ตอนที่ 1540 สกอร์นี้ เปลี่ยนความคิดของทุกคน

เมืองหางโจว, ตระกูลเว่ย..

หากเป็นในวันปกติธรรมดา.. เวลานี้ เว่ย เทียนเฉิง คงได้เข้านอนแล้ว พอเมื่ออายุของเขามากขึ้นเขาก็ได้ให้ความสําคัญกับการดูแลตัวเองอย่างมาก ดังนั้นเขาจึงปรับเปลี่ยนนิสัยตัวเองให้เข้านอนเร็ว และตื่นเช้าๆ

แต่เกมการแข่งขันในคืนนี้ เว่ย เทียนเฉิง ไม่อยากที่จะพลาด นอกจากนี้ เขายังชอบที่จะได้รอดูการแสดงออกอันยอดเยี่ยมของ ไอ้เด็ก หลินฟาน นั่น หลังจากที่มันพ่ายแพ้..

เขาไม่สนใจเกมบอล สิ่งที่เขาสนใจคือ ไอ้เด็ก หลินฟาน นั่นมันต้องแพ้ เขาทนไม่ได้ที่ไอ้เด็ก หลินฟาน คนนี้มันชนะมาโดยตลอด และมันก็ช่างน่าหงุดหงิดเอามากๆ ที่ได้เห็นมัน ..ยังคงชนะต่อไป เขาเวลานี้ต้องการสักครั้งที่จะได้เห็น หลินฟาน มันได้พ่ายแพ้ด้วยตาของเขาเอง

“ตอนนี้ ทีมหางโจว ได้เปรียบอยู่ ใช่ไหม?” เว่ย เทียนเฉิง ถาม

เว่ย เจี้ยนเซิง กล่าวว่า : “ใช่ครับ ท่านพ่อ เห็นได้ชัดว่า ทีมหางโจว ได้เปรียบ และมีโอกาสมากที่ ทีมหางโจว จะทําประตูต่อไปได้ ตราบใดที่ ทีมหางโจว ทําประตูได้อีกสองประตู ถึงตอนนั้นก็เท่ากับขยายช่องว่างให้กว้างขึ้น และทีมหยุนเฉิง ก็จะพ่ายแพ้ไปในที่สุด”

ปกติ เว่ย เจี้ยนเซิง ก็ไม่ได้ดูบอล แต่คําพูดของเขามีเหตุผลมาก ทั้งมันราวกับว่า …เป็นอย่างนั้นจริงๆ

ทั้งหมด.. เป็นเพราะเขาเชื่อมั่นมากว่า ทีมหางโจว จะชนะ

เหตุผลที่พวกเขายังนั่งดูเกมบอลอยู่ที่นี่ ก็เพราะเขามั่นใจว่า ทีมหางโจว จะชนะ!

และคนที่คิดเหมือนกับพวกเขา ก็ยังคงมี ลู่ตง เช่นกัน

ลู่ตง ดูถูก ทีมหยุนเฉิง มาโดยตลอด ก็เพราะเขาเชื่อมั่นมากว่า ทีมหางโจว จะชนะ

เมื่อ ลู่ตง เป็นผู้นำ ผู้ชมก็มีแนวโน้มที่จะชื่นชอบ ทีมหางโจว อย่างไรก็ตามท้ายที่สุด ..ทีมหางโจว ก็มีเสถียรภาพมาก ทั้งการทำประตูในลูกนั้นของ หวู่ เหลย ก็ดูเหมือนจะมีโชคเล็กน้อยจริงๆ

แน่นอนว่ายังมีอีกหลายคนที่ยังไม่กล้าสรุป พวกเขาทั้งหมดจมอยู่กับเกมการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมนี้

หลังจากเล่นไปประมาณสิบนาทีในครึ่งหลัง

ทีมหยุนเฉิง ซึ่งเป็นรอง ได้บอล และเริ่มเปิดเกมโต้กลับ

นี่เป็นกลยุทธ์ที่ หลินฟาน มอบให้อีกครั้ง

หลินฟาน ได้คาดการณ์ไว้แล้วว่าหลังจากเริ่มครึ่งหลัง ทีมหางโจว จะเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเกมรุก และในขณะเดียวกันก็รวมการป้องกันเข้าด้วยกัน ท้ายที่สุด ทีมหางโจว ก็มีประสบการณ์อยู่ในสนามมากกว่า และด้วยความช่วยเหลือจากผู้เล่นต่างชาติชาวบราซิลอย่าง อาบาก้า แน่นอนว่า ไม่ควรประมาทอีกฝ่าย…

ดังนั้น กลยุทธ์ที่ หลินฟาน ได้ให้ไปคือ การหลีกเลี่ยงความคมของมัน และโจมตีจุดอ่อนของศัตรูโดยที่ไม่ได้ให้ตั้งตัว

หลังจาก ทีมหางโจว บุกโจมตีอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาสิบกว่านาที จะต้องมีช่วงเวลาที่หละหลวมอย่างแน่นอน ตราบใดที่มันเปิดออก ก็ถึงเวลาที่ ทีมหยุนเฉิง จะโจมตีบ้างแล้ว

และเวลานี้.. มันก็ถึงเวลาแล้ว!

ทีมหยุนเฉิง รับบอล และเริ่มส่งบอลประสานกันไปอย่างลื่นไหล

ไม่นานบอลก็มาถึงเขตโทษของ ทีมหางโจว

เพื่อนร่วมทีมส่งบอลไปให้กับ หวู่ เหลย และหวู่ เหลย ได้เลี้ยงพาบอลหลอกล่อแนวรับของอีกฝ่ายไปได้สองคนติดต่อกัน ในระหว่างนี้เอง ทีมหางโจว ก็ได้กระโจนเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง หวู่ เหลย ก็ส่งบอลไปให้กับเพื่อนร่วมทีม และตัวเองก็รีบฉีกตัวออกมา

เพื่อนร่วมทีมส่งผ่านบอลไปให้กับ หวู่ เหลย อีกครั้ง

หวู่ เหลย ที่มองเห็นทิศทางบอลที่ลอยมาอย่างแม่นยํา จู่ๆ ก็ได้หมุนตัวกลับหลังแล้วทิ้งตัวลงไปพร้อมกับตวัดเตะบอล ซึ่งเกินความคาดหมายของทุกคน และเกินความคาดหมายของ ทีมหางโจว เองด้วยเช่นกัน

และบอลก็ได้พุ่งเข้าประตูไป…

ผู้รักษาประตูของ ทีมหางโจว รู้สึกเพียงลมกระโชกพัดผ่านข้างๆ เขาไป และเขาตกอยู่ในอาการสับสนทันที

“เข้าประตูไปแล้วครับ!”

พิธีกร ตะโกนขึ้นอย่างตื่นเต้นว่า : “ในนาทีที่ 17 ของครึ่งหลัง ทีมหยุนเฉิง ได้คว้าโอกาสทําลายประตูของ ทีมหางโจว ไปได้อีกครั้ง หวู่เหลย! เป็น หวู่ เหลย อีกครั้งแล้วครับ! นี่เป็นครั้งแรกที่ชายหนุ่มคนนี้ลงสนาม และคืนนี้ก็เป็นชายหนุ่มคนนี้ที่โชว์ฟอร์มออกมาได้โดดเด่นที่สุด เขายิงสองประตูติดต่อกัน และพาทีมขึ้นตีเสมอไปด้วยสกอร์ 2 ประตูต่อ 2!”

“เฮ!”

ทำเอาแฟนบอล ทีมหยุนเฉิง ที่อยู่ในสนามถึงกับบ้าคลั่งไปแล้ว ต่างพากันลุกขึ้นส่งเสียงเชียร์ ปรบมือกันรัวๆ ทีละคน, นาทีนี้พวกเขาตื่นเต้นกันสุดๆ

ในห้องถ่ายทอดสด คอมเมนต์จากชาวเน็ตก็ดูเหมือนจะระเบิดออกมาเช่นกัน

“โอ้.. พระเจ้า ตีเสมอขึ้นมาได้จริงๆ!”

“เกิดอะไรขึ้น ทีมหยุนเฉิง ที่เพิ่งประสบกับความยากลําบากครั้งใหญ่ .. กลับยังแข็งแกร่งได้ขนาดนี้!”

“หวู่ เหลย เด็กหนุ่มคนนี้ ไม่ง่ายเลยจริงๆ!”

“ทีมหยุนเฉิง ไปหาผู้เล่นที่ดีมากมายขนาดนี้มาจากที่ไหนกัน!”

“ฉันคุกเข่าให้แล้ว บอลลูกเมื่อกี้นี้ แมร่งโครตเทพ!”

ชั่วขณะหนึ่ง หวู่ เหลย ก็ได้กลายมาเป็นจุดสนใจอีกครั้ง

หางโจว, ตระกูลเว่ย..

เว่ย เทียนเฉิง พ่อ และลูกชายของเขา ตกตะลึงไปแล้ว เมื่อเห็น หวู่ เหลย ทําประตูไปได้อีกประตู…

เดิมที.. พวกเขาอยากเห็นการแสดงออกของไอ้เด็ก หลินฟาน นั่น ที่มันได้พ่ายแพ้ไปในเกมนี้ แต่พวกเขา.. กลับไม่ได้เห็นมัน แต่กลับเห็น ลู่ตง ในทีวีที่กล่าวดูถูก ทีมหยุนเฉิง ตลอดเวลา และในเวลานี้ใบหน้าของเขาก็กระตุกอยู่..

ความรู้สึกที่ถูกตบหน้าแบบนี้ ก็รู้สึกเปรี้ยวไม่น้อยจริงๆ!

พิธีกร กล่าวว่า : “อาจารย์ลู่ เมื่อเห็นบอลลูกนี้แล้ว คุณคงพูดอีกไม่ได้แล้วว่าครั้งนี้เป็นโชคของ ทีมหยุนเฉิง.. ใช่ไหมครับ?”

ลู่ตง ยังคงปากแข็งต่อไป เขากล่าวว่า : “ต้องยอมรับว่า หวู่ เหลย คนนี้.. มีความสามารถเล็กน้อย แต่ตอนนี้เกมครึ่งหลังเพิ่งผ่านไปแค่สิบกว่านาทีเอง มันยังมีเวลาอีกมาก อย่ารีบด่วนสรุปไป…”

อย่างไรก็ตาม คําพูดของ ลู่ตง ก็ถูกตบหน้าอีกครั้งอย่างรวดเร็ว

ครึ่งหลังในนาทีที่ 23 ของเกมผ่านไปเพียง 6 นาทีจากลูกแรก

ทีมหยุนเฉิง จัดทัพเปิดเกมรุกอีกระลอก คราวนี้ หวู่ เหลย ส่งผ่านบอลไปให้กับเพื่อนร่วมทีม และเป็น เจิ้งจื้อ ซึ่งเป็นกองหน้าด้วยเช่นเดียวกัน

เจิ้งจื้อ ได้วอลเลย์เตะออกไปเต็มข้อ

ประตูที่สาม!

สกอร์ 3 ต่อ 2 ขึ้นนำ!

จากการตามหลังอยู่สองประตู หวู่ เหลย ได้ยิงถึงสองประตูติดต่อกันและขึ้นตีเสมอ และมาประตูลูกนี้ หวู่ เหลย ได้ส่งบอลไปให้กับ เจิ้งจื้อ ทำประตูขึ้นนำ เกมในครึ่งหลังเพิ่งมาถึงกลางเกมเท่านั้น ทีมหยุนเฉิง กลับทำประตูเสมอ และขึ้นนำไปได้สําเร็จ!

เกมการแข่งขันเป็นไปอย่างดุเดือดมาก

ชาวเน็ตแห่กันตะลึงทีละคน

อย่างไรก็ตาม ความประหลาดใจนี้ยังเร็วเกินไป

หลังทำประตูได้ 2 ประตูติดต่อกันในครึ่งหลัง ทีมหยุนเฉิง เข้าครองเกมได้อย่างสมบูรณ์, จังหวะเกมในเวลานี้อยู่ฝั่ง ทีมหยุนเฉิง

นาทีที่ 30 ประตูที่สี่!

นาทีที่ 42 ประตูที่ห้า

ซึ่งประตูที่ห้านี้ เป็นของ หวู่ เหลย อีกครั้ง!

เกมอย่างเป็นทางการครั้งแรกในชีวิตของ หวู่ เหลย เขากลับยิงทำแฮตทริกได้!

เวลาเหลืออีกสามนาที สกอร์ในเวลานี้ 5 ประตูต่อ 2!

เหลือเวลาอีกเพียง 3 นาที นับประสาอะไรกับ ทีมหางโจว ที่โดนถล่มในเวลานี้ ถึงไม่ถล่ม แต่ ทีมหางโจว ก็ไม่สามารถทําประตู 4 ประตูติดต่อกันได้ใน 3 นาที และนับว่ายากแล้วที่จะหาโอกาสพลิกกลับมาได้

และทีมหางโจว แพ้อย่างแน่นอน!

ความคิดนี้เป็นเหมือนกับน้ำท่วมที่ได้แพร่กระจายไปในหัวใจของทุกคนอย่างรวดเร็ว

ก่อนหน้านี้ ผู้คนคิดว่า ทีมหยุนเฉิง แพ้แล้ว มาตอนนี้ ทีมหยุนเฉิง ใช้สกอร์นี้ เพื่อเปลี่ยนความคิดของทุกคน

“ประตูที่ห้า ทีมหยุนเฉิง ได้สร้างปาฏิหาริย์ขึ้นมาได้แล้วครับ และเป็น หวู่ เหลย อีกครั้ง เด็กหนุ่มอัจฉริยะคนนี้ ในอนาคตอันใกล้นี้ จะกลายเป็นนักเตะที่แพรวพราวที่สุดอย่างแน่นอน!” พิธีกร ตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้น

สิ่งนี้ทำให้ ลู่ตง ที่นั่งเงียบอยู่ข้างๆ รู้สึกอับอายอย่างมาก..

ใบหน้าของ ลู่ตง กําลังกระตุก และสีหน้าของเขานั้นมันก็ยอดเยี่ยมมาก

ในทางตรงกันข้าม หลินฟาน บนอัฒจันทร์ในเวลานี้ กลับมีรอยยิ้มที่สดใสมาก

เมืองหางโจว ..ตระกูลเว่ย

เดิมทีพวกเขาตั้งใจจะดูการแสดงออกอันยอดเยี่ยมของ หลินฟาน ที่ได้พ่ายแพ้ไปในเกมการแข่งขันครั้งนี้ แต่สีหน้านี้เขากลับเห็นมันบนใบหน้าของ ลู่ตง ส่วน หลินฟาน แน่นอนว่าเขาต้องดูมีความสุขหลังจากได้รับชัยชนะ

เว่ย เทียนเฉิง โกรธมากจนปิดทีวีทันที และโยนรีโมทลงกระแทกโต๊ะอย่างแรง : “นี่ฉันมันมานั่งดูเรื่องไร้สาระอะไร!”

เขาลุกขึ้นแล้วเดินกลับไปที่ห้องทันที

เว่ย เจี้ยนเซิง ยิ้มอย่างขมขื่น ความอยุติธรรม(ความเกลียดชัง)ของพ่อ และลูกชายอย่างพวกเขา ..ล้มเหลวลงอีกครั้งแล้ว

เดิมทีคิดว่ามีใครบางคนโค่ม ทีมหยุนเฉิง ได้แล้ว และทีมหยุนเฉิง ก็จะล่มสลายลงอย่างแน่นอน, ..ใครจะรู้ว่าหากไม่มี หลี่ยี่ ทีมหยุนเฉิง จะยังมีอาวุธเด็ด และแถมเขายังดูแข็งแกร่งกว่า หลี่ยี่ อีก!

นี่จะให้พวกเขาเล่นยังไงได้อีก!

ไม่ว่าคนที่ต้องการโค่น ทีมหยุนเฉิง จะเป็นใคร ..แต่ในครั้งนี้ ความพยายามของพวกเขาล้วนเสียเปล่า และเป็นได้แค่ตัวร้ายตัวเล็กๆ ไปโดยเปล่าประโยชน์เท่านั้น

บนอัฒจันทร์

หลินฟาน มอง จิน จิ่วฟู่ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า : “บอสจิน ดูเหมือนว่าผู้เล่นชาวจีนของผมจะชนะผู้เล่นต่างชาติจากบราซิลของคุณ และในที่นี่คุณก็คงจะได้เห็นมัน ..อย่างชัดเจนแล้ว”

ใบหน้าของ จิน จิ่วฟู่ กระตุก เขารู้สึกหดหู่มาก ..จนเขาพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คําเดียว

กริ๊งๆ กริ้งๆ กริ๊ง...

ในเวลานี้โทรศัพท์ของ หลินฟาน ก็ดังขึ้น

หลินฟาน หยิบโทรศัพท์ออกมาดู และเขาเห็นว่าเป็น หลี่ เจิน ที่โทรเข้ามา หลินฟาน กดรับสายทันที

“คุณหลิน ผมได้ไปตรวจสอบมาแล้วครับว่าใครเป็นมือมืดที่สั่งคนให้ไปทำบางอย่างกับ ทีมหยุนเฉิง คนนี้คือ…”