ตอนที่แล้วตอนที่ 1540 สกอร์นี้ เปลี่ยนความคิดของทุกคน
ทั้งหมดรายชื่อตอน

ตอนที่ 1541 อนาคตที่สดใส (ตอนจบ)


เมื่อเข้าสู่โค้งสุดท้ายของการแข่งขัน ทีมหยุนเฉิง ได้เอาชนะ ทีมหางโจว ไปได้อย่างไม่ต้องสงสัย และนี่ถือเป็นชัยชนะครั้งใหญ่

เกมนัดนี้ ก็เป็นไปตามที่ หลินฟาน คาดไว้ มันกลายเป็นเกมที่สร้างชื่อให้กับผู้เล่นอายุน้อยอย่าง หวู่ เหลย , ในคืนนั้น หวู่ เหลย ก็ได้ขึ้นไปอยู่ในรายชื่อค้นหาที่ร้อนแรง และได้กลายเป็นที่รู้จักของชาวเน็ตจำนวนมาก

และหลังจากการแข่งขันรายการนี้ เกมการแข่งขันใน ไชน่าซุปเปอร์ลีก นัดต่อไป, หวู่ เหลย ก็ยังคงทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมต่อเนื่อง ซึ่งทำให้คะแนนความนิยมของเขาเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ

ในขณะเดียวกัน ผู้เล่นคนอื่นๆ ของ ทีมหยุนเฉิง เช่น หลี่ยี่, เจิ้งจื้อ, ซุน จี้ไห่ ฟ่าน อีอี้ และคนอื่นๆ ก็ได้รับความนิยม และกลายเป็นนักเตะหน้าใหม่ในวงการฟุตบอลที่ร้อนแรงในประเทศจีน

หลังจากบุกตะลุยมาตลอดทาง ในที่สุด ทีมหยุนเฉิง ก็ได้คว้าแชมป์ซูเปอร์ลีกของจีน

เพราะนักเตะทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม, และตรงกับการปรับโครงสร้างทีมชาติใหม่ หวู่ เหลย, หลี่ยี่ และคนอื่นๆ ล้วนมีชื่อติดอยู่ในทีมชาติ และเริ่มลงเล่นในนามของทีมชาติ

หลังจากการปรับโครงสร้างทีมชาติใหม่ ด้วยการเข้าร่วมของ หวู่ เหลย และคนอื่นๆ ความแข็งแกร่งก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก

ในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกครั้งต่อไป พวกเขาสามารถเอาชนะทีมที่แข็งแกร่งเช่น ประเทศฟุตบอลต่างๆ มาได้อย่างต่อเนื่อง และก้าวเข้าสู่การแข่งขันฟุตบอลโลกเป็นครั้งที่สองในประวัติศาสตร์

ทีมชาติชุดนี้, ในการเข้าแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งต่อไป ก็ประสบความสำเร็จช็อกโลกอีกด้วยเช่นกัน

และพวกเขาสามารถคว้าแชมป์มาได้!

ด้วยการสนับสนุนจากการได้เป็นแชมป์ฟุตบอลโลก หวู่ เหลย, หลี่ยี่ และคนอื่นๆ ได้ขึ้นกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ระดับนานาชาติ หวู่ เหลย ได้รับรางวัลฟุตบอลโลกในปีนั้น และกลายเป็นชาวจีนคนแรกที่ได้รับเกียรตินี้

อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นซูเปอร์สตาร์ระดับนานาชาติ หวู่เหลย หลี่ยี่ และคนอื่นๆ ก็ปฏิเสธคําเชิญของสโมสรระดับโลก และยังคงอยู่ต่อใน ทีมหยุนเฉิง

ด้วยเหตุนี้ ทีมหยุนเฉิง จึงกลายเป็นสโมสรที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก

และสโมสรฟุตบอลหยุนเฉิง เพียงอย่างเดียวก็สร้างรายได้ปีละหลายหมื่นล้านแล้ว!

ในตอนแรก หลินฟาน ลงทุนในทีมฟุตบอล และไม่ได้คาดคิดว่าจะได้รับผลตอบแทนที่ไม่มีใครเทียบได้..

ควบคู่ไปกับการผงาดขึ้นของ ทีมหยุนเฉิง หยงจิ่ว กรุ๊ป ของ หลินฟาน ก็เติบโตขึ้นมาอย่างรวดเร็วเช่นกัน

หลังจากการเกมแข่งขันนัดกระชับมิตรกับ ทีมหางโจว หลินฟาน ได้เรียนรู้ว่าผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ของ ทีมหยุนเฉิง ในวันนั้น คือ เว่ย จี้เซิง.. นายน้อยของ ตระกูลเว่ย

หลินฟาน โกรธมาก

ก่อนหน้านี้ หลินฟาน ไม่ค่อยจะเห็น ตระกูลเว่ย อยู่ในสายตามากนัก.. แน่นอนว่าเป็นเรื่องปกติที่จะมีการแข่งขันทางธุรกิจ และความชั่วร้ายของ ตระกูลเว่ย ก็ไม่สามารถคุกคามเขาได้

…แต่ครั้งนี้ แตกต่างออกไป!

ตระกูลเว่ย ได้ลงมือทำร้ายคนรอบตัวเขา และพวกเขาได้ส่งคนมาที่นี่เพื่อทำลายคนของเขา!

แล้วแบบนี้.. ใครจะทนไหว!

หลินฟาน ตัดสินทันที เขาทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว

ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หลินฟาน มุ่งมั่นที่จะจัดการกับ ตระกูลเว่ย อย่างเด็ดขาด

ดังนั้น หลินฟาน จึงวางแผนที่จะโค่นล้ม ตระกูลเว่ย และเริ่มกำหนดเป้าหมายโจมตีไปที่ธุรกิจของ ตระกูลเว่ย เป็นหลัก

โครงการชั้นนําหลายโครงการของ ตระกูลเว่ย เนื่องจากการเข้าแทรกแซงของ หลินฟาน จึงล้มเหลวลงไปทุกโครงการ และบางโครงการก็ต้องถูกทิ้งก่อนที่จะเปิดตัวด้วยซ้ำ บางโครงการที่เริ่มต้นแล้ว แต่กลับถูกบังคับให้หยุดลงกลางคัน

หลังจากการพลิกผันมาหลายครั้ง ห่วงโซ่เงินทุนของ ตระกูลเว่ย ก็เริ่มกระชับ ตึงตัว และในที่สุดห่วงโซ่เงินทุนก็ขาดออก..

เว่ย เทียนเฉิง ย่อมที่จะไม่รอความตาย, ในความเป็นจริง เว่ย เทียนเฉิง ได้ทำการโต้กลับอย่างหนัก และพยายามอย่างมากในการกอบกู้สถานการณ์

เขาจนใจจริงๆ.. หลินฟาน เก่งเกินไป บวกกับการสนับสนุนของระบบเรียกได้ว่าเขาอยู่ยงคงกระพัน ความพยายามทั้งหมดของ ตระกูลเว่ย ก็เรียกได้ว่า สูญเปล่า…

เมื่อถูกบีบคั้นจนหมดหนทาง เว่ย เทียนเฉิง จึงบากหน้าพาหน้าแก่ๆ ของเขา เดินเข้ามาหา หลินฟาน ด้วยตนเอง เพื่อสารภาพความผิดบาปที่เขาได้ทำ และได้แต่ขอร้องให้ หลินฟาน ยินยอมปล่อยเขาไป…

เพื่อให้ หลินฟาน ตกลง เว่ย เทียนเฉิง จึงริเริ่มเปิดเผยตัวตนของ เว่ย เยว่เอ๋อร์

“คุณหลิน ฉันขอให้คุณเห็นแก่หน้า เยว่เอ๋อร์ ได้ไหม ปล่อยฉันไปเถอะ” เว่ย เทียนเฉิง ได้ขอร้อง

หลินฟาน ไม่หวั่นไหว หรือรู้สึกสะทกสะท้านใดๆ เขากล่าวว่า : “คุณคิดว่าคุณจะหลอกผมได้? ผมรู้ถึงตัวตนของ เยว่เอ๋อร์ มานานแล้ว และผมเพียงแค่อยากรู้ว่าคุณจะสามารถเล่นกลอุบายอะไรได้บ้าง!”

เว่ย เทียนเฉิง ที่เห็นว่ามันไม่มีประโยชน์ที่จะยกใบหน้า เยว่เอ๋อร์ ..เขาก็ได้แต่ขอร้อง เว่ย เยว่เอ๋อร์ เป็นการส่วนตัว

เว่ย เยว่เอ๋อร์ ปฏิเสธคําขอนี้โดยตรง และเลือกที่จะอยู่ข้าง หลินฟาน  ไม่ว่า หลินฟาน จะตัดสินใจอย่างไรไป เธอก็จะสนับสนุน หลินฟาน และเธอจะไม่มีวันทำให้ หลินฟาน ลำบากใจ หรือเดือดร้อนเพราะเธออีก

เมื่อ เว่ย เยว่เอ๋อร์ พูดออกมาแบบนี้ เว่ย เทียนเฉิง ก็หมดหวังอย่างสิ้นเชิงแล้ว

และหลินฟาน ก็ไม่แสดงความเมตตาใดๆ จริงๆ…

ในที่สุดยักษ์ใหญ่อย่าง วั่นกู่ กรุ๊ป ก็มาถึงจุดจบ และล้มละลายลงไป

เว่ย เทียนเฉิง ได้พาลูกชายทั้งสองคนออกจากประเทศจีนไปอย่างน่าเศร้า และกลับไปที่บ้านเกิดเดิมของเขาในประเทศอังกฤษ เนื่องจากอารมณ์ของเขาหดหู่มาก ปีที่สองที่เขากลับไปถึงอังกฤษ เว่ย เทียนเฉิง ก็ได้ล้มป่วย และเสียชีวิตลงไปเนื่องจากภาวะซึมเศร้า

นอกจากนี้ เว่ย เยว่เอ๋อร์ แม้จะปฏิเสธการขอร้องของพี่ชาย แต่พวกเขาก็เป็นญาติของเธอ ..อยู่ดี เมื่อเห็น วั่นกู่ กรุ๊ป ถูก หลินฟาน โค่นล้ม เธอก็ไม่มีหน้าที่จะไปเผชิญหน้ากับครอบครัว หรือ หลินฟาน ได้อีกสักพักหนึ่ง

ดังนั้น เว่ย เยว่เอ๋อร์ จึงลาออกจากงานที่ หยงจิ่ว และกลับไปที่หมู่บ้านซีเหอ อย่างเงียบๆ และทํางานเป็นครูในชนบทของเธอต่อไป

……

หลังจากเอาชนะ วั่นกู่ กรุ๊ป มาได้แล้ว หยงจิ่ว กรุ๊ป ก็ขึ้นมาแทนที่ และกลายเป็นบริษัทที่ร่ำรวยที่สุดในเจียงหนาน โดยมีมูลค่าตลาดเกิน 5 แสนล้าน

ด้วยเหตุนี้ หลินฟาน จึงกลายเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในเจียงหนาน..

และความก้าวหน้าของ หยงจิ่ว กรุ๊ป ก็ไม่ได้หยุดอยู่แค่นี้ ในการดําเนินการของ รถยนต์พลังงานใหม่ เมตาเวิร์ส และโครงการอื่นๆ ควบคู่ไปกับความพยายามของโครงการชิปในก่อนหน้านี้ หยงจิ่ว กรุ๊ป ก็ได้มีความก้าวหน้าขึ้นไปอย่างรวดเร็ว

ในเวลาสามปี มูลค่าตลาดเกินทะลุหนึ่งล้านล้าน

หลินฟาน กลายเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศจีน

เวลาต่อมาหลังจากนั้น หลินฟาน ได้เข้าท้าทายคนที่ร่ำรวยที่สุดในโลก

ทั้งในเวลานี้เอง หลินฟาน ได้ประกาศข่าวช็อกโลกออกมา

หยงจิ่ว กรุ๊ป จะทำการปล่อยจรวด!

ปรากฎว่า ในวันนั้น หลินฟาน ได้จัดตั้งแผนกธุรกิจอวกาศขึ้นภายใน หยงจิ่ว แอร์ไลน์(เทียนต้า แอร์ไลน์) และรับ เฮอเฉิน ผู้เชี่ยวชาญด้านจรวดเข้ามาเป็นลูกน้องของเขา และได้สร้างฐานจรวดขึ้นบนเกาะเฉียนป้า โดยมี เฮอเฉิน ที่ทําหน้าที่เป็นหัวหน้าวิศวกร

หลังจากการวิจัย และพัฒนา จรวดลําแรกของ หยงจิ่ว กรุ๊ป ก็ถูกสร้างขึ้นจนเสร็จสมบูรณ์ โดยมีชื่อรหัสว่า หยงจิ่ว ซิวเซียน

ท่ามกลางสายตาของผู้คน..

จรวด ‘หยงจิ่ว ซิวเซียน’ ก็ได้ทะยานขึ้น

โดยปราศจากอุบัติเหตุ จรวดได้มาถึงอวกาศอย่างรวดเร็ว และเริ่มทำการหมุนโคจรรอบโลกอยู่หลายรอบ

นี่เป็นสัญญาณว่า หยงจิ่ว กรุ๊ป ได้ก้าวเข้าสู่การแข่งขันในอุตสาหกรรมอวกาศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

หลังจากนั้น แผนกธุรกิจอวกาศของ หยงจิ่ว กรุ๊ป ได้ทำการปรับปรุงเทคโนโลยีจรวดอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้จรวดเองก็มีความก้าวหน้ามากขึ้นเรื่อยๆ

สิ่งนี้แน่นอนว่าย่อมขาดความช่วยเหลือจากระบบไปไม่ได้ ซึ่งทำให้ หลินฟาน ในครั้งนั้นได้รับรางวัลเป็น ..เทคโนโลยีอวกาศที่ล้ำสมัยที่สุดจากระบบ

ไม่นานหลังจากนั้น จรวดรุ่นที่สามที่ถูกพัฒนาโดย หยงจิ่ว แอร์ไลน์ ก็ประสบความสําเร็จในการลงจอดบนดวงจันทร์

อีกไม่กี่ปีต่อมา จรวดรุ่นที่เจ็ดของ หยงจิ่ว ได้พามนุษย์ไปยังดาวอังคารที่อยู่ห่างไกล และหยงจิ่ว ได้สร้างฐานบนดาวอังคารขึ้นได้เป็นครั้งแรก

ในสิบปีต่อมา หยงจิ่ว กรุ๊ป ได้สร้างยานอวกาศลําแรก ซึ่งสามารถพาทุกคนเดินทางไปได้อย่างภาคภูมิใจในอวกาศ และออกสํารวจดวงดาวไปเป็นเวลานานได้จนสำเร็จ

และด้วยการสํารวจของ หยงจิ่ว แอร์ไลน์ อย่างต่อเนื่อง มูลค่าตลาดของ หยงจิ่ว กรุ๊ป ก็ได้พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว และในไม่ช้าก็เอาชนะ ผิงกั้ว(แอปเปิ้ล) อย่างรวดเร็ว และขึ้นกลายเป็น ‘บริษัท’ ที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุดในโลก

ภารกิจหลักที่ระบบมอบให้กับ หลินฟาน ในการสร้างอาณาจักรธุรกิจล้านล้าน และในที่สุดมันก็เสร็จสมบูรณ์แล้ว

ระบบจึงให้รางวัลแก่ หลินฟาน เป็นความสามารถอย่างหนึ่ง นั่นก็คือ ยาอายุวัฒนะ ซึ่งมันได้ทำให้เขากลายเป็น ‘อมตะ’

หลังจากที่ทำให้ หลินฟาน เป็นอมตะแล้ว ระบบก็ได้หายไป..

ไม่มีใครรู้ว่าระบบหายไปไหน หลินฟาน เองก็ไม่รู้ บางที.. หลังจากระบบเสร็จสิ้นภารกิจแล้ว มันก็คงจะไปมองหาโฮสต์รายถัดไป หรือบางที ระบบอาจได้ถูกปลดปล่อย และบินหนีหายไปที่ไหนสักแห่งแล้วก็ได้…

ทั้งการคาดเดาทั้งสองนี้ก็ดูเหมือน ..จะสมเหตุสมผล

หลินฟาน มีความสุขมาก แน่นอนว่าการที่เขาได้รับความสามารถที่เป็นอมตะ มันก็เท่ากับว่าเขามีความสามารถในการมีชีวิตอยู่ตลอดไปได้ แต่สาวสวยโดยรอบตัวเขา ..ไม่ได้โชคดีขนาดนั้น หลินฟาน ได้เฝ้ามองดูพวกเธอแก่ตัวลงทีละคน

ด้วยเหตุนี้ หลินฟาน จึงไม่ได้แต่งงานกับพวกเธอเลยแม้แต่คนเดียว แต่สิ่งนี้ก็ไม่ได้ขัดขวางความรู้สึกของพวกเธอที่มีต่อ หลินฟาน ได้ อีกทั้งตลอดชีวิตนี้ของพวกเธอ พวกเธอก็จะเป็นของของ หลินฟาน เพียงเท่านั้น

และเนื่องจากเพราะ หลินฟาน พวกเธอทั้งหมดจึงสามารถมีชีวิตที่ยอดเยี่ยมได้

เฉิน หลิงหลิง ประสบความสําเร็จในการสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับ นาจา และทํารายได้ทะลุบ็อกซ์ออฟฟิศถึง 5 พันล้าน และกลายเป็นผู้กํากับแอนิเมชั่นระดับโลก

ซู จินจิน เองได้นํา กลุ่ม ซู ขึ้นกลายเป็นหนึ่งใน 500 อันดับแรกของประเทศ ในเวลานี้ ซู จินจิน เองก็กลายเป็นผู้หญิงที่ร่ำรวยไปในที่สุด

นอกจากนี้.. ยังมี หลิว เหมิงเจี๋ย, ชู เสี่ยวเซียว เฟิ่ง รั่วหลาน และผู้หญิงคนอื่นๆ พวกเธอล้วนแล้วแต่ประสบความสําเร็จในชีวิตมากมาย..

หลินฟาน ที่เป็นอมตะ.. ในที่สุดก็มองพวกเธอแก่ตัวลงทีละคน และจากเขาไปตลอดกาล…

หลายปีต่อมา มูลค่าตลาดของ หยงจิ่ว กรุ๊ป ก็พุ่งสูงขึ้นเป็นหนึ่งแสนล้านล้านอย่างกะทันหัน และต้องขอบคุณงานภายใต้การบุกเบิกของ หยงจิ่ว กรุ๊ป ที่ได้ล่วงหน้าไปกว่าพันปี ทำให้มนุษย์ได้เข้าสู่ยุคแห่งการเดินทางสำรวจดวงดาว และเริ่มทำการสร้าง และพัฒนาครั้งใหญ่ในจักรวาล

อนาคตแห่งความหวังที่กำลังจะมาถึง ไม่ว่าจะอีกกี่ปี หลินฟาน ก็จะได้เป็นพยานในการมองเห็น ทุกสิ่งอย่าง…. (END)

#ขอขอบคุณผู้อ่านที่ติดตาม สนับสนุน มาโดยตลอดจนจบเรื่องครับ ทั้งนี้ ‘ผู้แปล’ จะขอทำการปรับปรุงตอนเก่าๆ ในวันถัดไปนับจากนี้ครับ อีกทั้งนี้ผมได้เริ่มแปลนิยายเรื่องใหม่แล้วครับ ขอฝากติดตามด้วยครับผม ( つ•̀ω•́)つ)

4 1 โหวต
Article Rating
2 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด