ตอนที่แล้วนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 549 - กระหม่อมทูลลา!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 551 - เข้าคุก!?

นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 550 - รวมกลุ่มหน้าปราสาท!


หลังจากที่นำเครื่องติดตามตัวออกมาตรวจสอบตำแหน่งของนายน้อยอลันอีกครั้ง เดวิดก็เริ่มเดินทางต่อ โดยใช้ความเร็วอยู่ในระดับที่ไม่เป็นภาระกับร่างกายมากนัก แต่นั่นมันก็หมายถึงการเคลื่อนที่ด้วยระดับความเร็วที่เหนือเสียงอยู่แล้ว

การต่อสู้กับองค์หญิงของเผ่าอเมซอนทำให้เขาเข้าใจระดับความแข็งแกร่งตัวเองได้อย่างชัดเจนมากขึ้น ตอนที่กระตุ้นใช้ความสามารถของแผนที่ยีนอันสมบูรณ์แบบออกมา สาวน้อยคนนั้นแข็งแกร่งกว่าเดวิดอยู่เล็กน้อย ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกอะไร เพราะความสามารถและพลังของเธอสูงกว่าศาสตราจารย์ใหญ่ที่บรรลุระดับขั้นอาตมันไปแล้ว และเดวิด!? เขายังไม่ได้กระตุ้นความสามารถทางจากแผนที่พันธุกรรมของตัวเองออกมาเลย

จากการประเมินแบบลวก ๆ ความแข็งแกร่งในร่างมนุษย์ธรรมดาน่าจะเพียงพอแล้วสำหรับการรับมือกับผู้ติดตามหรือผู้คุ้มกันร่างสมบูรณ์ของทั้ง 9 ตระกูลใหญ่ ส่วนนายน้อย คุณหนู คุณชายที่ฝึกฝนทักษะระดับมรดกสืบทอดมา เดวิดคิดว่าแค่ร่างแวมไพร์ ร่างมนุษย์หมาป่า หรือแม้แต่ร่างมังกรของตัวเองก็สามารถใช้จัดการกับพวกเขาได้

สิ่งที่น่าเป็นกังวลในสนามรบโบราณแห่งนี้ไม่ใช่เหล่านักสำรวจที่เข้ามาพร้อม ๆ กัน แต่กลับเป็นสิ่งที่อยู่ภายในมาตั้งแต่ต้นมากกว่า ถ้ากองทัพซอมบี้ทหารเลวยังอยู่ที่ระดับเฟสเซอร์ 6 ยีน!? เขาเริ่มคิดถึงความเป็นไปได้แล้วว่าแม่ทัพระดับสูงน่าจะไม่ใช่แค่ระดับอาตมัน มันต้องมีแม่ทัพใหญ่ระดับครึ่งเทพอยู่ด้วย เดวิดได้แต่หวังว่าตัวเองคิดผิด เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น แม้แต่การกระตุ้นใช้ร่างผสมก็อาจจะไม่เพียงพอสำหรับการเอาชีวิตรอดกลับไป

ระหว่างการเดินทาง เขาพุ่งผ่านผืนป่าที่มีเหล่าซอมบี้ยืนนิ่ง หรือเคลื่อนไหวตัวอยู่อย่างช้า ๆ มาจำนวนไม่น้อย ดูเหมือนว่าพวกมันจะตอบสนองต่อคลื่นพลังที่รุนแรง และถูกกระตุ้นให้วิ่งไล่ตามมาจู่โจมเป็นระยะ แต่ด้วยความเร็วของเดวิดในตอนนี้ แค่พวกมันขยับตัว เขาก็หายลับไปกับตาแล้ว

แต่ในที่สุดเดวิดก็หยุดการเคลื่อนไหวของตัวเองลง ความคิดบางอย่างแวบขึ้นมาให้หัวอย่างฉับพลัน และเขาต้องการที่จะลองทดสอบดู หลังจากที่ตัดแขนตัดขาจับซอมบี้มาตัวหนึ่ง และเลือกสถานที่อันเหมาะสมได้ เดวิดก็นั่งลงกระตุ้นทักษะกายาเทวราชเพื่อดูดซับพลังจากภายนอกเข้าสู่ร่างกาย มือถูกยื่นออกไปทาบเอาไว้ที่หัวของซอมบี้เพื่อดูดซับพลังงานเข้ามาโดยตรง ผลลัพธ์ที่ออกมาเลวร้ายกว่าที่คาดเอาไว้ไม่น้อย พลังงานของโลกใบนี้แปลกประหลาด มันเพิ่มความแข็งแกร่งให้ได้ก็จริง แต่ผลกระทบต่อร่างกายมากกว่าการดูดซับพลังงานจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ หรือแหล่งพลังงานอื่นหลายเท่าตัว

ที่สำคัญ! พลังงานที่เดวิดดึงดูดออกมาจากร่างของซอมบี้ มันส่งผลให้ความเสียหายของเซลล์ต่าง ๆ รุนแรงขึ้นเพียงอย่างเดียว แทบจะไม่มีผลในด้านเสริมความแข็งแกร่งเลย และแน่นอน มันไม่สามารถดึงดูดมาเพื่อใช้ช่วยในการกระตุ้นทักษะการฟื้นฟูฉับพลันได้

“ให้ตายสิ! ดูเหมือนว่าจะต้องระวังตัวเพิ่มขึ้นอีกไม่น้อย หวังว่าซากอันสมบูรณ์แบบของระดับอาตมันที่พูดถึงกันจะมีประสิทธิภาพมากกว่านี้นะ ไม่อย่างนั้นการเข้ามาคราวนี้ก็ไม่ต่างกับการเสียเวลาเปล่า ตาแก่จะอยู่ในนี้หรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลย!” เขาพึมพำออกมาเบา ๆ ก่อนจะหมุนเวียนเลือดเพื่อฟื้นฟูร่างกาย และเคลื่อนที่ไปยังจุดหมายของตัวเองตามเดิมด้วยสีหน้าที่หงุดหงิดเล็กน้อย

ในเวลาไม่นานนัก เดวิดก็รู้สึกได้ว่าจำนวนของซอมบี้ที่แฝงตัวอยู่ในป่าเบาบางลงไปอย่างเห็นได้ชัด และหลังจากนั้นก็รับรู้ได้ว่าตัวเองออกจากเขตป่าทึบเข้าสู่ทุ่งหญ้าขนาดใหญ่ที่แทบจะไม่มีไม้ยืนต้นตั้งอยู่ เขาหยุดการเคลื่อนไหวลงอีกครั้งเพื่อหยิบเครื่องติดตามตัวออกมาเช็คตำแหน่ง พร้อมกับการส่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ออกไปสำรวจตรวจสอบ เมื่อแน่ใจว่าไม่ผิดทิศทางและไม่มีอันตรายใด ๆ ซ่อนเร้นอยู่ในทุ่งหญ้ากว้างแห่งนี้ เดวิดก็เริ่มออกเดินทางอีกครั้งด้วยความเร็วที่ช้าลงกว่าเดิมครึ่งหนึ่ง

และความเร็วก็ลดลงเรื่อย ๆ จนต่ำกว่าความเร็วเสียง เมื่อเขาเริ่มสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของมนุษย์จำนวนหนึ่ง เดวิดเคลื่อนที่ด้วยความเร็วประมาณ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้นตอนที่จมูกได้กลิ่นและหูได้ยินเสียงพูดคุยแว่วมาเบา ๆ เหลือระยะทางอีกไม่ถึง 5 กิโลเมตรจะถึงตำแหน่งที่ระบุเอาไว้ในเครื่องติดตามตัว เขาเริ่มปิดบังกลิ่นอายของตัวเองเอาไว้ และเผยความแข็งแกร่งของเฟสเซอร์ระดับ 5 ยีนอย่างที่ควรจะเป็นออกมาทันที

สิ่งที่ปรากฏขึ้นในสายตาของเดวิดหลังจากที่เข้ามาอยู่ในระยะ 1 กิโลเมตรจากเป้าหมายคือปราสาทขนาดใหญ่ และคนจำนวนมากที่จับกลุ่มรวมตัวกันอยู่ที่บริเวณหน้าประตูทางเข้า ดูเหมือนว่านักสำรวจส่วนใหญ่ของทั้ง 9 ตระกูลจะมารวมตัวกันอยู่ที่นี่

ไม่ต้องเป็นคนฉลาดนักก็สามารถเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าได้อย่างชัดเจน ปราสาทใหญ่ที่หรูหราแห่งนี้คือเป้าหมายหลักในการสำรวจของพวกเขาในครั้งนี้ ข้อมูลที่นักสำรวจผู้รอดชีวิตกลับออกไปต้องระบุถึงสถานที่แห่งนี้เอาไว้อย่างแน่นอน และถ้าเขาคาดการณ์ไม่ผิด ปราสาทแห่งนี้คือสาเหตุที่ทำให้ชุดสำรวจล่วงหน้าติดอยู่ในสนามรบโบราณเป็นเวลานาน ระยะทางหลายพันกิโลเมตรที่เดวิดผ่านมา มันไม่ได้มีอันตรายมากพอที่จะกักขังหรือสร้างความยากลำบากให้กับยอดฝีมือระดับร่างสมบูรณ์ที่มีประสบการณ์สูงเลย

หลังจากกวาดสายตามองไปที่กลุ่มคนรอบหนึ่ง เดวิดก็เคลื่อนตัวเข้าไปยังตำแหน่งที่นายน้อยอลันและผู้คุ้มกันคนอื่น ๆ รวมตัวกันอยู่ด้วยการก้าวเท้ายาว ๆ พยายามไม่ทำตัวให้เป็นที่สะดุดตาของยอดฝีมือจากตระกูลอื่น ๆ แม้แต่น้อย

“อ้อ! ในที่สุดนายก็มาถึงแล้ว!” นายน้อยอลันผายมือกว้างออกเป็นการต้อนรับ น้ำเสียงและรอยยิ้มบนใบหน้าบ่งบอกถึงความยินดีเป็นอย่างยิ่ง

“ต้องขอโทษด้วยที่ใช้เวลานานเกินไปหน่อย ประตูทางเข้าส่งตัวฉันไปอยู่ห่างจากที่นี่เป็นพันกิโลเมตร โชคยังดีที่ไม่หลุดไปจากระยะการติดตามตัว” เดวิดพยักหน้าทักทายตอบกลับ พร้อมกับเอ่ยคำขอโทษออกไปด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ใช่คนสุดท้ายในกลุ่มที่มาถึง

“นั่นเป็นเรื่องที่เข้าใจได้! ดูเหมือนว่าสนามรบโบราณแห่งนี้จะมีอาณาเขตกว้างขวางอย่างน่าเหลือเชื่อ และการส่งตัวเข้ามาก็เป็นการสุ่มแบบสมบูรณ์ ฉันเองก็ปรากฏตัวขึ้นห่างจากที่นี่พอสมควรเช่นกัน และเพิ่งมาถึงก่อนหน้านายไม่นานนักหรอก” นายน้อยหนุ่มกล่าวออกมาอย่างเข้าใจ รอยยิ้มกว้างยังปรากฏอยู่บนใบหน้า

“พวกเรายังขาดไปอีกคนหนึ่งใช่มั้ย?” เดวิดถามต่อออกมาเบา ๆ

รอยยิ้มบนใบหน้าของนายน้อยอลันหุบลงทันที “สัญญาณชีพของเกวนในเลือดที่ทิ้งเอาไว้ที่ฉันเพิ่งดับไปเมื่อ 20 นาทีที่ผ่านมานี้เอง เขาน่าจะไม่รอดแล้ว”

คิ้วของเดวิดขมวดเข้าหากันเล็กน้อย “หือ? ด้วยความแข็งแกร่งของเขา บวกกับอุปกรณ์ช่วยชีวิตที่นายมอบให้ การจะหนีเอาชีวิตรอดไม่น่าจะใช่ปัญหาเลยนี่? เขาโชคร้ายไปเจอกับอะไรเข้ากันแน่?”

นายน้อยอลันและตระกูลเคียร์รินไม่ได้เป็นนายจ้างที่ใจแคบนัก ก่อนที่จะผ่านเข้ามาทำการสำรวจในสนามรบโบราณแห่งนี้ ผู้คุ้มกันทุกคนได้รับแจกอุปกรณ์และเครื่องมือที่จำเป็นมาไม่น้อย แม้ว่าระดับของพวกมันจะไม่ได้สูงมากนัก แต่การหนีจากซอมบี้ระดับเฟสเซอร์ 6 ยีนหรือต่อให้เป็นซอมบี้ร่างสมบูรณ์ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ยกเว้นเสียแต่ว่า! เจ้าหมอนั่นโชคร้ายเจอกับระดับอาตมัน หรือแม้แต่ยอดฝีมือจากตระกูลอื่น ๆ

“หึ! ทำเป็นพูดดีไป ใครจะไปรู้ว่าการที่นายเดินทางมาถึงที่นี่ได้แบบไร้รอยขีดข่วนเป็นเพราะความโชคดี หรือว่าใช้อะไรคอยช่วยเหลือออกไปบ้าง?” ชายหนุ่มผมบลอนด์นัยน์ตาม่วงแค่นเสียงออกมา

“หือ? อฮาลี! ที่พูดออกมาหมายความว่ายังไง? จะกล่าวหาอะไรฉันอีกอย่างนั้นหรือ?” เดวิดเลิกคิ้วขึ้นและหันกลับไปจ้องหน้าคนพูดด้วยสายตาที่เย็นชาเล็กน้อย

“กล่าวหา!? กล่าวหาอะไร? ฉันแค่ดีใจกับนายที่เดินทางมาได้อย่างราบรื่นเท่านั้น ทั้ง ๆ ที่บริเวณรอบ ๆ เต็มไปด้วยฝูงกองทัพซอมบี้แบบนี้” อฮาลียักไหล่ก่อนจะกล่าวแก้ตัวออกมาส่ง ๆ

“เฮ้! กล้า ๆ หน่อย ถ้าคิดจะกล่าวหาหรือสงสัยอะไรก็พูดออกมาตรง ๆ มามัวทำตัวขี้ขลาดพูดอ้อมค้อมไปเรื่อยแบบนี้มันน่ารำคาญ” เดวิดคำรามออกมาอย่างหงุดหงิดแล้ว

“เอาล่ะ! พอได้แล้วทั้งคู่เลย! ก่อนที่จะเข้ามาข้างในพวกเรารู้อยู่แล้วว่าที่นี่มีอันตรายอยู่ไม่น้อย และทุกคนก็พร้อมจะรับความเสี่ยงนั้น เกวนเองก็รู้ดีอยู่แก่ใจเช่นกัน หลังจากกลับออกไปแล้ว ทางตระกูลเคียร์รินจะส่งรางวัลที่ควรจะได้รับกลับไปให้ครอบครัวของเขาอย่างแน่นอน ส่วนพวกเราที่เหลืออยู่ก็ควรจะระมัดระวังตัวเอาไว้ให้มาก ช่วยระวังหลังให้กับเพื่อนร่วมทีมจะดีกว่า”

นายน้อยอลันกล่าวปรามออกมา และนั่นทำให้บรรยากาศเริ่มคลี่คลายความตึงเครียดไปได้เล็กน้อย

“ปราสาทนี่คือสถานที่แบบไหนกัน? พวกเราจะเข้าไปสำรวจด้านในอย่างนั้นหรือ?” หลังจากที่กวาดตามองสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ตรงหน้าอย่างละเอียด เดวิดก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามออกมา

“ที่นี่ถูกเรียกว่า ‘คุกขังเทพ’”....

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด