนใจเขาเลย มันที่กินเนื้อไปจนเกือบหมดเหลือแต่ผักเอาไว้ให้เขา.

จุนซ่างเซียวที่แทบล้มทั้งยืน.

หากว่าศิษย์ของเขากระหายหิวเช่นนี้ทุกคน สงสัยสำนักคงล่มจมอย่างแน่นอน.

“เจ้าสำนัก.”

วันหนึ่ง หลิวหว่านซีที่พูดเสียงสูงเอ่ยออกมาว่า “อาหารในคลังตอนนี้ถูกเสี่ยวหลงกินหมดแล้ว ท่านต้องลงเขาไปซื้อแล้วล่ะ.”

จุนซ่างเซียวหมดคำพูดไปโดยปริยาย.

ตั้งแต่กลับมาจากหุบเขาแห่งความตาย เขาได้มอบเนื้อมากมายให้กับหลิวหวานซี ที่สามารถกินได้ครึ่งปี ทว่าเพียงไม่กี่วันเสียวหลงกิน ก็หมดแล้ว นี่มันเกินไปหรือไม่!

จุนซ่างเซียวที่รู้สึกวิงเวียนเป็นอย่างมาก.

อาหารมากมาย เพียงไม่กี่วันหมด นี่เพิ่งจะเกิดเท่านั้น หากว่ามันโตกว่านี้จะกินมากขนาดใหนกัน.

หากกินมากแล้วโตอย่างรวดเร็ว เจ้าสำนักจุนก็ยังพอทำใจได้.

แต่กินมากมาย แล้วไม่โต นี้มันบัดซบมาก!

......

ศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งยังคงเก็บตัวฝึกฝนอย่างขะมักเขม้น.

หลี่ชิงหยางและคนอื่น ๆ ที่เข้าใช้งานหอเก็บประสบการณ์ทุกวัน ไม่กล้าเกียจคร้านแม้แต่น้อย.

แต่เจ้าสำนักจุนที่ลงเขาเข้าไปในเมืองอยู่เป็นระยะ ๆ .

ทำไมนะรึ?

แน่นอนว่าซื้อเนื้อมาทำอาหารให้กับเสี่ยวหลง.

ขณะเขาเดินทางไปถึงเมือง เหล่าเจ้าของร้านขายเนื้อมารุมล้อมเขา ทั้งเนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อแพะ แม้แต่เนื้อสัตว์ร้าย ที่ถูกเจ้าสำนักไท่กู่เจิ้งเหมาหมด.

“เจ้าสำนักไท่กู่เจิ้ง ลงเขามาซื้อเนื้อเองเลย นี่เขาซื้อไปให้ศิษย์ของเขากินอย่างงั้นรึ?”

“ซื้อครั้งล่ะ 2,000-3,000 จิน ไม่กี่วันก็หมด สงสัยเสริมเพิ่มพลังให้ศิษย์อย่างเต็มที่เลยรึ?”

“มีอาหารมากมายขนาดนี้ ศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งคงจะมีความสุขแน่นอน.

จุนซ่างเซียวที่มาซื้อเนื้อเป็นประจำ เขาไม่รู้เลยว่าคนอื่น ๆได้นำเรื่องของเขาไปพูดคุยยกยอเขาเป็นอย่างมาก.

หากศิษย์ของสำนักไท่กู่เจิ้งได้ยิน คนเหล่านี้พูดคุยกัน คงต้องปาดน้ำตาอย่างแน่นอน.

เนื้อพวกเขาแทบไม่ได้กิน ถูกเสี่ยวหลงกินไปหมด.

นอกจากนี้ หลายครั้งที่พวกเขากำลังกินอาหารอยู่ ขณะคีบเนื้อขึ้นมา..... เนื้อหาย!! ถูกเจ้าตัวเล็กขโมยไปแล้ว.

หลายวันมานี้พวกเขาไม่ได้กินเนื้อเลย แทบจะลืมรสชาติเนื้อไปแล้ว!

......

ช่วงเวลาอาหารที่ทุกข์ทรมาน.

ซูเซียวโม่ที่แอบเข้ามาในครัว.

เขาที่ยืนจานออกไป กล่าวเสียงเบา “ตู้ตู้ ทำอาหารให้ข้าหน่อย ข้าจะไปกินที่หลังเขา.”

อย่างไรก็ตาม ลี่เฟยและเถียนซีที่ได้ยิน สองสามวันมานี้พวกเขาไม่ได้กินเนื้อเลย รู้สึกหิวกระหายเป็นอย่างมาก.

“ทำให้กับข้าด้วย!”คนทั้งสองที่กล่าวเสียงเบา.

ในเวลานี้ เพราะว่าการมีอยู่ของเสี่ยวหลง ทำให้ศิษย์สำนักไท่กู่เจิ้งกินอาหารอย่างยากลำบาก ทุกคนที่เต็มไปด้วยความระมัดระวังเป็นอย่างมาก.

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะใช้วิธีอะไรก็แทบไร้ประโยชน์.

เจ้าตัวเล็กราวกับรับรู้สัมผัสได้ถึงอาหารของหลิวหว่านซี่ได้.

มันเห็นกลุ่มของซูเซียวโม่ที่นำอาหารไปกินที่หลังเขาอย่างระมัดระวัง ขณะที่ทุกคนนั่งลงบนหิน จัดแจงอาหารเตรียมกิน เสียวหลงก็ปรากฏตัวขึ้น.

อ๊าก!

อาหารของข้า!

เคร้ง เคร้ง เคร้ง!

กลุ่มของซูเซียวโม่ที่ชักกระบี่หานเฟิงออกมา พร้อมกับปกป้องชามข้าว ส่งสายตาข่มขู่ออกมา.

เสี่ยวหลงเห็นทั้งสามขัดขืน ก็พ่นเปลวพพลิงขนาด 2-3 เมตรออกมาข่มขู่.

จากนั้น อุณหภูมิรอบ ๆที่สูงขึ้นในทันที ทำให้ทุกคนต้องเก็บกระบี่และนั่งกินอาหารต่อ.

“ศิษย์พี่ ดูบะหมี่นี้สิ ไม่เลวนะ ลองชิมดู.”

“ถั่วผัดก็อร่อยเหมือนกัน.”

“ดูผักทอดที่ตู้ตู้ทำอร่อยกว่าอาหารจานเนื้ออีก!”

“ดูเหมือนว่าคงต้องกินเจบ้างแล้ว !”

กลุ่มของซูเซียวโม่ที่คีบผักขึ้นมา พร้อมกับกินด้วยความอร่อย.

ฟิ้ว!

เสี่ยวหลงที่เก็บเปลวเพลิง ก่อนที่จะแย่งเนื้อในอาหารของทุกคนไปหมด แลบลิ้นตวัดเย้ย เช็ดน้ำมันออกจากปาก ก่อนจากไป.

เห็นเจ้าตัวน้อยกินเนื้อเหลือแต่ผักไว้ให้ พวกเขาที่คีบผักกินกับข้าวเปล่า พร้อมกับปาดน้ำตาด้วยความเจ็บปวด.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด