ตอนที่แล้วบทที่ 31 ทำไมไม่ไปสวรรค์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 33 เตียวหุยยอมแพ้

บทที่ 32 เฉียนเหนียนฉะ!


บทที่ 32 เฉียนเหนียนฉะ!

เดิมทีอู๋ฉีไม่กลัวอีกฝ่าย ถ้าเขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคือเตียวหุย

แต่ตอนนี้ ทันทีที่เขารู้ว่าอีกฝ่ายคือเตียวหุยผู้โด่งดัง เขารู้สึก...รู้สึกกลัวนิดหน่อยจริงๆ!

อู๋ฉีบ่มออกมา "ให้ตายเถอะ ข้าเดินทางผ่านกาลเวลาได้เพียงครึ่งปีเท่านั้น และข้าต้องท้าทายเตียวหุยผู้ซึ่งมีวิทยายุทธที่ดีที่สุดในสามก๊ก ตอนเริ่มต้น ข้าเลือกระดับความยากระดับนรกเลยเหรอ?"

  

【โฮสต์โปรดมั่นใจได้เลยว่า ไม่มีปัญหาในการตั้งค่าเริ่มต้น ตัวอย่างเช่น โฮสต์สามารถเลือกที่จะข้ามภารกิจมือใหม่ได้]

อู๋ฉีกลอกตา "ฉายาสุนัขขี้ขลาดไร้ยางอายใช่ไหม...ข้าเข้าใจ!"

เมื่อเขาคิดถึงคำนี้ อู๋ฉีก็ได้รับแรงบันดาลใจอย่างกล้าหาญทันที!

มันก็แค่การต่อสู้ตัวต่อตัวเองไม่ใช่เหรอ?

แค่ทำมันซะ!

เตียวหุยแล้วไงล่ะ? ไม่ใช่ว่ามีจมูกเดียวหรือมีสองตาเหมือนกันไม่ใช่เหรอ?

เขามองไปที่เตียวหุย  "บอกข้ามา เจ้าจะต่อสู้ด้วยหมัดกับเท้าหรือใช้อาวุธ..."

เตียวหุยตอบทันทีว่า "แน่นอน..."

จู่ๆ "ซือตงจิน" อู๋หยงที่อยู่ข้างๆ ก็เข้ามาขัดจังหวะว่า "เจ้าใช้อาวุธไม่ได้! หากสิ่งนี้ฆ่าใครสักคน เจ้าจะถูกลงโทษ!"

เตียวหุยดูไม่อดทน  "เรื่องมากจริง! เจ้าพูดมากเกินไปแล้ว! ได้…แค่ต่อยและเตะก็พอ มาเลย มาสู้กัน!"

อู๋ฉียิ้มออกมา...

เพราะเมื่อตอนเขาถามเตียวหุย เขาวางมือข้างหนึ่งไว้ด้านหลัง แล้วทำท่าทางไปในทิศทางของอู๋หยง

อู๋หยงได้ติดต่อกับอู๋ฉีมาเป็นเวลานาน และเขาไม่ได้โง่ เขาเดาได้อย่างรวดเร็วว่าอู๋ฉีหมายถึงอะไร หลังจากนั้นเขาก็ยืนขึ้นและพูดเช่นนี้

ท้ายที่สุดแล้ว อู๋ฉีมีความมั่นใจมากกว่าถ้าต่อสู้ด้วยหมัดเท้า แต่ถ้าเป็นอาวุธ…

เมื่อก่อนอู๋ฉีเคยอ่านการต่อสู้ของเตียวหุยบ่อยๆ ในนิยายสามก๊ก สิ่งที่พบบ่อยที่สุดคือ คู่ต่อสู้ของเตียวหุยถูกฆ่าตายด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว และส่วนมากถูกแทงด้วยหอกของเขา

เขาสามารถสังหารคนทั่วไปได้ในทีเดียว!

แม้ว่าคนส่วนใหญ่ที่ถูกเขาแทงจนตาย มันจะไม่ได้มีพลังมากนัก...

แต่ข้าก็ไม่เก่งเหมือนกันนะ!

เขารับประกันไม่ได้ว่า…เขาจะไม่ถูกฆ่าในรอบเดียวเช่นกัน!

จู่ๆ เตียวหุยก็ตะโกนขึ้นมาทันที "ตายซะ!"

เตียวหุยใจร้อนและเป็นผู้นำ เขาก้าวไปข้างหน้าและยกกำปั้นให้ใหญ่เท่ากับชามข้าวขึ้นมา เขาต่อยอู๋ฉีที่จมูกด้วยหมัดเดียว!

ถัดจากเขา อู๋หยงรีบอุทาน: "จางจวงจู๊(เตียวหุย) อย่าต่อยหน้า! การต่อยหน้าจะทำให้เจ้าโดนลงโทษ! ถ้าจะต่อย ให้ต่อยทีเดียวพอ อย่าให้เกินสามหมัดนะ"

อู๋ฉี “……”

แต่ตอนนี้ทั้งสองได้ต่อสู้กันแล้ว และทั้งสองคนก็ไม่ฟังอู๋หยง

อู๋ฉีมองหมัดที่ชกมาอย่างสงบ เขาไม่กลัวแล้ว แต่เขาสวนหมัดของเขาไปทันที!

  

ปัง!

“อ๊ะ!” คนที่ถอยออกมาคืออู๋ฉี

แม้ว่าด้วยความแข็งแกร่งแปดสิบห้าแต้มของอู๋ฉี มันจะทำให้เขาไม่เสียเปรียบเตียวหุย

แต่เมื่อพูดถึงการต่อย ความแข็งแกร่งก็เรื่องหนึ่ง และความอดทนต่อความเจ็บปวดก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ความแข็งแกร่งของอู๋ฉีได้มาจากคะแนนคุณลักษณะ ในขณะที่ความแข็งแกร่งของเตียวหุยได้มาจากการฝีกฝนหมัดแล้วหมัดเล่า... พูดง่ายๆ ก็คือ ผิวหนังของเตียวหุยนั้นหนาและทนต่อการทุบตีได้ดีกว่า!

เตียวหุยเห็นอู๋ฉีกรีดร้องอย่างเจ็บปวด เขารู้ได้ทันทีว่านี่คือจุดอ่อนของอู๋ฉี ดังนั้นโดยธรรมชาติแล้ว เขาจะไม่ปล่อยมันไป หลังจากนั้นจึงต่อยอู๋ฉีอีกครั้งและอีกครั้ง

อู๋ฉีใช้กำปั้นของเขาเพื่อต่อต้านอีกครั้ง แต่ความเจ็บปวดบนกำปั้นยังคงแสนสาหัส

  

อู๋ฉีสูดปากพลางบ่นว่า  "มารดามัน! ข้าต้องฝึกฝนอย่างหนักในภายหลังเพื่อชดเชยข้อบกพร่องนี้"

แต่ตอนนี้…วิกฤตปัจจุบันต้องได้รับการแก้ไขก่อน

แน่นอนว่า เตียวหุยย่อมไม่ให้โอกาสอู๋ฉี หมัดของเขาเหมือนกับเม็ดฝนที่ซัดเข้าใส่อู๋วู่ฉีอย่างหนาแน่น ทำให้อู๋ฉีไม่สามารถสู้กลับได้สักพักหนึ่ง

  

อู๋ฉี  "แม่งเอ๊ย…โจรตาวงแหวนผู้นี้กำลังใช้ประโยชน์จากความเจ็บป่วยของข้า เพื่อสังหารข้าจริงๆ!"

【คำเตือนอันอบอุ่น ความแข็งแกร่งทางกายภาพของโฮสต์น้อยกว่าหนึ่งในสาม】

ยังคงเป็นข้อเสียเปรียบเหมือนครั้งที่แล้ว ขีดจำกัดทางกายภาพของอู๋ฉีไม่สูงนัก และเขาจะไม่สามารถทนได้หลังจากโดนโจมตีอีกไม่กี่ครั้ง

โชคดีมากที่อู๋ฉีคิดวิธีได้แล้ว

ทันใดนั้นเขาก็ลดร่างกายลง หลบหมัดของเตียวหุย และกลิ้งลงไปที่พื้น!

เตียวหุยไม่เคยเห็นท่าทางนี้มาก่อน ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ว่าแผนของอู๋ฉีคืออะไร

อย่างไรก็ตาม เตียวหุยเป็นพวกไม่ใช้สมองอยู่แล้ว เขาจึงหยุดคิดและโน้มตัวลง เขาเตรียมจะต่อยอู๋ฉีอีกครั้งในขณะที่ก้มตัวลง

อย่างไรก็ตาม……

เตียวหุยค้นพบว่าข้อเท้าของเขาถูกอู๋ฉีจับไว้!

แม้ว่าเตียวหุยจะไม่เข้าใจว่าอู๋ฉีวางแผนจะทำอะไร แต่ความรู้สึกถึงวิกฤตก็แวบเข้ามาในหัวใจของเขา!

ในฐานะขุนพลชั้นหนึ่งในยุคสามก๊ก เขามีสัญชาตญาณของขุนพลโดยธรรมชาติเพื่อปกป้องตัวเองเมื่อเผชิญกับอันตราย

สัญชาตญาณของเขาบอกเขาว่า ถ้าเขาไม่ทำอะไรทันที เขาจะตกอยู่ในแผนการของคู่ต่อสู้และพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!

เท้าอีกข้างที่ว่างอยู่ก็กระทืบพื้นอย่างแรงจนเท้าครึ่งหนึ่งจมดิน

หลังจากนั้น เตียวหุยก็เอามือกดร่างกายของอู๋ฉีให้ต่ำลง และทั้งร่างกายของเขาก็กดลงบนอู๋ฉี!

  

【การโยนนล้มเหลว! เฉพาะเมื่อเป้าหมายถูกยกขึ้นจากพื้นโดยโฮสต์เท่านั้น มันจึงจะถือว่าเป็นวัตถุที่ถูกโยน! 】

อู๋ฉีร้องทันที “โว้ย!”

วิธีที่เขาใช้จัดการกับเตียวเอี๋ยนครั้งล่าสุดล้มเหลวในครั้งนี้!

เตียวหุยเยาะเย้ยว่า "เฮ้เจ้าหนู…ข้าไม่รู้ว่าแผนการสุนัขเจ้าคืออะไร? แต่เมื่อดูจากสีหน้าของเจ้าแล้ว มันคงไม่ได้ผลหรอกใช่ไหม! ฮ่าฮ่าฮ๋า….ไอ้หนู เจ้ายอมแพ้ซะเถอะ!"

ขณะที่เขาพูด ร่างกายของเขาก็ออกแรงและกดร่างกายของอู๋ฉีแรงขึ้น!

ในทางกลับกันอู๋ฉีต้องการผลักคู่ต่อสู้ออกไป แต่เขาทำไม่ได้!

อันที่จริงแล้ว ค่าความแข็งแกร่งของเตียวหุยและอู๋ฉีไม่ได้แตกต่างกันมากนัก เตียวหุยสามารถนวดถั่วเขียวเป็นแป้งถั่วได้ และอู๋ฉีก็สามารถนวดได้เช่นกัน

ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ เตียวหุยย่อมไม่สามารถกดอู๋ฉีได้ แต่ตอนนี้อู๋ฉีไม่สามารถผลักเตียวหุยออกไปได้ ทั้งหมดเป็นเพราะมุมของการออกแรง ในตอนนี้อู๋ฉีอยู่ด้านล่าง มันทำให้ความแข็งแกร่งของเตียวหุยและน้ำหนักของเขานั้นเหนือกว่าอู๋ฉีโดยธรรมชาติ

เตียวหุย  “เจ้าไม่ยอมงั้นเหรอ?”

อู๋ฉีไม่ได้พูดอะไร แต่แค่ใช้มือเกาเอวและพลักร่างของเตียวหุย บางครั้งก็ดึงเสื้อผ้าของอีกฝ่ายและบางครั้งก็ทุบร่างกายของอีกฝ่าย ในมุมมองของเตียวหุย นี่คือพฤติกรรมของลากุ้ยโจวเท่านั้น!

(เมื่อก่อนเมืองกุ้ยโจวไม่มีลา ทำให้ไม่มีใครรู้จักลา มีชายใจดีคนหนึ่งเอาลาขึ้นเรือมาจากที่อื่น ต่อมาคิดว่ามันไม่มีประโยชน์แล้ว จึงปล่อยไว้ที่ตีนเขา มีเสือตัวหนึ่งร่างกายใหญ่โตมาก ตอนแรกคิดว่าเป็นลาเป็นเทพเจ้า ทำให้เสือกลัวเกินกว่าจะเข้าไปใกล้ ต่อมาเห็นว่าลาทำได้แค่เตะและร้องดังเท่านั้น แต่ไม่มีทักษะอื่นเลย เสือจึงตะครุบและกัดลาตาย)

ดังนั้น เตียวหุยจึงผ่อนคลายความระมัดระวังลงอย่างสมบูรณ์ และรอให้ความแข็งแกร่งของอู๋ฉีหมดลงก่อนที่เขาจะเอาชนะอย่างสมบูรณ์

เมื่อถึงเวลานั้น ม้าเหล่านี้จะเป็นของเขา!

เพราะเขาเห็นม้าที่เตียวสิเผงมอบให้อู๋ฉี เขาจึงเกิดความโลภ!

ความสูงแบบนั้น รูปร่างแบบนั้น ท่าเดินแบบนั้น...

อา…เขาไม่เคยเห็นม้าที่สง่างามขนาดนี้มาก่อน!

แม้ว่าเตียวหุยจะมีม้าดีๆ อยู่บ้าง แต่เขารู้สึกว่าม้าที่ดีที่สุดในโลกมันต้องเป็นแบบนี้!  ทันทีที่เขาเห็นม้าที่เตียวสิเผงนำมา เขารู้สึกว่าม้าในฟาร์มของเขาเป็นเพียงขยะ!

ถ้าเขาสามารถขี่ม้าแบบนี้ได้ เตียวหุยรู้สึกว่าทั้งชีวิตของเขาจะสมบูรณ์แบบ!

เมื่อจิตใจของเขาเต็มไปด้วยความปรารถนา เขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ...

เพราะว่า……

มือของอู๋ฉีวางอยู่บนจุดที่น่าอึดอัดบนร่างกายของเตียวหุย

แม้ว่ามือจะไม่ได้อยู่ในตำแหน่งนั้นนานนัก และมันก็จากไปอย่างรวดเร็ว

ทว่า……

ความรู้สึกวิกฤตอย่างกะทันหันในใจทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก

ครู่ต่อมา…อู๋ฉียกมุมปากขึ้นและตะโกนทันที  "เตียวหุย ข้าจะให้เจ้าเห็นทักษะเฉพาะตัวของข้า——

เฉียน…เหนียน…ฉะ! "

(千年殺  Qiānniánshā มาจากชื่อเต็มของสกิล“นิ้วลับจากหมู่บ้านโคโนฮะ: พันกว่าปีของการเสียชีวิต” 木の葉隠れ秘伝体術奥義: 千年殺し; Konohakagure hiden taijutsu ōgi: Sennen Goroshi

คำนี้มาจากการ์ตูน ​​Naruto ที่ได้รับความนิยมซึ่ง Kakashi Hatake ใช้เป็นเรื่องตลกเกี่ยวกับตัวเอกในตำนานระหว่างการฝึกนินจา มันก็คือเอานิ้วทิ่มในรูตูดนั่นเอง)

ปุ๊!

“อุ๊บ!!!!!!”

เตียวหุยร้องโหยหวนอย่างน่าสมเพชและกระโดดขึ้นลงอย่างเจ็บปวดพร้อมกับเอามือกุมก้น!

“เจ้าคนน่ารังเกียจ! เจ้าช่างไร้ยางอายยิ่งนัก!” เตียวหุยเจ็บปวดมากจนต้องหลั่งน้ำตา!

  

อู๋ฉีฟังแล้วพูดอย่างมีความสุขว่า "เฮ้เฮ้…เจ้าเจ็บไหม โอ้ ไม่สิ เจ้ารู้สึกดีไหม?"

เตียวหุยตะโกนทันที "เจ้าเล่นสกปรก สกปรก สกปรก เจ้ามันก็แค่..."

อย่างไรก็ตาม…อู๋ฉีไม่ให้โอกาสเตียวหุยตะโกนด่าอีกต่อไป หลังจากหนีจากการกดของเตียวหุยได้สำเร็จ เขาก็พร้อมที่จะสานต่อความพยายามและใช้ท่าใหม่เพื่อเอาชนะเตียวหุยอย่างสมบูรณ์!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด