ตอนที่แล้วบทที่ 46: เผชิญหน้าสัตว์อสูร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 48 : สำแดงพลังวิชากระบี่เจ็ดสังหาร!

บทที่ 47 : การต่อสู้อันดุเดือดกับหมาป่าทมิฬขั้นสาม


บทที่ 47 : การต่อสู้อันดุเดือดกับหมาป่าทมิฬขั้นสาม

ทันทีที่เสียงคำรามของสัตว์อสูรร้ายดังขึ้น ร่างสีดำขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นราวกับลมกระโชกที่ปลายอีกด้านของประตู สายตาดิบเถื่อนกระหายเลือดของมันสั่นไหวในขณะมองดูกลุ่มชายสามคน

มันเป็นหมาป่าสีดำที่มีดวงตาสีแดงเลือดแวววาว ปากที่อ้าค้างเผยให้เห็นฟันเขี้ยวอันแหลมคม และแขนขาอันทรงพลังของมันก็ชวนให้ผู้พบเห็นต่างสั่นไหว

มันแตกต่างจากสัตว์อสูรในหอคอยหมื่นปรากฏการณ์ หมาป่าทมิฬที่อยู่อีกด้านหนึ่งของประตูนั้นเป็นสัตว์อสูรของแท้ เมื่อมองจากระยะไกล พวกเขาก็สามารถสัมผัสได้ถึงความกระหายเลือดของมัน

ในสายตาของมัน ลู่หยุนและสหายของเขาก็เป็นเพียงของกินเล่นอย่างไม่ต้องสงสัย

หรือบางที เพื่อให้แม่นยำกว่านั้น หากจะกล่าวว่าสัตว์อสูรเกือบทั้งหมดถือว่ามนุษย์เป็นอาหาร สิ่งนี้ก็คงจะไม่ผิด

“หัวหน้าหวัง ท่านกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่าหัวหน้ากลุ่มหมาป่าทมิฬได้เลี้ยงสัตว์อสูรหมาป่าทมิฬไว้ใช่ไหม? นี่ใช่เจ้านั่นที่ท่านเคยพูดถึงรึเปล่า?” ลู่หยุนตรวจสอบหมาป่าทมิฬแล้วถามหัวหน้าหวังที่อยู่ข้างๆ เขา

“ข้าเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ถ้าไม่มีอุบัติเหตุใดๆ มันก็คงจะเป็นเช่นนั้น” หัวหน้าหวังชักกระบี่ออกมาจากฝักและระเบิดออร่าพลังปราณทั้งหมดออกมา

เขาสามารถสัมผัสถึงออร่าอันทรงพลังและอันตรายที่เล็ดลอดออกมาจากตัวหมาป่าทมิฬได้ ยิ่งไปกว่านั้น สายตากระหายเลือดของมันก็ยังปลุกเร้าสัญชาตญาณเอาชีวิตรอดของเขาให้ตื่นขึ้น

“เรื่องไม่คาดคิดได้เกิดขึ้นแล้ว ถ้าเดาไม่ผิด กลุ่มหมาป่าทมิฬก็คงจะไม่มีผู้รอดชีวิตหลงเหลืออยู่แล้ว”

เสี่ยวเฉินวางมือขวาลงบนด้ามดาบ เขาจ้องมองผ่านฉากอันโกลาหลวุ่นวายภาย

ข้างในนั้นยุ่งเหยิงไปหมด และแม้จะมองจากระยะไกล แต่เราก็ยังสามารถมองเห็นศพที่ถูกตัดแยกออกเป็นชิ้นๆ และคราบเลือดที่แห้งและเปื้อนกระจัดกระจายอยู่รอบๆ อาคารได้อย่างคลุมเครือ

ทั้งหมดนี้บ่งชี้ว่ากลุ่มหมาป่าทมิฬได้รับความหายนะครั้งใหญ่ และไม่มีแม้แต่คนเดียวที่ยังมีชีวิตรอด

ต้นเหตุที่แท้จริงของภัยพิบัติในครั้งนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากสัตว์อสูรที่ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาทั้งสามคน

“โครกกก!”

หมาป่าทมิฬส่งเสียงร้องคำรามดังอย่างโกรธเคือง กรงเล็บของมันง้างออกและเปล่งประกายแวววาว

ในเวลาเดียวกัน ขณะที่มันส่งเสียงคำราม ออร่าพลังอสูรอันทรงพลังก็แผ่กระจายออกมาและทำให้เกิดพายุฝุ่นขึ้นมาตามหลังก่อนที่มันจะพุ่งตัวออกมาข้างหน้า

“สัตว์อสูรตัวนี้ได้ทะลุผ่านคอขวดและกลายเป็นสัตว์อสูรขั้นสามแล้ว!”

เมื่อเสี่ยวเฉินพูดจบ ร่างอันใหญ่โตของหมาป่าทมิฬก็ได้พุ่งเข้าใส่หัวหน้าหวังแล้ว

“ไม่ดีแล้ว มันกำลังมุ่งเป้ามาที่ข้า!”

หัวหน้าหวังตระหนักได้โดยทันทีว่าหมาป่าทมิฬตัวนี้จ้องจะเล่นงานเขา ราวกับว่ามันสัมผัสได้ว่าเขาอ่อนแอที่สุดในบรรดาเหยื่อทั้งสามคน

ประสาทสัมผัสของสัตว์อสูรนั้นเฉียบคมกว่ามนุษย์มาก และพวกมันก็สามารถพึ่งพาสัญชาตญาณเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายที่ซ่อนอยู่ได้

แท้จริงแล้ว การรับรู้ถึงอันตรายของหมาป่าทมิฬนั้นก็แม่นยำมากจริงๆ เนื่องจากหัวหน้าหวังอ่อนแอกว่าลู่หยุนและเสี่ยวเฉินมาก ดังนั้นมันจึงตัดสินใจที่จะเล่นงานเขาก่อน

แน่นอนว่ามันไม่ได้หวาดกลัวลู่หยุนหรือเสี่ยวเฉิน

แต่กระนั้นเพื่อความไม่ประมาท มันจึงเลือกที่จะโจมตีคนที่อ่อนแอที่สุดก่อน

พรึ่บ!

ในชั่วพริบตา ร่างขนาดมหึมาของอสูรหมาป่าทมิฬก็พุ่งเข้าโจมตีหัวหน้าหวังแล้ว แรงกระแทกอันทรงพลังทำให้หัวหน้าหวังซึ่งเตรียมพร้อมป้องกันมานานแล้วยังต้องถอยร่นไปไกลกว่าสิบเมตร

“อั้ก!”

หัวหน้าหวังกระอักเลือดออกมาเต็มปาก และกล้ามเนื้อแขนของเขาหรือแม้แต่กระดูกทั่วร่างกายของเขาก็สั่นสะท้าน กระบี่ของเขาถูกกระแทกและปลิวลอยหลุดมือไป

นี่เป็นเพียงการปะทะกันครั้งแรกเท่านั้น หากหัวหน้าหวังต้องปะทะกับหมาป่าทมิฬนี้อีกครั้ง ผลลัพธ์ก็จะออกมาชัดเจน

โดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย หัวหน้าหวังก็ตะโกนร้องขอความช่วยเหลือโดยทันที

“นายน้อยช่วยข้าด้วย!”

จริงๆ แล้ว แม้ว่าจะไม่มีคำร้องขอความช่วยเหลือจากหัวหน้าหวัง แต่ลู่หยุนกับเสี่ยวเฉินก็ไม่คิดจะยืนนิ่งรอดูเขากลายเป็นอาหารหมาเช่นกัน

เหตุผลที่พวกเขาไม่ได้ดำเนินการโดยทันทีก็เป็นเพราะพวกเขาไม่ได้คาดคิดว่าอสูรหมาป่าทมิฬจะมุ่งเป้าไปที่หัวหน้าหวังตั้งแต่แรกพบ

ถึงอย่างนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นก็ยังทำให้พวกเขาตกใจมาก

หัวหน้าหวังอยู่ในขอบเขตเส้นลมปราณขั้นปลายแล้ว อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังสูญเสียความสามารถในการต้านทานเมื่อต้องเผชิญหน้ากับอสูรหมาป่าทมิฬ

พลังโจมตีดังกล่าวน่าทึ่งอย่างแท้จริง ลู่หยุนและเสี่ยวเฉินไม่กล้าที่จะดูถูกดูแคลนและรีบไปช่วยเหลือหัวหน้าหวังโดยทันที

โครกกก!

เสียงคำรามของสัตว์อสูรนั้นดังราวกับเสียงฟ้าร้องลั่น ในชั่วพริบตา การโจมตีครั้งที่สองก็ได้พุ่งเป้าตรงไปใส่หัวหน้าหวังแล้ว

“ข้าตายแน่!”

เมื่อเห็นดวงตาที่ดุร้ายของหมาป่าทมิฬ รวมถึงกรงเล็บและฟันที่แหลมคมของมันค่อยๆ ใกล้เข้ามา หัวหน้าหวังก็กลัวจนสิ้นปัญญา ม่านตาของเขาขยายออกด้วยความหวาดกลัว

บู้มมมม!

เสียงของแข็งปะทะกันดังปะทุขึ้น ร่างอันใหญ่โตของหมาป่าทมิฬถูกกระแทกและต้องถอยหลังกลับไปหลายก้าว ลู่หยุนซึ่งเป็นคนแรกที่มาถึงเบื้องหน้าหัวหน้าหวังเองก็ต้องถอยหลังไปหลายก้าวเช่นกัน แขนของเขาจับกระบี่หัวพยัคฆ์ชา เลือดสดพุ่งขึ้นมาจากลำคอของเขา แต่เขาก็ยังสามารถระงับมันเอาไว้ได้

ต้องทราบกันว่าร่างกายของลู่หยุนได้ทะลุขีดจำกัดของผู้ฝึกยุทธ์ธรรมดาๆ ไปถึงสองเท่าแล้ว มันทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้นกว่าผู้ฝึกยุทธ์ในระดับเดียวกันมาก และหลังจากเข้าสู่ขอบเขตเส้นลมปราณ เขาก็ได้ผ่านการปรับแต่งปราณแท้มาแล้วหลายครั้ง และนั่นจึงทำให้ร่างกายของเขาแข็งแกร่งขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ถึงกระนั้น เขาก็ยังเกือบจะได้รับบาดเจ็บจากการเผชิญหน้ากับหมาป่าทมิฬเพียงครั้งเดียว

ใครๆ ก็สามารถจินตนาการได้ว่ามันโชคดีแค่ไหนแล้วที่หัวหน้าหวังไม่ถูกฆ่าตายโดยทันทีก่อนหน้านี้

“ตายซะ!”

หลังจากชะงักไปครู่หนึ่ง แสงดาบของเสี่ยวเฉินก็ส่องกะพริบในขณะที่เขาฟันไปที่หมาป่าทมิฬ

ปราณแท้และปราณดาบอันทรงพลังโจมตีหมาป่าทมิฬและทำให้ร่างกายอันใหญ่โตของมันกระเด็นถอยหลังไปสองสามก้าว

“แข็งแกร่งมาก! แม้ว่าหมาป่าทมิฬตัวนี้จะเพิ่งก้าวเข้าสู่ขั้นสาม แต่ความแข็งแกร่งของมันก็แข็งแกร่งกว่าผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตปราณแท้ขั้นต้นแล้ว!”

เสี่ยวเฉินสะบัดแขนขวาที่สั่นเทาของเขา ในเวลาเดียวกัน เขาก็ได้ใส่ปราณแท้อันทรงพลังลงไปในดาบของเขามากขึ้น สิ่งนี้ทำให้ดาบปล่อยออร่าปราณอ่อนๆ ออกมา

โครกก!

หลังจากป้องกันการโจมตีของเสี่ยวเฉินได้แล้ว หมาป่าทมิฬก็โกรธจัดที่ถูกลอบโจมตี ดวงตาสีแดงเข้มของมันกะพริบด้วยความบ้าคลั่ง และหลังจากส่งเสียงร้องคำรามออกมาแล้ว มันก็พุ่งเข้าหาเสี่ยวเฉินโดยทันที

สัตว์อสูรมีสติปัญญาที่ไม่ได้ด้อยไปกว่ามนุษย์ แต่ตรรกะและความมีเหตุมีผลของพวกมันก็ยังด้อยกว่าของมนุษย์มาก

ด้วยเหตุนี้เอง เมื่อพวกมันโกรธและโมโห ความมีเหตุผลและกลยุทธ์การต่อสู้ก่อนหน้านี้ทั้งหมดก็จะถูกโยนทิ้งไปโดยทันที

“สัตว์อสูรตัวนี้แข็งแกร่งมาก มาสู้มันด้วยกัน!”

ลู่หยุนระงับเลือดที่พุ่งขึ้นมาถึงลำคอของเขา และยังส่งออร่าหยางลงไปยังกระบี่หัวพยัคฆ์ของเขา เขาปล่อยพลังปราณกระบี่อันเฉียบคมออกมา จากนั้นเขาก็ต่อสู้อย่างดุเดือดเคียงบ่าเคียงไหล่กับเสี่ยวเฉิน

หลังจากการต่อสู้อันดุเดือด ทั้งสองก็ถูกร่างกายอันใหญ่โตของหมาป่าทมิฬซัดกระเด็นถอยหลังกลับไปพร้อมกัน ทั้งคู่พ่นเลือดสดออกมาเต็มปาก

สัตว์อสูรขั้นสามนั้นทรงพลังอย่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ การป้องกันที่แข็งแกร่งของมันทำให้การโจมตีของเสี่ยวเฉินและลู่หยุนดูอ่อนแอเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้ มันยังมีพละกำลังที่ดุร้ายและแข็งแกร่ง สิ่งนี้ทำให้ลู่หยุนและเสี่ยวเฉินไม่สามารถทำอะไรมันได้นอกจากหลบการโจมตี การป้องกันนั้นเป็นไปไม่ได้สำหรับพวกเขา

หมาป่าทมิฬเคลื่อนที่ช้าไปเล็กน้อย มันไม่สามารถคว้าโอกาสที่จะโจมตีพวกเขาให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสได้

โครกกก!

หมาป่าทมิฬตัวใหญ่คำรามออกมาด้วยความโกรธ กรงเล็บหนาทั้งสี่ของมันกระแทกลงบนพื้นขณะที่มันพุ่งเข้าหาลู่หยุนกับเสี่ยวเฉินอย่างรวดเร็ว

แสงกระบี่ที่คมชัดปรากฏขึ้นในดวงตาของลู่หยุน จากนั้นก็ตามด้วยเสียงตะโกนของเขา “ข้าจะโจมตีจากด้านหน้า ส่วนท่านโจมตีจากด้านหลัง”

ทันทีที่เขาพูดจบ ลู่หยุนก็กระโดดสูงขึ้นไปบนอากาศ พลังปราณไหลออกมาตามเส้นลมปราณทั้งแปดของเขาและพุ่งลงไปปกคลุมรอบกระบี่หัวพยัคฆ์

กระบี่ยาวหนึ่งเมตรแผ่ออร่าอันทรงพลังออกมา..

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด