ตอนที่แล้วตอนที่ 23 ความลับของ "กระดูกหยก"
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 25 อาการป่วยลึกลับของตระกูลเก๋า

ตอนที่ 24  มาขอความช่วยเหลือจากหมอวู่จิง


ตอนที่ 24  มาขอความช่วยเหลือจากหมอวู่จิง

เช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้นลู่ชางเฉิงได้ขอลาจากอาจารย์วู่จิง จากนั้นจึงมุ่งหน้าไปยังร้านขายยาเพื่อไปซื้อผงวิเศษกระตุ้นเลือด 8 ทิศ

ผู้จ่ายยากล่าวทักทายลู่ชางเฉิงอย่างอบอุ่นเมื่อเขามาถึง

เพราะช่วงนี้ลู่ชางเฉิงได้กลายเป็นลูกค้าประจําร้านของเขาไปแล้ว

ลู่ชางเฉิงจึงพูดตรงๆและถามว่า "เจ้ามีอาหารที่บำรุงกระดูกบ้างไหม?"

"อาหารบำรุงกระดูกงั้นเหรอ?"

“อ้อ แน่สิ ถ้าตามสูตรของบรรพบุรุษของข้า มันถูกเรียกว่า”ผงบำรุงกระดูก 9 ชนิด“ซึ่งมันให้ผลดีมาก แต่ราคานั้น...”

ลู่ชางเฉิงพูดอย่างใจเย็นว่า “ถ้ามันได้ผลดีจริงๆ เรื่องราคาก็ไม่ใช่ปัญหา แต่ข้าคงต้องขอลองก่อน”

“เรื่องนั้นไม่เป็นไรหรอก ถ้าอย่างนั้นก็โปรดรอสักครู่ เดี๋ยวข้าจะเข้าไปเอาของมาให้เจ้า”

ผู้จ่ายยาหายไปหลังร้าน

หลังจากนั้นประมาณสิบห้านาที เขาก็นําชามอาหารบำรุงกระดูกมาให้ลู่ฉางเฉิง

"นี่คือน้ำต้มที่ผสมผงบำรุงกระดูก 9 ชนิด"

ลู่ชางเฉิงไม่ลังเลและดื่มมันเข้าไปในอึกเดียว

หลังจากนั้น ลู่ชางเฉิงจึงเริ่มฝึกฝนเทคนิคกระดูกเยือกแข็งโดยถ่ายทอดพลังฉีและเลือดของเขา ซึ่งเขารู้สึกได้ถึงกระแสพลังที่ทะลุผ่านกระดูกของเขาอย่างรวดเร็วได้ชัดเจน ทําให้โครงสร้างทางกระดูกทั้งหมดของเขาเริ่มรู้สึกร้อนขึ้นเล็กน้อย ซึ่งทำให้ประสิทธิภาพของเทคนิคกระดูกเยือกแข็งได้รับการพัฒนาให้ก้าวหน้าขึ้นอย่างมาก

"ผลของผงบำรุงกระดูก 9 ชนิดนั้นยอดเยี่ยมจริงๆ"

"บอกข้ามา ว่าราคาของมันเท่าไหร่?"

ลู่ชางเฉิงพอใจกับผลของผงบำรุงกระดูก 9 ชนิดมาก

“ผงบำรุงกระดูก 9 ชนิด นี้ใช้ส่วนผสมทางสมุนไพรที่มีค่าและหายากมาก”

“ซึ่งแน่นอนว่าราคาของมันต่อหนึ่งถุงคือ 50 เตลและสามารถกินได้สามวัน...”

เมื่อผู้ขายพูดจบ เขาสังเกตว่าลู่ฉางเฉิงยังคงนิ่งอยู่

หลังจากนั้นไม่นาน ลู่ชางเฉิงก็หลับตาลง

เขาค่อยๆพูดช้าๆทีละคํา "เขากวาง, ตังเซียม , ไป๋จู๋สีขาว, โสม..."

แต่ละชื่อที่เขากำลังพูดนั้นทำให้ใบหน้าของผู้ขายซีดลง

ซึ่งชื่อแต่ละชื่อนั้นเป็นชื่อของส่วนผสมสมุนไพรบางอย่างในผงบำรุงกระดูก 9 ชนิด

ลู่ชางเฉิงนั้นเป็นนักสมุนไพรที่เก่งมา เมื่อเขาได้ดื่มผงบำรุงกระดูก 9 ชนิดเพียงครั้งเดียว เขาจึงรู้ทันทีว่ามันมีส่วนผสมอะไรบ้าง แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่สามารถรู้ได้ถึงสัดส่วนที่แน่นอนเพื่อทำกินเองได้

และส่วนผสมบางอย่างก็หายากและแพงมาก

"ฟึ้บ"

ลู่ชางเฉิงลืมตาขึ้น

ในขณธเดียวกัน แสงสีขาวในมือของเขาได้ตัดมุมโต๊ะออกด้วยกริชอย่างเฉียบคม

แม้แต่ผู้ขายเองก็มองไม่เห็นการเคลื่อนไหวของลู่ชางเฉิงเลยด้วยซ้ำ

"นี่เจ้า..."

เสียงของผู้ขายนั้นสั่นสะท้านและมีความกลัวอยู่เล็กน้อยในดวงตาของเขา

ลู่ชางเฉิงพูดอย่างช้าๆว่า "เจ้าจะขายแพงก็ได้ แต่ข้าไม่ชอบที่เจ้านั้นฉวยโอกาสจากข้าเพื่อหาเงินมากเกินไป"

"บอกข้ามาอีกครั้งซะว่าผงบำรุงกระดูก 9 ชนิดนั้นมันราคาเท่าไหร่กันแน่?"

ใบหน้าของผู้ขายซีดลงและเขาเสียใจกับการกระทําของเขามาก

ตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาทำการซื้อขายกับลู่ชางเฉิงที่ไม่เคยต่อรองและใจกว้างมาโดยตลอด

แต่ครั้งนี้ราวกับว่าเขาหน้ามืดตามัวด้วยความโลภและกล้าหลอกลู่ชางเฉิง

และนี่ก็คือผลของการหลอกนักศิลปะการต่อสู้…

เมื่อนึกได้แบบนี้ ผู้ขายจึงตัวสั่น จากนั้นเขาจึงพูดอย่างช้าๆว่า “ผงบำรุงกระดูก 9 ชนิดหนึ่งถุงราคา 20 เตลครับท่าน…ครั้งนี้ข้าพูดจริงๆครับ”

ลู่ชางเฉิงคิดอยู่ครู่หนึ่งและรู้สึกราคานี้ดูสมเหตุสมผลมากกว่า

“ก็แค่นั้นแหละ ถ้าอย่างนั้นไปเอามาให้ข้า 50 ถุง เร็วเข้า!”

ลู่ชางเฉิงวางเงินเอาไว้ 1,000 เตล บนโต๊ะ ซึ่งทําให้ผู้ขายพอใจและโล่งใจมาก

"ได้โปรดรอสักครู่ครับท่าน"

ลู่ชางเฉิงรออยู่ประมาณสองชั่วโมงก่อนที่เขาจะนำผงบำรุงกระดูก 9 ชนิดห้าสิบถุงมาให้

ด้วยผงบำรุงกระดูก 9 ชนิดจํานวนมากขนาดนี้ จะทำให้ลู่ชางเฉิงไม่ต้องมาที่ร้านอีกนาน

"ถ้าอย่างนั้น ข้าลาล่ะ"

หลังจากที่ผงบำรุงกระดูก 9 ชนิดล้ว ลู่ชางเฉิงก็เดินกลับไปที่ร้านขายยาของวู่จิง

แม้ว่าวันนี้เขาลาไปแล้วแต่มันยังเช้าอยู่ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจกลับไป

เมื่อเห็นลู่ชางเฉิงเดินเข้ามาในร้าน ในที่สุดใบหน้าที่แข็งกระด้างของวู่จิงก็มีรอยยิ้มเล็กน้อย

เนื่องจากเหตุการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้นกับเหวินเหลา ทำให้วู่จิงอารมณ์ไม่ดีและมักจะอารมณ์เสียบ่อยครั้ง

เด็กฝึกงานต่างก็กังวลอยู่ตลอดเวลาและกลัวว่าจะถูกวู่จิงดุ

แต่เมื่อได้เห็นลู่ฉางเฉิง ในที่สุดวู่จิงก็สามารถยิ้มออกมาได้

“ชางเฉิง มานี่เร็ว ตอนนี้พวกเรามีผู้ป่วยอยู่ เจ้าสามารถตรวจชีพจรและวินิจฉัยอาการของพวกเขาได้หรือไม่?”

วู่จิงชี้ไปที่ผู้ป่วยที่อยู่ตรงหน้าเขา

"ข้างั้นหรือ?"

ลู่ชางเฉิงรู้สึกประหลาดใจ

เขาเคยคิดว่าอาจารย์ของเขาคงไม่อนุญาตให้เขารักษาผู้ป่วยได้อย่างน้อยก็หนึ่งปีหรือมากกว่านั้น แต่ตอนนี้เขาได้รับโอกาสนั้นแล้ว

ผู้ป่วยเป็นชายวัยกลางคนอายุห้าสิบปี และดูเหมือนเขาเองก็จะไม่รังเกียจที่จะให้ลู่ชางเฉิงตรวจชีพจรของเขา อันที่จริง เขานั้นกลับให้ความมั่นใจกับลู่ฉางเฉิงที่ประหม่าด้วยซ้ำ

แม้แต่ผู้ป่วยเองก็เห็นได้ชัดว่าวู่จิงนั้นให้ความสําคัญกับลู่ชางเฉิงมาก

ขณะที่ลู่ชางเฉิงกําลังจะตรวจชีพจรของผู้ป่วย กลุ่มนักศิลปะการต่อสู้ก็บุกเข้ามาในห้องตรวจ

นักศิลปะการต่อสู้เหล่านี้ล้วนแข็งแกร่งและมีท่าทีที่ดุร้าย ทันใดนั้นสายตาของพวกเขาก็สบเข้ากับวู่จิงทันทีเมื่อพวกเขาเข้ามา

แต่พวกเขาไม่ได้พูดอะไรและรอให้ชายที่ดูนอบน้อมเดินเข้ามา

ชายหนุ่มคนนี้มีลักษณะเหมือนเด็กเรียนและดูเหมือนมีร่างกายที่ไม่แข็งแกร่งมากนัก แต่ลู่ชางเฉิงกลับสามารถสัมผัสได้ถึงออร่าอันทรงพลังของพลังฉีและเลือดในตัวเขาได้

เมื่อชายหนุ่มคนนั้นเห็นวู่จิง เขาจึงโค้งคํานับเล็กน้อยและแนะนําตัวเองว่า “ท่านสินะหมอวู่จิง? ข้าชื่อเก๋ายู่เฉิงมาจากตระกูลเก๋า”

“ได้โปรดเถอะท่านหมอวู่จิง ได้โปรดช่วยพี่ชายของข้าและคนของตระกูลเก๋าด้วยเถิด!”

ในตอนแรก วู่จิงนั้นระวังตัวเองต่อชายหนุ่มคนนี้อย่างมาก แต่เมื่อเขาได้ยินว่าเขาต้องการความช่วยเหลือ เขาจึงรู้สึกเห็นอกเห็นใจขึ้นมาบ้าง

"บอกข้ามาว่ามันเกิดอะไรขึ้น?"

วู่จิงถาม

“หมอวู่ เมื่อเร็วๆนี้มีหลายคนในตระกูลเก๋าล้มป่วยและนอนซมอย่างต่อเนื่องกัน”

“พวกข้าได้เรียกแพทย์ประจำท้องถิ่นของข้ามาแล้ว แต่พวกเขาตรวจสอบดูก็ไม่พบกับความผิดปกติ ซึ่งทำให้แพทย์นั้นไม่สามารถวินิจฉัยอาการของพวกเขาได้”

“ชีวิตของพี่ชายของข้าและคนอื่นๆอีกหลายคนในตระกูลเก๋ากำลังแขวนอยู่บนเส้นด้ายและตกอยู่ในอันตรายร้ายแรง และข้าเองก็ได้ยินมาว่าหมอวู่นั้นเป็นหมอที่มีเก่งกาจ ดังนั้นข้าจึงมาเชิญหมอวู่ไปที่ตระกูลเก๋าเพื่อรักษาผู้ป่วยในตระกูลของข้า”

“ถ้าท่านสามารถรักษาอาการเจ็บป่วยลึกลับนี้ได้ พวกข้าตระกูลเก๋ายินดีที่จะจ่ายรักษาให้ท่าน 100 เหรียญทอง!”

ผู้คนในร้านหมอวู่จิงนั้นตกใจมาก

100 เหรียญทองงั้นรึ!

นั่นมันเป็นเงินที่มหาศาลมากๆ

แม้ว่าวู่จิงจะเป็นหมอที่มีชื่อเสียง แต่เขาก็ไม่เคยได้รับค่ารักษาที่สูงมากขนาดนี้มาก่อน

"เจ้าไปพาคนไข้ของเจ้ามาที่นี่แทนไม่ได้หรือ?"

วู่จิงถามด้วยความสงสัย

“หมอวู่ คนในตระกูลของข้าตอนนี้กำลังนอนซมและอ่อนแออย่างมาก หากข้าพาพวกเขามาที่นี่ด้วยรถม้า พวกเขาอาจตายในระหว่างการเดินทางได้ ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่ข้ามาขอให้หมอวู่เดินทางไปที่ตระกูลด้วยตัวข้าเอง”

“แต่ไม่ต้องกังวล ข้าได้เตรียมรถม้าที่เหมาะสมสําหรับหมอวู่แล้ว ดังนั้นการเดินทางครั้งนี้ท่านจะไม่ลำบากแน่นอน”

เก๋ายู่เฉิงพูดด้วยความจริงใจ

ยิ่งไปกว่านั้น ลู่ชางเฉิงเองก็เคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับตระกูลเก๋าซึ่งเป็นตระกูลที่แข็งแก่รงพลังที่อยู่นอกเมืองหนานหยาง

วู่จิงพิจารณาอยู่ครู่หนึ่งและตอบตกลงในที่สุด

“ถ้าอย่างนั้นเจ้าจงรอสักครู่ ข้าจะต้องเตรียมตัวสักหน่อย”

วู่จิงหันไปหาลู่ชางเฉิงและพูดว่า "ชางเฉิง คราวนี้เจ้าจะต้องไปกับข้าที่ตระกูลเก๋าด้วย"

“นอกจากนั้น ข้าจะพาเด็กฝึกงานไปอีกสองสามคนมาและเอาหีบใส่ยาไปด้วย”

ตอนนี้วู่จิงถือว่าลู่ชางเฉิงกลายเป็นผู้สืบทอดของเขาและเขาจะพาลู่ชางเฉิงกไปทุกที่ที่เขาไป

"โรคลึกลับงั้นรึ?" ดูเหมือนว่าอาการของคนในตระกูลเก๋านั้นเป็นกรณีที่หาได้ยาก ซึ่งการเดินทางไปที่นั่นในครั้งนี้จะทำให้ลู่ชางเฉิงกได้รับประสบการณ์และประโยชน์ต่อทักษะทางการแพทย์ของเขาได้อย่างมาก

ลู่ฉางเฉิงคิดอยู่ครู่หนึ่งและตอบว่า "ท่านอาจารย์ ข้าอยากกลับไปเตรียมตัวก่อน"

"ถ้าอย่างนั้นก็จงรีบกลับมา"

ดังนั้น ลู่ชางเฉิงจึงกลับไปที่สำนักเมียวชู

เขาไม่รู้ว่าการเดินทางไปยังตระกูลเก๋านั้นจะใช้เวลานานแค่ไหน ดังนั้นเขาจึงนําผงบำรุงกระดูก 9 ชนิดที่มีอยู่ไปด้วย

แต่เนื่องจากเขาไม่อยากนําไปมาก ดังนั้นเขาจึงเอาไปแค่ไม่กี่ถุง

นอกจากนี้เขายังนํากริชของเขาไปด้วย

หลังจากที่เตรียมของใช้ที่จําเป็นทั้งหมดแล้ว ลู่ชางเฉิงจึงกลับไปที่ร้านขายยา

“ข้าพร้อมแล้วท่านอาจารย์”

เก๋ายู่เฉิงที่ได้ยินเช่นนั้นจึงโค้งคํานับด้วยความเคารพทันทีและพูดว่า "ท่านหมอวู่ ขอความกรุณาท่านด้วยเถิด"

ลู่ชางเฉิงช่วยอาจารย์ของเขายกของและขึ้นไปบนรถม้าที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้โดยคนของตระกูลเก๋า

ในไม่ช้ารถม้าก็เริ่มเคลื่อนตัวและมุ่งหน้าไปยังเขตชานเมือง

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด