ตอนที่แล้วบทที่ 9: ค่าตอบแทน (1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 11 : ค่าตอบแทน (3)

บทที่ 10: ค่าตอบแทน (2)


บทที่ 10: ค่าตอบแทน (2)

“ล้อผมเล่นเหรอ?”

ฉันถามเขาโดยวางแก้วที่เพิ่งเติมใหม่ลงบนโต๊ะ

ไม่มีที่ว่างให้ความเมามายเข้ามารบกวนสมองหรือจิตใจแล้ว

นี่เป็นหัวข้อที่ต้องมีการพูดคุยอย่างจริงจัง ด้วยจิตใจที่แจ่มชัด

“พี่อยากให้เราไปที่นั่นและเสี่ยงชีวิตต่อสู้เพื่อแลกกับเด็กสาวมนุษย์หมาป่าเหรอ?”

“เธอไม่ได้เป็นแค่เด็กสาวมนุษย์หมาป่า เธอเป็นเด็กสาวจากตระกูลแบล็ควูดผู้สูงศักดิ์นะ”

"แล้วยังไงล่ะ?"

“มันจะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่างไป”

“พี่”

“เบิร์กฟังนะ ฉันไม่ได้ไร้สาระ หรือคิดน้อยไปเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย”

“…”

น้ำเสียงสงบของพี่อดัมทำให้ฉันพูดไม่ออก

บางครั้งเขาก็มีด้านนี้

การพูดของเขาดูเหมือนจะบอกเป็นนัยว่าเขามีแผนบางอย่าง

ถ้าฉันรีบคัดค้าน ฉันก็จะรู้สึกโง่เท่านั้น

ฉันขมวดคิ้วแล้วมองเขาพร้อมกับถอนหายใจ

ฉันรอคำอธิบายของเขา

พี่อดัมแตะนิ้วของเขาบนกระจก ราวกับว่ากำลังจัดระเบียบความคิดของเขา

แล้วเขาก็กล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า

“…เบิร์ก สงครามกำลังจะสิ้นสุดลง”

“…”

เขาลดแก้วลงช้าๆ

แกร๊ก

“ไม่ว่าจะเป็นผู้กล้าหรือราชาปีศาจ ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็จะถึงจุดจบและเมื่อสงครามสิ้นสุดลง จะมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในประเทศ”

หัวใจของฉันเต้นแรงเมื่อได้ยินคำพูดของพี่อดัม

“พี่รู้ได้ยังไงว่าสงครามกำลังจะสิ้นสุด?”

"ฉันต้องรู้อยู่แล้วสิ ฉันเห็นสัญญาณของเรื่องนี้ดี เชื่อฉันเถอะ”

นอกจากข่าวที่หลีกเลี่ยงไม่ได้แล้ว ฉันหันหน้าหนีจากหัวข้อคำว่าผู้กล้า

ต้องมีบางอย่างที่ทำให้พี่อดัมเชื่ออย่างมั่นใจขนาดนี้

“… ถ้าเราเชื่อว่าผู้กล้าจะชนะ เราก็ควรเตรียมตัวสำหรับอนาคต ไม่มีทางที่ราชาปีศาจจะสังหารเหล่าผู้กล้าได้”

ฉันต้องการเปลี่ยนการสนทนาจากหัวข้อเรื่องผู้กล้า

โดยเฉพาะเรื่องที่พวกเขาจะต้องตาย

“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการรับลูกสาวของแบล็ควูดเป็นค่าตอบแทน?”

“เพราะว่าหากเรารอดจากการสงครามครั้งนี้ไปได้ หากผู้กล้าชนะและสงครามสิ้นสุดลง จำนวนสัตว์ประหลาดก็จะลดลงอย่างมาก และเมื่อสิ่งนั้นเกิดขึ้น เราก็จะตกอยู่ในอันตราย”

“อันตรายแบบไหน? เราก็สามารถหาสิ่งอื่นทำได้ไม่ใช่เหรอ?”

“มันไม่ใช่เรื่องนั้นสักหน่อย แต่ผู้คนจะเริ่มดูถูกอาชีพกลุ่มทหารรับจ้างของเราต่างหาก”

“…ทหารรับจ้างมีอยู่ก่อนที่ราชาปีศาจจะปรากฏตัวอีกนะ”

“ไม่เคยมีกลุ่มทหารรับจ้างใดที่ใหญ่เท่ากับพวกเรา”

“…”

“โดยเฉพาะพวกเราที่เป็นเพียงมนุษย์ เราจะนั่งเฉยๆ ได้ไหมโดยรู้ว่ามีกลุ่มหนึ่งที่สามารถเข้ามาแทนที่เราได้ด้วยกำลัง? กลุ่มที่มีพลังระดับขุนนางงั้นเหรอ?”

“งั้นเราไม่สามารถทำอะไรกับเรื่องนี้ได้เลยเหรอ?”

“ไม่ นายก็รู้ว่ามีขุนนางที่ไม่ชอบเราอยู่แล้ว การเตรียมตัวไว้ก่อนก็ไม่เสียหายหรอกนะ”

ครั้งนี้และอีกครั้ง ฉันถูกเขาชักจูงอย่างง่ายดาย

ฉันหยุดโต้แย้งอย่างไร้ความหมาย

"…แล้วยังไงต่อ?"

“เพราะงั้นเราจึงควรติดต่อกับแบล็ควูด เราสามารถไปมีส่วนกับตระกูลอื่นได้เช่นกัน ถ้าชนะไม่ได้ แล้วทำไมไม่อยู่ฝ่ายเดียวกันล่ะ? เราต้องมองอนาคตหลังสงครามสิเบิร์ก นั่นเป็นวิธีเดียวที่จะรับประกันความปลอดภัยของกองทหารรับจ้างและครอบครัวของสมาชิกเรา”

ขณะที่ฉันฟังคำอธิบายของเขา ฉันก็ค่อยๆ เข้าใจและยอมรับมัน

ในความเป็นจริง การตัดสินใจที่เขาทำไม่เพียงแค่เรื่องกองกำลังทหารรับจ้างเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงครอบครัวของกองกำลังทหารรับจ้างของเราด้วย

หากความปลอดภัยคือสิ่งเดียวที่ต้องคำนึงถึง การยุบกองกำลังนั้นก็ย่อมไม่ใช่ทางเลือกที่ดี

ในอนาคตอันไกลโพ้น หากชีวิตของเราตกอยู่ในอันตรายจากขุนนาง เราก็สามารถกระจายออกไปเหมือนตอนที่เรารวมตัวกันครั้งแรก

ทว่าที่เขาไม่พูดถึงความเป็นไปได้นั้น มันอาจเป็นเพราะสถานการณ์เปลี่ยนไปมากจากตอนที่เราอยู่ด้วยกัน

พี่อดัมไม่ใช่คนที่จะละทิ้งสมาชิกที่ติดตามและเชื่อใจเขาไปง่ายๆ

ขณะที่ฉันพิจารณาถึงครอบครัวของสมาชิก สิ่งที่เขาพูดออกมาก็ดูไม่ผิดอะไรเลย

“…นายโตขึ้นแล้วจริงๆ”

พี่อดัมหัวเราะ

"แล้วนายคิดว่ายังไงล่ะ?"

ด้วยเหตุผลบางอย่าง ฉันจึงได้แต่ตอบยอมรับไปด้วยความไว้วางใจในตัวเขา

"…ผมเห็นด้วย"

ฉันปลดปล่อยความตึงเครียดและภาระที่อยู่บนไหล่ของฉันลง

“ถ้าพี่คิดแบบนั้น ผมก็เอาด้วย”

เป็นอีกครั้งที่ฉันยอมจำนนต่อคำพูดของเขา

ข้อโต้แย้งก่อนหน้านี้ของฉันดูเล็กมาก

“นายมักจะทำตามฉันในตอนท้ายเสมอ แต่นายดันกลับชอบทะเลาะกับฉันก่อนตลอดเลยนะ”

“…เพราะผมเห็นว่าพี่ทำเรื่องโง่ๆ อยู่เสมอไงล่ะ”

ราวกับว่าการพูดคุยจริงจังได้จบลงแล้ว พี่อดัมหยิบแก้วที่เขาวางลงบนพื้นขึ้นมาอีกครั้ง

ฉันยังหยิบแก้วที่วางลงแล้วนั่งลงบนเก้าอี้

เมื่อมองดูแก้ว ฉันก็ถอนหายใจแล้วถาม

“รับเธอเป็นค่าชดเชย พี่หมายความว่าพี่กำลังคิดที่จะแต่งงานใช่ไหม? พี่คงจะไม่นำลูกสาวของขุนนางและให้เธอเป็นสาวใช้หรอกใช่ไหม?”

พี่อดัมพยักหน้า

"ก็มีเพียงแค่วิธีนี้ มันเป็นวิธีเดียวที่จะสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างเรากับทางนั้นขึ้นมา”

“แต่ผมได้ยินมาว่าการแต่งงานข้ามสายพันธุ์นั้นค่อนข้างยากนะ…”

“…”

“ได้พบกับเธอแล้วหรือยัง?”

“เนอร์ แบล็ควูด เหรอ? แค่เจอไกลๆ ฉันไม่เคยเห็นผู้หญิงสวยขนาดนี้มาก่อนเลย”

ฉันระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

"ฮ่า ฮ่า ฮ่า เยี่ยมมากๆ งั้นยินดีด้วยนะพี่”

สิ้นคำพูดของฉัน เกิดความเงียบชั่วขณะ

“…..”

“…..”

แทนที่จะตอบ พี่อดัมก็มองมาที่ฉันเป็นเวลานาน

ฉันไม่ได้สังเกตเห็นสายตาของเขาในขณะที่ฉันกำลังเพลิดเพลินกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เลย

“…?”

แต่ด้วยความเงียบอย่างต่อเนื่อง ฉันจึงแสดงความสับสนออกมา

ขณะที่ฉันมองไปที่พี่อดัมอีกครั้ง เขาก็เขย่าแก้วของตัวเองเล็กน้อย

“นี่เป็นเครื่องดื่มราคาแพงมากเลยนะ”

เมื่อไหร่ก็ตามที่พี่อดัมอยากจะขอร้องฉัน เขาจะให้ฉันดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ราคาแพงเสมอ

ฉันกระพริบตาปริบๆ แล้วมองดูเขา

จากนั้นจึงค่อยๆ วางแก้วของฉันลง

“…”

ฉันค่อยๆ เริ่มเข้าใจว่าเขากำลังจะขออะไร

และเมื่อฉันรู้ ฉันรีบส่ายศีรษะทันที

“…พี่กำลังจะพูดเรื่องไร้สาระกัน”

“เบิร์ก”

“ถ้ามันจำเป็นต้องทำ ทำไมพี่ไม่ทำล่ะ? พี่เป็นผู้นำตั้งแต่แรกนะ!”

“พี่นั้นแหละควรจะทำมัน มันเป็นการแต่งงานที่สำคัญมากนะ”

“ถ้าพี่กำลังบอกให้ผมทำเพียง! งั้นคนที่เป็นผู้นำควรทำก่อนสิ!”

“เฮ้ น้องชาย…เว้นหายใจก่อนสิ”

พี่อดัมได้แต่พ่นคำไร้สาระออกมา

เสียงหัวเราะของฉันระเบิดออกออกมากับท่าทางของเขา

เมื่อเห็นฉันหัวเราะ ดูเหมือนเขาจะมั่นใจมากขึ้นและพูดต่อไป

“มีผู้หญิงมากมายที่เข้าหาใส่ฉัน นายก็รู้ว่ามันเป็นยังไงไม่ใช่เหรอ? ฉันปฏิเสธไม่ได้ แต่นายแตกต่างออกไป เบิร์ก นายไม่ได้มองผู้หญิงจำนวนนับไม่ถ้วนที่พยายามเข้าหาเลยใช่ไหมล่ะ?”

"พอเถอะ"

"ฉันรู้ว่านายจะดีกับภรรยาของนายแน่ นายเป็นคนมีน้ำใจ เอาใจใส่ผู้คน และนายอ่อนโยน…นายไม่พูดมาก เมื่อภรรยานายล้มคงจะไม่มีใครปล่อยมือเธอไป นายเหมาะสำหรับการแต่งงานนี้  ฉันได้บอกไปแล้วว่าถ้านายยอมรับ นายจะได้กองกำลังของอีกฝ่ายด้วย”

“…”

พี่อดัมเงียบไปครู่หนึ่ง

"เฮ้! ฉันบอกว่าฉันจะหาคู่ที่เหมาะสมให้กับนาย แล้วทำไมนายถึงปฏิเสธล่ะ?”

“พี่เป็นพ่อแม่ของผมหรือไง? ผมจะหาใครสักคนด้วยตัวเอง”

“นายพูดแบบนั้นมาสามปีแล้ว”

“…ไม่ว่าจะสามปีหรือสิบปี ผมก็จะจัดการเอง”

พี่อดัมเกาหัวแล้วถามฉัน

“เบิร์ก ฉันไม่ได้อยากจะพูดแบบนี้ แต่มัน…”

“…?”

“นายเกลียดผู้หญิงเหรอ?”

“…”

ฉันมองดูพี่อดัมอย่างเย็นชา

เขายังจับตาดูกับปฏิกิริยาของฉัน

“…เพราะว่านายเอาแต่ไล่ผู้หญิงที่ชอบนายออกไปหมด เสียดายหน้าหล่อๆ จะตายไป นายดูสีหน้าของนายสิ นายเป็นคนหัวดื้อหรือไงกัน? ถ้าไม่ใช่อย่างงั้น ทำไมนายถึงยืนกรานที่จะปฏิเสธมันขนาดนี้กันเล่า?”

“…”

“คงเป็นงั้นแหง เพราะนายเป็นแค่คนเดียวที่ไม่มีความคิดที่จะมีภรรยาผู้สูงศักดิ์ที่แสนสวยเลยมั้ง”

แทนที่จะตอบ ฉันกลับพยายามลบภาพใครบางคนที่ยังคงปรากฏอยู่ในใจของฉัน

ฉันจิบเครื่องดื่ม ลิ้มรสความรู้สึกขมปร่าบนปลายลิ้นที่กำลังจะไหลลงคอ

ฉันใช้ความเงียบตอบกลับไปอย่างไม่แยแส

ความเงียบอันยาวนานได้ตามมา

“…อาาาา”

พี่อดัมก็ดูเหมือนจะยอมแพ้ไปแล้ว

เขาได้แต่กระซิบเบาๆ

“…นี่เกี่ยวข้องกับเหตุผลที่นายคลั่งอยู่ในสลัมหรือเปล่า?”

"แค่กๆ!"

ฉันสำลักแอลกอฮอล์ทันที

ความเจ็บปวดแสบร้อนยังคงอยู่ในลำคอของฉัน

ฉันยังคงไอต่อไปเรื่อยๆ

"แค่ก! แค่ก! แค่ก!"

พี่อดัมตบหลังฉัน

ฉันไอน้อยลงและหลีกเลี่ยงที่จะสบตาเขาที่ถามคำถามฉัน

“อะไร…พี่กำลังพูดถึงเรื่องอะไรกัน?”

“…หลังจากใช้เวลาร่วมกันมามากมาย นายคิดว่าฉันเดาไม่ออกจริงๆ เหรอ? แม้ว่านายจะไม่บอกฉันว่ามันคืออะไร มันคงจะเป็นปัญหาที่เกี่ยวกับเรื่องของผู้หญิงสินะ”

“…”

ฉันลุกขึ้นจากที่นั่งทันที

"…เป็นเครื่องดื่มที่ดี พี่ดื่มต่อคนเดียวเถอะ”

“ฉันอุตส่าห์บอกว่ามันเป็นเครื่องดื่มราคาแพงมากเลยนะ ให้ตายเถอะ”

“ไว้ผมจะตอบแทนพี่ทีหลัง”

ฉันวางแก้วลงบนโต๊ะแล้วส่ายหัว

ฉันรู้ว่าปฏิกิริยาเช่นนี้อาจทำให้เขารู้ว่าฉันเก็บซ่อนอะไรอยู่ แต่ฉันก็ได้แต่ปฏิเสธคำขอของเขา

ฉันออกจากบ้านของพี่อดัมไป

“มันคอยรังแต่จะกัดกินใจของนายไปใช่ไหมล่ะ?”

เมื่อเขาพูด มันก็คล้ายกับมีบางอย่างกระแทกใจฉัน

ฉันไม่ได้ชะลอความเร็วในการเดินของฉันเลย

“เบิร์ก นายคือคู่แต่งงานที่สมบูรณ์แบบ นายต้องทำมันนะ”

เสียงของเขายังก้องอยู่ในหูของฉัน

“คิดถึงเด็กๆ สิ…ฉันขอให้นายช่วย นายต้องดูแลพวกเขาเช่นเดียวกับฉัน นายสามารถทำอะไรให้พวกเขาได้เช่นเดียวกับที่ฉันทำได้”

ฉันยังนิ่งอยู่อย่างนั้น พี่อดัมก็พูดคำพูดสุดท้ายของเขา

“…นายยังลืมคนคนนั้นไม่ได้เหรอ?”

'อย่าลืมฉันนะเบลล์'

“……”

ฉันหยุดชะงักทันที

ฉันรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยในหัวใจ

“อ่า…ถ้ามันไม่ได้จริงๆ งั้นฉันก็คงยอมแพ้เหมือนกัน”

พี่อดัมก้าวถอยหลัง อย่างไรก็ตาม ด้วยเหตุผลบางอย่างฉันไม่สามารถพูดเพื่อละทิ้งคำขอของเขาได้ทันที

อาจเป็นเพราะฉันเข้าใจเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังเขาที่ผลักดันการแต่งงานครั้งนี้

ไม่ว่ายังไง การตัดสินของพี่อดัมก็ถูกต้องเสมอ

ถึงตอนนี้ก็ชัดเจนว่าฉันลังเลเพราะเรื่องนั้น

ฉันหลับตาลงอีกครั้ง

ช่วงหลังๆ นี้ วันที่ฉันนึกถึงชีอันนั้นมีน้อยมาก

ความอบอุ่นของเธอ ฉันแทบจะจำไม่ได้ว่ามันรู้สึกยังไง

อย่างไรก็ตาม เธอยังคงอยู่ในใจฉัน

ฉันไม่อยากยอมรับความจริงข้อนี้ ฉันเกลียดมันเหลือเกิน

บางทีตอนนี้ มันคงถึงเวลาที่ฉันจะต้องปล่อยวางอดีตไป

ฉันอาจต้องจัดการกับความรู้สึกที่ฉันหลีกเลี่ยง

เพราะตอนนี้มันไม่เจ็บมากเหมือนเมื่อก่อนแล้ว

เห็นได้ชัดว่าเธอก็คงจะปล่อยฉันไปเช่นกัน

เป็นเวลาเจ็ดปีแล้ว

ไม่ใช่หนึ่งหรือสองปี แต่ผ่านไปเจ็ดปี

“…ให้เวลาผมคิดก่อน”

เมื่อไม่สามารถตัดสินใจได้ ฉันจึงเดินออกจากบ้านของพี่อดัมและพูดคำเหล่านั้นออกมา

บางทีอาจถึงเวลาที่ฉันต้องหลุดพ้นจากคำสาปนั้นแล้ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด