ตอนที่แล้วบทที่ 13 เรียกหาบิดา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 15 ไก่ต้มเผือก

บทที่ 14 เฮ้…เจ้าทำสบู่ตก


บทที่ 14 เฮ้…เจ้าทำสบู่ตก

อู๋ฉีตะโกนในใจว่า "ระบบ เปิดห้างสรรพสินค้า!"

  

【ติ๊ง! ระบบช้อปปิ้งมอลล์พร้อมให้บริการโฮสต์ตลอดเวลา! 】

อู๋ฉีบอกว่า “ถั่วปลอดโรคของฉันหมดแล้ว ฉันขอเพิ่มอีกสามเมล็ด!”

ถั่วปลอดโรคคือไอเทมที่ขายในห้างสรรพสินค้าของระบบ เอฟเฟกต์ของมันคือ มันสามารถรักษาโรคอะไรก็ได้ กินปุ๊บหายปั๊บอย่างรวดเร็ว!

แน่นอนว่า สิ่งนี้ถูกมาก ราคาแค่สิบเหรียญเพราะเขามีส่วนลด VIP

แต่ข้อเสียอย่างเดียวคือ...

คุณจะใช้ถั่วนี้ได้ คุณต้องมีทักษะ "โปรยถั่วสร้างทหาร" มันจะทำงานได้ก็ต่อเมื่อเขาต้องโยนถั่วปลอดโรคออกไปเท่านั้น ถ้าคุณหยิบใส่ปากเฉยๆ ผลของเอฟเฟกต์ของมันก็จะไม่ทำงาน นี่คือเหตุผลที่อู๋ฉีแกล้งเดินออกไปซื้อส้ม เพื่อที่เขาจะใช้ทักษะนี้นั่นเอง

แน่นอนว่าไอเทมที่สามารถรักษาโรคง่ายๆ ได้ มันก็มีอยู่ในห้างสรรพสินค้าเช่นกัน แต่มันมีราคาแพงมาก: ถั่วปลอดโรคมีราคาสิบเหรียญเท่านั้น ในขณะที่ไอเทมอีกชนิดที่ให้ผลเหมือนกัน มันมีราคาถึงหนึ่งร้อยเหรียญทีเดียว!

มันแพงกว่าถึงสิบเท่าเชียวนะ!

เขายอมเหนื่อยเดินออกไปแล้วโยนเอามากกว่าที่จะซื้อของแพง!

ส่วน Artemisia annua (โกฐจุฬาลัมพา) ที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้...

แม้ว่าสิ่งนั้นจะได้ผลในการรักษาโรคมาลาเรียด้วยเช่นกัน ทว่าผลที่ได้กลับไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก...รู้ไหมว่าสิ่งที่อัศจรรย์ในการป้องกันมาลาเรียจริงๆ ก็คือ Artemisinin ที่สกัดได้จาก Artemisia annua แต่ด้วยเงื่อนไขของยุคนี้ การสกัดArtemisininออกมา จากArtemisia annua นั้น ประสิทธิภาพมันด้อยกว่ายุคใหม่ค่อนข้างมาก

มันอาจต้องใช้เวลาสิบเดือนครึ่งหรือนานกว่านั้นในการรักษาโรคมาลาเรียด้วย Artemisia annua

แน่นอนว่าอู๋ฉีไม่มีเวลาว่างขนาดนั้น!

เมื่อคุณมีเวลา คงจะดีไม่น้อยถ้าคุณทำงานเล็กๆ น้อยๆ และรับเหรียญจากห้างสรรพสินค้าให้มากขึ้น

ในตอนนี้เตียวเหยียงและคนอื่นๆ รู้สึกทึ่งใน 'ทักษะทางการแพทย์' ของอู๋ฉี และพวกเขาต่างก็รู้สึกว่าอู๋ฉีคือผู้เชี่ยวชาญอย่างแท้จริง

ดังนั้นเขาจึงส่งมอบรอยยิ้มให้อู๋ฉีอย่างเต็มที่ "ขอบคุณมากอู๋จวงจู๊ ข้าจะไม่มีวันลืมความเมตตาของท่านเลย และข้าจะตอบแทนท่านอย่างมากในภายหลัง!"

เล่าหงก็เข้าใจในเวลานี้เช่นกันว่า อาการป่วยของเขาได้รับการรักษาโดยอู๋ฉี และเขาก็รู้สึกขอบคุณเช่นกัน

อู๋ฉีสุภาพกับพวกเขา และกุมมือคำนับกลับ  "คุณชายไป๋ช่างสุภาพยิ่งนัก! ท่านมาจากแดนไกลเพื่อมาเยี่ยมเยีือนหมู่บ้านของเรา ข้าย่อมยินดียิ่งนัก! สิ่งที่ข้าทำลำบากเพียงยกมือ ท่านไม่จำเป็นต้องกล่าวถึง เอาล่ะ…คุณชายเชิญนั่ง!”

เขาสั่งให้อู๋เอ๋อหาเบาะมาและนั่งตรงข้ามสนทนากัน

การที่อู๋ฉีคุยกับนายน้อยผู้นี้อย่างมีมารยาทนั้นมันเป็นเพราะ…ทั้งสองมีสถานะเท่าเทียมกันนั่นเอง

  

ก่อนหน้านี้ อู๋ฉีหยาบคายกับเตียวเหยียงและคนอื่นๆ ทั้งเยาะเย้ยพวกเขาและตะโกนใส่พวกเขา ประการแรก เพราะทั้งสามคนมีพฤติกรรมหยิ่งยโสซึ่งทำให้เขารู้สึกไม่ดีด้วย ประการที่สองก็คือตัวตนของเตียวเหยียงในเวลานี้คือ 'คนรับใช้' หรือทาสนั่นเอง

ในสมัยโบราณ ทาสถูกลิขิตให้เป็นผู้ที่ด้อยกว่า

อู๋ฉีในฐานะจวงจู๊(ผู้นำ) เขาไม่จำเป็นต้องสุภาพต่อคนรับใช้อย่างแน่นอน ถ้าเขาสุภาพจริงๆ มันก็คงเป็นพฤติกรรมที่ไม่ปกติในยุคนี้ และคนจะคิดว่าอู๋ฉีเป็นคนไร้ศักดิ์ศรี...

  

มันเป็นเรื่องปกติถ้าเขาทำเช่นนี้กับข้ารับใช้ของตัวเอง แต่สำหรับการ 'เยินยอ' คนรับใช้ของคนแปลกหน้า พวกเขาอาจสงสัยว่าอู๋ฉีมีแรงจูงใจที่ไม่บริสุทธิ์และมีเจตนาที่ชั่วร้ายก็เป็นได้

หลังจากที่เล่าหงและอู๋ฉีแลกเปลี่ยนคำทักทายอย่างสุภาพ เล่าหงก็เริ่มสนใจอู๋ฉีมากขึ้น

ก่อนอื่นเลย อู๋ฉีมีรูปลักษณ์ที่ยอดเยี่ยม เขาสูง 8 เซี๊ยะ(184cm) ไหล่กว้างและแขนยาว เขาสวมชุดผ้าไหมสีขาวขลิบทอง และมีเข็มขัดสีดำรอบเอวฝังด้วยอัญมณี เมื่อมองดูใบหน้าอีกครั้ง คิ้วอันแหลมคมและดวงตาที่เต็มไปด้วยดวงดาว ใบหน้าที่มีมุมที่แหลมคมนั้นเปรียบเสมือนรูปปั้นที่เปล่งประกายออร่าที่กล้าหาญ

เขาช่างเป็นผู้ชายที่หล่อเหลายิ่งนัก!

…อย่าเข้าใจเล่าหงผิดไป เล่าหงไม่ได้เป็นพวกชอบชาย แต่ในสมัยโบราณรูปร่างหน้าตาของผู้ชายก็มีความสำคัญในหมู่ผู้ชายเช่นกัน รูปร่างหน้าตาที่ดี ส่งผลโดยตรงต่อความประทับใจครั้งแรกของบุคคล ดังนั้นเมื่อมีการบันทึกผู้คนลงในหนังสือประวัติศาสตร์ พวกเขาจึงมักมีการอธิบายลักษณะที่ปรากฏของพวกเขา

ตัวอย่างเช่น กายของกวนอูนั้นยาว 9 เซี๊ยะ( 207cm) เคราของเขายาว 2 เซี๊ยะ(46cm) ใบหน้าของเขาเหมือนแดงดั่งพุทราสุก และริมฝีปากของเขาราวกับว่าทาด้วยน้ำมัน ดวงตาของเขาดั่งนกเฟิ่งหวง(ฟีนิกซ์จีน)และคิ้วของเขาเรียวยาวราวกับหนอนไหม รูปร่างหน้าตาของเขาดูสง่างามและน่าเกรงขามมาก

อีกคนหนึ่ง จูล่ง "เขาสูง 8 เซี๊ย มีคิ้วหนาและตากลมโต ใบหน้าที่กว้างและรูปลักษณ์ที่สง่างาม"หรือของลิโป้ "เขาเกิดมาหน้าตาดั่งเทพสวรรค์ เขามาพร้อมกับอาวุธคู่กาย " เหล่านี้เป็นต้น

ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นภาพสุดคลาสสิกของชายหนุ่มรูปหล่อจากสมัยโบราณ

ส่วนอู๋ฉี เขาเองก็มีความประทับใจที่ดีต่อชายหนุ่มตรงหน้าที่ดูแล้วอายุมากกว่าเขาเพียงไม่กี่ปี: ผู้ชายคนนี้ภายนอกดูจริงจังและสุภาพ แต่หลังจากพูดคุยเพียงสามประโยค นิสัยที่แท้จริงของเขาก็ถูกเปิดเผย...

เล่าหงกล่าวว่า “ชีวิตข้าไม่มีงานอื่นเลย ข้าแค่ดื่มและเล่นกับผู้หญิงสวยๆ ทุกวันเท่านั้น!”

คนดี เจ้าคือคนดี ทั้งร่ำรวยและราคะ!

เยี่ยมมาก…เจ้าคือสเปคของข้าเลย!

อู๋ฉีจึงพูดคุยกับเล่าหงอย่างมีความสุข ตั้งแต่ความบันเทิงต่างๆ ไปจนถึงสาวงาม และสุดท้ายคือความลับในบ้าน...

ยิ่งคุยกันยิ่งสนุก!

อู๋ฉีกล่าวว่า "นายน้อยไป๋ คนอย่างท่านมีชื่อสุดพิเศษในบ้านเกิดของข้า - ผู้อาวุโสคาสโนว่า นักควบม้ามืออาชีพ!"

ที่ผ่านมาอู๋ฉีเคยสัมผัสกับ 'คนสำคัญ' ในเมืองมาก่อน ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยพบใครที่หลงระเริงในกาม แต่พวกเขาเหล่านั้นไม่ค่อยเต็มใจที่จะพูดคุยเกี่ยวกับหัวข้อดังกล่าว หรือพวกเขาเป็นเพียงตาแก่มากตัณหา แต่มีกลอุบายใช้กับสาวงามเพียงไม่กี่อย่าง เมื่อเทียบกับอู๋ฉีคนสมัยใหม่ที่เกิดในยุคแห่งเครือข่ายข้อมูลไร้สายแล้ว ระดับความแตกต่างนั้นมันมากเกินไป!

ทว่าวันนี้เกิดเรื่องไม่คาดคิด ชายหนุ่มชื่อ "ไป๋เซี๊ย" คนนี้ เขามีความรู้เกี่ยวกับเรื่องเพศมากมาย และเขายังสร้างวิธีการเล่นแปลกใหม่นับไม่ถ้วน ซึ่งมันทำให้อู๋ฉีเปิดหูเปิดตาอย่างมาก!

(เตียวเหยียงเคยเรียกว่าฝ่าบาท(ปี่เซี่ย) พระเอกเรานึกว่าเล่าหงชื่อไป๋เซี๊ย)

อู๋ฉีถามว่า "ท่านมีผู้หญิงกี่คน จักรพรรดิไม่ได้มากกว่าท่านใช่ไหม?"

เตียวเหยียงที่อยู่ข้างๆ เขากระตุกใบหน้าแล้วพูดในใจ: จักรพรรดิอะไร ใครไม่มีอะไรมากไปกว่านี้ คนตรงหน้าเจ้าคือจักรพรรดิ!

เมื่ออู๋ฉีรู้ว่าไป๋เซี๊ยขุดสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่บ้านเป็นพิเศษ และมักจะไปพายเรือโดยมี "ภรรยาและนางบำเรอ" อยู่ในนั้น โดยไม่ใส่เสื้อผ้าใดๆ เลยตลอดกระบวนการ เมื่อเขานึกสนุก เขาจะมีอาการ "เรือสั่นไหว" และบางทีเขาก็ตั้งใจทำให้เรือล่มด้วยซ้ำ...

เมื่อฟังเรื่องเหล่านี้ อู๋ฉีรู้สึกเหมือนเขาได้พบกับเพื่อนสนิท!

  

อู๋ฉีรีบกล่าวว่า "นายน้อยไป๋... ไม่ ไม่ พี่ใหญ่ไป๋ ท่านคือพี่ใหญ่ของข้า!"

เตียวเหยียงที่อยู่ข้างๆ เขาตกใจมาก และรีบขยิบตาให้เล่าหง เขาไม่ได้คาดหวังว่าเล่าหงจะไม่หันมามองเขาเลย เขาตอบตกลงจริงๆ  "เอาล่ะ…ข้าจะเป็นพี่ใหญ่ให้เจ้า!

อู๋ฉีเรียกด้วยความดีใจว่า “พี่ใหญ่!”

【คะแนนภารกิจ +1,000,000】

การแสดงออกบนใบหน้าของเตียวเหยียงนั้นตกตะลึงมาก!

มารดามัน ไอ้บ้านนอกอู๋ฉีผู้นี้กลายเป็นน้องชายของฝ่าบาท!

ไอ้สารเลวน้อยผู้นี้ช่างโชคดีอะไรเช่นนี้!

อู๋ฉีไม่สนใจสิ่งที่เตียวเหยียงคิดและพูดต่อ  "พูดตามตรงนะพี่ใหญ่ ข้าก็มีเรื่องสนุกๆ มากมายที่นี่ และข้าจะแนะนำพวกท่านทีละอย่างเลย!"

“ตกลง!”

ต่อมา อู๋ฉีพาพวกเขาไปเข้าห้องน้ำก่อน...เล่าหงเพิ่งหายจากอาการป่วยร้ายแรง เขามีเหงื่อออกทั่วตัวและจำเป็นต้องทำความสะอาด

หลังจากเข้าไป...

เล่าหงถามด้วยความงุนงงว่า "หืม? นี่คืออะไร?"

อู๋ฉึแนะนำอย่างภาคภูมิใจ  "อะฮ้า…พี่ใหญ่ ท่านย่อมไม่เคยเห็นมันมาก่อนเหรอ นี่เรียกว่าฝักบัวอาบน้ำนะ! ท่านดูสิ..."

เขาเอื้อมมือออกไปและดีดสวิตช์

  

ฟู่——

มีน้ำพุ่งออกมา!

น้ำแตก...พ่นไปทั่วใบหน้าของเล่าหง!

เล่าหง “???”

เมื่อเห็นฉากนี้ เตียวเหยียงที่อยู่ข้างๆ ตกใจมากจนแทบจะหมดสติ เขาคิดกับตัวเองว่า อู๋ฉีผู้นี้ช่างแส่หาความตาย เจ้ากล้าแกล้งฝ่าบาทเช่นนี้!

【คะแนนภารกิจ +100,000】

เล่าหงไม่คิดมากเกี่ยวกับมันเลย เขาไม่ได้สนใจใบหน้าที่เปียกโชกด้วยซ้ำ จิตใจของเขาถูกดึงดูดอย่างสมบูรณ์ด้วยอุปกรณ์แปลกๆ ชิ้นนี้  "น้องชายอันประเสริฐ สิ่งนี้มันน่าทึ่งมาก! มันสามารถพ่นน้ำได้!"

อู๋ฉีตอบทันทีด้วยความภาคภูมิใจว่า "ถูกต้อง! เวลาเราอาบน้ำมันต้องแช่น้ำตลอดเวลาใช่ไหม แน่นอนว่าเราต้องขี้เกียจล้างถัง แต่สิ่งนี้ท่านสามารถเปิดทุกเวลาที่ท่านต้องการอาบน้ำได้เลย โดยไม่ต้องรอให้ถังน้ำเต็ม ที่สำคัญ วันไหนเราอยากแช่ตัวเราก็เปิดใส่อ่างได้เลย โดยไม่ต้องเสียเวลาหาบน้ำมาเติมถัง!”

เล่าหงพยักหน้าเห็นด้วย และคิดว่าสิ่งประดิษฐ์นี้น่าทึ่งมาก!

  

【คะแนนกิจกรรม +1,000】

ทันใดนั้น เขาก็เห็นอะไรบางอย่างอีกครั้ง: "นี่คืออะไร? มันมีกลิ่นหอมมาก...อ๊ะ!"

สิ่งที่มีรูปร่างเป็นวงรีสีขาวนี้มันลื่นมาก และมันหล่นลงกับพื้นโดยไม่ได้ตั้งใจ

อู๋ฉีแนะนำว่า "สิ่งนี้เรียกว่าสบู่หอมหรือจะเรียกว่าสบู่เฉยๆ ก็ได้ เราใช้มันเมื่อเราอาบน้ำ มันมีพลังในการชำระล้างการปนเปื้อนสูงและมีกลิ่นหอมสดชื่น ท่านสามารถลองใช้ได้ในตอนที่ท่านอาบน้ำ!"

“โอ้ โอ้ …ตกลง ข้าจะลองดู!”

หลังจากแนะนำเรื่องทั้งหมดในห้องน้ำ อู๋ฉีก็ออกไปและขอให้เล่าหงอาบน้ำได้เลย และเตียวเหยียงก็ต้องเข้าไปช่วยเขาอยู่แล้วโดยธรรมชาติ

มันก็แค่ว่า...

อู๋ฉีได้ยินเสียงมาจากข้างใน  "โอ้ ฝ่าบาท พระองค์ทำสบู่หล่น หม่อมฉันจะหยิบมันขึ้นมา!" "อา! ฝ่าบาท พระองค์ทรงทำอะไร!" "อา...โอ้ ..อา...เบาๆ...”

อู๋ฉีไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นข้างใน…

เราก็ไม่รู้เหมือนกัน และเราไม่กล้าถามด้วย!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด