ตอนที่แล้วตอนที่ 18 ศาลาคัมภีร์ยุทธจินกู
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 20 สมาชิกการขนส่งทางอากาศ

ตอนที่ 19 ช่องทางขนส่งใต้ดิน


ตอนที่ 19 ช่องทางขนส่งใต้ดิน                          

 

ในท้ายที่สุดเย่ชู เลือกกายาเหล็กที่ค่อนข้างธรรมดา

เหตุผลแรกที่เขาเลือกอันนี้ก็เพราะมันใช้พลังงานน้อยกว่า

 

ใช้แค่ไม่กี่หมื่นก็อัพเกรดเป็นระดับสูงสุดได้

 

 

 

นอกจากนี้ พื้นฐานของการเรียนรู้ร่างกายวัชระของจงอี้ยังอิงมาจากกายาเหล็ก

 

นอกจากนี้ยังมีวิชานาคคชสารปัญญาบารมีอีกด้วย 

 

เย่ชูมีสกิวเพิ่มความแข็งแกร่ง

 

หากรวมกับวิชานาคคชสารปัญญาบารมีพลังจะเพิ่มขึ้นถึงระดับที่น่าสะพรึงกลัว

 

ตามบันทึกของระบบ วิชานาคคชสารปัญญาบารมีแบ่งออกเป็น 13 ขั้น  (แปลเรื่องไหนก็เจอแต่ไอวิชานี้)

 

แต่ละขั้นของวิชานาคคชสารปัญญาบารมี มีพลังเท่ากับ มังกรหนึ่งตัวและช้างหนึ่งตัว หลังจากไปถึงระดับที่ 10 จะมีพลังเทียบเท่ากับมังกร 10 ตัวและช้าง 10 ตัว การเคลื่อนไหวแต่ละครั้งทรงพลังมหาศาล

 

นอกจากนี้ยังมีวิชายุทธระดับสูงต่างๆ

 

สำหรับวิชาดาบ วิชากระบี่ เย่ชู ไม่ได้มองพวกมันเลย

 

กระสุนมีประสิทธิภาพมากกว่าการฟันด้วยดาบ

 

ต่อมาเย่ชูพิจารณาเรื่องราคาขายของวิชายุทธเหล่านี้

 

กายาเหล็กที่เย่ชูต้องการเรียนรู้ตอนนี้ต้องใช้พลังงานแค่สองพัน

 

สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร และวิชาระดับสูงอื่น ต้องใช้พลังงานเกินแสนเพื่อแค่เรียนรู้

 

หากเย่ชูต้องการเรียนรู้วิชาเหล่านี้ เขาสามารถเรียนรู้ได้ตามต้องการ แต่ถ้าเขาไม่สามารถฝึกฝนจนถึงระดับสูงสุดได้ มันจะไม่เกิดประโยชน์อะไร

 

อันที่จริงแล้ว สิ่งที่เย่ชูไม่รู้ก็คือ

 

ปัจจุบันซอมบี้ระดับสูง อาวุธร้อนพื้นฐานบางชนิดไม่มีผลกับซอมบี้เหล่านั้น

 

อาวุธทำลายล้างสูง เช่น ระเบิดนิวเคลียร์

 

รังสีนิวเคลียร์ไม่เพียงแต่ล้มเหลวในการฆ่าซอมบี้เท่านั้น แต่ยังทำให้พวกมันเกิดการกลายพันธุ์ที่น่ากลัวยิ่งขึ้นไปอีก

 

การพัฒนาของโลกในปัจจุบันต้องพึ่งพาผู้วิวัฒนาการเท่านั้น

 

เว้นแต่การแทรกแซงของเย่ชู ซึ่งอนุญาตให้คนทั่วไป ใช้อาวุธของคลังแสง CF

 

ยิ่งไปกว่านั้นเย่ชู ยังสามารถเสริมพลังให้กับอาวุธได้อีกด้วย

 

อัตราการยิงที่เพิ่มขึ้นสามารถสร้างความเสียหายอย่างน่ากลัวให้กับซอมบี้ระดับสูงได้

 

อีกอย่างคือวิชายุทธเหล่านี้

 

การใช้อาวุธเย็นควบคู่ไปกับการผสมผสานวิชายุทธนั้นน่ากลัวกว่าอาวุธร้อนธรรมดา

 

บางที ยุคแห่งสงครามอันทรงพลังกำลังมาถึง

 

บุคคลที่เป็นผู้นำในยุคนี้คือเย่ชู

 

นี่เป็นโอกาสอันดีสำหรับคนธรรมดาที่จะลุกขึ้นยืน

 

หลังจากออกจากศาลาคัมภีร์ยุทธจินกู เย่ชูวางแผนที่จะเริ่มต้นธุรกิจจัดส่งด่วนของตัวเอง

 

ปัจจุบันเย่ชูมีสองทิศทาง

 

หนึ่ง ใช้สกิวฝึกฝนสัตว์เพื่อทำให้สัตว์กลายพันธุ์เชื่องและให้พวกมันขนส่งทางอากาศ

 

แต่สิ่งนี้มาพร้อมกับความเสี่ยงบางประการ

 

เย่ชูไม่สามารถรับประกันได้ว่านกกลายพันธุ์ที่เชื่องแล้วจะไม่ถูกกินโดยนกกลายพันธุ์ที่ทรงพลังตัวอื่น

 

สองเย่ชูวางแผนที่จะสร้างอาณาจักรใต้ดินขนาดใหญ่

 

ทางใต้ดินลึกหลายร้อยเมตร เย่ชูขุดทางเดินที่ขยายออกไปทุกทิศทาง

 

สิ่งนี้ทำให้มั่นใจในความปลอดภัยของการขนส่งสินค้า

 

แต่ข้อเสียเพียงอย่างเดียวคือเย่ชูกังวลเกี่ยวกับการถูกค้นพบที่ทางเข้าออกและตามทางเพื่อมาเจอที่นี่

 

หลังจากคิดเรื่องนี้แล้วเย่ชูก็มีความคิด

 

นั่นคือการวางทางเข้าในเขตเมืองซึ่งมีซอมบี้อาศัยอยู่หนาแน่นที่สุด

 

จากนั้นแม้ว่าจะมีใครก็ตามมาตามทาง พวกเขาจะถูกซอมบี้โจมตี

 

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อสกิวควบคุมดินเพิ่มระดับขึ้น ระยะที่ควบคุมได้ก็จะค่อยๆ เพิ่มขึ้นเช่นกัน

 

หลังจากที่มาถึงระดับสองขั้นต่ำ เขาก็สามารถควบดินภายในระยะ 200 เมตรได้

 

ภายในระยะสองร้อยเมตร เย่ชูสามารถควบคุมได้ทั้งหมดและเปลี่ยนให้เป็นรูปแบบใดก็ได้

 

เย่ชูมองไปที่ทิศทางหนึ่ง จากนั้นวางแผนที่จะเปิดทางตรงไปยังฐานหมิงหยวน

 

ทันทีที่ความคิดเกิดขึ้น ทางเดินยาว 200 เมตรก็ปรากฏขึ้น

 

ทางเดินสูง 1 เมตร กว้าง 1 เมตร ถึงมีคนเข้ามาก็ต้องก้มลงซึ่งไม่สะดวก

 

แต่ถ้าใช้เพื่อการขนส่งก็เกินพอ

 

ในช่วงเช้าเย่ชู ก็ได้เปิดทางไปยังฐานหมิงหยวน        

 

หลังจากดูเวลาแล้วเย่ชู ก็ตรงไปที่พื้นและเข้าไปในฐานหมิงหยวน

 

“เฮ้! ฉันกินด้วยสิ!” การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของเย่ชู ทำให้เสี่ยวผิงอันหวาดกลัว

 

การปรากฏตัวได้ทุกที่ทุกเวลาทำให้ใจเขาไม่อยู่กับตัวเลย

 

ใครจะไปหรู้ว่าเย่ชูจะมาแทงคุณเตอนหลับหรือไม่

 

“ดูเหมือนว่าการลอบโจมตีฐานเสินฟู่จะประสบความสำเร็จใช่ไหม?” เย่ชูยิ้มเล็กน้อย ดูเป็นการแสดงความยินดี

 

แต่เขากลับเยาะเย้ยอยู่ข้างใน

 

หากไม่มีอะไรเกิดขึ้นเหมิงหูและภรรยาของเขาคงจะแอบโจมตีฐานหมิงหยวนในวันนั้น

 

“ไม่ เกิดเรื่องโชคร้ายขึ้น!” เสี่ยวผิงอันตบโต๊ะ

 

“วันนั้นเมื่อเราโจมตีฐานเสิ่นฟู่ ผู้นำของฐานเสิ่นฟู่ จาง เตียวหลินก็กลับมาก่อนที่จะประสบความสำเร็จ ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อฉันกลับมา ฉันพบว่าฐานของเราถูกครอบครองโดยเหมิงหูและภรรยาของมัน พวกมันมาลอบโจมตีเรา ไอ้สารเลว ถ้าฉันเจอมันอีก ฉันจะเอาชีวิตมันให้ได้!”

 

“อย่ากังวล อย่ากังวล!” เย่ชูนั่งลงด้วยสีหน้าไม่แยแส จากนั้นหยิบตะเกียบขึ้นมาและเริ่มกิน

 

หลังจากขุดอุโมงค์มาทั้งเช้าเขาก็หิวมาก

 

“หากปราศจากการแทรกแซงของฐานทัพฉางอัน นายก็ยืนอยู่บนยอด ตอนนี้ก็ดีแล้วไม่ใช้เหรอ?”

 

“ฉันแค่เสียใจ มันรู้สึกแย่!” เสี่ยวผิงอันกล่าวอย่างโกรธเคือง

 

“งั้น ฉันจะขายอาวุธอีกชุดให้นายและนายจะกำหนดเป้าหมายไปที่เขตที่ใกล้ที่สุด หลังจากการต่อสู้ครั้งนี้ พวกเขาคงเข้าสู่ช่วงพัก นายควรปรับปรุงความแข็งแกร่งของนายโดยเร็วที่สุด เพราะฉันกังวลว่าผู้คนจากฐานทัพฉางอันจะกลับมาอีกครั้งในเร็วๆ นี้!” เย่ชูกล่าวและหยุดเคี้ยว

 

เขายังมีไวรัสเหลืออีกแปดหลอดอยู่ในมือ พวกเขาจะไม่ยอมแพ้แน่นอน

 

"เมื่อถึงเวลานั้น คุณแข็งแกร่งขึ้น ผู้คนจากฐานทัพฉางอันจะเลือกช่วยคุณ!"

 

เสี่ยวผิงอันพยักหน้าเห็นด้วย แต่แล้วก็พูดอย่างเชื่องช้า

"ช่วงนี้ฉันไม่ค่อยมีนิวเคลียสมากนัก!"

 

“นั่นคือเหตุผลที่ฉันขอให้คุณกำหนดเป้าหมายไปยังเขตที่ใกล้ที่สุด!” เย่ชูเยาะเย้ย

 

ถ้าคุณไม่มีเงิน คุณเป็นหมา ไม่ใช้พระเจ้า

 

หลังจากกินและดื่มแล้ว เย่ชูก็กลับเข้าไปในอุโมงค์

 

ระหว่างทาง จู่ๆเย่ชู ก็พบปัญหา

 

ตอนนี้ทางเดินเปิดแล้ว แต่วิธีการขนส่งล่ะ?

 

เมื่อคิดได้ เย่ชูก็ขยายเส้นทางเพื่อรองรับรถยนต์

 

ในเมืองมีรถที่ถูกทิ้งร้างมากมาย จึงมีเพียงไม่กี่คันที่สามารถซ่อมแซมได้

 

ทางที่เขาสร้างมันเป็นทางตรง

 

แค่เหยียบคันเร่ง รถไม่มีคนขับก็ไปได้ ปล่อยให้พวกเขาขนของเส็จ จากนั้นจึงขับรถกลับ

 

นี่เป็นความคิดที่ดี

 

อย่างไรก็ตาม การคมนาคมใต้ดินนั้นจำกัดอยู่เพียงพื้นที่เล็กๆ เท่านั้น

 

หากต้องส่งสินค้าทางไกลจะต้องจัดส่งทางอากาศเท่านั้น                                                          

 

หลังจากกลับมา เย่ชูก็เริ่มจับสัตว์กลายพันธุ์     

 

หลังจากไวรัสระบาด ความสามารถในการบินของนกก็เพิ่มขึ้นอย่างมากและก้าวร้าวขึ้น

 

หนึ่งหรือสองตัวไม่สามารถทำให้เย่ชูพอใจได้

 

สิ่งที่เย่ชู ต้องการคือกลุ่มขนส่งทางอากาศขนาดใหญ่

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด